ณ ตอนนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักผู้ชายหน้าตี๋ๆใส่หมวกทรงกะลาสีเรือที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เขาก็คือ คุณตัน ภาสกรนที เป็นเจ้าของกิจการเครื่องดื่มอย่างอิชิตัน เย็นเย็น และ ชาชิชึโอกะ เป็น แบรนด์แรกๆที่เอาเจ้าของกิจการมาเป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมทเอง และ เท่าที่ผ่านมาก็ดูเหมือนจะได้ผลตอบรับที่ดี มีทั้งการแจกทอง แจกรถ แจกๆๆ มากมาย ทำให้ธุรกิจเครื่องดื่มชาเขียวเป็นที่รู้จัก แต่ในด้านวงจรธุรกิจในตลาดหุ้น จะราบรื่นดีเหมือนกับที่โปรโมทไหม เพราะพักหลังมานี้เราก็ไม่ได้เห็น อิชิตัน หรือ คุณตันที่เป็นพ่อบุญทุ่มอีกแล้ว และกระแสชาเขียวก็เริ่มถอยหลังลงเรื่อยๆ แล้วแบบนี้มันส่งผลต่อ ชาเขียวอิชิตัน ของ อิชิตันกรุ๊ป หรือหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ชื่อ ICHI อย่างไรบ้าง เราคงจะต้องมาดูต่อกันที่โครงสร้างรายได้ของ อิชิตันกรุ๊ปกันดีกว่าว่าเป็นยังไง
โครงสร้างรายได้
โครงสร้างรายได้ของอิชิตันกรุ๊บจะมีอยู่ด้วยกันสองกลุ่ม กลุ่มแรกกลุ่มเครื่องดื่มชาพร้อมดื่ม กลุ่มสองกลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้และอื่นๆ รายได้ ปี 2559 รายได้กลุ่มเครื่องดื่มชาพร้อมดื่ม 5,122.7 ล้านบาท เท่ากับ 96.0% กลุ่มเครื่อมดื่มน้ำผลไม้และอื่นๆ รายได้ 215.6 ล้านบาท เท่ากับ 4.0% รวมได้ 5,338.3 ล้านบาท รายได้ ปี 2560 รายได้กลุ่มเครื่องดื่ชาพร้อมดื่ม 5,458.9 ล้านบาท เท่ากับ 96.0% กลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้และอื่นๆ 228.6 ล้านบาท เท่ากับ 4.0% รวมได้ 5,687.5 ล้านบาท ปี 2561 รายได้กลุ่มเครื่องดื่มชาพร้อมดื่ม 5,052.2 ล้านบาท เท่ากับ 97.1% กลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้และอื่นๆ 151.8 ล้านบาท เท่ากับ 2.9% รวมได้ 5,204.0 จะเห็นได้ว่า อิชิตันกรุ๊ป พึ่งพารายได้จากกลุ่มเครื่องดื่มชาพร้อมดื่มเป็นหลัก แต่ปัจจุบันเครื่องดื่มประเภทนี้กลับได้รับความนิยมน้อยลง มาต่อด้วยส่วนแบ่งการตลาดของชา ในปี 2560 ชาเขียวมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท แต่ในปี 2561ที่ผ่านมา ก็หดตังลงเหลลือเพียง 11,892 ล้านบาท
