แต่งงาน ใครๆก็อยากแต่งงานมั้ยคะ ใครๆก็อยากมีคู่กันทั้งนั้น ยิ่งสังคมทุกวันนี้ดูเหมือนว่าจะนิยมจัดงานแต่งงานกันมากเป็นพิเศษซึ่งตัวผู้เขียนเองก็ไม่เข้าใจเหตุผลที่แน่ชัดเลย ยิ่งถ้าเพื่อนๆมองดูสังคมดารา และไฮโซทั้งหลายก็ดูเหมือนว่าแข่งขันกันมากๆ เพื่อจะจัดงานแต่งงานโชว์ความหรูหราความร่ำรวยและที่สำคัญ โชว์ความรักความหวานกันมากมายกว่าสมัยไหนๆเลย แต่เมื่อกลับมามองคนธรรมดาอย่างเพื่อนๆหล่ะ การแต่งงานก็คงจะเป็นแผนการของใครหลายคนอยู่แน่ๆ แต่เพื่อนทราบหรือไม่ว่า นอกจากเพื่อนจะต้องวางแผนการจัดงานแต่งงานให้น่าจดจำแล้ว เพื่อนๆยังต้องวางแผนเรื่องอื่นๆด้วย
ทุกวันนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอน วันนี้รักกัน พรุ่งนี้ก็มีปัญหากันแล้ว ซึ่งสิ่งที่เพื่อนๆจะต้องวางแผนเพิ่มเติมก่อนการแต่งงานก็คือ เรื่องของภาษี / เรื่องของการจดทะเบียนสมรส / เรื่องของมรดก / เรื่องการมีลูก เรื่องเหล่านี้เป็นต้น เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอทุกที่ทุกเวลา การวางแผนและเตรียมตัวเอาไว้ก่อนอาจจะกลับเป็นผลดีที่จะทำให้คเพื่อนๆและคู่รักรักกันมากขึ้นและอยู่กันอย่างยาวนานมากกว่าเพราะมีการปรึกษาวางแผนชีวิตด้วยกันอย่างดีตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ดังนั้นการมองโลกในแง่ลบ และแง่บวกไปพร้อมๆกันอย่างพอดีนั้นจะส่งผลดีมากกว่าผลร้ายได้อย่างไร บทความนี้มีคำตอบค่ะ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวางแผนแต่งงาน ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่นี่
4 เรื่องต้องรู้ในการวางแผนแต่งงาน
บทความนี้จะมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับใครก็ตามที่กำลังจะวางแผนแต่งงานให้วางแผนการแต่งงานอย่างมีคุณภาพไร้ซึ่งปัญหาใดๆ เพราะนอกจากจะมองเห็นว่าทุกวันนี้มีการนิยมแต่งงานกันมากขึ้น กรณีการหย่าร้างก็มากขึ้นเช่นกัน แล้วถ้าเพื่อนๆต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นจะจัดการอย่างไรให้ไม่มีปัญหาโดยเฉพาะเรื่องของ เงิน อันนี้ผู้เขียนไม่ได้ต้องการให้เพื่อนๆมองในแง่ลบนะคะ แต่เป็นความรอบคอบเอาไว้ก่อน
วางแผนแต่งงาน เรื่องของการจัดงาน
มาเริ่มกันที่ค่าใช้จ่ายในการจัดงาน ไม่ว่าจะเป็น ค่าการ์ดเชิญ และค่าดีไซดีไซน์การ์ดเชิญ ประมาณค่าใช้จ่าย 4,000-8,000 บาท ค่าอุปกรณ์เครื่องเสียงเช้าและงานเย็น ประมาณค่าใช้จ่าย 5,000-25,000 บาท ค่าดอกไม้และจัดดอกไม้ในงานทั้งเช้าและเย็น ประมาณค่าใช้จ่าย 15,000-30,000 บาท ค่าใช้จ่ายพิธีสงฆ์อาหารถวายพระ(แบบไทย) ประมาณค่าใช้จ่าย 5,000-10,000 บาท ค่าอาหารเลี้ยงแขกช่วงเช้า(แห่ขันหมาก) ประมาณค่าใช้จ่าย 20,000-30,000 บาท ค่าของรับไหว้ งานเช้า ประมาณค่าใช้จ่าย 5,000-10,000 บาท ค่าช่างภาพ/ค่าตัดต่อวิดีโอ เช้าเย็น ประมาณค่าใช้จ่าย 15,000-25,000 บาท ค่าขนมขันหมากและเครื่องขันหมาก ประมาณค่าใช้จ่าย 8,000-12,000 บาท ค่าใช้จ่ายจิปาถะช่วงแห่ขันหมาก ประมาณค่าใช้จ่าย 3,000-5,000 บาท ประมาณค่าใช้จ่ายช่วงเตรียมงาน 80,000-155,000 บาท
