จริงไหมเพื่อนๆหลายคนที่กำลังทำงานประจำเป็นมนุษย์เงินเดือน มักจะพบเจอกับปัญหาที่น่ารำคาญอยู่เป็นประจำ เช่น การที่มีเจ้านายหลายคนที่สั่งงานเรื่องเดียวกันแต่สั่งไม่เหมือนกันสักคน หรือ ปัญหาเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงาน ที่ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวเรา หรือเพื่อนร่วมงานที่ชอบเอารัดเอาเปรียบเราหรือเพื่อนร่วมงานที่จะจ้องคอยจับผิดเราและแย่งผลงานไปจากเรา และปัญหาสุดท้ายของมนุษย์เงินเดือน คือ เรื่องของเงินเดือนที่ไม่สอดคล้องกับงานเลย งานนี้มากมายแต่เงินนี้น้อยนิด และเพราะจากปัญหาเหล่านี้ผมเชื่อว่าทำให้เพื่อนๆเริ่มมีความคิดที่จะออกจากการเป็นพนักงานประจำมาทำงานอาชีพอิสระหรือที่เราเรียกกันว่าฟรีแลนซ์แทน ด้วยเหตุผลหลายๆประการ

อาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ นั้นเป็นคำศัพท์ที่ถูกใช้เรียกคนที่ทำอาชีพรับจ้างอิสระ ไม่ว่าเพื่อนๆจะทำงานสายงานอะไรแต่เลือกที่จะรับจ้างด้วยตัวเองนั้นแหละครับเรียกว่าฟรีแลนซ์ และ ทุกสายอาชีพมีฟรีแลนซ์แทบจะทั้งสิน โดยส่วนใหญ่ที่ผู้คนมักจะเห็นบ่อยและเยอะที่สุดเลยก็จะเป็น อาชีพช่างภาพ ตากล้อง เป็นต้น ซึ่งงานของฟรีแลนซ์นั้นจะเกิดจากการถูกว่าจ้างซึ่งปริมาณของงานก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนในแต่ละช่วงเวลาซึ่งมันก็จะขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้างที่จะเลือกจ้างในช่วงเวลาไหน อย่างอาชีพที่ผมยกตัวอย่างมา คือ ช่างภาพและตากล้อง สองอาชีพนี้ก็จะอาจจะถูกว่าจ้างมากในช่วงที่มีเทศกาล แต่ถ้าช่วงที่ไม่มีเทศกาลทั้งสองอาชีพนี้ก็อาจจะไม่งานเลยก็ได้ถ้าเป็นฟรีแลนซ์ แต่เอาจริงๆถ้าหากมีความขยันอยู่การที่ทำอาชีพรับจ้างอิสระไม่เลือกงานมาก และมีความรับผิดชอบ และ ตรงเวลา  ก็จะทำให้สามารถหางานได้ตลอดทั้งปี ทำให้มีรายได้ต่อเนื่อง

และอย่างที่เห็นว่าการทำงานของพนักงานประจำมนุษย์เงินเดือนนั้นมีปัญหาที่น่ารำคาญและการทำงานของฟรีแลนซ์นั้นไม่มีปัญหาที่น่ารำคาญแถมยังมีความยืดหยุ่นในงานที่มากกว่าและมีความท้าทายในงานมากด้วย จึงทำให้อาชีพรับจ้างอิสระเป็นอาชีพที่มีมนุษย์เงินเดือนหลายคนหันมาทำกันมาก เพราะคิดถึงความอิสระในงานที่จะได้รับจากการรับจ้างอิสระที่มีมากกว่างานประจำ และความน่าสนใจของ อาชีพรับจ้างอิสระหรือฟรีแลนซ์ ไม่ได้มีแค่ความอิสระเท่านั้น แต่ความน่าสนใจอีกอย่างก็ คือ อาชีพฟรีแลนซ์สามารถจะทำงานที่ไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป้น ที่บ้าน ที่ร้านกาแฟ หรือจะในสวนสาธารณะ ที่ไหนก็ได้ที่เพื่อนจะคิดออกและอยากที่จะไปทำงานที่นั้นได้หมดตามต้องการ และสามารถที่จะทำวันไหนเวลาอะไรก็ได้และไม่มีชุดยูนิฟอร์มด้วย ซึ่งมันก็ต่างจากพนักงานประจำที่มีเวลาเข้าเวลาพักเที่ยงเวลาออกงาน และ 1 อาทิตย์มีวันหยุดเพียง 1-2วัน แล้วแต่บริษัทอีก