และเค้กชิ้นโตมูลค่าเกือบ 1.2 หมื่นล้านบาทก็ตกเป็นของแบรนด์ชาเขียวต้นกำเนิดของคุณตันอย่าง โออิชิ กรีนที ที่ 44.5% ส่วน อิชิตัน กรุ๊ป เมื่อรวมเครื่องดื่มชายี่ห้อ เย็น-เย็น แล้วก็มีส่วนแบ่งการตลาดชาเป็นอันดับสอง ที่ 29.8% ตามการสำรวจของ NIELSON ในเดือนมกราคม 2562 แต่ตอนนี้กระแสรักสุขภาพถือกำลังมาแรง เช่น การกินอาหารเพื่อสุขภาพ กินอาหารคลีน การดื่มเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกาย การวิ่งแบบพี่ตูน อิชิตันกรุ๊ป ก็ขอถือโอกาศนี้เข้ามา ตีตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพด้วยการเปิดตัว ชาเขียว หวานน้อย อย่าง ชิชึโอกะ (Shizuoka) ออกมาช่วงกลางปี 2561 โดยมีราคาอยู่ที่ 30 บาทต่อ 1 ขวด (440 มิลลิลิตร)
โดยมีการเครมมาจากทางแบนรด์ ว่านำเข้ามาจากจังหวัดชิชึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตชา 100% แล้วหลังจากที่กระผมได้ทำการลองชิมดูแล้ว เรื่องของรสชาติ คงต้องละไว้ใรฐานที่เข้าใจกันนะครับว่าคนเรามีลิ้นรับรสที่แตกต่างกันก็คงจะต้องไปลองชิมกันเอาเองว่าอร่อยไหม แต่ในเรื่องของการดีไชน์ขวดถือว่าทำออกมาได้ดีดูเป็นของพรีเมียม ส่วนในเรื่องที่มีการเครมว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหวานน้อยจากการอ่านฉลากแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องจริงและรสชาติสำหรับเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลน้อยสำหรับความคิดผมส่วนตัวก็ถือว่าทำออกมาได้ดี และนอกจากที่เครื่องดื่มชาหวานน้อยตัวนี้จะมีการดีไชน์ที่ดูมีความพรีเมียมทำให้ขายได้ในราคาสูง การที่ทำเครื่องดื่มหวานน้อยลงก็ทำให้ลดต้นทุนลงได้ด้วย ที่ลดต้นทุนไม่ใช่หมายถึงการลดต้นทุนเรื่องน้ำตาลนะครับแต่เป็นเรื่องของการจ่ายภาษีความหวาน ใครที่ไม่รู้จักวันนี้จะได้รู้จักกับ ภาษีความหวาน
ภาษีความหวานคืออะไร?
ภาษีความหวานคืออะไร? ภาษีความหวาน คือ การเรียกเก็บภาษีตามปริมาณน้ำตาลที่ใส่ลงไปในเครื่องดื่ม และ คิดด้วยอัตราก้าวหน้าเหมือนภาษีส่วนบุคคล ยิ่งมีการใส่น้ำตาลลงไปเยอะเท่าไรก็ยิ่งโดนเรียกเก็บภาษีมากเท่านั้น ซึ่งเครื่องดื่มที่มักจะโดนเรียกเก็บภาษีความหวานมากที่สุดคืออะไรรู้ไหม ถ้าบอกไปทุกคนคงจะต้องตกใจกันอย่างแน่นอน เครื่องดื่มที่ถูกเรียกเก็บภาษีความหวานมากที่สุดไม่ใช่พวกเครื่องดื่มอย่างน้ำหวานพวกโค๊กหรือแป๊ปซี่แต่เป็นน้ำผลไม้นะครับ โดยภาษีความหวานจะอนุโลมให้กับเครื่องดื่มที่ใส่น้ำตาลน้อยกว่า 6 กลัมต่อมิลลิลิตรไม่ต้องเสียภาษี
