ในสมัยนี้รถยนต์ได้เข้ามามีบทบาท และมีความจำเป็นมากขึ้นกับทุกครอบครัว ส่วนบางคนรถยนต์ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถยนต์เท่านั้น แต่เป็นทั้งเพื่อน และคู่ชีวิต เพราะมันจะพาเราไปในทุกๆที่ บางครั้งชีวิตเราก็ขึ้นอยู่กับรถยนต์ แน่นนอน เราก็อยากจะให้รถอยู่ในสภาพที่ดี ปลอดภัย และใช้ได้นานๆ เพื่อนๆเองคงจะรู้ดีว่าเมื่อเราใช้รถ อุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพื่อความอุ่นใจ และมีหลักประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่เราจะคิดถึง ประกันรถยนต์กันใช่มั้ยคะ? และประกันรถยนต์ในทุกวันนี้ก็ มีมากมาย หลายบริษัท และหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีความคุ้มครองแตกต่างกัน ราคาก็ต่างกัน จนรู้สึกว่ามันมากจนเลือกไม่ถูกและถึงกับสับสนด้วยซ้ำ แต่เราก็ยังเชื่อว่า เพื่อนๆคงจะมีความรู้ และมีข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถยนต์แต่ละประเภทมาบ้างแล้วหล่ะใช่มั้ยคะ? แต่เราก็อยากให้ข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถยนต์อีกแบบหนึ่งมาให้เพื่อนๆได้อ่านด้วย ซึ่งก็คือ ประกันรถยนต์แบบเปิดปิด นั่นเอง! เผื่อจะได้เอาไปเป็นทางเลือกในการตัดสินใจทำประกันรถยนต์ ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง บทความนี้จะให้ข้อมูลคร่าวๆเกี่ยวกับ ประกันรถยนต์แบบเปิดปิดว่าคืออะไร ? การใช้งานและความคุ้มครองเป็นแบบไหน? มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง ? มีที่ไหนเปิดให้บริการบ้าง? ขอเพื่อนๆ ลองอ่านไปพร้อมๆกันเลยนะคะ.
ประกันรถยนต์แบบเปิด-ปิดคืออะไร?
ประกันรถยนต์แบบเปิดปิด เป็นประกันรถยนต์แบบใหม่ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะเปิดหรือปิด ความคุ้มครอง เอาตามที่เราสะดวก ถ้าเราจะต้องเดินทาง หรือใช้รถเราก็เพียงแต่เปิดใช้ เมื่อถึงที่หมายแล้ว หรือไม่ได้ใช้รถแล้วก็สามารถปิดได้ทันที ส่วนเบี้ยประกันจะมีการคิดตามจำนวนเวลาที่ใช้จริงๆ เราจะจ่ายเงินก็ต่อเมื่อเราเปิดใช้เท่านั้น ประกันรถยนต์แบบเปิดปิดนี้มีชื่อเรียกหลายอย่าง ดิฉันคิดว่า เพื่อนๆคงจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างแล้วหล่ะ เช่น ประกันรถยนต์แบบเติมเงิน, ประกันรถยนต์ระยะสั้น, ประกันรถยนต์ชั่วคราว, ประกันรถยนต์ตามไมล์, และ ประกันรถยนต์แบบรายเดือน
ประกันแบบเปิดปิดนี้ ผู้ซื้อสามารถเลือกระยะเวลาในการเปิดความคุ้มครองและ เลือกจำนวนเงินที่จะจ่ายได้เอง ถ้าจะถามว่า ประกันรถยนต์แบบเปิดปิดนี้เหมาะกับใครบ้าง ? ถ้าเพื่อนๆ ใช้รถน้อยมาก หรือใช้แค่ไม่กี่วันต่ออาทิตย์ บางวันก็ใช้ไม่กี่ชั่วโมง ส่วนใหญ่มักจะจอดมากกว่า หรือ นานๆ จะขับออกไปเที่ยวต่างจังหวัดซักครั้งนึง และก็ไม่อยากจ่ายประกันแบบรายปี เสียดายเงิน และ อยากประหยัดด้วย และในขณะเดียวกันก็อยากได้รับความคุ้มครอง ต้องการความสะดวกและง่ายด้วย ประกันแบบเปิดปิดนี้ จึงหมาะกับคุณมากๆเลยค่ะ ประกันแบบเปิดปิดนี้จะให้ความคุ้มครองเมื่อเราเลือกเปิดความคุ้มครองผ่านทางแอปพลิเคชั่นเท่านั้น โดยที่เพื่อนๆสามารถเลือกแพ็คเก็จได้ว่า จะเลือกความคุ้มครองแบบไหน เช่น ความคุ้มครองแบบ 1 เดือน, 3 เดือน, 6 เดือน, หรือ 12 เดือน ส่วนประเภทของประกันก็มีให้เลือกทั้ง ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+,ประกันชั้น 3+ เราสามารถเลือกได้เองตามลักษณะการใช้รถของเรา ตามงบประมาณที่เรามี และตามเวลาที่เราต้องการโดยไม่ต้องมีข้อผูกมัดอะไร ใดๆทั้งสิ้น .
