อาชีพอิสระต้องมีการเตรียมตัวก่อนจะเกษียณอย่างไรให้ฉลาดจะได้ไม่เดือดร้อน

ถ้าเพื่อนๆที่ทำอาชีพอิสระ เป็นมนุษย์ฟรีแลนซ์ ก็จะทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ ไม่ได้มีสวัสดิการ หรือ มีกองทุนเลี้ยงชีพจากหน่วยงานไหนที่จะมาช่วยเหลือเก็บออมเงินให้แต่อย่างใด นั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เพื่อนๆมนุษย์ฟรีแลนซ์จะต้องเริ่มที่จะคิดถึงอนาคตกันได้แล้ว ว่าในวัยเกษียณเพื่อนๆจะมีการวางแผนยังไงบ้างให้ฉลาดและไม่เดือดร้อน

ซึ่งผมมีข้อมูลการวิจัยเรื่องอายุขัยโดยเฉลี่ยของประชากรโลก จากวารสารการแพทย์ เดอะ แลนเช็ท เจอร์นัล มาเล่าให้ฟังด้วย โดยวารสาร เดอะ แลนเช็ท เจอร์นัล ได้ระบุผลการรวบรวมข้อมูลสถิติด้านสาธารณสุขของภาครัฐบาลใน 188 ประเทศทั่วโลก ในช่วงปี พ.ศ.2533-2556 และพบว่า ประชากกรทั่วโลกนั้นมีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น ถ้าเทียบกับเมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งอายุขัยของทั้งผู้ชายและผู้หญิง เพิ่มขึ้น ประมาณ 6.2 ปี จากเดิมในปี พ.ศ. 2533 อายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 61.5 ปี ปัจจุบัน ปี พ.ศ. 2556 เป็น 71.5 ปี และนอกจากข้อมูลที่ได้มาจาก วารสาร เดอะ แลนเช็ท เจอร์นัล ยังมีผลการวิจัยของ ศ.ดร.ปราโมทย์ ประสาทกุล นักประชากรศาสตร์ อีก เกี่ยวกับการรอดชีวิตที่เพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุในประเทศไทย ซึ่งบอกว่า คนไทยนั้นสามารถมีอายุเกิน 100 ปี ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบันอายุขัยคนไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 80 ปี ซึ่งผู้หญิงจะอายุยืนกว่าผู้ชาย

ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากนะครับ กับ ผลการวิจัยที่ทำให้เราเห็นว่า วิทยาการด้านการแพทย์ การดูแลสุขภาพและการดูแลเรื่องหลักโภชนาการจะสามารถทำให้มนุษย์มีอายุยืนขึ้นได้ แต่เมื่อเพื่อนๆได้ยินแบบนี้คงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีใช่ไหมครับที่มนุษย์จะมีอายุยืนยาวมากขึ้น แต่ก็เพราะเหตุผลนี้ที่มนุษย์เราจะมีอายุยืนยาวมากขึ้นทำให้วัยเกษียณของเราก็จะยาวขึ้นเช่นเดียวกัน ทำให้เพื่อนๆต้องเริ่มคิดและเริ่มวางแผนเกษียณอย่างจริงจังแล้วนะครับ โดยเฉพาะ เพื่อนๆที่ทำอาชีพอิสระ เป็นมนุษย์ฟรีแลนซ์ทั้งหลาย โดยในวันนี้ผมก็จะมาบอกว่าเพื่อนๆที่ทำอาชีพอิสระ จะต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อที่จะเกษียณได้อย่างฉลาดและไม่เดือดร้อน ไปดูด้วยกันนะครับ

