ปัญหาของคนมีรถ ก็หนีไม่พ้นเรื่องการทำประกันภัยรถยนต์ จึงเกิดคำถามว่าจะทำอย่างไรดี? ประกันภัยก็มีหลายแบบหลายค่ายเหลือเกิน ค่าเบี้ยประกันก็ไม่ถูก การจะไม่ทำประกันก็ดูเหมือนว่าจะไม่ฉลาดสักเท่าไหร่ในสมัยนี้ ไหนจะโจรที่จ้องจะโขมยรถ ไหนจะคนไม่เคารพกฎระเบียบจราจร คนเลือดร้อนตัดหน้ากันไปมา คนเมา คนหลับใน สารพัดที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ไม่ว่าเราขับรถดีระวังตัวขนาดไหนก็ตาม หลายคนเคยเจอมาแล้ว…ประกันหมดเมื่อวานนี้ ไม่ต่อ ก็เจอจังเบ้อเร่อในเช้าถัดมาเลย ความสูญเสียกระเป๋าตัวเองรับไม่ไหว บางรายก็เคยทำประกันไว้ทั้งปีไม่มีอุบัติเหตุอะไร ไร้รอยเฉี่ยวชน…มั่นใจ ประกันไม่ต้องปรากฏว่า อุบัติเหตุก็มา
ไม่ว่าจะเคสไหน ถ้าคุณมีจ่ายได้ และคิดจะทำประกัน มาดูกันว่า ต้องคิดและดูอะไรบ้าง? ที่จะช่วยตัดสินใจก่อนทำประกัน! ก่อนอื่นต้องตอบคำถามกับตัวเองให้ได้แบบโล่งหัวสบายใจ คำถามที่ต้องถามตัวเอง เมื่อจะซื้อประกันรถยนต์ และต้องได้รับคำตอบ เช่น? 1) ถ้าเกิดอุบัติเหตุจะเลือกซ่อมที่ไหนซ่อมจากศูนย์บริการหรือซ่อมอู่ ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถนั้นอยู่ในรายชื่อของบริษัทประกันไหม? มีเครือข่ายสาขาเยอะหรือใกล้บ้านหรือสะดวกเราไหม? 2) บริษัทประกันภัยที่ไหนดี? ดูจากความน่าเชื่อถือชื่อเสียงของบริษัท (ดูรายชื่อจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.) และบริการ เวลาเคลมประกัน. 3) เปรียบเทียบเบี้ยประกันกับความคุ้มครองของแต่ละบริษัทประกันภัย ครอบคลุม คุ้มค่า คุ้มครองตรงกับความต้องการเราไหม?
ถ้าเกิดอุบัติเหตุจะเลือกซ่อมที่ไหน?
ซ่อมจากศูนย์บริการหรือซ่อมอู่ ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถอยู่ในรายชื่อของบริษัทประกันไหม? มีสาขาเยอะหรือใกล้บ้านหรือสะดวกเราไหม? ที่ต้องสนใจคำถามนี้ เพราะเมื่อต้องซ่อมรถ หลายคนต้องมารอรถที่ซ่อมนาน…พาลให้เครียด เพราะไม่มีรถใช้ แถมบางครั้งคุณภาพงานไม่ค่อยดี ต้องส่งไปเก็บงานหลายรอบ ปวดหัว!
บริษัทประกันภัยบริษัทที่ไหนดี?
ดูจากความน่าเชื่อถือชื่อเสียง และบริการ เวลาเคลมประกัน สมัยนี้ตรวจสอบข้อมูลได้ง่าย ประสบการณ์ของตัวเอง เพื่อนฝูง รวมทั้งทางเสียงความคิดเห็นใน Internet.
เปรียบเทียบเบี้ยประกันกับความคุ้มครอง ครอบคลุม คุ้มค่า คุ้มครองตรงกับความต้องการเราไหม?