การใช้งานและความคุ้มครองเป็นอย่างไร?
ส่วนการใช้งานของประกันแบบเปิดปิด ก็ง่ายๆ ไม่ได่ยุ่งยากซับซ้อนอะไร ก่อนอื่นต้องมีโทรศัพท์มือถือที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตเมื่อเราเปิดรับความคุ้มครอง โอเค! มีโทรศัพท์แล้ว เราก็ทำการสมัครเปิดใช้บริการผ่านตัวแทน หรือบริษัทประกันภัยก่อน หลังจากสมัครเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทจะให้อุปกรณ์สำหรับติดตามรถของคุณ เพื่อให้คุณได้ติดตั้งที่แผงหน้าจอหรือเสียบเข้าที่ช่อง USBในรถยนต์หลังจากนั้นก็ทำการดาว์นโหลดแอปพลิเคชั่นของบริษัทลงในโทรศัพท์มือถือของคุณเมื่อต้องการเปิดความคุ้มครอง คุณจะต้องลงชื่อเข้าใช้งานในระบบก่อน และต้องเปิดบูลทูธตลอดเวลาขณะที่ยังขับรถ หรือเดินทางอยู่ เมื่อเข้าไปในแอพฯ คุณจะเห็น ปุ่ม เปิด /ปิด อยู่แล้ว คุณสามารถกดปุ่มเปิดได้ทันที่ถ้าต้องการความคุ้มครองหรือเริ่มเดินทาง พอถึงจุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว ก็กดปิดในโทรศัพท์มือถือของคุณเองได้ทันที คุณจะต้องซื้อความคุ้มครองเป็นชั่วโมงล่วงหน้าก่อน เงื่อนไขก็ขึ้นอยู่กับแต่ละผลิตภัณฑ์ด้วย
การใช้ประกันรถยนต์แบบเปิดปิดนี้ คุณสามารถเช็ค จำนวนวัน และชั่วโมง ที่รับความคุ้มครองผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้ตลอดเวลา วิธีนี้จะช่วยคุณรู้ได้ว่า คุณใช้ความคุ้มครองไปเท่าไหร่แล้ว แล้วจะต้องซื้อความคุ้มครองเพิ่มอีกกี่วันหรืออีกกี่ชั่วโมง .
ส่วนความคุ้มครองของประกันรถยนต์แบบเปิดปิด ก็ให้ความคุ้มครองเหมือนกับประกันรถยนต์แบบรายปี หรือแบบทั่วไป มีให้เลือกความคุ้มครองตั้งแต่ ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+, ประกันชั้น 3+ ถ้าเราจอดรถเอาไว้แล้วรถเกิดหายขึ้นมา หรือรถถูกไฟไหม้ ประกันชั้น 1และ ชั้น 2+ ก็ยังให้ความคุ้มครองเหมือนเดิม ถึงแม้เราจะลืมเปิดแอปพลิเคชั่นใช้งานก็ตาม
มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง?