วางแผนแต่งงาน เรื่องของภาษี
การแต่งงานที่มีมากกว่าการจัดงานแต่งงาน เรื่องแรกก็คือเรื่องของ ภาษี ถ้าเพื่อนๆแต่งงานโดยจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย การชำระภาษีก็จะเปลี่ยนไปจากสถานะคนโสดซึ่งจะต้องมีการชำระมาขึ้นไม่ว่า สามี หรือ ภรรยาจะทำงานทั้งคู่ หรือทำงานคนเดียวก็ตาม แต่ถ้าสามี หรือ ภรรยา ทำงานคนเดียวก็สามารถขอลดหย่อนภาษีได้โดยการยื่นขอลดหย่อนภาษีจากฝั่งของคนที่มีรายได้ และญาติๆของฝ่ายนั้นไม่ว่าจะเป็นสามีหรือภรรยาก็ตามที่ไม่มีรายได้นี่ก็จะช่วยอีกผ่ายให้ได้รับการลดหย่อนภาษีได้ค่ะ แต่ถ้าเพื่อนๆแต่งงานแบบไม่มีการจดทะเบียนสมรสก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้เพราะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเรื่องภาษี แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่เลยเพราะทุกวันนี้มีหลากหลายช่องทางมากขึ้นที่จะขอลดหย่อนภาษีได้ โดยเฉพาะถ้ามีลูกสามารถใช้การมีบุตรขอลดหย่อนภาษีได้ด้วยค่ะ ทั้งการเลี้ยงดูบุตร และค่าเล่าเรียนของบุตร เป็นต้นค่ะ
เรื่องของการจดทะเบียนสมรส
การจดทะเบียนสมรส ก็คือกระดาษหนึ่งใบที่ไม่ธรรมดา แต่เปลี่ยนสถานะของคนสองคนให้กลายเป็นคนคนเดียวกัน ถ้าเป็นเรื่องของความรู้สึก การจดทะเบียนสมรสเป็นการให้เกียรติกันอย่างมากของกันและกันทั้งส่วนตัว และครอบครัว ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ทะเบียนสมรสจะมีบทบาทก็คือ เรื่องของเงินๆทองๆ เช่น เรื่องภาษี มรดก การทำนิติกรรม การทำธุรกรรมต่างๆทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้จะกลายเป็นภาระผูกพันต่อกันไปตลอด นี่คือสิ่งที่เพื่อนๆต้องยอมรับและมีการปรึกษากันอย่างดี ในเรื่องของรายได้ มรดก และรวมไปจนถึงการทำพินัยกรรม หรือค่าชดเชยเมื่อหย่าร้างกัน การเลี้ยงดูบุตร และยังมีรายละเอียดอีกมากมายที่ใครที่กำลังคิดจะแต่งงานต้องศึกษาอย่างดี แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรขอให้คนที่จะแต่งงานรักกันมากๆนะคะ เพราะความรักจะชนะทุกๆปัญหาไปได้ค่ะ อย่าให้เกิดกรณีการหย่าร้างเป็นดีที่สุดให้มองการจดทะเบียนสมรสเป็นเรื่องสำคัญ และให้อยู่ด้วยกันไปจนแก่จนเฒ่าดีกว่า ซึ่งการวางแผนเรื่องต่างๆเหล่านี้ก็เพื่อสร้างความมั่นคงให้ชีวิตคู่มากกว่าการวางแผนเตรียมตัวว่าจะเลิกกันเมื่อไหร่ก็ได้นะคะ อย่าคิดไปผิดทางกันหล่ะ