ไม่มีอะไรรับประกันว่าเบี้ยประกันถูกหรือแพงจะดีกว่ากันเพราะรายละเอียดของการคุ้มครอง คุ้มค่าตรงกับสิ่งที่เราอยากได้จากการทำประกันรึเปล่าเป็นตัวกำหนด. การเปรียบเทียบแผนประกันภัยรถและเลือกกรมธรรม์ให้เหมาะกับตัวเราเป็นเรื่องที่ต้องดูให้ละเอียด เพราะถ้าเราเลือกแผนประกันรถที่มีความคุ้มครองไม่ครอบคลุมการใช้งานที่เหมาะกับตัวเรา เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันหรือประสบเหตุขึ้นมาก็กลายเป็นเรื่องใหญ่. แต่ถ้าตรงกันข้ามถ้าเลือกแผนประกันรถยนต์ที่ดูเหมือนมีประโยชน์เยอะ ความคุ้มครองมากเกินการใช้งานไป ก็จะกลายเป็นว่าเราอาจจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันเกินความจำเป็นเช่นกัน.
เบี้ยประกันเทียบกับความคุ้มครอง
เบี้ยประกันภัย คือ จำนวนเงินที่เราจ่ายไปเพื่อซื้อประกันรถยนต์ เมื่อชำระเงินครบหรือชำระเงินตามเงื่อนไขบริษัทกำหนด รถยนต์คันนั้นจะได้รับความคุ้มครองจากประกันภัยในทันทีจนถึงวันที่ระบุว่าประกันหมดอายุ ประกันรถยนต์มีให้เลือกหลายแบบ เช่น ประกันชั้น 1, 2+, 3+ หรือ 3 ตามแผนเอาประกันที่บริษัทนั้นกำหนดไว้ แต่ละบริษัทมีราคาค่าเบี้ยประกันแต่ละแบบแต่ละชนิดต่างกัน เมื่อเปรียบเทียบกับประกันภัยรถยนต์ค่าเบี้ยประกันจะถูกหรือแพงนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น สภาพรถ ราคาหรือรุ่นของรถยนต์ที่ทำประกัน อายุของรถที่ทำประกัน เพศและอายุของคนขับ การทำเรื่องเคลมเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ท้องที่การจราจรหรือถิ่นที่อยู่ รายละเอียดเหล่านี้เป็นส่วนช่วยเปรียบเทียบราคาค่าเบี้ยประกันภัยที่เกิดจากประกันประเภทเหมือนกันแต่ต่างบริษัทกัน ถ้าต้องการจะทำประกันภัยรถยนต์ควรหาข้อมูลหลายๆ แหล่งเพื่อเปรียบเทียบทั้งราคาและเช็คเสียงตอบรับการใช้บริการของแต่ละบริษัทด้วย ทุกวันนี้ช่องทางในการหาข้อมูลและตารางการเปรียบเทียบราคาและผลประโยชน์หรือการคุ้มครองก็เปิดกว้าง ไม่ว่าจะเป็นการสอบถามจากบริษัทประกันภัยโดยตรง หรือโบรกเกอร์ประกันภัย หรือจะหาข้อมูลเบี้ยประกันล่าสุดจาก Internet จากเว็บไซต์ต่างๆ ก่อนก็ยังไหว.
อ่านเพิ่มเติม วิธีคำนวณเบี้ยประกัน ที่นี่
การคุ้มครอง
ผลประโยชน์จากการทำประกันภัยรถยนต์ คุณ!! เท่านั้นที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร? บางคนต้องการทำประกันภัยรถยนต์เพราะป้องกันไว้ก่อน กลัวนั่นกลัวนี่ ทำครอบคลุมซะทั้งรถทั้งคนขับและบุคคลที่ 3 หรือรวมทั้งเหตุไม่คาดฝันเช่นภัยธรรมชาติ, น้ำท่วม, ไฟไหม้ หรือเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้า เช่น รถถูกขโมย จะได้รับการคุ้มครองขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับเบี้ยประกันและแผนประกันที่ทำประกันไว้ ซึ่งมีรายละเอียดมากพอที่คุณต้องอ่านต้องรู้ให้เข้าใจก่อนซื้อประกัน การคุ้มครองแบ่งเป็น 3 การคุ้มครองหลักคือ?