จัดสรรเงินและเก็บออมเงิน

อย่างที่ได้เคยบอกไปแล้วในตอนต้นนะครับ ว่าอาชีพอิสระ อย่างการเป็นฟรีแชนซ์ นั้นไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงหรือสวัสดิการอะไรจากหน่วยงานไหนที่จะเข้ามาช่วยเรื่องของการเก็บออม เพราะฉะนั้นผู้ที่ทำอาชีพอิสระอย่างการเป็นฟรีแลนซ์นั้นจะต้องจัดสรรเงินเอาเองและเก็บออมเงินเอาเอง แต่ถึงผมจะบอกว่าให้เพื่อนๆที่ทำงานอาชีพอิสระ จัดสรรเงินและเก็บออมเงินเอาเอง ผมรู้ว่าใครก็ร็อยู่แล้วในเรื่องนี้ว่าต้องเก็บและออมเงิน แต่ในชีวิตจริงของมนุษย์ฟรีแลนซ์มันไม่ใชเรื่องง่ายๆหรอกนะครับ ผมเข้าใจคนที่ทำงานอาชีพอิสระดี เพราะงานอย่างการเป็นฟรีแลนซ์ รายได้มันไม่แน่ไม่นอนจริงๆ บางเดือนอาจจะไม่มีงานเลยทำให้ไม่ได้เงินสักบาทก็มีหรือบางเดือนก็มีงานเข้ามาแบบทำไม่ทันกันเลยก็มี จึงเป็นเรื่องยากที่จะทำแบบที่ผมบอกไปใช่ไหมครับ และ วิธีที่ง่ายๆอีกวิธีสำหรับมนุษย์ฟรีแลนซ์และใช้ได้จริง คือ การแบ่งรายได้ที่ได้มาในแต่ละรอบ เอามาเก็บออมไว้ใช้ยามฉุกเฉินนะครับ โดยจำนวนที่เพื่อนๆควรจะเก็บออมให้ได้ เพื่อไว้ในกรณีมีปัญหาฉุกเฉิน คือ มากกว่า 6 เท่าของรายจ่ายของเพื่อนๆในแต่ละเดือนนะครับ ลองดูนะครับ ผมว่าทำได้ไม่อยาก

แบ่งเงินออมมาทำประกันต่างๆ

หลังจากที่เพื่อนๆทราบกันไปแล้วว่าจะต้องเก็บเงินและออมเงินยังไง ออมเท่าไรถึงจะพอ หลังจากนั้นแล้วผมอยากจะให้เพื่อนๆแบ่งเงินออมพวกนั้นมาสนใจในเรื่องของการทำประกันต่างๆด้วย อย่างเช่น การทำประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ หรือ จะเป็นประกันชีวิต เพราะถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนๆที่ทำงานฟรีแลนซ์และไม่สามารถทำงานได้เป็นเวลานานๆเพื่อนๆจะขาดรายได้และจะมีแต่ค่าใช้จ่ายที่ตามมาอย่างเดียวนะครับ เพราะเพื่อนๆก็คงทราบกันดีในฐานะที่ทำงานอิสระไม่ได้ขึ้นตรงกับบริษัทหรือองค์ใด เวลาที่เพื่อนๆเจ็บป่วยหรือเป็นอะไรขึ้นมา ก็ไม่ได้มีองค์ไหนหรือบริษัทอะไรไหนที่จะมาช่วยหรือรับผิดชอบเพื่อนๆหรอกนะครับ

เพราะฉะนั้นแล้ว พวกประกันต่างๆจึงจำเป็นสำหรับ มนุษย์ฟรีแลนซ์มากๆ ในการจัดสรรเงินออมของเพื่อนๆในส่วนของรายจ่ายในแต่ละเดือนที่เพื่อนๆจะต้องออมให้ได้มากกว่า 6 เท่า ของรายจ่ายรายเดือนของเพื่อนๆ ผมอยากให้ในรายจ่ายนั้นมีการบวกค่าเบี้ยประกันต่างๆของเพื่อนๆให้มันเป็นรายจ่ายที่จำเป็นพอๆกับค่าเช่าบ้านค่าผ่อนรถค่าอาหารเลยนะครับ เพราะสำหรับมนุษย์ฟรีแลนซ์แล้ว ประกันจะสามารถช่วยได้มากจริงๆ ประกันสุขภาพก็เข้ามาช่วยตอนเพื่อนๆเจ็บไข้ได้ป่วย ประกันอุบัติเหตุ ก็เข้ามาช่วยเพื่อนๆตอนเกิดอุบัติเหตุ และประกันชีวิต ก็ช่วยเพื่อนๆในวัยเกษียณ ถ้าเพื่อนทำประกันต่างๆเหล่านี้แล้วรับรองว่าในวัยเกษียณเพื่อนๆจะไม่เดือดร้อนแน่นอน