ข้อดี ของประกันรถยนต์แบบเปิดปิดก็มีเยอะหมือนกันนะคะ เช่น คุณจะมีความรู้สึกอุ่นใจเสมอทุกการเดินทาง เพราะว่า อุปกรณ์ที่ทางบริษัทติดตั้งในรถของคุณ จะส่งสัญญาณGPS ให้ทางบริษัทรู้ สามารถระบุพิกัด และตำแหน่งของคุณขณะเดินทาง หรือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และกรณีฉุกเฉินได้รวดเร็วขึ้นและสามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันเวลา
คุณยังจะได้รับโปรโมชั่น ความคุ้มครองต่างๆจากทางบริษัทประกันอีกด้วย การต่อประกัน และการสมัครใช้บริการ และการเช็คความคุ้มครอง ก็ไม่ยุ่งยาก แค่ทำรายการต่างๆผ่านทางแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือของคุณเอง เมื่อไหร่ เวลาไหนก็ได้ ส่วนเบี้ยประกันก็จ่ายตามจำนวนวัน และ ชั่วโมงที่ใช้จริงๆ และทำให้ประหยัดเงินเพิ่มขึ้นถึง 30-40% เพราะคุณเลือกจ่ายตามไลฟ์สไตล์ของคุณเองโดยที่ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ พร้อมใช้เมื่อไหร่ก็เปิดแอพฯ ไม่ใช้แล้วก็แค่ปิดแอพฯ แค่นี้เองค่ะง่ายๆ..
ส่วนข้อเสียก็มีด้วยเหมือนกันจ้า เช่น ประกันรถยนต์แบบเปิดปิดนี้ ในกรมธรรม์จะระบุเอาไว้ว่า จะให้ความคุ้มครองเฉพาะเวลาที่คุณเปิดใช้แอปพลิเคชั่นเท่านั้น ถ้าเกิดวันไหนคุณลืมเปิดแอพฯ แล้วรถที่จอดเอาไว้เกิดหายขึ้นมา หรือรถอาจจะถูกไฟไหม้ คุณไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายได้ แต่ในกรณีลืมเปิดแอพฯ ก็ได้มีบริษัทประกันภัยบางรายเริ่มเห็นปัญหานี้ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถได้เลือกใช้บริการ เปิด-ปิด รับความคุ้มครองแบบอัตโนมัติด้วย โดยการตั้งเวลาล่วงหน้าตามกิจวัตรประจำวันของคุณ และจะมีการส่งข้อความเตือนเมื่อคุณเปิดประกันเอาไว้เป็นเวลานานกว่าปกติ วิธีนี้สามารถช่วยทั้งเตือนความจำ และช่วยให้คุณประหยัดเงินค่าประกันได้อีกด้วย ข้อเสียอีกอย่างของประกันรถยนต์แบบเปิดปิดนี้ก็คือ มีบริษัทประกันให้เลือกน้อย และแผนที่ให้บริการก็ยังมีไม่มาก และดิฉันก็อยากแนะนำอีกนิดหนึ่งว่า ถ้ามีคนอื่นยืมรถยนต์ของคุณไปใช้ อย่าลืมบอกเค้าให้เปิดแอปพลิเคชั่นเพื่อรับความคุ้มครองด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยจ้า !
มีที่ไหนเปิดให้บริการบ้าง?