วางแผนแต่งงาน เรื่องของมรดก
ยังไงก็ยังหนี้ไม่พ้นเรื่องเงินนะคะ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ เรื่องของการจัดการมรดกก็เกี่ยวข้องกับภาษี และการจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะเมื่อกลายเป็นคนคนเดียวกันแล้ว ทรัพย์สินหรือเงินที่มีก็จะถูกรวมกันเป็นอันเดียวซึ่งเรียกกันว่า สินสมรส ซึ่งทรัพย์สินส่วนนี้จะเป็นส่วนกลางไม่เป็นของคนใดคนหนึ่งแต่เป็นของทั้งคู่ที่มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ถ้าไม่เกิดปัญหาก็ไม่มีอะไร แต่ปัญหามักเกิดขึ้นได้เสมอ เช่น สามี หรือ ภรรยา คนใดคนหนึ่งเสียชีวิต หรือเสียชีวิตทั้งคู่ เงินในส่วนของสินสมรสนั้นจะตกเป็นของใครต้องมีการตกลงปรึกษากันก่อนให้แน่นอนเพื่อจะไม่เป็นปัญหาต่อคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสามี หรือ ภรรยาที่ไม่ได้เสียชีวิต หรือลูกๆ นั่นเองค่ะ ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาควรมีการทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อระบุผู้ที่จะรับผลประโยชน์ส่วนนี้อย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดการโต้เถียง ซึ่งเรามักจะเห็นบ้างจากประสบการณ์ของคนอื่นๆผ่านทางข่าว หรือ สื่อต่างๆค่ะ หรือแม้แต่ละครก็มักเอาเรื่องทรัพย์สินมรดกมาเป็นเนื่องเรื่องสำคัญในบทละครอยู่บ่อยๆ เพราะเรื่องนี้สำคัญมากจริงๆเพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องคนที่คุณรักให้ได้รับประโยชน์เต็มที่จากทรัพย์สินที่ควรจะได้เมื่อใครคนใดคนหนึ่งเสียชีวิตไปค่ะ
วางแผนแต่งงาน เรื่องการมีลูก
การมีลูกนั้นนำมาซึ่งความสุขภายในครอบครัว แต่ก็ตามมาด้วยภาระหน้าที่หลายอย่างมากมาย พ่อแม่ต้องวางแผนอย่างดีเพื่อจะเลี้ยงเจ้าตัวน้อยให้โตขึ้นมาอย่างคุณภาพไม่เดือดร้อน และมีความสุข ดังนั้นการวางแผนทางการเงินสำหรับการมีลูกจึงสำคัญมากๆ เพราะเพื่อนๆต้องใช้ค่าใช้จ่ายตั้งแต่ตั้งท้องแล้ว ซึ่งเสต็ปทางการเงินสำหรับใครที่จะมีลูกดังนี้ค่ะ
- ค่าใช้จ่ายเมื่อตั้งครรภ์
- ค่าใช้จ่ายเมื่อเมื่อคลอด
- ค่าใช้จ่ายเมื่อดูแลตอนเป็นทารก
- ค่าใช้จ่ายเมื่อเป็นเด็กที่ยังไม่เข้าเรียน
- ค่าใช้จ่ายเมื่อเข้าเรียน อนุบาล / ประถม / มัธยม / มหาวิทยาลัย
- ค่ารักษาพยาบาล
