ในสมัยนี้ทุกคนคงไม่ปฏิเสธว่าไม่รู้จักตู้ATM เพราะมีอยู่ให้เกลื่อนพบเจอได้ง่ายเช่นเดียวกับ7-11 การใช้ตู้ATM ทำให้เราสามารถกดเงินได้อย่างง่ายดาย สร้างความสะดวกสบายเป็นอย่างมากซึ่งต้องยอมรับว่ายิ่งในปัจจุบันนั้นตู้ATMยิ่งทำรายการได้หลายอย่างมากขึ้นเรื่อย เช่น ถอนเงิน ฝากเงิน โอนเงินทั้งภายในบัตร โอนเงินภายในธนาคาร โอนเงินไปยังธนาคารอื่น ชำระค่าสินค้าและบริการ (ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต บัตรเครดิต ค่าผ่อนบ้าน ค่างวดรถยนต์ ฯลฯ) เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของเรา (ลูกค้าของธนาคาร) ให้ได้มากที่สุดนั่นเองแต่ทุกอย่างมักจะมีปัญหาควบคู่มากับการใช้งานเสมอ เช่นกดเงินแล้วเอทีเอ็มกลืนบัตรและไม่กลับมาบ้างล่ะ ระบบผิดพลาดบ้างล่ะ กดถอนเงินแต่ไม่ได้เงินบ้างล่ะ กดแล้วเงินหายจากบัญชีไปซะงั้น ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะทำอย่างไรดี ไม่ต้องกังวลให้เราดูปัญหาบางอย่างและวิธีการแก้ไขกันค่ะ

เอทีเอ็มกลืนบัตรและไม่กลับมา

atm problem

Arak Pannoi/shutterstock.com

เคยไหมที่เวลาใช้ตู้เอทีเอ็มแล้วตู้กับกลืนบัตรและไม่คืนกลับมา เวลานั้นอาจทำให้ตกใจได้ไม่น้อย แต่มีวิธีแก้ไขมาฝากกัน -วิธีการแก้ไข ตู้ยึดบัตรเอทีเอ็ม ไม่ต้องตกใจ ติดต่อขอรับบัตรได้ที่ธนาคารสาขานั้น แล้วเดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะถามรายละเอียด และให้มาติดต่อขอรับบัตรตามวันเวลาที่กำหนดสิ่งที่เราควรรู้คือ...ตู้เอทีเอ็ม ที่ติดตั้งตรงนั้น สาขาไหนรับผิดชอบ ก็ไปรับที่นั้น ส่วนมากจะเป็นสาขาใหญ่ของตัวอำเภอ ถ้าไม่ทราบข้อมูลว่าสาขาไหนรับผิดชอบก็โทรไปสอบถามสาขาใหญ่ที่กทม. หรือ ตัวจังหวัดนั้นๆ

ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับระบบ

ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับระบบ

-วิธีการแก้ไข 1. ติดต่อกับธนาคารที่ดูแลและรับผิดชอบตู้เอทีเอ็มสาขานั้น แล้วเดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะถามรายละเอียด เช่นชื่อเจ้าของบัญชี สถานที่ตั้งของตู้เอทีเอ็ม เวลาที่กดหรือเวลาที่ระบบเกิดข้อผิดพลาดเพื่อจะทราบสาเหตุที่เกิดการขัดข้อง 2. หากไม่ทราบธนาคารที่ดูแลและรับผิดชอบตู้เอทีเอ็มสาขานั้นควรติดต่อแจ้งที่คอลเซ็นต์เตอร์ของสาขานั้นทันทีเพื่อทำการแก้ไขปรับปรุงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

เงินสดถอนเงินแต่เงินสดไม่ได้ออกมา

เงินสดถอนเงินแต่เงินสดไม่ได้ออกมา

ทุกคนน่าจะต้องได้ใช้บริการถอนเงินผ่านตู้ ATM กันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็เชื่อว่าคงมีไม่น้อยเลยที่น่าจะเคยเจอปัญหา กดเงินแล้วแต่เงินสดไม่ได้ออกมา ซึ่งปัญหาแบบนี้ก็มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ มีวิธีการแก้ไขดังนี้ -วิธีการแก้ไข