แต่ถึงผมจะพูถึงข้อดีมากน้อยขนาดไหนก็แล้วแต่สำหรับอาชีพฟรีแลนซ์แต่ผู้ที่ทำงานฟรีแลนซ์หรืออยู่ในวงการนี้อยู่แล้วก็จะทราบกันเป็นอย่างดีว่า การทำงานฟรีแลนซ์นั้นก็ไม่ได้ราบรื่นไปสักทุกอย่าง และอาชีพอย่างการเป็นฟรีแลนซ์นั้นก็มีความเสี่ยงด้วย และ นั้นคือ หัวข้อที่ผมจะมาพูดถึงในวันนี้ เกี่ยวกับ ความเสี่ยงของอาชีพ ฟรีแลนซ์มีอะไรบ้าง และปัญหาของ ฟรีแลนซ์ที่ต้องเจอมีอะไรบ้าง เพื่อเป็นการแชร์ให้กับพนักงานประจำที่กำลังอยากที่จะลองทำได้รู้และตัดสินใจว่าตัวเองยังอยากจะทำฟรีแลนซ์อยู่ไหม ให้มาดูกันเลยดีกว่ามีอะไรบ้าง ความเสี่ยงและปัญหาที่ฟรีแลนซ์จะต้องเจอ

ไม่มีความแน่นอน

ไม่มีความแน่นอน

สิ่งแรกที่ฟรีแลนซ์จะต้องเจอคือความไม่แน่นอน อย่างที่ทุกคนรู้ว่าฟรีแลนซ์นั้นเป็นอาชีพที่รับจ้างอิสระ นั้นก็เป็นอิสระเช่นเดียวกันกับนายจ้าง ว่าเขาจะเลือกจ้างเราหรือไม่จ้างก็แล้วแต่ใจเขา อันนั้นก็ขึ้นอยู่กับผลงานคุณภาพงานและชื่อเสียงงานของเราเอง ซึ่งของพวกนี้นั้นเป็นสิ่งที่เอาแน่เอานอน ไม่ได้ ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับงานประจำที่ไม่ว่าเพื่อนในเดือนนั้นเพื่อนจะได้รับมอบหมายงานเยอะหรือมอบหมายงานน้อยเพื่อนก็จะได้เงินเดือนเท่ากันในทุกๆเดือน ซึ่งถ้าเพื่อนๆเลือกที่จะเป็นฟรีแลนซ์ สิ่งที่ควรจะมีคือความรับผิดชอบที่จะต้องมีและพยายามหาจุดเด่นของตัวเองให้นายจ้างเขาอยากที่จะเลือกจ้างเรามากกว่าจ้างคนอื่น ถ้าเพื่อนๆคิดว่าทำได้พอเพื่อนๆมาทำฟรีแลนซ์ เพื่อนก็จะสามารถมีงานได้ตลอดทั้งปี

การแก้งานให้ได้ตามใจลูกค้า

การแก้งานให้ได้ตามใจลูกค้า

การเป็นฟรีแลนซ์ การเอาใจลูกค้าหรือนายจ้างต้องเป็นที่หนึ่ง เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อนเลือกที่จะเป็นฟรีแลนซ์เพื่อนๆจะต้องเจอกับเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอน นั้นคือการแก้งานที่เราทำเสร็จแล้วให้ถูกต้องตามใจลูกค้าใหม่ เพราะถ้าหากเราทำงานประจำก่อนที่งานจะส่งถึงมือของลูกค้าจะต้องพาหัวหน้าก่อนซึ่งหัวหน้าจะทำการตรวจงานก่อนแล้วจึงส่งให้ลูกค้าอีกต่อหนึ่ง แต่ถ้าเราเป็นฟรีแลนซ์นั้นเราจะต้องต่อตรงกับลูกค้า เพราะฉะนั้นถ้าหากเราไม่มีการตกลงที่ดี เราก็จะเจอกับการแก้งานที่ไม่จบไม่สิ้น เพราะการเจรจาของฟรีแลนซ์กับลูกค้าจะแตกต่างกับที่บริษัทเจรจากับลูกค้ามันมีความแตกต่างกัน

