ในปัจจุบัน เราต่างมีบัตรเครดิตกันแทบจะทุกคนอยู่แล้ว สำหรับมนุษย์เงินเดือนถือเป็น 99 % เลยทีเดียว และบางคนก็ยังมีเจ้าสิ่งนี้มากกว่า 1 ใบอีกต่างหาก. บัตรเครดิตนับว่าเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ตอบโจทย์หลายด้านในชีวิตของเรา มีประโยชน์มากแน่ๆ ขอเพียงเรารู้จักใช้ ช่วยให้มีสิทธิประโยชน์ที่มากกว่าทั้งการช็อปปิ้ง ทานอาหาร หรือส่วนลดต่างๆ เพิ่มความสะดวกและคล่องตัวกว่าการพกพาเงินสดเยอะๆแบบที่เสี่ยงต่อการโจรกรรม แต่กระนั้น ก็เหมือนกับสินค้าทุกประเภท ที่อาจมีทั้งประโยชน์และโทษในตัวเอง ถ้าเราใช้อย่างไม่ระมัดระวัง บัตรเครดิตก็อาจจะก่อให้เกิดผลเสียหรือโทษได้เช่นเดียวกัน เหมือนประสบการณ์ของหลายคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิตกันจำนวนมาก และมีปัญหาในการใช้จ่ายที่ตามมา ถ้าไม่มีวินัยทางการเงินก็ไม่ควรมีบัตรเครดิตนั่นล่ะ เราจึงอยากจะรู้กันมากขึ้นใช่ไหมถึงวิธีการใช้บัตรเครดิตอย่างฉลาด ที่จะทำให้เราใช้แบบที่ได้ประโยชน์มากที่สุด ไปดูกันเลยว่า 5 วิธีนั้นจะมีอะไรบ้าง

วางแผนการเงินและค่าธรรมเนียมรายปี

วางแผนการเงินและค่าธรรมเนียมรายปี

ค่าใช้จ่ายหลักที่ควรคิดให้รอบคอบ คือ ค่าใช้จ่ายรายเดือนที่เราจ่ายประจำ เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำมัน หรือการใช้จ่าย ต่อมาก็เป็นเรื่องการจ่ายเงินภาษี ปกติอยู่ที่ 10-20% ของรายได้ และควรเผื่อเงินสำรองฉุกเฉินไว้ด้วย หาเหลือๆก็ต้องมีเงินเพื่อให้รางวัลกับตัวเองเช่น การท่องเที่ยวหรือช็อปปิ้ง เมื่อวางแผนการเงินในส่วนนี้ แบบหักค่าใช้จ่ายออกแล้ว เงินที่เหลือเราก็สามารถเอามาโปะบัตรเครดิตที่เราจ่ายไปทั้งหมด ก็ถือเป็นการจัดการเงินในกระเป๋าได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

สิ่งสำคัญคือ เราต้องไม่ลืมการจ่ายรอบบิลบัตรเครดิตของเรา เพราะค่าปรับบัตรเครดิตไม่ใช่เรื่องเล่นๆ การจ่ายต่องวดอยู่ที่ประมาณ 20 % หรือมากกว่านั้น เมื่อเทียบกับอัตราเงินฝากกับธนาคารที่เขาให้เราแค่ 0.5 - 1 % เท่านั้นจึงแตกต่างกันมาก วิธีที่ฉลาดที่เราทำได้คือ เปิดกองทุนรวมตลาดเงินเอาไว้ด้วย เมื่อรูดบัตรเครดิตแทนการจ่ายเงินสดแล้ว ก็โอนยอดนั้นใส่ให้เงินเรางอกเงยต่อไป ได้แบบที่มากกว่าบัญชีออมทรัพย์ถึง 2 เท่า ขึ้นอยู่กับแต่ละโปรโมชั่น พอถึงเวลาจ่ายค่าบัตร เราก็ทำได้ผ่านธุรกรรมออนไลน์ง่ายนิดเดียว หรือวางแผนรายจ่ายด้านการลงทุนด้วยบัตรเครดิต เช่น กองทุน RMF หรือ LTF การจ่ายเบี้ยประกัน หรือการซื้อรถและบ้าน ก็ทำได้

