ในสมัยนี้รถยนต์ได้เข้ามามีบทบาท และมีความจำเป็นมากขึ้นกับทุกครอบครัว ส่วนบางคนรถยนต์ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถยนต์เท่านั้น แต่เป็นทั้งเพื่อน และคู่ชีวิต เพราะมันจะพาเราไปในทุกๆที่ บางครั้งชีวิตเราก็ขึ้นอยู่กับรถยนต์ แน่นนอน เราก็อยากจะให้รถอยู่ในสภาพที่ดี ปลอดภัย และใช้ได้นานๆ เพื่อนๆเองคงจะรู้ดีว่าเมื่อเราใช้รถ  อุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพื่อความอุ่นใจ และมีหลักประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่เราจะคิดถึง ประกันรถยนต์กันใช่มั้ยคะ? และประกันรถยนต์ในทุกวันนี้ก็ มีมากมาย หลายบริษัท และหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีความคุ้มครองแตกต่างกัน ราคาก็ต่างกัน จนรู้สึกว่ามันมากจนเลือกไม่ถูกและถึงกับสับสนด้วยซ้ำ  แต่เราก็ยังเชื่อว่า เพื่อนๆคงจะมีความรู้ และมีข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถยนต์แต่ละประเภทมาบ้างแล้วหล่ะใช่มั้ยคะ? แต่เราก็อยากให้ข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถยนต์อีกแบบหนึ่งมาให้เพื่อนๆได้อ่านด้วย ซึ่งก็คือ ประกันรถยนต์แบบเปิดปิด นั่นเอง!  เผื่อจะได้เอาไปเป็นทางเลือกในการตัดสินใจทำประกันรถยนต์ ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง บทความนี้จะให้ข้อมูลคร่าวๆเกี่ยวกับ ประกันรถยนต์แบบเปิดปิดว่าคืออะไร ? การใช้งานและความคุ้มครองเป็นแบบไหน? มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง ? มีที่ไหนเปิดให้บริการบ้าง? ขอเพื่อนๆ ลองอ่านไปพร้อมๆกันเลยนะคะ.

ประกันรถยนต์แบบเปิด-ปิดคืออะไร?

ประกันรถยนต์แบบเปิด-ปิดคืออะไร?

ประกันรถยนต์แบบเปิดปิด เป็นประกันรถยนต์แบบใหม่ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าจะเปิดหรือปิด ความคุ้มครอง เอาตามที่เราสะดวก ถ้าเราจะต้องเดินทาง หรือใช้รถเราก็เพียงแต่เปิดใช้ เมื่อถึงที่หมายแล้ว หรือไม่ได้ใช้รถแล้วก็สามารถปิดได้ทันที ส่วนเบี้ยประกันจะมีการคิดตามจำนวนเวลาที่ใช้จริงๆ เราจะจ่ายเงินก็ต่อเมื่อเราเปิดใช้เท่านั้น  ประกันรถยนต์แบบเปิดปิดนี้มีชื่อเรียกหลายอย่าง ดิฉันคิดว่า เพื่อนๆคงจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้างแล้วหล่ะ เช่น ประกันรถยนต์แบบเติมเงิน, ประกันรถยนต์ระยะสั้น, ประกันรถยนต์ชั่วคราว, ประกันรถยนต์ตามไมล์,  และ ประกันรถยนต์แบบรายเดือน

