คุณเคยทราบไหมว่าประเทศไทยเราเคยประสบปัญหาทางเศรษฐกิจขั้นวิกฤติที่เรียกกันว่าวิกฤติต้มยำกุ้งมาแล้วในปี 2540 ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาแล้วกว่า 22 ปี ทำไมถึงมีการพูดถึงวิกฤติเศรษฐกิจในอดีตที่ผ่านมานานมากแล้วในตอนนี้? ก็เพราะว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันนี้ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดเหตุการณ์คล้ายๆกันกับสมัยเมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมาจึงมีการพูดถึง และวิเคราะห์เหตุการณ์ พร้อมทั้งแผนรับมือ และการหาสาเหตุและความเป็นไปได้เกิดขึ้นมากมาย ถ้าคุณได้ติดตามข่าวสารจะพบว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยในตอนนี้นั้นซบเซาอย่างมาก เผชิญปัญหาหลายอย่าง ทั้งภาคการส่งออก และการท่องเที่ยว และอื่นๆ ซึ่งล้วนแต่ทำให้เกิดความไม่สมดุลของเศรษฐกิจ รวมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยที่มีความไม่มั่นคงกินระยะเวลายาวนานก็เป็นสาเหตุหลักด้วยจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความมั่นคงเช่นเคยค่ะ

ดังนั้นการบริหารการเงินของกระทรวงการคลังที่มีภาครัฐควบคุมจึงไม่มีความแน่นอนแน่ชัดไม่มีความสมดุล และความพอดีแต่กลับบมีความเหลื่อมล้ำมากขึ้น ทำให้ประชาชนรากหญ้าเกิดภาวะขาดรายได้ รายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย แต่ประชาชนชั้นสูงกลับได้รับโอกาสมากกว่าอย่างไม่ยุติธรรม และดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะเป็นไปในทิศทางนี้ต่อไปเรื่อยๆซึ่งยังมองไม่เห็นทางออกเลยค่ะ บทความนี้เราจะมาดูกันว่าสาเหตุและสถานการณ์อะไรบ้างที่ทำให้นึกถึงวิกฤติต้มยำกุ้งที่เคยเกิดขึ้นอาจจะเกิดขึ้นได้อีกในปี 2563 ที่กำลังจะถึง เช่นเรื่องต่อไปนี้ งบประมาณรัฐบาลมีความล่าช้า / ร้านอาหารฟาสฟู๊ดยอดขายร่วง / นักธุรกิจลุยต่อไม่รอรัฐบาล / สินค้าส่งออกติดลบ นี่คือเหตุการณ์ณ์ที่ทำให้นักวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจทุกวันนี้กังวล และเกี่ยวข้องกับเราทุกคนค่ะ

งบประมาณรัฐบาลมีความล่าช้า

งบประมาณรัฐบาลมีความล่าช้า

ในความเป็นจริงแล้วนี่คืองานหลักงานแรกที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องจัดการคือ การจัดตั้งผลักดันงบประมาณในส่วนต่างๆในประเทศไทย แต่ดูเหือนว่าด้วยความไม่แน่ชัดต่างๆการจัดตั้งงบประมาณเกิดการล่าช้า เกิดการถกเถียงกันต่างๆนาๆ ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันก็เริ่มทำงานมาสักพักแล้วแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรคืบหน้าเท่าที่ควรค่ะ ทำให้เกิดการล่าช้าถึง 3 เดือนซึ่งการล่าช้านี้ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของทั้งประเทศแน่นอน โดยเฉพาะโครงการใหญ่ๆหลักๆที่เป็นส่วนของภาครัฐเอง ลามไปถึงภาคเอกชนด้วย และสร้างความเดือดร้อนให้ประชนชนจำนวนมากค่ะ ซึ่งรัฐบาลชุดนี้มีการจัดตั้งงบประมาณอยู่ที่ 3.2 ล้านบาทไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งงบประมาณเหล่านี้นำมาทำอะไรบ้าง เช่น นำมาพัฒนาประเทศ นำมาสนับสนุนโยบายต่างๆ การเรียนฟรี รักษาพยายบาลฟรี เบี้ยผู้สูงอายุ บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย เหล่านี้ และเป็นเงินเดือนของข้าราชการทั่วประเทศและอย่างอื่นอีกที่ต้องใช้เงินส่วนนี้ทุกอย่างก็ล่าช้าไปหมดทำให้เศรษฐกิจของปะเทศล่าช้าตามไปด้วยเพราะมีการพัฒนาช้านั่นเอง