หรือในส่วนของค่าธรรมเนียมรายปี บางแห่งมี บางแห่งไม่มี ถ้าเราจำเป็นต้องใช้บัตรที่เสียค่าธรรมเนียมอยู่ ก็ต้องดูว่ามันจะคุ้มกับการใช้ของเราจริงๆมั้ย ถ้ารู้สึกว่ามันสูงเกินไปจริง ก็สามารถโทรไปขอยกเว้นได้ ทำการต่อรองเพื่อลดสัดส่วนกับสถาบันการเงินทันที หรือปิดบัตรที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่แพงเกินไปซะ เพื่อการใช้ที่สมเหตุสมผลมากกว่า และมองหาบัตรที่มีการผ่อนด้วยอัตราดอกเบี้ย 0 % เพื่อโปรโมชั่นที่คุ้มกว่า และสามารถยืดระยะเวลาจ่ายดอกเบี้ยได้ถึง 300 วัน ถ้านำเงินตรงนี้ไปฝากแบบไม่ประจำ ก็เพิ่มดอกเบี้ยมาให้เราได้อีก สำคัญคือต้องไม่ลืมชำระนั่นแหละ

เลือกการใช้ที่เหมาะกับชีวิตเราจริงๆ ไม่ใช่แค่ข้อเสนอพิเศษที่ล่อใจ

เลือกการใช้ที่เหมาะกับชีวิตเราจริงๆ ไม่ใช่แค่ข้อเสนอพิเศษที่ล่อใจ

ทุกวันนี้บัตรเครดิตมักจะมาพร้อมกับรางวัลหรือข้อเสนอพิเศษที่ล่อตาล่อใจมากขึ้นด้วย เช่น สิทธิพิเศษในการได้รับห้องพักฟรี คะแนนสะสมเพื่อนำไปแลกไมล์สายการบินเพิ่มเติม หรือแลกแต้มเป็นของรางวัล จากการใช้จ่ายผ่านบัตร แต่หลายๆครั้งมันกลับมีเงื่อนไขแฝงอยู่ เราจึงต้องอ่านรายละเอียดทุกครั้งก่อนการตัดสินใจ เพื่อการใช้ที่ได้ประโยชน์ที่สุด และต้องทำให้แน่ใจด้วยว่าจะสามารถจ่ายทันกำหนดเวลา ไม่งั้นอาจได้ไม่คุ้มเสียเอา หรือการรูดผ่านร้านค้าที่ชาร์ตค่าธรรมเนียมเพิ่มแบบแพงเกินไป บางแห่งเรียกซะ 2-3 % ก็ถือว่าควรเลี่ยงแล้ว

การเลือกบัตรเครดิตแบบที่เหมาะกับการใช้ชีวิตของเราจริงๆ ย่อมสามารถใช้แบบได้กับได้มากกว่า เช่น เลือกบัตรเครดิตที่ผูกกับห้างร้านก็จะได้โปรโมชั่นในการช็อปปิ้ง หากชอบท่องเที่ยวต่างประเทศก็เลือกบัตรที่ใช่กว่าแบบสะสมไมล์เดินทางกับสายการบินก็ได้ หรือเลือกบัตรที่เหมาะกับประกันชีวิตของเรา เลือกบัตรที่ได้เงินคืนสูงสุดในการเติมน้ำมัน หรือการจองห้องพักผ่านเว็บไซต์โปรดของเรา เป็นต้น