เนื่องจากไลฟ์สไตล์ ของการใช่รถของแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนใช้รถแค่ไม่กี่วันต่ออาทิตย์ หรือบางคนอาจจะใช้ไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน หรือบางทีก็จอดไว้ ถ้าต้องจ่ายประกันรถยนต์เป็นปี คงจะไม่คุ้มแน่นอน ตอนนี้มีบริษัทไทยวิวัฒน์ได้เห็นถึงความจำเป็นตรงส่วนนี้ จึงมีการออกแบบประกันรถยนต์แบบควบคุมการคุ้มครองได้ด้วยตัวเอง แค่เพียงเปิด-ปิดได้บนแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ให้คุณจ่ายค่าประกันตามจริงเท่าที่คุณใช้รถ ตอนนี้ทางไทยวิวัฒน์มีประกันแบบเปิดปิด ให้เลือกความคุ้มครอง แบบ 1 เดือน , 3 เดือน , 6 เดือน และ 12 เดือน และประเภทของประกันมีทั้ง ประกันชั้น 1 ประกันรถชั้น 2 + และประกันรถชั้น 3 + ตอนนี้ทางไทยวิวัฒน์ได้มีแพ็คเก็จให้เราได้เลือกได้ตามความต้องการ เริ่มความคุ้มครอง 1 เดือน ประกันรถชั้น 1 , ชั้น 2+, ชั้น 3+ จำนวนชั่วโมงที่ใช้ได้ 144 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาท
ความคุ้มครอง 3 เดือน
ประกันชั้น 1 ราคา 2,000 บาท , ชั้น 2+ ราคา 1,200 บาท , ชั้น 3+ ราคา 1,000 บาท จำนวนชั่วโมงที่ใช้ได้ 360 ชั่วโมง
ความคุ้มครอง 6 เดือน
ประกันชั้น 1 ราคา 3,800 บาท , ชั้น 2+ ราคา 2,300 บาท , ชั้น 3+ ราคา 1,900 บาท จำนวนชั่วโมงที่ใช้ได้ 600 ชั่วโมง
ความคุ้มครอง 12 เดือน
ประกันชั้น 1 ราคา 7,200 บาท , ชั้น 2+ ราคา 4,400 บาท, ชั้น 3+ ราคา 3,600 บาท จำนวนชั่วโมงที่ใช้ได้ 960 ชั่วโมง
ส่วนรายละเอียดความคุ้มครองทุนประกัน ถ้าเพื่อนๆสนใจ สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ของ ไทยวิวัฒน์ได้เลยนะคะ
ประกันรถยนต์แบบรายเดือนของที่ เมืองไทยประกัน ก็มีค่ะ แต่เป็นประเภท 3+ ราคาเพียง 555 บาท คุ้มครอง 30 วัน ให้ความคุ้มครองทั้งรถเราและรถของคู่กรณี ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก ซื้อผ่านออนไลน์คุ้มครองทันที.
ประกันรถยนต์แบบรายเดือนของ เอ็ม เอส ไอ จี ประกันประเภท 3+ เบี้ยประกันเริ่มต้นวันละ 42 บาท ทุนประกัน 100,000 บาท เบี้ยประกันแบบมีค่าเสียหายส่วนแรกราคาอยู่ที่ 1,260 บาท ส่วนเบี้ยประกันที่ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรกราคาอยู่ที่ 1,365 บาท เมื่อสมัครคุ้มครองทันทีไม่ต้องเช็ครถ ให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง .
มีประกันรถยนต์เปิด-ปิดเอาไว้ก็อุ่นใจได้
เมื่อเราได้มารู้จักกับประกันรถยนต์แบบเปิด-ปิด แล้ว เพื่อนๆ รู้สึกยังงัยกันบ้างคะ? สบายใจขึ้นใช่มั้ย ? เพราะทำให้รู้สึกว่า เราไม่จำเป็นต้องถูกผูกมัดอยู่กับประกันรถยนต์แบบรายปีอีกต่อไป ทั้งๆที่เราใช้รถอาทิตย์ละไม่กี่ชั่วโมง และไม่ได้ใช้รถทุกวันซักหน่อย การจ่ายประกันรายปีรู้สึกว่าไม่คุ้มค่า แพงเกินไป ประกันรถยนต์แบบเปิด-ปิด นี้ช่วยเราประหยัดได้ถึง 30-40% เพราะเราสามารถเลือกราคาเองได้ เลือกวัน เวลา คุ้มครองได้เอง สะดวกจะรับความคุ้มครองตอนไหนก็เปิดแอพฯได้ทันที พอถึงบ้านปุ๊บ ก็ปิดแอพฯได้เลย ราคาก็ไม่แพง ความคุ้มครองก็ไม่ต่างกัน ประกันรถยนต์แบบเปิด -ปิด เปิดโอกาสให้กับใครอีกหลายๆคนได้มากที่เดียว.