ร้านอาหารฟาสฟู๊ดยอดขายร่วง

ร้านอาหารฟาสฟู๊ดยอดขายร่วง

อาหารฟาสฟู๊ดที่หลายคนมักพูดว่าเป็นอาหารขยะกำลังจะกลายเป็นอาหารขยะจริงๆไปซะแล้วหล่ะทกคน เพราะยอดขายของร้านอาหารเหล่านี้กำลังร่วงเหมือนโดนเททิ้งลงถังขยะยังไงยังงั้นเลย ร้านอาหารเหล่านี้มีอะไรบ้างอย่างเช่น KFC McDonald’s Subway Burger king และร้านอื่นอีกมากมาย ที่ผ่านมาได้มีการปิดตัวมากกว่าการเปิดสาขาใหม่เสียอีก เฉลี่ยโดยรวมมีการปิดตัวมากกว่า 1,000 ร้านเลยทีเดียว ด้วยสถานการณ์แบบนี้การปิดสาขาส่งผลต่อพนักงานที่ต้องตกงานมากขึ้นอีกด้วย กลายเป็นปัญหาที่ต่อเนื่องถึงไหนถึงกันทั่วถึงไปทุกคนเลยค่ะ เพราะเศรษฐกิจที่แย่ลงผู้บริโภคก็ลดลงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งด้วยค่ะ

นักธุรกิจลุยต่อไม่รอรัฐบาล

นักธุรกิจลุยต่อไม่รอรัฐบาล

ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะยังไม่มีความแน่ชัดเท่าที่ควร แต่เหล่านักธุรกิจก็ยังคงดำเนินงานของตนเองต่อไป แต่ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปบนความไม่แน่นอนเพราะสถานการณืบ้านเมืองแบบนี้ทำให้นักลงทุนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเองเกิดความไม่แน่ใจในธุรกิจที่จะลงไป ทำให้เกิดความยากลำบากมากขึ้นในการที่จะประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพราะดูเหมือนนักลงทุนที่สนับสนุนเงินทุนเริ่มมีการถอนตัวมากขึ้นจากธุรกิจในประเทศไทย แล้วเริ่มลุยต่อโดยมองหาแหล่งลงทุนที่รู้สึกมั่นใจมากกว่าเพราะสถานการ์เศรษฐกิจในตอนนี้จะมีการลงทุนที่ไม่ปลอดภัย หรือเสี่ยงเกินไปนั้นไม่ได้แล้ว ดังนั้นการที่นักธรกิจลุยต่อไม่รอรัฐบาลก็จะส่งผลไม่ดีต่อเศรษฐกิจในประเทศเพราะเขาไม่ได้ลุยต่อในบ้านเรา แต่กลับลุยต่อเพื่อหาแหล่งลงทุนที่อื่นแทนดังนั้นนี่ก็เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจบ้านเรามีแนวโน้มแย่ลงค่ะ