  1. รีบแจ้งปัญหาที่เราเจอกับทางธนาคาร การรีบแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นกับธนาคารที่เราเปิดบัญชีที่เกิดปัญหาขึ้นไว้ ถือเป็นสิ่งแรกที่เราควรรีบทำทันทีเมื่อเจอปัญหากดเงินแล้วถอนไม่ออก เราสามารถแจ้งเรื่องกับธนาคารสาขาที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุได้เลยทันที หรืออาจจะใช้วิธีโทรไปแจ้งที่คอลเซ็นเตอร์ของธนาคารนั้นก็ได้ ธนาคารกสิกรไทย 02-888-8888 / ธนาคารไทยพาณิชย์ 02-777-7777 ธนาคารกรุงเทพ 1333 / ธนาคารกรุงไทย 02-111-1111 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 1572 / ธนาคารธนชาต 1770 ธนาคารออมสิน 1115 / ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 02-555-0555 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 02-645-9000 / ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 1302 ธนาคารทหารไทย 1558 / ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย 02-626-7777 ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 02-359-0000 / ธนาคารยูโอบี 02-285-1555 ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด 1595 / ธนาคารทิสโก้ 02-633-6000 ธนาคารซิตี้แบงก์ 1588 / ธนาคารเกียรตินาคิน 02-165-5555 ธนาคารไอซีบีซี ไทย 02-629-5588 / ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย02-697-5454 ธนาคารแห่งประเทศจีน02-679-5566 และเราต้องไม่ลืมที่จะเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ธนาคารตรวจสอบด้วย โดยรายละเอียดของเอกสารที่เกี่ยวข้องมีดังนี้ ข้อมูลสำคัญ เช่น วัน เวลา สถานที่ ประเภทของการทำรายการ จำนวนเงิน ใบบันทึกรายการ (ถ้าหากมีก็อย่าลืมที่จะนำมาให้ธนาคารตรวจสอบด้วย) ชื่อบัญชี เลขที่บัญชี เลขประจำตัวประชาชน หรือเบอร์มือถือที่ลงทะเบียนพร้อมเพย์ของบัญชีถอนเงิน หมายเลขบัตร ATM ข้อมูลอื่น ๆ เช่น ภาพหน้าจอที่แสดงข้อความปัญหา เป็นต้น

  2. ธนาคารรับแจ้งปัญหาและแจ้งระยะเวลาในการดำเนินการตรวจสอบ เมื่อธนาคารได้รับการแจ้งปัญหาจากเรา รวมถึงได้รับเอกสารสำคัญที่ใช้ในการตรวจสอบครบถ้วนจากเรา(ผู้แจ้งและผู้ประสบปัญหา) ทางธนาคารก็จะแจ้งระยะเวลาในการดำเนินการตรวจสอบให้กับเรา รวมถึงเริ่มดำเนินการตรวจสอบให้กับเรา เราก็รอให้ครบกำหนดระยะเวลาแล้วจึงค่อยดำเนินการสอบถามขั้นต่อไป

  3. รับผลการตรวจสอบจากธนาคาร หลังจากที่ครบกำหนดระยะเวลาดำเนินการแล้วทางธนาคารก็จะแจ้งผลการตรวจสอบให้กับเรา หากพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจาก การขัดข้องของตู้ ATM หรือระบบของธนาคาร ซึ่งส่งผลให้ทางเราไม่ได้รับเงินตามที่เรากดถอนออกมาจริง ทางธนาคารก็จะทำการคืนเงินจำนวนที่โดนหักไปนั้นคืนให้แก่เรา โดยจะโอนเข้าบัญชีที่ถอนเงิน ส่วนจะได้คืนช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของธนาคารแต่ละแห่ง แต่โดยปกติแล้วจะไม่เกิน 7 วัน ซึ่งหากเกิดกรณีตู้ ATM หรือระบบของธนาคารขัดข้องนี้ โอกาสได้เงินคืนนั้นเรียกได้ว่าแทบจะ 100% เลยทีเดียว แต่หากเป็นอีกกรณีที่เราทำการถอนเงินแล้วเรารีบออกจากตู้เร็วจนเกินไป แล้วเกิดมีเงินออกมาภายหลัง แล้วมีคนมาหยิบเอาไปกรณีนี้อาจจะมีโอกาสได้คืนยากหน่อยนะ ดังนั้นเมื่อรู้แบบนี้แล้วเราควรที่จะใส่ใจในตอนที่เรากดเงินจากตู้ATMกันให้มากขึ้นและหากเกิดปัญหาขึ้นจริงๆ ก็ลองทำตามขั้นตอนที่เราแนะนำไปดูครับ หรือหากมีข้อสงสัยอื่นๆ หรืออยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อไปได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย โทร. 1213

เมื่อกดเอทีเอ็มเงินไม่ออก แต่เงินหายจากบัญชี

เมื่อกดเอทีเอ็มเงินไม่ออก แต่เงินหายจากบัญชี

-วิธีการแก้ไข – หากกดเงินแล้ว ระบบขัดข้องแล้วคืนบัตร ให้ลองเช็คยอดเงินดูว่าเงินหายหรือไม่ – หากยอดเงินหาย ให้ลองดูที่ตู้ ATM ซักพักว่ามีเงินออกมาหรือไม่ เพราะในบางกรณีเราเดินออกจากตู้มาเลย ซักพักเงินดันออกมา แล้วคนอื่นมาเอาไปซะงั้น กรณีนี้คงจะเอาเงินคืนมาไม่ได้ – ให้ติดต่อ call center ของธนาคาร (เบอร์โทรอยู่หลังบัตร) ไม่ต้องติดต่อเข้าไปยังสาขาธนาคาร เพราะเค้าก็จะให้เราโทรเข้า call center อยู่ดี – แจ้งเลขที่บัตร ATM พร้อมตำแหน่งของตู้ ATM ที่เรากดเงิน ทาง call center จะทำการตรวจเช็คและโทรกลับมาหาเรา โดยตรงนี้จะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1-7 วัน แล้วแต่ธนาคาร – ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะได้รับเงินคือเข้าบัญชี – อันนี้เป็นวิธีลดความเสี่ยง ก่อนจะกดเงิน ให้ลองเช็คยอดเงินก่อนกดเงิน หากเช็คยอดเงินผ่าน ก็จะลดโอกาสเงินหายได้