จะเห็นว่าในแต่ละช่วงวัยก็ล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น แล้วก็ไม่ใช่น้อยๆเลยด้วย เพื่อที่เพื่อนๆจะมีลูกและเลี้ยงดูเขาอย่างมีคุณภาพเพื่อนๆต้องวางแผนทางการเงินอย่างดีมีคุณภาพรัดกุมเพื่อลูกของเพื่อนๆจะเติบโตอย่างดีเช่นกัน และต้องทำไปพร้อมกับการวางแผนชีวิตที่ดีให้ลูกๆด้วยเพื่ออนาคตทางการเงินของเขา ซึ่งเด็กบางคนสามารถหารายได้ดูแลตัวเองได้ตั้งแต่เด็กๆด้วยถ้าพ่อแม่ปลูกฝัง เพื่อนๆก็สามารถปลูกฝังลูกๆได้ค่ะ ดังนั้นถ้าเพื่อนๆอยากจะมีลูกก็ต้องมีการปรึกษากับคู่ของตัวเองอย่างดี ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อให้ครอบครัวมีความสุขลดปัญหาครอบครัวแตกแยกนะคะ
บทความนี้คงช่วยให้หลายๆคนที่คิดจะแต่งงานตาสว่างมากขึ้นว่ามีอีกหลายๆเรื่องเลยที่ต้องวางแผนปรึกษาพูดคุยกันกับคู่ของตัวเอง เพื่อจะให้คู่ของตัวเองนั้นประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตคู่ลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งปัญหาใหญ่ก็มักจะมาจาก เรื่องเงินนั่นเอง ในบางเรื่องเพื่อนๆอาจจะยังไม่คิดมาก่อนว่าต้องสนใจ แต่บทความนี้ทำให้เห็นแล้วว่าไม่ควรมองข้ามเลย โดยเฉพาะการมีลูก เพราะเพื่อนๆคงจะสังเกตเห็นอยู่แล้วว่าสถาบันครอบครัวนั้นสำคัญมากที่จะทำให้บุคคลคนหนึ่งมีคุณภาพไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นๆ
ดังนั้นการที่เพื่อนๆมีความพร้อมมากๆจริงๆในการมีลูกจะช่วยให้ลูกๆของเพื่อนๆนั้นเป็นประโยชน์ต่อสังคมแทนที่จะเป็นปัญหาของสังคม แล้วการวางแผนที่ดีเรื่องเงินก็จะช่วยลดความตึงเครียดปัญหาสะสมที่ทำให้หลายต่อหลายคู่เลือกที่จะใช้วิธีแสดงความรุนแรงต่อกันได้ด้วยค่ะ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายงานแต่งงาน กับวิธีคุมงบไม่ให้บานปลาย ที่นี่
ผู้เขียนจึงอยากให้เพื่อนๆคิดอย่างรอบคอบเพื่อจะมีชีวิตแต่งงานที่มีความสุขไปยาวนาน การวางแผนก่อนการแต่งงานจะช่วยให้มีการวางแผนด้วยดันไปจนถึงหลังแต่งงานเลยนะคะ แล้วเพื่อนๆจะเห็นผลดีของการวางแผนที่ดีมีชีวิตคู่ที่มีความสุข มีครอบครัวที่มีความสุขอย่าปล่อยให้เรื่องเงินมาขัดขวางความสุขของเราไปนะคะ บทความนี้ช่วยเตรียมความพร้อมให้กับคนที่กำลังจะแต่งงาน แล้วก็ยังเป็นเกล็ดความรู้สำหรับคนที่ยังไม่มีแผนแต่งงานได้ด้วยค่ะ ไม่ว่าใครก็ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ได้เหมือนกันค่ะ หากอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอถามผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง
มนู
คำแนะนำก็ดีนะคะ แต่การวางแผนเรื่องเงินกับคู่ของเราบางทีมันก็ไม่ง่าย และยากกว่านั้นคือการทำตามแผนการนั่นแหละ จนตอนนี้ไม่รู้ว่าคู่ของเราทำตามแผนการเงินแผนไหนอยู่กันแน่ เพราะมีการวางแผนไว้หลายแผนการ แต่ไม่ค่อยคิดมากแล้วค่ะแค่ไม่เป็นหนี้มากเกินกำลังก็พอ แต่ก้อยากปลดหนี้นะ แต่สามีเขาอยากมีทรัพย์สินก็เลยต้องยอมขอสินเชื่อรถบ้างบ้านบ้างค่ะ