Louisa
มีด้วยเหรอประกันรถยนต์แบบนี้พึ่งรู้นะเนี่ย แต่เราว่ามันก็น่ารำคาญไหน่อยนะต้องมาคอบเปิดๆปิดๆระบบเมื่อใช้รถและเมื่อไม่ใช้รถ เราอะใช้รถบ่อยๆเดี๋ยวไปนู่นเดี๋ยวไปนี่ถ้าเกิดลืมเปิดขึ้นมาแล้วเกิดอุบัติเหตุช่วงนั้นก็ซวยละสิ ก็น่าสนใจแจ่ไม่ใช้สำหรับเรานะ ถ้าใครที่ใช้รถยนต์ไม่บ่อยๆส่วนมากจอดทิ้งที่บ้านเดือนนึงใช้สองสามครั้งก็เข้าท่าอยู่ประกันแบบนี้
Jett
ชอบเหมือนกันนะครับแบบนี้ประหยัดดี ในกรณีที่เราไม่ได้เดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนบุคคลของเรามากเท่าไหร่ เราก็คิดว่าการที่เราทำประกันภัยเอาไว้ไม่ค่อยเป็นประโยค ถ้าเราเลือกประกันภัยแบบเปิดปิด จะช่วยให้เราสามารถได้รับผลประโยชน์ในกรณีที่เราเดินทางไกลเราค่อยเลือกใช้บริการของประกันภัยก็ได้ แบบนี้ก็ประหยัดดีครับ
น้ำหวาน
น่าสนใจนะคะประกันรถยนต์แบบนี้ก็มีด้วยประกันรถยนต์เปิดปิด เพื่อช่วยให้เราสามารถที่จะใช้กรมธรรม์ประกันภัยในช่วงเวลาที่เราเดินทางโดยเฉพาะวันก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อกรมธรรม์ไว้ใช้ทั้งปีเหมือนกับประกันภัยทั่วไปที่เราใช้ ได้ยังสามารถทำให้เราได้รับการคุ้มครองเหมือนกันกับประกันภัยที่ซื้อไว้ทั้งปีด้วย หรือว่าน่าลองซื้อไว้ใช้นะค่ะ
Kee..คีติกา
เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ใช้รถมากนัก คิดเงินตามจำนวนเวลาที่ใช้จริงแค่อย่างลืมเปิดใช้แอปพลิเคชั่นละกัน ไม่รู่ว่าช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่โควิด-19 ระบาดมาเนี่ย มีคนทำประกันรถยนต์เปิด-ปิดแบบนี้เพิ่มมากขึ้นมั้ยนะคะ เพราะว่าออกไปไหนกันไม่ได้ ต้องอยู่แต่ที่บ้าน ถ้าใครทำไว้ก็ดีเนอะ ประหยัดเงินดีค่ะ
นันทวัฒ
ดีจัง มีประกันแบบเปิดปิดด้วย แบบนี้ก็เป็นอีกช่องทางเลือกหนึ่งของคนที่ไม่ค่อยใช้รถยนต์เท่าไร ดูแล้วน่าสนใจดีครับ แถมเบี้ยประกันก็ไม่แพงอีกต่างหาก แต่อย่างที่บอกเลยครับ ถ้าใช้ประกันรถยนต์แบบนี้ แล้วเวลาจะใช้รถยนต์ถ้าเราลืมเปิดแอพฯ ตามที่บอก มันก็แย่เลยนะครับ หมดกันเลย แต่ก็ยังถือว่าน่าสนใจนะครับ เดียวจะลองใช้ดูบ้างครับ
Dennis
ที่เข้ามาอ่านเพราะรู้สึกไม่คุ้นชินกับประกันแบบนี้ค่ะ แต่พออ่านๆไปแล้วก็คิดว่าทำประกันรถยนต์แบบเดิมๆอะดีกว่าไม่ต้องมาเปิดมาปิดกันอยู่ แม้จะมีข้อเสนอที่ทำให้เราเห็นความประหยัดค่าเบี้ยประกันอยู่ในนั้นก็ตามเถอะ เราว่าบางทีถ้าขับรถออกไปลืมเปิดความคุ้มครองขึ้นมาแล้วไปเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาก็แย่เลยสิ เราไม่ขอลองนะประกันแบบใหม่นี้