ทำงานคนเดียวต้องมีความรับผิดชอบสูง

ทำงานคนเดียวต้องมีความรับผิดชอบสูง

การทำงานของฟรีแลนซ์ เป็นการทำงานคนเดียว ซึ่งแตกต่างจากการทำงานประจำแน่นอนที่งานประจำจะมีการทำงานที่เป็นกลุ่มทำงานกันเป็นทีม ทำให้ในบางครั้งการทำงานเป็นทีมสามารถช่วยกันคิดช่วยกันทำได้ ซึ่งการทำงานคนเดียวบ้างสิ่งบ้างอย่างที่ไม่ใช่ความถนัดของเราเราอาจจะทำออกมาได้ไม่ดีอย่างที่ควรก็เป็นได้หากต้องทำงานทั้งเพียงคนเดียวที่ต่างจากบริษัทที่มีพนักงานประจำช่วยกันทำกันหลายคน เพราะฉะนั้นการทำงานคนเดียวต้องใส่ใจในทุรายละเอียดให้ดีและต้องมีความรับผิดชอบที่สูงมากกว่าการทำงานเป็นทีม

การเจรจางานด้วยตัวเอง

การเจรจางานด้วยตัวเอง

แน่นอนว่าในเมื่องานอย่างการเป็นฟรีแลนซ์นั้นต้องทำทุกๆอย่างด้วยตัวคนเดียว การเจรจางานก็เช่นเดียวกันต้องทำด้วยตัวเองซึ่งแตกต่างกันแน่นอนกับบริษัทที่จะมีฝ่ายการตลาดที่คอยจะทำหน้าที่นี้และหลังจากเจรจาเสร็จก็จะมีการกระจายงานต่อให่แผนกต่างๆทานนั้นขึ้นมาเพื่อส่งลูกค้า แต่ผมไม่ได้บอกว่าเพื่อนๆจะไม่สามารถเจรจาเองได้แต่มันจะเป็นเรื่องยากถ้าหากเพื่อนต้องทำงานเองและเจรจาเองด้วยแล้วงานนั้นมีรายละเอียดที่ค่อนข้างเยอะซึ่งถ้าเพื่อนตกหล่นอะไรไป ครั้งหน้าลูกค้าอาจจะไม่ประทับใจในผลงานเพื่อนๆและไม่เลือกเพื่อนในงานต่อไป

ไม่มีสวัสดิการเหมือนทำงานประจำ

ไม่มีสวัสดิการเหมือนทำงานประจำ

ฟรีแลนซ์ที่ทำทุกอย่างด้วยตัวเองขนาดนี้ รับงานก็อิสระ ทำงานก็อิสระ เวลางานก็อิสระ จะไปเรียกร้องสวัสดิการจากใครที่ไหนล่ะครับ เพราะฟรีแลนซ์มันคืออาชีพรับจ้างอิสระเพราะแบบนี้ฟรีแลนซ์ก็เลยไม่มีสวัสดิการอะไรต้องดูแลตัวเองไปนะครับ ซึ่งงานประจำนั้นแตกต่างงานประจำจะมีสวัสดิการให้ เช่น สวสัดิการค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันสังคม และบ้างที่อาจจะมีไปถึงสวัสดิการที่ดูแลไปถึงครอบครัวเลยก็มี ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเพื่อนๆเลือกเป็นฟรีแลนซ์ ค่าต่างเหล่านี้เพื่อนต้องออกเองทั้งหมด และ ในที่นี้รวมไปถึงเรื่องของการเสียภาษีด้วยที่จะต้องจัดการด้วยตัวเองไม่มีฝ่ายบุคคลเหมือนกับทำงานประจำหรอกนะครับ