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าเครื่องดื่ม ชาชิชึโอกะ นั้นเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เป็นชาเขียวสูตรน้ำตาลน้อย ทำให้ช่วยลดต้นทุนการเสียภาษีความลงไปได้ มาดูปริมาณของน้ำตาลของทั้ง 3 สูตร ที่เขาใส่มากันดีกว่าว่ามีเท่าไรบ้าง เริ่มด้วย ชาเขียวชิชึโอกะ สูตรไม่มีน้ำตาล 440 มิลลิลิตร มีน้ำตาล 0 กรัม สูตรนี้ไม่โดนเก็บภาษี สูตรต่อไป ชาเขียวชิชึโอกะ โอจิกะ สูตรไม่มีน้ำตาล 440 มิลลิลิตร มีน้ำตาล 0 กรัม สูตรนี้ก็ไม่โดนเรียกเก็บภาษีความหวานด้วยเหมือนกัน สูตรต่อไป ชาเขียวชิชึโอกะ สูตรหวานน้อย มีน้ำตาล 13% จากปริมาตรสุทธิ 440 มิลลิลิตร คิดเป็น 0.13 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ดังนั้น ชาเขียวสูตรนี้ก็ไม่ต้องเสียภาษีความหวานด้วย และภาษีความหวานนั้นจะมีการปรับขึ้นทุกๆ 2 ปี ตอนนี้ก็อยู่ที่เฉลี่ยแล้วคือลิตรละ 1 บาท แต่รัฐบาลนั้นมีแผนว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไปจนถึงลิตรละ 5 บาท ในไม่นานนี้ พอจะนึกภาพออกกันไหมครับว่าชาเขียวตัวใหม่ ชิชึโอกะนี้ที่มีน้ำตาลน้อยก็จะเสียภาษีความหวานน้อยลง ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง แล้วราคายังมากกว่าสูตรปกติที่ต้องเสียภาษีความหวานด้วย ว่ากันว่าเรื่องภาษีความหวานนั้นมีผลกระทบต่อธุรกิจกลุ่มจำพวกน้ำหวานเป็นอย่างมาก จนทำให้หุ้นกลุ่ม เครื่องดื่ม-น้ำผลไม้ ราคาร่วงกันระนาวเหมือนปีที่ผ่านมา ใครที่กำไรคิดจะลงทุนหุ้นเกี่ยวกับเครื่องดื่มน้ำหวานก็อย่าลืมเอาเรื่องภาษีน้ำหวานเป็นนั่งคิดกันด้วยนะครับ
กำไรสุทธิ
ใครที่กำลังจะลงทุนในหุ้นตลดหลักทรัพย์ก็คงจะต้องสนใจและดูเป็นอันดับต้นอยู่แล้วในเรื่องของกำไรหรือขาดทุนในธุรกิจที่ตัวเองสนใจจะลงทุน ในบทความนี้เราพูดถึงหุ้นของ ICHI เรามาดูรายได้ รายจ่าย และกำไรสุทธิกันดีกว่าว่าเป็นยังไง ย้อนไปปี 2559 รายได้รวม 5,361.8 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม 4,936.9 ล้านบาท กำไร 368.5 ล้านบาท ปี 2560 รายได้รวม 5,719.0 ล้านบาท รายจ่ายรวม 5,284.9 กำไรสุทธิ 315.1 ปี 2561 รายได้รวม 5,216.2 ล้านบาท รายจ่ายรวม 5,144.6 ล้านบาท กำไรสุทธิ 43.8 ล้านบาท ดูแล้วกำไรของ อิชิตัน กรุ๊ป หรือ หุ้น ICHI ลดลงเรื่อยๆใน 3 ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทให้เหตุผลว่าที่เป็นแบบนี้นั้นเป็นเพราะการแข่งขันที่ดุเดือดของตลาดชาเขียว และการชะลอตัวความนิยมในชาเขียว และภาษีความหวานที่ถูกปรับเพิ่มขึ้น
รายจ่ายจากการลงโฆษณาในแต่ละปี
อันนี้คือค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปกับการบริหารและการบริการโฆษณาตั้งปี 2559 – 2561 ปี 2559 มีรายจ่ายบริหารและบริการโฆษณา 54 ล้านบาท ปี 2560 มีรายจ่ายบริหารและบริการโฆษณา 90 ล้านบาท ปี 2561 มีรายจ่ายบริหารและบริการโฆษณา 91 ผมมองว่าธุรกิจที่อยู่ตัวและสร้างสินค้าให้ติดตลาดได้แล้วไม่ควรที่จะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นในทุกๆปีแบบนี้