ชมพู่
มีใครใช้ประกันเปิดปิดของที่ไหนกันบ้างคะมาแชร์กันหน่อย จากที่เห็นก็มีบริษัทไทยวิวัฒน์ที่ดูแล้วน่าสนใจ มีหลายแพ็คเกจมาก มีเป็นแบบtop-up เติมชั่วโมง ขับเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น ขั้นต่ำ 50 ชั่วโมง เราสนใจแบบนี้แหละเพราะว่าเราไม่ค่อยได้ใช้รถเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะนั่งรถเมล์ เพื่อนๆคนไหนมีที่อื่นอีกไหมแนะนำหน่อยนะคะอยากจะลองเปรียบเทียบดูหลายๆที่
ดาว
กำลังมองหาประกันรถยนต์อยู่ พอดีมาเจอบทความนี้ประกันรถยนต์แบบเปิดปิดเนี่ยนะ น่าสนใจมากไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ตอนที่ได้ยินชื่อครั้งแรกนี้แอบตลกอยู่ด้วยนะ ประกันรถยนต์แบบเปิดปิด เข้าใจว่าเป็นรถแบบเปิดประทุนใช้อีก มีอายุการใช้งาน 3 เดือนใช้ได้สูงสุด 360 ชั่วโมงแล้วว่าเป็นตัวเลือกที่ดีนะเพราะว่าเราจะได้ซื้อประกันมีเฉพาะช่วงที่เดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆก็ได้
นาย นัจกร
ประกันแบบเปิดปิด เป็นทางออกของคนที่ใช้รถไม่ประจำครับ อย่างคนที่มีรถยนต์ราคาแพงๆ นานๆทีเอาออกมาขับโชว์ครับ ชาวบ้านอย่างผม ทั้งบ้านมีรถยนต์แค่คันเดียวครับคงทำแบบนี้ไม่ได้ครับ นี่ถ้า สัปดาห์หนึ่งมี 10วัน ที่บ้านผมก็ใช้ทั้ง10วันเลยครับ ออกไปทำงานทุกวัน จะให้มาคอยเปิดปิดประกันแบบนี้ไม่ไหวละครับ จ่ายทีเดียวจบครับ
แมก
ผมคิดว่าค่อนข้างจะยุ่งยากนะครับสำหรับอาการไปแบบเปิดปิด เพราะจะให้การคุ้มครองของเราเป็นชั่วโมง คือถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นในตอนที่เราใช้แอปพลิเคชั่นดังกล่าวก็ดีสิครับ แต่ช่วงไหนที่เราขับรถและลืมกดเริ่มคุ้มครองแล้วล่ะก็เกิดอุบัติเหตุก็ไม่ได้รับการคุ้มครองอยู่ดี ถ้าเปรียบเทียบราคาผมคิดว่าใช้เป็นแบบประกันคุ้มครองรถดีกว่านะครับ
ขนม
@louisa ใช่เราก็คิดเหมือนกันว่ามันก็มีบางส่วนที่ทำให้เราคิดว่ามันน่ารำคาญนิดนึงเพราะต้องคอยมาเปิดปิดประกันในจัต้องมาห่วงเรื่องว่าค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนถ้าเปิดไว้นานปิดไว้นานมันจะเสียเงินเยอะไหมสู้ซื้อทีเดียวเลยไม่ดีกว่าหรอถ้ามันต้องปิดปิดเพราะว่าอย่างที่ความคิดเห็นนี้บอกถ้ารถชนตอนที่ปิดไว้ล่ะทำยังไงก็ไม่ได้รับความคุ้มครองถูกไหม