ประกันแบบเปิดปิดนี้ ผู้ซื้อสามารถเลือกระยะเวลาในการเปิดความคุ้มครองและ เลือกจำนวนเงินที่จะจ่ายได้เอง  ถ้าจะถามว่า ประกันรถยนต์แบบเปิดปิดนี้เหมาะกับใครบ้าง ? ถ้าเพื่อนๆ ใช้รถน้อยมาก หรือใช้แค่ไม่กี่วันต่ออาทิตย์ บางวันก็ใช้ไม่กี่ชั่วโมง ส่วนใหญ่มักจะจอดมากกว่า หรือ นานๆ จะขับออกไปเที่ยวต่างจังหวัดซักครั้งนึง และก็ไม่อยากจ่ายประกันแบบรายปี เสียดายเงิน และ อยากประหยัดด้วย และในขณะเดียวกันก็อยากได้รับความคุ้มครอง ต้องการความสะดวกและง่ายด้วย ประกันแบบเปิดปิดนี้ จึงหมาะกับคุณมากๆเลยค่ะ ประกันแบบเปิดปิดนี้จะให้ความคุ้มครองเมื่อเราเลือกเปิดความคุ้มครองผ่านทางแอปพลิเคชั่นเท่านั้น โดยที่เพื่อนๆสามารถเลือกแพ็คเก็จได้ว่า จะเลือกความคุ้มครองแบบไหน เช่น ความคุ้มครองแบบ  1 เดือน, 3 เดือน, 6 เดือน, หรือ 12 เดือน ส่วนประเภทของประกันก็มีให้เลือกทั้ง ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+,ประกันชั้น 3+ เราสามารถเลือกได้เองตามลักษณะการใช้รถของเรา ตามงบประมาณที่เรามี และตามเวลาที่เราต้องการโดยไม่ต้องมีข้อผูกมัดอะไร ใดๆทั้งสิ้น .

การใช้งานและความคุ้มครองเป็นอย่างไร?

การใช้งานและความคุ้มครองเป็นอย่างไร?

ส่วนการใช้งานของประกันแบบเปิดปิด ก็ง่ายๆ ไม่ได่ยุ่งยากซับซ้อนอะไร ก่อนอื่นต้องมีโทรศัพท์มือถือที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตเมื่อเราเปิดรับความคุ้มครอง โอเค! มีโทรศัพท์แล้ว เราก็ทำการสมัครเปิดใช้บริการผ่านตัวแทน หรือบริษัทประกันภัยก่อน หลังจากสมัครเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทจะให้อุปกรณ์สำหรับติดตามรถของคุณ เพื่อให้คุณได้ติดตั้งที่แผงหน้าจอหรือเสียบเข้าที่ช่อง USBในรถยนต์หลังจากนั้นก็ทำการดาว์นโหลดแอปพลิเคชั่นของบริษัทลงในโทรศัพท์มือถือของคุณเมื่อต้องการเปิดความคุ้มครอง คุณจะต้องลงชื่อเข้าใช้งานในระบบก่อน และต้องเปิดบูลทูธตลอดเวลาขณะที่ยังขับรถ หรือเดินทางอยู่ เมื่อเข้าไปในแอพฯ คุณจะเห็น ปุ่ม เปิด /ปิด อยู่แล้ว คุณสามารถกดปุ่มเปิดได้ทันที่ถ้าต้องการความคุ้มครองหรือเริ่มเดินทาง พอถึงจุดหมายปลายทางเรียบร้อยแล้ว ก็กดปิดในโทรศัพท์มือถือของคุณเองได้ทันที คุณจะต้องซื้อความคุ้มครองเป็นชั่วโมงล่วงหน้าก่อน เงื่อนไขก็ขึ้นอยู่กับแต่ละผลิตภัณฑ์ด้วย

การใช้ประกันรถยนต์แบบเปิดปิดนี้ คุณสามารถเช็ค จำนวนวัน และชั่วโมง ที่รับความคุ้มครองผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้ตลอดเวลา วิธีนี้จะช่วยคุณรู้ได้ว่า คุณใช้ความคุ้มครองไปเท่าไหร่แล้ว แล้วจะต้องซื้อความคุ้มครองเพิ่มอีกกี่วันหรืออีกกี่ชั่วโมง .

ส่วนความคุ้มครองของประกันรถยนต์แบบเปิดปิด  ก็ให้ความคุ้มครองเหมือนกับประกันรถยนต์แบบรายปี หรือแบบทั่วไป มีให้เลือกความคุ้มครองตั้งแต่ ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 2+, ประกันชั้น 3+ ถ้าเราจอดรถเอาไว้แล้วรถเกิดหายขึ้นมา หรือรถถูกไฟไหม้ ประกันชั้น 1และ ชั้น 2+ ก็ยังให้ความคุ้มครองเหมือนเดิม ถึงแม้เราจะลืมเปิดแอปพลิเคชั่นใช้งานก็ตาม

มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง?

มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง?