สินค้าส่งออกติดลบ

สินค้าส่งออกติดลบ

ถ้าหันกลับมาดูสินค้าส่งออกของประเทศไทยก็เกิดปัญหาเช่นกัน ทำให้การส่งออกการค้าระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐ และจีนนั้นชะลอตัวลง เงินบาทก็แข็งตัวทำให้การส่งออกของไทยนั้นติดลบในปีนี้เมือ่เทียบกับปีที่แล้วมีการติดลบประมาณ 6 เดือน สาเหตุจากการติดลบและปัญหานี้มาจากสงครามการค้าของเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นตอนนี้ค่ะทำเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นคู่ค้าอย่างสหรัฐ และจีนมีความชะลอตัวด้วย และปนะเทศคู่ค้าอื่นๆด้วยก็ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้านี้ไปตามๆกันค่ะ ซึ่งสินค้าที่ได้รับผลโดยตรงก็คงหนีไม่พ้นสินค้าทางการเกษตรของไทยเราซึ่งติดลบดังนี้ ยางพารา ติดลบร้อยละ 7.2 / มันสำปะหลัง ติดลบร้อยละ 25.3 / ข้าว ติดลบร้อยละ 44.7 ซึ่งเป็นการติดลบที่ค่อนข้างเยอะมาจนน่าตกใจค่ะ

สิ่งที่น่ากังวลที่สุดของประเทศไทยตอนนี้ คือ การส่งออกข้าวที่ลดลงมากถึง -44.7% มาจากหลายสาเหตุด้วยกันคือสงคราบการค้าของเศรษฐกิจโลก และค่าเงินบาทแข็งตัวทำให้ข้าวไทยนั้นมีราคาสูงกว่าคู่แข่งจึงคาดว่าปีต่อๆไปคงจะมีการส่งออกข้าวไม่ถึง 10 ล้านตันแน่ๆ แต่สิ่งที่หวังไว้ก็คือ สหรัฐคงยังไม่มีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มจากการนำเข้าสินค้าจากจีนเพราะจะกระทบต่อประเทศใกล้เคียงที่นำเข้ามสินค้าจากจีนอย่างประเทศไทยเราด้วยค่ะ ถ้าเกิดเจอค่าภาษีที่หนักอึ้งเข้าไปอีกคงไม่ไหวแน่ๆ

เตรียมตัวรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2563 ได้เลย

เตรียมตัวรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2563 ได้เลย

เมื่อพิจารณาเหตุการณ์ณืโดยรวมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจไม่ว่าจะของประเทศไทย หรือทั่วโลกก็พบว่าเหตุการณ์นั้นย่ำแย่ลงไปมาก จึงมีแนวโน้มที่ประเทศไทยอาจจะเผชิญกับปัญหาใหญ่เช่นเคยเกิดขึ้นมาแล้วคือวกฤติเศรษฐกิจที่ยากจะรับมือ แล้วคุณสามารถทำอะไรได้บ้าง? การจัดการด้านการเงินอย่างมีประสิทธิภาพของคุณคงจะช่วยให้คุณอยู่รอดได้บ้างนะคะ คล้ายกับการเตรียมตัวรับมือเมื่อจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นการเตรียมตัวรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นก็ต้องยอมรับว่ายังไงก็ต้องเกิดขึ้นแต่คุณแค่เตรียมสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้รอดช่วงเวลานั้นไปได้ คุณต้องเตรียมตัวได้แล้วตั้งแต่ตอนนี้โดยเปลี่ยนการดำเนินชีวิตบางอย่างเพื่อลดค่าจ่ายของคุณสิ่งที่ต้องทำ เช่น ควรมีรายได้อย่างสม่ำเสมอ / พยายามออมเงินให้มากที่สุดที่จะทำได้ / ออมเงินส่วนที่จะเอาไว้สำรองยามฉุกเฉินด้วย /พยายามปลดหนี้ หรือก่อหนี้ที่จำเป็นเท่านั้น / เก็บเงินสดหรือสิ่งของที่จำเป็นไว้ที่บ้านบ้าง / กระจายทรัพย์สินไปยังเงินสกุลต่างประเทสบ้าง เป็นทองคำบ้าง เป็นอสังหาริมทรัพย์บ้าง / ฝากเงินในหลายๆธนาคาร / เลือกโรงเรียนให้ลูกที่ไม้เป็นภาระเรื่องค่าเทอม / คอยติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอยู่เสมอตลอดเวลา เช่นเดียวกับการติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของภัยพิบัติเพื่อรู้ว่าต้อนนี้สถานการณ์ความเคลื่อนไหวนั้นไปถึงตรงไหนแล้วค่ะ นี่คือสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2563 ที่จะถึงนี้ค่ะ