1)ความคุ้มครองบุคคลภายนอก • คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย • คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน
2)ความคุ้มครองความเสียหายรถยนต์ • คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ • คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้
3)ความคุ้มครองเพิ่มเติมอื่นๆ • คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล • ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร • เงินประกันตัวผู้ขับขี่
เมื่อเรารู้ขอบเขตการคุ้มครองแล้ว เราก็ถามตัวเองว่าอยากได้รับการคุ้มครองถึงขนาดไหน? เพราะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ระบุตามแผนประกันกรมธรรม์อีกที่ต้องอ่านและพิจารณาอย่างละเอียด รายละเอียดเหล่านั้นก็ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัยด้วยว่าเด่นว่าด้อยเรื่องไหน แต่ส่วนใหญ่มีเนื้อหาแผนประกันภัยไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ ลองดู…
ประกันภัยชั้น 1 คุ้มครองสูงสุด
เหมาะสำหรับทุกคน! ที่มีเงินจ่าย แต่โดยเฉพาะเหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับ หรือผู้ที่เพิ่งซื้อรถใหม่มาขับเป็นพิเศษ บางคนอยากให้รถดูใหม่ดูดีอยู่เสมอ ประกันภัยชั้น 1 เลย! สามารถครอบคลุมความเสียหายต่อตัวรถยนต์ทุกกรณี (เคลมได้แม้ไม่มีคู่กรณี) ตั้งแต่ขับรถชนต้นไม้ ชนรั้ว ไปจนถึงอุบัติเหตุรถชนรถ ประกันภัยรถยนต์ชั้น1ให้การคุ้มครองชีวิตและร่างกายของบุคคลที่อยู่ในรถ คุ้มครองชีวิตและร่างกายของคู่กรณี รวมถึงความเสียหายจากไฟไหม้ รถหาย แผ่นดินไหว น้ำท่วม (แต่แน่นอนว่า ค่าเบี้ยประกันแพงกว่าประเภทอื่น) รายละเอียดอื่นๆ ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์แต่ละบริษัทประกันภัยไม่เหมือนกันหรือแตกต่างเล็กน้อย เช่น อาจไม่ครอบคลุมในกรณีความเสียหายรถยนต์จากการก่อการร้าย.
ประกันภัยชั้น 2+
ประกันภัยชั้น 2+ แตกต่างเล็กน้อยกับ ชั้น 1 คนที่ขับรถมาหลายปีมีประสบการณ์ในการขับรถมานานอาจไม่กังวลว่าจะขับรถชนอะไรต่อมิอะไรเหมือนมือใหม่หัดขับ หลายคนจึงเลือกประกันรถชั้น 2+ แต่ต้องตระหนักไว้ว่า จะได้รับความคุ้มครองเมื่อขับรถชนกับรถเท่านั้น ส่วนความเสียหายอื่นๆที่ไม่ได้เกิดจากรถชนรถ (ชนถังขยะ ชนต้นไม้ เสาไฟฟ้า ไม่มีคู่กรณี) ต้องควักกระเป๋าจ่ายเองนะจ้ะ เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะคุ้มครองชีวิตและร่างกายของบุคคลที่อยู่ในรถ ความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้ขับขี่และบุคคลที่อยู่ในรถ และรวมถึงคุ้มครองรถที่ทำประกัน ทั้งไฟไหม้ รถหาย
ประกันภัยชั้น 3+
ประกันรถยนตร์ชั้น 3+ คุ้มครองอุบัติเหตุรถชนกับรถเท่านั้น คุ้มครองความเสียหายของร่างกายและทรัพย์สินคู่กรณีและคุ้มครองทั้งรถของเราและรถคู่กรณี และพึงจำไว้ว่า…จะไม่คุ้มครองกรณีการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีรวมทั้งกรณีรถหาย หรือไฟไหม้ ก็ไม่คุ้มครอง
ประกันชั้น 3
ประกันชั้นนี้เน้นเบี้ยประกันถูก คุ้มครองความเสียหายร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี แต่ไม่คุ้มครองรถของผู้ที่ทำประกัน (ก็เจ้าของรถ เราไง) และจะไม่คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้
***ความคุ้มครองของแต่ละบริษัทประกันภัยอาจไม่เหมือนกันตามกรมธรรม์ที่ได้รับแจ้งหรือระบุไว้ ผู้ทำประกันต้องอ่านและทำความเข้าใจแล้วเปรียบเทียบดู
โปรโมชั่นต่าง ๆ
บางบริษัทก็มีข้อเสนอทั้งลดเบี้ยประกัน ทั้งแจกทั้งแถม ไม่ว่าจะส่วนลดเติมน้ำมัน คะแนนสะสม หรือส่วนลดประวัติดี (No Claim Bonus-NCB) ส่วนลดระบุผู้ขับขี่ ส่วนลดกลุ่ม ส่วนลดจากตัวแทนหรือนายหน้า หรือการผ่อน0% นาน…เท่านั้นเท่านี้ ก็ว่ากันไป.