ข้อดี ของประกันรถยนต์แบบเปิดปิดก็มีเยอะหมือนกันนะคะ เช่น คุณจะมีความรู้สึกอุ่นใจเสมอทุกการเดินทาง เพราะว่า อุปกรณ์ที่ทางบริษัทติดตั้งในรถของคุณ จะส่งสัญญาณGPS ให้ทางบริษัทรู้ สามารถระบุพิกัด และตำแหน่งของคุณขณะเดินทาง หรือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และกรณีฉุกเฉินได้รวดเร็วขึ้นและสามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันเวลา

คุณยังจะได้รับโปรโมชั่น ความคุ้มครองต่างๆจากทางบริษัทประกันอีกด้วย  การต่อประกัน และการสมัครใช้บริการ และการเช็คความคุ้มครอง ก็ไม่ยุ่งยาก แค่ทำรายการต่างๆผ่านทางแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือของคุณเอง เมื่อไหร่ เวลาไหนก็ได้ ส่วนเบี้ยประกันก็จ่ายตามจำนวนวัน และ ชั่วโมงที่ใช้จริงๆ และทำให้ประหยัดเงินเพิ่มขึ้นถึง 30-40% เพราะคุณเลือกจ่ายตามไลฟ์สไตล์ของคุณเองโดยที่ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ พร้อมใช้เมื่อไหร่ก็เปิดแอพฯ ไม่ใช้แล้วก็แค่ปิดแอพฯ แค่นี้เองค่ะง่ายๆ..

ส่วนข้อเสียก็มีด้วยเหมือนกันจ้า  เช่น ประกันรถยนต์แบบเปิดปิดนี้ ในกรมธรรม์จะระบุเอาไว้ว่า จะให้ความคุ้มครองเฉพาะเวลาที่คุณเปิดใช้แอปพลิเคชั่นเท่านั้น ถ้าเกิดวันไหนคุณลืมเปิดแอพฯ แล้วรถที่จอดเอาไว้เกิดหายขึ้นมา หรือรถอาจจะถูกไฟไหม้ คุณไม่สามารถเรียกร้องความเสียหายได้ แต่ในกรณีลืมเปิดแอพฯ ก็ได้มีบริษัทประกันภัยบางรายเริ่มเห็นปัญหานี้ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถได้เลือกใช้บริการ เปิด-ปิด รับความคุ้มครองแบบอัตโนมัติด้วย โดยการตั้งเวลาล่วงหน้าตามกิจวัตรประจำวันของคุณ และจะมีการส่งข้อความเตือนเมื่อคุณเปิดประกันเอาไว้เป็นเวลานานกว่าปกติ วิธีนี้สามารถช่วยทั้งเตือนความจำ และช่วยให้คุณประหยัดเงินค่าประกันได้อีกด้วย ข้อเสียอีกอย่างของประกันรถยนต์แบบเปิดปิดนี้ก็คือ มีบริษัทประกันให้เลือกน้อย และแผนที่ให้บริการก็ยังมีไม่มาก และดิฉันก็อยากแนะนำอีกนิดหนึ่งว่า ถ้ามีคนอื่นยืมรถยนต์ของคุณไปใช้ อย่าลืมบอกเค้าให้เปิดแอปพลิเคชั่นเพื่อรับความคุ้มครองด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยจ้า !

มีที่ไหนเปิดให้บริการบ้าง?

มีที่ไหนเปิดให้บริการบ้าง?

เนื่องจากไลฟ์สไตล์ ของการใช่รถของแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนใช้รถแค่ไม่กี่วันต่ออาทิตย์ หรือบางคนอาจจะใช้ไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน หรือบางทีก็จอดไว้ ถ้าต้องจ่ายประกันรถยนต์เป็นปี คงจะไม่คุ้มแน่นอน ตอนนี้มีบริษัทไทยวิวัฒน์ได้เห็นถึงความจำเป็นตรงส่วนนี้ จึงมีการออกแบบประกันรถยนต์แบบควบคุมการคุ้มครองได้ด้วยตัวเอง แค่เพียงเปิด-ปิดได้บนแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ให้คุณจ่ายค่าประกันตามจริงเท่าที่คุณใช้รถ ตอนนี้ทางไทยวิวัฒน์มีประกันแบบเปิดปิด ให้เลือกความคุ้มครอง แบบ  1 เดือน , 3 เดือน , 6 เดือน และ 12 เดือน และประเภทของประกันมีทั้ง ประกันชั้น 1 ประกันรถชั้น 2 + และประกันรถชั้น 3 + ตอนนี้ทางไทยวิวัฒน์ได้มีแพ็คเก็จให้เราได้เลือกได้ตามความต้องการ เริ่มความคุ้มครอง 1 เดือน ประกันรถชั้น 1 , ชั้น 2+, ชั้น 3+ จำนวนชั่วโมงที่ใช้ได้ 144 ชั่วโมง  ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาท

ความคุ้มครอง 3 เดือน

ประกันชั้น 1 ราคา 2,000 บาท , ชั้น 2+  ราคา 1,200 บาท , ชั้น 3+ ราคา 1,000 บาท จำนวนชั่วโมงที่ใช้ได้ 360 ชั่วโมง

ความคุ้มครอง 6 เดือน

ประกันชั้น 1 ราคา 3,800 บาท , ชั้น 2+ ราคา 2,300 บาท , ชั้น 3+ ราคา 1,900 บาท จำนวนชั่วโมงที่ใช้ได้ 600 ชั่วโมง

ความคุ้มครอง 12 เดือน

ประกันชั้น 1 ราคา 7,200 บาท , ชั้น 2+ ราคา 4,400 บาท, ชั้น 3+ ราคา 3,600 บาท จำนวนชั่วโมงที่ใช้ได้ 960 ชั่วโมง

ส่วนรายละเอียดความคุ้มครองทุนประกัน ถ้าเพื่อนๆสนใจ สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ของ ไทยวิวัฒน์ได้เลยนะคะ

ประกันรถยนต์แบบรายเดือนของที่  เมืองไทยประกัน ก็มีค่ะ แต่เป็นประเภท 3+  ราคาเพียง 555 บาท คุ้มครอง 30 วัน ให้ความคุ้มครองทั้งรถเราและรถของคู่กรณี ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก ซื้อผ่านออนไลน์คุ้มครองทันที.

ประกันรถยนต์แบบรายเดือนของ เอ็ม เอส ไอ จี  ประกันประเภท 3+ เบี้ยประกันเริ่มต้นวันละ 42 บาท ทุนประกัน 100,000 บาท เบี้ยประกันแบบมีค่าเสียหายส่วนแรกราคาอยู่ที่ 1,260 บาท ส่วนเบี้ยประกันที่ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรกราคาอยู่ที่ 1,365 บาท  เมื่อสมัครคุ้มครองทันทีไม่ต้องเช็ครถ ให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง .

มีประกันรถยนต์เปิด-ปิดเอาไว้ก็อุ่นใจได้

มีประกันรถยนต์เปิด-ปิดเอาไว้ก็อุ่นใจได้

เมื่อเราได้มารู้จักกับประกันรถยนต์แบบเปิด-ปิด แล้ว เพื่อนๆ รู้สึกยังงัยกันบ้างคะ? สบายใจขึ้นใช่มั้ย ? เพราะทำให้รู้สึกว่า เราไม่จำเป็นต้องถูกผูกมัดอยู่กับประกันรถยนต์แบบรายปีอีกต่อไป ทั้งๆที่เราใช้รถอาทิตย์ละไม่กี่ชั่วโมง และไม่ได้ใช้รถทุกวันซักหน่อย การจ่ายประกันรายปีรู้สึกว่าไม่คุ้มค่า แพงเกินไป ประกันรถยนต์แบบเปิด-ปิด นี้ช่วยเราประหยัดได้ถึง 30-40% เพราะเราสามารถเลือกราคาเองได้ เลือกวัน เวลา คุ้มครองได้เอง สะดวกจะรับความคุ้มครองตอนไหนก็เปิดแอพฯได้ทันที พอถึงบ้านปุ๊บ ก็ปิดแอพฯได้เลย ราคาก็ไม่แพง ความคุ้มครองก็ไม่ต่างกัน ประกันรถยนต์แบบเปิด -ปิด เปิดโอกาสให้กับใครอีกหลายๆคนได้มากที่เดียว.