Pizza
@แมท เราก็คิดเหมือนกับคุณเลยค่ะว่ามันน่าจะยุ่งยาก ถึงแม้บางคนยังไม่ค่อยใช้รถบ่อยแต่เราว่าประกันแบบนี้ไม่เหมาะกับคนขี้ลืมเลยนะ เพราะว่าจะเอารถออกไปใช้ทั้งทีก็ต้องคอยมาเปิดใช้บริการประกัน แล้วบางทีเรารีบเราก็ลืม ถ้าลืมเปิด แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแบบนี้จะไม่แย่หรอ เอาเป็นว่าเราเลือกทำประกันรถยนต์แบบธรรมดาดีกว่า
Wirun703
บทความนี้ดีนะครับช่วยให้หลายคนได้รู้จักกับประกันรถยนต์เปิด-ปิด คนที่ไม่ค่อยได้ขับรถออกไปไหนน่าจะลองดูรายละเอียดของประกันประเภทนี้ดูนะครับ เผื่อจะเปลี่ยนการทำประกันแบบรายปีไปเป็นแบบเปิด-ปิดดู ยิ่งช่วงนี้คงมีหลายคนที่ไม่ค่อยได้ขับรถไปไหนมาไหนเหมือนเมื่อก่อน ถ้าอ่านรายละเอียดแล้วสนใจลองคุยกับบริษัทประกันดูก็ได้
วัชรินทร์
ประกันแบบเปิด-ปิด มันก็น่าใช้อยู่นะครับ แต่ถ้าถามว่าผมเอาไหม คงตอบได้เลยครับ ว่าไม่น่าจะใช้ทางเลือกแน่นอนครับ อย่างแรกเลย ผมเป็นคนที่ต้องขับรถเดินทางบ่อย จะให้มานั้งเปิด-ปิดทุกครั้งคงไม่น่าได้ครับ แล้วอีกอย่าง ดูจากเรื่องการใช้งานแล้ว เขานับเป็นชั่วโมงอีกด้วย อันนี้ไม่ใช่ทางของผมใหญ่เลยครับ ซื้อตัวคุ้มครองยาวๆเลยดีกว่าครับ
Jaidee
ก็มีมาสักพักแล้วนะคะประกันรถยนต์แบบเปิดปิด เราก็ไม่ได้น่ารำคาญอย่างที่คุณคิดนะการจะเปิดใช้ประกันรถยนต์ก็ไม่ได้ยุ่งยากแค่เปิดใช้ผ่าน Application โทรศัพท์มือถือ ง่ายจะตาย เพราะปกติเราแต่ละคนก็ใช้โทรศัพท์มือถือกันบ่อยอยู่แล้วเข้าแอปนู่นนี่นั่นเยอะแยะมากมาย ไม่ยุ่งยากหรอกค่ะไม่น่ารำคาญด้วยประหยัดด้วยค่ะ
Munin
@Jaidee ใช่ค่ะก็มีมาสักพักแล้วประกันแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่แล้วล่ะ เวลาเปิด YouTube เดี๋ยวนี้ก็เห็นโฆษณาเด้งขึ้นมาบ่อยๆนะ โฆษณาก็เข้าใจง่ายดีว่าใช้บริการยังไง แต่สำหรับคนที่ใช้บริการประกันรถยนต์แบบธรรมดามาก่อนก็อาจจะไม่ค่อยชินละมั้ง แต่ก็อย่างที่คุณบอกแหละใช้บริการไม่ยาก จริงๆเปิดใจใช้บริการแบบใหม่ๆก็น่าสนุกดีนะคะ
เต้าหู้ไข่
@Dennis เหมือนกันนะคะที่เข้ามาอ่านบทความนี้ เขาว่าอยากรู้มากขึ้นว่ามันเป็นยังไงบ้าง เคยเห็นแต่ในโฆษณาสั้นๆนะคะยังไม่ค่อยรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งานประกันรถยนต์แบบเปิดปิด แต่เราคิดว่าเราต่างจากคุณนะ หลังจากที่อ่านแล้วก็รู้จักกับประกันแบบนี้เราคิดว่ามันจะทำให้เราสะดวกมากขึ้นไม่แน่จะยากเลย การเปิดใช้ประกันรถยนต์แล้วก็ปิดเมื่อเราไม่ได้ใช้รถยนต์ ก็ทำง่ายๆผ่าน Application สะดวกจะตาย แถมประหยัดเงินด้วยนะ