Chaisai
การวางแผนการเงินก่อนแต่งงานก็ดีเหมือนกันนะครับ ช่วยให้เราไม่ต้องพะวงว่ากันไปว่าหลังแต่งงานแล้วเราจะไม่มีเงินใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นสำหรับครอบครัว ให้ช่วยให้เราสามารถที่จะได้เตรียมตัวสำหรับการมีลูก การตกแต่งบ้าน หรือมีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ตามมา ช่วยให้เราไม่ต้องไปกู้ยืมจากที่อื่นด้วย บทความนี้ช่วยตอบเกี่ยวกับคนที่มีเป้าหมายจะแต่งงานได้ดีมากเลยครับ
คำพัน
การแต่งงานเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยนะครับสำหรับอนาคต เพราะว่าใครที่ไม่ชอบที่จะอยู่คนเดียวก็ ทำใจไว้เลยครับว่าสักวันหนึ่งจะต้องแต่งงาน รายการวางแผนสำหรับการแต่งงานปัจจัยอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คือการเก็บเงินเอง วันนี้ทำให้เห็นว่าการเตรียมตัวสำหรับการแต่งงานโดยเฉพาะการเก็บเงินสามารถทำได้ ด้วยตัวเราเอง
นิชาภา
เป็นเรื่องที่ต้องคิดและเตรียมก่อนการแต่งงานค่ะ การพูดคุยระหว่างสองฝ่ายทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงควรคุยกันให้เข้าใจถึงเรื่องต่างๆตามที่บทความนี้บอกมา บางเรื่องถ้าไม่ได้ทำความเข้าใจและไม่ได้คุยกันไว้ก่อน หลังจากที่แต่งงานไปแล้วอาจจะคุยกันยากนะคะ ทางที่ดีเตรียมทุกอย่างให้พร้อมตั้งแต่ก่อนแต่งงานดีกว่าจะได้เข้าใจตรงกันค่ะ
ดาริดาร์
แล้ว สมมุติว่าเราวางแผนอย่างดีแล้ว ก่อนที่เราแต่งงานกัน แต่ปรากฏว่า มันไม่ได้เป็นแบบที่เราวางแผนไว้ละคะ แบบนี้มันจะต้องทำอย่างไรต่อคะ คือ ที่ถามแบบนี้เพราะว่าตัวเองกำลังเจอปัญหานี้กลับตัวเองเลยคะ ตอนแรกๆเราวางแผนหลังการแต่งงานไว้ดีมาก แต่ตอนนี้ เรืองเงินภายในครอบครัวไม่เหลือแล้วคะ แบบนี้เราต้องทำยังไงต่อดีคะ
Focus
น้อยคนนะผมว่าที่ก่อนแต่งงานจะมาคิดนู่นคิดนี่เยอะแยะมากมายเหมือนในบทความนี้บอกมา ส่วนมากก็เรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงาน นอกนั้นก็ไม่ค่อยมาคุยกันเท่าไหร่ ไม่งั้นไม่ได้แต่งหรอกครับงานอะ เลิกกันเพราะคุยเรื่องเงินเนี่ยแหละผมว่านะ แต่งแล้วยังจะเลิกกันทะเลาะกันเพราะเงินเลยเดี๋ยวนี้ เรื่องเงินเรื่องใหญ่ทำบ้านแตกได้
ตุ่น
จริงสำหรับเราคิดว่าการมีคู่ชีวิตหรือมีครอบครัวเป็นความสุขอย่างหนึ่ง แต่ถ้าไม่มีการวางแผนเนี่ยยังไงก็ไปไม่รอด โดยเฉพาะเรื่องเงินเป็นอันดับต้นๆของปัญหาชีวิตคู่หรือว่าปัญหาชีวิตครอบครัวที่ทำให้แตกแยกกันเลย หลายคนคิดว่าแค่รักกันก็อยู่ได้ แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ค่ะต้องมีการวางแผนต้องคิดดีๆถ้าจะมีลูกไม่ต้องคิดหนักเลย ต้องวางแผนกันดีๆค่ะ
ใบเฟิร์น