ถ้าเราใช้บัตรเครดิตที่มีอยู่ในการซื้อของใช้เป็นประจำแทนเงินสด ก็ยิ่งเพิ่มคะแนนสะสมได้เร็วขึ้น อีกทั้งมีสิทธิพิเศษต่างๆที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ควรลืมตรวจสอบในทุกสัปดาห์ด้วย เพื่อให้ปลอดภัยมากขึ้นในเรื่องความถูกต้อง และการรู้ขีดจำกัดของตัวเอง เพราะหากเราใช้เกินงบไปบ่อยๆ มันคงไม่ดีแน่ ขอแนะนำละกันว่า ถ้าเราเริ่มมีการใช้แบบเกินจำนวนครึ่งหนึ่งของวงเงินที่กำหนด ก็ไม่ต้องรอจนมันแตะเพดาน ลองเก็บบัตรนี้ให้ไกลหูไกลตาสักหน่อย จนพ้นวันกำหนดรอบบิล จะช่วยให้เราไม่จ่ายเกินกว่ากำลังทรัพย์ที่มี และเหลือเผื่อสำหรับฉุกเฉินไว้ได้บ้าง หรือทำการแจ้งลิมิตกับทางบริษัทก็ได้ เพราะไม่ใช่สิ่งจำเป็นเลยที่เราจะต้องมียอดวงเงินสูงเป็นแสนเสมอไป

ไม่ต้องมีหลายใบ หรือสมัครบ่อยๆ

ไม่ต้องมีหลายใบ หรือสมัครบ่อยๆ

มีมากก็ใช้มาก ถือว่าเป็นจริงกับบัตรเครดิตด้วย ยิ่งหลายคนชอบหมุนเงินจากใบนั้นมาปิดใบนี้ หากเราพลาดหมุนไม่ทันละยุ่งกันพอดี แถมต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มในราคาที่แพงไปอีก ทางที่ดี มีสัก 1-2 ใบแล้วใช้ให้คุ้มจริงๆ ก็ดีกว่า จะช่วยเลี่ยงความเสี่ยงในการใช้จ่ายเกินตัว และการต้องมานั่งจำว่า บัตรแต่ละใบยอดเท่าไหร่แล้วนะ ต้องจ่ายวันไหน แถมยังอาจพลาดสิทธิประโยชน์บางอย่างไปเปล่าๆด้วยก็มี

หรือหลายคนก็อาจจะเคยลืมตัวบ่อยๆ เผลอใช้บัตรเครดิตซื้อของราคาถูกๆไปก็เยอะ รู้ตัวอีกที ภาระทางการเงินก็สูงปรี๊ดไปแล้วก็มี อยากแนะนำตรงนี้ไว้ด้วยว่า ถ้าเราตั้งเป้าว่าจะใช้จ่ายผ่านบัตรโดยการซื้อของราคาสูงๆเท่านั้น หรือมีเงินออมได้เท่ากันกับราคาของที่ต้องการก่อน แล้วค่อยมาใช้บัตรรูดตรงนี้ นอกจากได้สะสมแต้มแล้ว เราก็ยังสามารถบริหารเงินเพื่อจ่ายบัตรในตอนสิ้นเดือนหรือครบกำหนดได้แบบฉลาดมากขึ้นด้วย

เราอาจเลือกบัตรโปรดในแบบที่ให้แต้มได้ดีที่สุด เช่นใบนึงให้ 25 บาท:แต้ม แต่อีกใบให้ 20 บาท:แต้ม เลือกใบแรกแล้วใช้ให้คุ้มก็ย่อมดีกว่า แต่ต้องไม่ลืมตรวจสอบอัตราการแลกประกอบด้วย และในการทำบัตรแต่ละครั้ง ต้องเปรียบเทียบและเลือกบัตรที่เหมาะกับเราที่สุด ไม่ใช่สมัครไปก่อนแล้วมองหาไปเรื่อยๆ เพราะการสมัครบัตรเครดิตบ่อยๆ ก็จะมีผลต่อเครดิตสกอร์ของเราด้วย จึงต้องหาข้อมูลบัตรแต่ละประเภทเผื่อไว้ด้วย เพื่อการใช้ที่ฉลาดกว่า ถ้าจำเป็นก็ต้องเว้นระยะประมาณ 6 เดือน - 1 ปี แล้วค่อยสมัครใบใหม่ตาม