ประกันเฉพาะกลุ่ม
บางบริษัทได้มีการออกกรมธรรม์แบบเฉพาะกลุ่มขึ้นมา เช่น การประกันภัยกลุ่มรถกระบะ การประกันภัยกลุ่มรถอีโคคาร์ การทำประกันภัยรถเฉพาะกลุ่มนี้จะทำให้ได้ราคาเบี้ยประกันที่ถูกลง และอาจจะคุ้มหรือเหมาะสมกับการคุ้มครองตามประเภทของแผนประกันด้วย
บริการเสริมอื่นๆ
ตัวเลือกที่ช่วยตัดสินใจซื้อประกันภัยที่น่าสนใจสำหรับบางคน เช่นประกันภัยชดเชยค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ, ค่าเดินทางไม่มีรถใช้, บริการรถยกลากช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง, รถถูกขโมย, รถหาย, น้ำท่วม, ไฟไหม้, มีบริการให้รถเอาไปใช้ขับระหว่างรอซ่อม ตัวเลือกเหล่านี้ก็เป็นตัวช่วยพิจารณาซื้อประกันด้วย
บริการเคลม ประกันรถยนต์
เคลมแห้ง
เคลมแห้ง คือ การเคลมประกันรถยนต์ที่ผู้ทำประกันภัยทำเรื่องเคลมด้วยตัวเอง เช่น เมื่อรถมีรอยบุบ ขีดข่วนที่ผู้ทำประกันภัยอาจขับรถชนนั่นนี่เป็นแผลไม่ใหญ่ แล้วโทรแจ้งกับตัวแทนประกัน แล้วฝ่ายรับแจ้งจะบอกขั้นตอนที่คุณต้องทำตามความคุ้มครองของ กรมธรรม์ และถ้าต้องนำรถเข้าซ่อมที่อู่หรือศูนย์บริการ ผู้เอาประกันภัยควรนำเอกสารต่างๆ ไปให้ครบ เช่น ใบขับขี่ กรมธรรม์และสำเนาทะเบียนรถ ไปให้พร้อม
เคลมสด
เคลมสด คือ ทางบริษัทประกันจะส่งพนักงานเคลมมาที่เกิดเหตุรถชนกันและยังมีผู้เสียหายอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งการเคลมนี้ รถยนต์ที่เอาประกันจะได้รับใบหลักฐานในการใช้ติดต่อเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น (เรียกว่าขอเคลม) แล้วหลังจากนั้นก็นำรถไปซ่อมศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมของบริษัทประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
อ่านเพิ่มเติมข้อควรรู้ก่อนเคลม ที่นี่
หลายคนบอกว่า รายละเอียดเรื่องประกันภัยมีเยอะ อ่านแล้วปวดหัว(อันนี้ก็จริง!) แต่อ่านเยอะๆ แล้วทำความเข้าใจในตอนแรกก่อนตัดสินใจซื้อประกันช่วยได้! ดีกว่ามานั่งเสียใจเสียดายเสียรู้บริษัทประกันภัยทีหลัง แล้วต้องมานั่งปวดหัวหลายเท่าจากการทำประกันไม่รอบคอบ และข้อมูลในการเปรียบเทียบเรื่องเกี่ยวกับประกันสมัยนี้หาง่าย ช่วยในการตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ได้อย่างรอบคอบกว่าสมัยก่อน หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ที่นี่
กุลพันธ์