ถือว่าหุ้น ICHI น่าลงทุนเพราะมีสินค้าตัวใหม่ที่ภาษีความหวานไม่สามารถทำอะไรได้
หุ้น ICHI ของอิชิตัน กรุ๊ป เป็นธุรกิจกิจการที่มีรายได้หลักมาจากเครื่องดื่มชา และมีส่วนแบ่งการตลาดของตลาดชาเขียวเป็นอันดับสอง รองมาจาก โออิชิ และล่าสุด อิชิตัน กรุ๊ป ได้เปิดตัวเครื่องดื่มใหม่เพื่อสุขภาพอย่าง ชาชิชึโอกะ เป็นชาเขียวพรีเมียมที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน จึงมีราคาที่สูงกว่าสินค้าตัวอื่นและมีการดีไชต์ขวดให้ดูสมราคา และ นอกจากที่ตัวชาชิชึโอกะจะเพิ่มราคาขายปลีกให้มีราคาที่สูงกว่าสินค้าตัวอื่นแล้ว ยังลดต้นทุนในเรื่องของการจ่ายภาษีความหวานลงได้ด้วย ซึ่งเรื่องของภาษีความหวานถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาหุ้นและกำไรของหุ้นน้ำหวานเมื่อปลายปีที่ผ่านมา หวังข้อมูลที่นำมาให้ในวันนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังสนใจจะลงทุนในหุ้นน้ำหวานหรือหุ้น ICHI นะครับ
june
เป็นเรื่องที่แปลกดีครับ ก็เลยลองเข้ามาอ่านด็ก็ทำให้เรามีความรู้มากขึ้นในเรื่องที่ไม่คเยรู้มาก่อนเลย คือผมกำลังหาข้อมูลเรื่องภาษีอยู่เลยอ่านเพลินๆมาหลายๆบทความมาเจอหัวเรื่องบทความนี้เข้าก็เลยลองเข้ามาอ่านดู เพราะไม่เคยได้ยินเรื่องของภาษีความหวานมาก่อน พรุ่งนี้มาเรื่องคุยใหม่ๆกับเพื่อนซะแล้วครับ แปลกๆจริงเรื่องนี้
กุญชนิตา
โอ้โหแม้แต่ภาษีความหวานของน้ำตาลที่ใส่เข้าไปในเครื่องดื่มก็ยังถูกเก็บด้วยเหรอครับ เพิ่งรู้เหมือนกันนะครับบทความนี้เปิดโลกกระทัดผมมากทีเดียวเกี่ยวกับความรู้เรื่องการจ่ายภาษีเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ถึงแม้ดูเหมือนว่านักธุรกิจที่มีความสามารถในการขายสินค้าได้มาก ก็จำเป็นต้องมีการเสียภาษีให้กับสรรพากรมากด้วยเช่นกัน
น้ำหนึ่ง
น่าเห็นใจผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจและลงทุนเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลนะคะ เพราะว่าจะต้องเสียเงินให้ทำทำธุรกิจแล้วต้องมาเสียภาษีให้กับค่าน้ำตาลหรือความหวานด้วย เราจึงเข้าใจว่าทำไมต้องมีการลดต้นทุนการผลิต ก็เพื่อที่จะทำให้ได้รับผลกำไรมากนั่นเองถ้าคิดบวกกับภาษีแล้ว อันนี้ก็ต้องเห็นใจผู้ประกอบการไปอีกแนวทางหนึ่งนะคะ
Chanaradee