จ่ายให้ตรงและจ่ายให้ไว

จ่ายให้ตรงและจ่ายให้ไว

การจ่ายแบบเต็มจำนวนและไม่จ่ายขั้นต่ำก็ถือว่าช่วยเราได้มากกว่า เพราะปัญหาในการใช้บัตรเครดิตผิดวิธี ก็มักจะมาจากการค้างค่าใช้จ่ายในตัวบัตรเครดิตนี่ล่ะ ดังนั้น ถ้าเราใช้บัตรเครดิตในการซื้อสิ่งของหรือบริการแล้วล่ะก็ ควรจ่ายมันไปภายใน 1 เดือน พยายามหมุนเงินมาจ่ายให้ทัน ไม่ให้เกินยอดเงินเก็บหรือเงินเดือนที่เรามี เพราะยิ่งค้างค่าใช้จ่ายนานเข้า อัตราดอกเบี้ยก็ยิ่งสูงขึ้น เยอะเรื่อยๆแบบนี้ มันไม่ดีเอาแน่ๆ

ความจริงอีกอย่างก็คือ 35% ของคะแนนสินเชื่อที่เรามีนั้น มักจะขึ้นอยู่กับการจ่ายก่อนกำหนดเวลาด้วย เราจึงควรจ่ายแบบที่ไม่ช้ากว่ากำหนด เพราะในบางบริษัท มักจะมีค่าปรับที่แพงมากด้วยในส่วนนี้ ถ้าใครมีปัญหาชอบลืมจ่าย ไม่ชัวร์ในตรงนี้ ก็ลองตั้งการจ่ายแบบหักจากบัญชีโดยอัตโนมัติ หรือเตือนไว้ในโทรศัพท์มือถือเลยก็ได้ สิ่งนี้ก็ถือเป็นวิธีในการใช้บัตรเครดิตอย่างฉลาดเช่นกัน

เรื่องการจ่ายไว อันนี้หลายคนอาจเคยคิด ถ้าเราไปกินข้าวกับเพื่อนหลายๆคน เมื่อเรียกจ่ายเงิน หลายคนคงดูบิลแล้วหารกัน แต่ถ้าเรายกมือเอาบัตรของเราจ่ายไปก่อน ยิ่งรูดเยอะ มันจะได้ทั้งแต้มและเงินสดที่มากขึ้น แล้วค่อยให้เพื่อนๆโอนคืนผ่าน Promtpay ก็ไม่เสียค่าบริการ ถือว่าเป็นการใช้ที่มีแต่ได้กับได้ และสะดวกมากขึ้นด้วย

ตรวจสอบโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์อยู่เสมอ

ตรวจสอบโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์อยู่เสมอ

ปกติแล้วข้อดีอย่างนึงของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตก็คือ เราสามารถตรวจสอบเรื่องการใช้จ่ายในแบบออนไลน์ได้ เช่น มีการซื้ออะไรไปบ้าง ราคาเท่าไหร่ สถานที่ๆไหน จะมาเป็นลิสให้เราดูได้ง่ายๆ ไม่ต้องเสียเวลาจดใส่กระดาษเลย ในส่วนของตรงนี้ ถ้าเราเช็คอยู่เป็นประจำแล้วก็ถือเป็นการระมัดระวังในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตแบบที่ยอดเยี่ยม แถมยังดูได้ด้วยว่า มีใครเอาบัตรเครดิตของเราไปแอบอ้างใช้ หรือมีการจ่ายเกินยอดไปรึเปล่าอีกด้วย

ในเรื่องของสิทธิประโยชน์ต่างๆ ก็เช่นกัน ทุกวันนี้บัตรเครดิตหลายค่ายต่างมีสิทธิพิเศษแถมมาให้เลือกกันเยอะ เราก็ควรจัดบัตรที่เจ๋งๆ ไว้ใช้งานจริงๆ เช่น บัตรเครดิตแบบที่มีประกันการเดินทางแถมมาให้ หรือส่วนลดค่าเช่ารถ การรับประกันสินค้าที่ซื้อ ถ้าเรามีความรับผิดชอบในการใช้บัตรแบบที่ดีแล้ว สิทธิพิเศษตรงนี้ก็น่าสนใจเพิ่มด้วยเช่นกัน โดยแหล่งข้อมูลหลักที่เราควรเช็คก็คือหน้าเว็บไซต์ของตัวบัตรเครดิตที่ถืออยู่ หน้าแฟนเพจ หรือเปิดรับข้อมูลข่าวสารทางอีเมล์ไว้ด้วย