ถ้าถามว่าเจ้าไหนดีที่สุด อันนี้ขอบอกเลยว่าไม่มีที่ไหนดีที่สุดหรอกครับ มีแต่ว่าที่ไหนจะเคลมได้ง่ายที่สุด ซึ่งมันอยู่ที่เราด้วยว่าเราสะดวกซ่อมที่ไหน ถามประกันเลยครับว่าเจ้าของอู่เจ้าไหนที่คุยง่ายแล้วเคลมง่ายอนุมัติไว ควรเป็นอู่ที่ดิวงานร่วมกับประกันด้วยนะครับ ไม่งั้นปัญหาที่จะตามมาเยอะแยะครับปวดหัวเลย ลองเลือกดูหลายๆที่แล้วมาเปรียบเทียบกันก่อนครับ
ดวงเดือน
เห็นด้วยค่ะเรื่องอู่ซ่อมรถ เรื่องทำประกันภัยรถยนต์ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจะทำกับบริษัทไหน แต่ขึ้นอยู่กับว่าสามารถไปซ่อมรถที่ไหนได้บ้าง เพราะอู่ซ่อมรถที่ทำดี ซ่อมเก่ง มีความรับผิดชอบสูง ไม่ได้หาง่ายๆนะคะ หรือจะไปถามร้านซ่อมรถแถวบ้านมั้ย ร้านที่เราไว้ใจว่าทำรถดี ลองถามดูว่าเขาได้รับเคลมของบริษัทไหนบ้างค่ะ
ส่ายป่าน
ประกันรถยนต์มีหลายอย่างเลยนะคะ ซึ่งทุกปีเราจำเป็นต้องซื้อประกันรถยนต์เพื่อไว้สำหรับช่วยค่าซ่อมรถถ้าในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ พอได้อ่านบทความนี้แล้วก็เห็นหรือว่าจำเป็นต้องมีการเลือกประกันภัยรถยนต์ ไม่ใช่แค่ราคาถูกเท่านั้น แต่เราจำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับปัจจัยอื่นๆที่ตามมาอย่างเช่น สถานที่ซ่อมบำรุง ดูสถานที่ให้บริการที่ใกล้บ้านด้วย
ณัฐวัฒน์
ดีมากเลยครับที่แนะนำวิธีเปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้คุ้ม การมีรถยนต์เป็นของตัวเองเพื่อใช้ในการเดินทางไปทำงานแทบจะเป็นปัจจัยสำคัญไปแล้ว บางคนซื้อรถเอาไว้ทำงานหาเลี้ยงชีพด้วยยิ่งจำเป็นต้องทำประกันภัยรถยนต์ครับ ส่วนใครจะทำประกันแบบไหน ชั้นไหน บริษัทอะไร ก็แล้วแต่ความสะดวกและความพอใจ ซึ่งบทความนี้ให้ไกด์ไลน์มาดีมากเลยครับ
น้ำส้ม
ประกัน รถยนต์เหรอ ถ้า รถยนต์ยังใหม่อยู่แล้ว มักำลังเงินพอเราว่าเลือกทำประกันชั้น1ดีกว่า รู้สึกสบายใจกว่าประกันตัวอื่นๆ แล้วที่เราเลือกเรา จะเลือกที่ซ่อมด้วย ประกันบ้างเจ้า บังคับให้เราทำแต่ที่เขากำหนดให้ว่าต้องเข้าที่นั้นที่นี่เท่านั้น แต่ถ้าเราเลือกเราจะเลือกประกันที่ เราสามารถเลือกได้เองว่าจะเข้าทีอู่ไหน บอกตรงว่า ถึงจะเป็นชั้น1 แต่ก็ต้องระวังเวลาเขาอู่ซ่อม คะ
เบนซ์
เรื่องประกันรถยนต์เนี้ยจะมาเถียงกันไปมามันก้ไม่มีทางจบสิ้นหรอกครับ หลายคนหลายความคิดเห็น เอาเป็นว่าเอาประสบการณ์ที่ดี และไม่ดีจากการเป็นลูกค้าบริษัทประกันรถยนต์มาเล่าสู่กันฟังดีกว่านะครับ จะเป็นประโยชน์มากกว่า อย่างประสบการณ์ของผม ผมใช้บริการบริษัทหนึ่่งเป็นประกันชั้นหนึ่งเขาก็บริการดีครับ ปีต่อไปผมก็ไม่ได้เปลียนนะยังใช้เจ้าเก่าอยู่ครับ
สมชาย