เวลาการทำงานที่ไม่แน่นอนและโบนัสก็เช่นกัน

เวลาการทำงานที่ไม่แน่นอนและโบนัสก็เช่นกัน

เพราะฟรีแลนซ์มีเวลางานที่เป็นอิสระจึงบอกว่าฟรีแลนซ์มีเวลางานที่ไม่แน่นอน เพราะคิดจะทำเมื่อไรก็ได้ แต่ก็มีเวลาจำกัดด้วยในบ้างงานที่เร่งรีบฟรีแลนซ์ก็ต้องเร่งทำให้ทัยส่งงานด้วย แต่บ้างงานไม่รีบฟรีแลนซ์ก็สามารถทำงานได้ชิวชิว ไม่ต้องรีบ ผมเลยบอกว่าฟรีแลนซ์นั้นมีเวลางานที่ไม่แน่นอนและโบนัสก็เช่นกันซึ่งถ้าเพื่อนทำงานเป็นพนักงานประจำเพื่อนจะทราบกันเป็นอย่างดีว่าพอช่วงสิ้นปีเพื่อนๆจะได้รับโบนัสกันเป็นประจำแต่กับการเป็นฟรีแลนซ์เพื่อนไม่มีนายจ้างที่จะมาจ่ายโบนัสให้หรอกนะครับเพราะเพื่อนมีแค่นายจ้างชั่วคราวที่จ้างเป็นงานๆไปเพราะฉะนั้นโบนัสก็ไม่ต้องหวังว่าจะมีใครมาให้แน่นอนครับ

ความเสี่ยงเหล่านี้รู้ไว้ก่อนก็สามารถรับมือได้

ความเสี่ยงเหล่านี้รู้ไว้ก่อนก็สามารถรับมือได้

ต้องบอกว่าไม่เรื่องง่ายๆเหมือนกันในการจะมาทำอาชีพรับจ้างอิสระ ฟรีแลนซ์ ถึงแม้ว่าจะไม่มีปัญหาน่ารำคาญเหมือนการทำงานประจำแต่ก็แลกมากับข้อจำกัดและความเสี่ยงต่างที่ไม่เหมือนกับการทำงานประจำ หลังจากที่เพื่อนรับรู้กันไปแล้วว่าฟรีแลนซ์นั้นต้องเจออะไรไปบ้างคงจะทำให้เพื่อนๆตัดสินใจกันได้นะครับว่าจะเลือกทำงานประจำต่อหรือเลอกจะเป็นฟรีแลนซ์แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่าการเป็นฟรีแลนซืนั้นข้อดีก็มีเยอะนะครับ แต่ความเสี่ยงมันก็เยอะตามไปด้วย แต่ผมจะบอกว่าอะไรดีที่สุดสำหรับเพื่อนก็คงไม่ได้เพื่อนคงต้องเลือกเอาเอง แต่ผมสามารถบอกได้ว่าเพื่อนจะตัดสินใจยังไง ก็ให้เพื่อนถามตัวเองดูนะครับ ว่าคิดว่าตัวเองนั้นมีความรับผิดชอบมากพอไหมที่จะทำงานคนเดียวเองได้โดยที่ไม่ต้องมีใครมาใช้ให้ทำนู่นทำนี่ ถ้าเพื่อนคิดว่ามีความรับผิดชอบมากพอและชอบความเป็นอิสระก็เลือกฟรีแลนซ์นั้นแหละครับเหมาะดี แต่ถ้าเพื่อนเป็นคนที่ไม่มีควงามรับผิดชอบมากพอแต่ชอบแค่อิสระอย่างเดียวผมแนะนำว่าทำงานประจำต่อไปถึงครับเพราะถ้ามาทำเป็นฟรีแลนซืและมีความรับผิดชอบไม่มากพอ เพื่อนจะไม่มีงานเอานะครับเพราะไม่มีใครมาจ้าง ยังไงก็ลองคิดดูนะครับ