หากมีสิทธิประโยชน์คุ้มๆที่เราใช้ไม่ทันมันก็น่าเสียดาย เช่น บริการตรวจสุขภาพฟรี ห้องรับรองในสนามบิน  สมัครบริการฟิตเนสฟรี ก็ตกปีละหลายหมื่นเหมือนกันนะ เราไม่ควรดูเบา ดังนั้น เมื่อมีบิลค่าบัตรเครดิตมา อย่าลืมเช็คโปรโมชั่นต่างๆที่แนบมาด้วย เช่น ลงทะเบียนเพื่อรับสิ่งของฟรี หรือส่วนลดร้านอาหารและร้านค้าที่เราใช้บ่อย หรือถ้ามันไม่ค่อยมีโปรโมชั่นที่ตรงกับเรา จะได้มองหาบัตรใหม่ที่ดีกว่า!

ทำให้บัตรเครดิตของเราคุ้มขึ้น แบบมีแต่ได้กับได้!

ทำให้บัตรเครดิตของเราคุ้มขึ้น แบบมีแต่ได้กับได้!

เราคงเห็นกันมากขึ้นแล้วใช่ไหมว่า เคล็ดลับการใช้บัตรเครดิตของเราให้ได้ประโยชน์มากที่สุด และคุ้มขึ้น เราสามารถเริ่มได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ซึ่งจะทำให้ทุกการใช้จ่ายของเราจะมีแต่ได้กับได้มากขึ้นด้วย  แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คงเป็นเรื่องวินัยของตัวเราเองด้วย เมื่อมีการใช้แบบที่เหมาะสม และตรงกับไลฟ์สไตล์ในชีวิตแล้ว เราก็สามารถเพิ่มในส่วนของคะแนนสะสม เพื่อเต็มที่กับสิทธิประโยชน์ที่มากกว่า แต่ก็อย่ารูดปรื๊ดๆ เพลินจนเกินไปด้วย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียไปในตัว อยู่ที่เราจะปรับใช้ และคิดก่อนใช้นั่นล่ะ

หรือใครที่เคยมีอคติกับบัตรเครดิตว่ามันมีโทษมากว่าประโยชน์รึป่าว หรือคิดในใจเล็กๆว่า ทำไมบริษัทหลายต่อหลายแห่งถึงได้มาให้สิทธิประโยชน์กับผู้ใช้ซะมากมาย ที่จริงก็คือ พวกเขาจะได้ค่าธรรมเนียมจากร้านค้าต่างๆที่เราทำการรูด ดังนั้น ถ้าเรารู้จักใช้ ก็ถือว่าบัตรเครดิตทำให้เราคุ้มขึ้นได้ ไม่ต้องเกรงใจมัน แต่ถ้าสงสัยในเรื่องการใช้จ่ายผ่านบัตรของตนว่า เราใช้คุ้มรึยังนะ เช็คยังไงดี วินัยทางการเงินแบบไหนที่จะช่วยเราควบคุ้มการใช้จ่ายได้มากขึ้น ก็เหมือนบทความนี้ ที่เราได้คุยกันไป ด้วย 5 วิธีในการใช้บัตรเครดิตอย่างฉลาดและเกิดประโยชน์ที่สุด ด้วยการวางแผนการเงินและค่าธรรมเนียมรายปีมาก่อนล่วงหน้า ดูการใช้แบบที่เหมาะกับชีวิตและไลฟ์สไตล์ของเราที่สุด ไม่ใช่แค่สิทธิประโยชน์ที่ล่อใจ หรือบางคนคิดว่า มีหลายๆใบมันดี ก็ไม่ใช่เสมอไป ทางที่ดีไม่ควรสมัครบ่อยๆด้วยซ้ำเพื่อเครดิตสกอร์ของเรา และสิ่งสำคัญคือ ทำให้การจ่ายของเราตรงเวลาเสมอ เพื่อได้ทั้งรับโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ดีๆ แบบยิ้มกันหน้าบานได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มอิสระทางการเงินในชีวิตเราด้ที่มากกว่าด้วย!