เครื่องดื่มที่ไม่ใส่น้ำตาลหรือใส่น้ำตาลไม่ถึงที่กำหนดไว้ไม่ต้องเสียภาษีความหวานใช่มั้ยคะ? แต่ราคาขายเท่ากันนะ บางอย่างขายแพงกว่าด้วย ทำไมอะคะ ต้นทุนก็ลดลงเพราะไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มหรือไม่อยากให้สับสนเรื่องราคา อ่านไปก็พยายามทำความเข้าใจแล้วนะ นี่เรางงเองหรือยังไงเนี่ย หรือจะเหมือนกับเวลาเราสั่งกาแฟเอาหวานน้อยๆแต่ก็จ่ายเงินเท่าเดิมนะ
ซันชาย
วะ ! เข้าท่าจัง ไม่รู้ด้วยนะว่าบ้านเรามีเรื่องภาษีแบบนี้ด้วย นี่เปิดความรู้เรื่องใหม่ๆเลยนะ ครับ แบบนี้ บริษัท ที่ขายเครื่องดืม ก็จ่าย ภาษีสองเด้งเลยใช่ไหมครับ ทั้ง ภาษีรายได้ กับภาษีน้ำตาล มิน่าละครับ ทำไมน้ำพวกนี้ถึงราคาแพงจัง แบบนี้ ไม่บ่นแล้วครับเวลาไปซื้อน้ำพวกนี้ เข้าใจแล้วละครับ ว่าทำไมมันแพงจัง
Kanom
เห็นด้วยนะคะที่มีภาษีแบบนี้ เพราะเรารู้สึกว่าการกินน้ำตาลที่เยอะเกินไปจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพค่ะ จริงๆน้ำตาลเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆมากมายเลย ปกติในอาหารเราก็ใส่น้ำตาลกันอยู่แล้ว ถ้าในเครื่องดื่มยิ่งมีน้ำตาลเยอะเข้าไปอีก แทนที่จะบำรุงสุขภาพ กลับจะยิ่งทำให้สุขภาพจะแย่ลง ดีแล้วค่ะเราเห็นด้วยนะคะที่จะเก็บภาษีแบบนี้
จูเนียร์
เอาจริงๆที่ต้องออกภาษีความหวานมาก็เพราะว่าคนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานมีอัตราสูงขึ้นเรื่อยๆทุกปี เชื่อเลยว่าอีกไม่นานเนี่ยเดี่ยวเมืองไทยก็จะเป็นเหมือนอเมริกาที่มีเด็กอ้วนที่เป็นโรคอ้วน ไม่ใช่อ้วนตุ้ยนุ้ยน่ารักนะ เป็นโรคอ้วนจริงๆที่ทำให้ถึงตายได้มากขึ้นมากขึ้นไปดูได้เลย เด็กในเมืองใหญ่ๆที่มีพวกร้านอาหารต่างประเทศเยอะอาหารฟาสต์ฟู้ดเยอะ อ้วนกันทั้งนั้น
นาง ธมน โตวิชาญ
ถึงว่าคะ ทำไมน้ำพวกนี้ราคาแพงมาก แพงกว่าราคาที่ควรจะเป็นนะคะ เป็นเพราะเขามีการเก็บภาษีความหวานนี่เอง วันหลังที่ทานน้ำพวกนี้จะไม่บ่นแล้วคะว่าทำไมแพง แต่ถึงจะแพงก็ยังซื้อนะคะ ชอบดืมคะ เวลาได้ดืมแล้วรู็สึกสดชื่นดีคะ ถึงแม้ว่าจะทราบว่ามันอ้วนก็ตามคะ แต่พอเข้า 7/11 ทีไร ต้องมีติดมือออกมาคะ อดใจไม่ไหวจริงๆคะ
ชาย
เดี๋ยวนี้แม้แต่ความหวานก็สามารถที่จะเรียกร้องเก็บภาษีของรัฐบาลได้แล้วนะครับ พอผมได้อ่านบทความนี้แล้วผมก็เห็นใจสำหรับคนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายน้ำ ยิ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำกระป๋องและมีอัตราความหวานอยู่ในนั้นแล้ว ก็ต้องคิดถึงภาษีที่จะต้องจ่ายให้กับรัฐบาลอีกด้วย แล้วถ้าเราอยากที่จะทำธุรกิจเป็นของเราเอง เราก็ต้องนึกถึงภาษีเรื่องความหวานด้วยครับ