การทำประกันชีวิตช่วยลดหย่อนภาษีได้

และในเรื่องของการทำประกันต่างๆ ประกันชีวิตที่แนะนำให้เพื่อนทำ เพื่อที่จะช่วยเพื่อนในวัยเกษียณ เพื่อนๆยังสามารถใช้มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้อีกด้วยนะครับ เพราะฉะนั้นการเลือกทำประกันชีวิตที่เหมาะสมกับมนุษย์ฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ที่ไม่คงที่ ไม่สม่ำเสมอ คือ แบบที่มีช่วงในการส่งเบี้ยสั้นแต่คุ้งครองนาน แบบที่ยอดส่งและเงินคุ้มครองไม่สูงมาก ซึ่งเพื่อนที่ทำฟรีแลนซ์สามารถที่จะนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลได้เต็มจำนวน หรือ ไม่เกิน 100,000 บาท

เลือกลงทุนในกองทุนรวม

สุดท้ายแล้ว มนุษย์ฟรีแลนซ์ ที่ตั้งใจจะเกษียณได้โดยไม่เดือดร้อน ก็ควรที่จะเลือกลงทุนในกองทุนรวม เพราะการลงทุนในกองทุนรวมเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับมนุษย์ฟรีแลนซ์ที่ต้องการจะสะสมเงินให้ได้มากเอาไว้ใช้ในวัยเกษียณในรูปแบบการออมทรัพย์ แต่การที่มนุษย์ฟรีแลนซ์จะเลือกลงทุนในกองทุนรวมนั้น มนุษย์ฟรีแลนซ์จะต้องหาคำตอบของคำถามในเรื่องที่ว่า จะเลือกการลงทุนในกองทุนที่ให้เงินปันผล หรือ กองทุนที่ไม่ให้เงินปันผลจะเลือกอันไหน และหลังจากตอบคำถามได่แล้ว ผมจะพาเพื่อนๆมารูจักกับ ข้อแตกต่างระหว่างกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และ กองทุนระยะยาว (LTF)   กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)นั้นคือ กองทุนที่จะไม่มีการจ่ายเงินปันผลเลยจนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาในการลงทุน ส่วนกองทุนระยะยาว (LTF) นั้นคือ กองทุนที่ผู้เลือกลงทุนสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะรับเงินปันผลระหว่างการลงทุนหรือไม่ ถ้าจะให้แนะนำนผมแนะนำว่าเพื่อนๆที่คิดว่าสามารถเอาเงินที่ได้มาจากการปันผลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ก็ควรเลือกการลงทุนแบบได้รับการปันผล คือ กองทุนระยะยาว (LTF) ถ้าที่ไม่ได้มีความคิว่าจะเอาเงินปันผลที่ได้ไปทำอะไรก็เลือก กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ที่ไม่มีเงินปันผลดีกว่า แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เพื่อนๆจะต้องทำการแบ่งเงินเพื่อใช้ในการลงทุนในกองทุนรวมให้ได้เป็นประจำในทุกๆปี ไม่ว่าเพื่อนๆจะเลือกลงทุนในกองทุนรวมอันไหนก็แล้วแต่ เพื่อที่เพื่อนๆจะได้มีหลักประกันว่าจะมีเงินใช้อย่างแน่นอนในวัยเกษียณ

การวางแผนการเงินที่ดีช่วยเตรียมพร้อมเมื่อเกษียณ

เป็นไงกันบ้างครับเพื่อนๆข้อมูลที่นำมาคงจะเป็นแนวทางให้เพื่อนๆหลายๆท่านะครับ แต่ถ้าเพื่อนๆสังเกตดีๆการที่จะสามารถจะเกษียณได้อย่างฉลาดและไม่เดือดร้อนนั้นทุกวิธีที่ผมนำมาในวันนี้ จะต้องมีการวางแผนทั้งหมดเลยนะครับ และสำคัญที่สุด เป็นหัวใจหลักของการวางแผนในการเกษียณนั้นก็คือ การวางแผนเรื่องของการออมเงิน และ วางแผนว่าจะเอาเงินออมนั้นไปทำอะไรเพื่อที่จะได้รับประโยชน์ได้มากที่สุด ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆหลังจากอ่านบทความนี้ ได้มีการวางแผนในอนาคตที่ดีนะครับ ขอให้เกษียณได้อย่างฉลาดและไม่เดือดร้อน และมีความสุขในวันเกษียณนะครับ