-Surawut-
ประกันภัยรถยนต์แบบเปิด-ปิดดีสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ใช้รถยนต์ ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันแบบเต็มจำนวน แต่บางคนอาจรู้สึกว่ามันยุ่งยากตรงที่ต้องมาคอยเปิด-ปิดแอปทุกครั้งเมื่อใช้รถยนต์และหยุดใช้รถยนต์ หากรู้สึกไม่สะดวกก็จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยแบบเต็มจำนวนเหมือนที่เคยจ่ายมาตลอดก็ได้ครับ เพื่อความสบายใจ มันอาจไม่เหมาะกับทุกคน
-SrisudA-
ประกันรถยนต์แบบเปิดปิด คิดค่าเบี้ยประกันตามการใช้งานจริงเมื่อเราวิ่งรถออกไปข้างนอก อย่างนี้ถ้าเราซื้อประกันรถยนต์แบบเปิดปิดที่เป็นแบบชั้นหนึ่งเลย ค่าเบี้ยประกันภัยก็จะไม่แพงใช่มั้ยคะ ก็น่าซื้อเหมือนกันนะ แต่ต้องไม่ลืมที่จะเปิดและปิดแอปเมื่อใช้รถและหยุดใช้รถ ไม่งั้นได้จ่ายค่าเบี้ยประกันแบบปกติกันแน่นอน
มาร์ช...เอง
ช่วงที่มีโรคระบาด ทำให้หลายคนไม่ค่อยได้ออกไปไหนมาไหน รถยนต์ก็จอดทิ้งไว้ที่บ้าน ประกันภัยรถยนต์แบบเปิด-ปิดเหมาะดีนะครับ ไม่รู้ว่าช่วงนั้นมีคนหันมาทำประกันประเภทนี้กันมากขึ้นหรือเปล่า ที่บ้านผมทำประกันแบบปกติอะครับ ไม่ได้เปลี่ยนหรอก เพราะว่ามีเรื่องให้ออกจากบ้านอยู่เรื่อย แต่ก็เป็นแบบรีบไปรีบกลับน่ะครับ
แจมมี่
เห็นบางคอมเมนต์บอกว่าประกันรถยนต์แบบเปิด-ปิดมีมาได้สักพักแล้ว ไม่ได้ถือเป็นเรื่องใหม่มาแรงแต่อย่างใด ก็ใช่ค่ะ สำหรับคนที่เคยรู้มาก่อนแล้วคงไม่ได้ตื่นเต้นหรือให้ความสนใจสักเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักหรือแค่เคยได้ยินผ่านๆมาก็อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมนะคะ มีใครใช้อยู่มั้ย เราอยากฟังรีวิวจากคนใช้จริงบ้างค่ะ
ธนิน-นิน
เป็นธรรมดานะครับ ทุกอย่างย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เรื่องการซื้อประกันภัยรถนต์ก็เหมือนกัน อย่างที่บทความนี้แนะนำเรื่องประกันภัยรถยนต์แบบเปิด-ปิด อ่านคร่าวๆแล้ว ผมเองคิดว่าน่าสนใจนะเพราะช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหนเหมือนกัน ถ้าอยากซื้อประกันภัยรถยนต์ประเภทนี้ก็ต้องยอมรับเงื่อนไขบางอย่างให้ได้ด้วย พิจารณาให้ดีครับ