@คุณดาริดาร์คะ ปัญหาเรื่องเงินยังไงต้องช่วยกันทั้งสองคน อาจลองหาวิธีการคุยกันดูก่อนโดยอาจเริ่มคุยกันเกี่ยวกับปัญหารายจ่ายในบ้านว่ามีอะไรบ้าง แล้วหาแนวทางร่วมกันว่าเราจะไปประหยัดอย่างไร ทางที่ดีควรจดบันทึกรายรับรายจ่ายของทั้งสองคนไว้จะดีมากค่ะจะเห็นเลยว่ารายจ่ายเราเป็นยังไงบ้าง ยังไงเราแนะนำว่าค่อยๆคุยกันดีๆนะคะ
โนเบล
ก่อนแต่งงาน ก็ต้องคุยกันก่อนไหมว่า อยากมีลูกไหม เพราะถ้าไม่คุยเรื่องนี้จะทำให้เราวางแผนอนาคตครอบครัวได้ยากมาก เพราะไม่แน่ใจเรื่องนี้ แล้วถ้าวันหนึ่งมีลูกขึ้นมาแล้วไม่ได้คุยกันก่อน เรื่องเงินก็จะลำบากมากขึ้นเพราะต้องมีฝ่ายหนึ่งที่ต้องเลี้ยงลูก ถึงแม้อาจจะเลี้ยงแค่ไม่กี่เดือนก็ตาม การคุยกันเรื่องนี้สำคัญจริงๆนะคะ
ใจ
เรื่องนึงที่ต้องคิดหลังจากแต่งงานแล้วก็คือเรื่องของถ้าอยากมีลูก จะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับลูกด้วยนะคะตั้งแต่แรกเกิดจนถึงลูกเข้าโรงเรียน ใช่อยู่ค่ะเมื่อลูกโตขึ้นลูกก็จะเลี้ยงดูเรา แต่ตอนนี้เราก็ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับลูกๆก่อน แต่ถ้าอยากจะตัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็จำเป็นจะต้องไม่มีลูกนะคะ ถ้าพ่อแม่หรือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญก็จำเป็นต้องคิดเอาเงินตั้งแต่แรกค่ะ
Pim
@ใจ ใช่เลยค่ะ จริงๆถ้าอยู่กันสองคนเนี่ยเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องเงินเงินทองทองก็ต้องวางแผนเยอะอยู่แล้ว เพราะว่า 2 คนก็ 2 ความคิด ต้องพยายามตกลงปรึกษากันทุกเรื่องให้มันลงตัวไม่งั้นจะเป็นปัญหาได้ แล้วถ้าวางแผนอยากจะมีลูกขึ้นมาอีกก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อยู่เหมือนกันนะคะ มีลูก 1 คนก็ใช้ค่าใช้จ่ายเยอะเพราะตัว ไม่คิดเยอะคงไม่ได้เลย ต้องคิดให้ดีเลยนะ
Cho
@Focus แต่ผมคิดกลับกันนะครับ คำว่าหลายคู่ที่แต่งงานแล้วเลิกกันก็เป็นเพราะว่าไม่ได้คุยกันก่อนเพราะกลัวจะผิดใจกันตั้งแต่แรก ผมว่าคุยกันเพื่อให้เห็นถูกกันตั้งแต่แรกว่าหลังแต่งงานจะจัดการเรื่องเงินยังไงดีกว่ามาแก้ทีหลัง เพราะถ้ามีปัญหากันตอนนั้นตั้งแต่แรกไม่ลงรอยกัน ไม่ได้แต่งงานกันก็ดีกว่าแต่งไปแล้วสุดท้ายก็ต้องเลิกนะครับ
Rosy
จริงค่ะ เห็นด้วยกับความเห็นด้านบน เราเพิ่งแต่งงานเเละก่อนแต่งไม่ได้คุยเกี่ยวกับเรื่องเงินเลย พอมาอยู่ด้วยกันสรุปว่าเราต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเองหมดทุกอย่าง และทุกอย่างถ้ากินข้าวหรือมีของใช้ที่ใช้ร่วมกันคือหารครึ่ง คือเรารู้สึกผิดหวังมากที่ไม่ได้คุยกันก่อนแต่งงาน คิดว่าผู้ชายจะรับผิดชอบหรือหาเลี้ยงเราบ้าง สรุปว่ามโนไปเอง.....