เอาตรงๆนะครับ การเปรียบเทียบประกันรถยนต์เนี่ยบางที ดูแค่ชื่อเสียงของบริษัทก็ไม่พอ บางครั้งเวลามีปัญหาเรื่องการเคลมเนี่ย บางทีไม่ได้มีปัญหากับบริษัทของประกันรถยนต์ที่เราทำ จะมีปัญหากับตัวแทนหรือคนที่เราไปทำประกันภัยด้วย บางคนมีปัญหากับตัวแทนไม่ใช่ว่าบริษัทประกันภัยไม่ดี ขนาดบางครั้งทำประกันภัยชั้น 1 ไว้ยังมีปัญหาต้องสำรองเงินก่อนเลยนะครับ
พะเเพง
อยากรู้ว่าเพื่อนๆใช้ประกันรถยนต์ของที่ไหนกันบ้างเอ่ย?? ช่วยมาแสดงความคิดเห็นกันหน่อยค่ะ พอดีเราอยากจะออกรถป้ายแดงแต่กำลังคิดอยู่ว่าจะทำกับบริษัทไหนดีที่เคลมง่ายและเบี้ยประกันไม่สูงมาก เราอยากทำประกันชั้น 2 ค่ะ เพราะว่ายังไม่ค่อยมั่นใจในการขับขี่ของตัวเองเท่าไหร่ ก็เลยอยากได้ความคุ้มครองเยอะนิดนึง มาแชร์กันหน่อยนะคะจะได้เป็นไอเดียสำหรับเรา
🍤🍤
ไปทำประกันชั้น1 ของเจ้าไหนมาเหรอครับ พี่สมชาย ตั้งแต่ผมมีรถยนต์ผมทำประกันชั้น1มาตลอดเลยนะครับ ไม่เห็นว่าต้องมาจ่ายเงินก่อนเลยนะครับ โดนหลอกไหมครับ หรือว่าเวลาพี่เคลมประกัน ส่วนใหญ่พี่เคลมแบบแห้งรึเปล่าคือเคลมแบบที่ไม่มีคู่กรณีนะครับ ถ้าแบบนี้ยังไงก็ต้องจ่ายเงินส่วนต่างครับ กฏระเบียบเข้าบอกไว้ชัดเจนครับตอนที่เราซื้อประกัน
จี้
ต้องคิดถึงคุณภาพในกรณีที่มีการเครมประกันเหมือนกันนะคะ เคยมีประสบการณ์แล้วค่ะถ้าเราเลือกประกันที่ไม่ค่อยดีตอนที่เครมประกันนั้น เราต้องส่งรถไปซ่อมเก็บงานอีกหลายรอบเลย เข็ดจริงๆค่ะแต่บทความนี้อธิบายให้เราสามารถเลือก บริษัทประกันภัยที่มีความเป็นมาตรฐาน ทั้งในการซ่อมบำรุงและในกรณีที่เครมประกันจะได้ไม่ต้องปวดหัวค่ะ
แพร
@k.พะเเพง เราเพิ่งออกรถป้ายแดงค่ะเลยทำประกันชั้นหนึ่งของวิริยะ แต่ค่าเบี้ยอาจจะสูงนิดนึงนะ ถ้าคุณสนใจประกันชั้นสองอะไรทำนองนี้เคยได้ยินว่าของกรุงเทพประกันก็ดีค่ะ ราคาไม่ได้แพงเกินไป ลองไปถามรายละเอียดดูนะคะเราไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันค่ะ เราเองก็หาข้อมูลตามอินเตอร์เนตเหมือนกันค่ะ เวลาเลือกประกันแต่ก็ดีแล้วค่ะที่มาหาข้อมูลในเวปนี้
อุ้ม
@ดวงเดือน จะดูแต่เรื่องอู่ซ่อมรถก็ไม่ได้นะคะ ชอบบทความนี้ก็บอกมาแล้วว่าถ้าจะเลือกประกันรถยนต์ที่ดีก็ต้องเปรียบเทียบหลายๆเรื่องหลายๆอย่าง แล้วประกันรถยนต์ที่ดีก็มีนะคะ ถ้าคุณ ยังไม่เจอหรือประกันรถยนต์ตอนนี้ที่คุณมีอยู่รู้สึกว่าไม่ดีพอปีต่อไปก็ลองเปลี่ยนเจ้าใหม่เรื่อยๆสักวันคุณจะเจอบริการที่ดีค่ะ ดิฉันเจอมาแล้ว
susie
อยากรู้ว่าเพื่อนๆทำประกันรถยนต์ของที่ไหนกันไว้บ้างเอ่ย ??? เคยได้ยินประกันรถแบบเปิดปิดกันบ้างไหมคะ??พอดีเห็นโฆษณาว่าไม่ขับก็ไม่ต้องจ่าย จ่ายตามจริงตอนที่ขับ เริ่มต้นก็ไม่แพงด้วย ไม่กี่ร้อยบาทเอง มีใครเคยสมัครกันบ้างไหมคะ อยากรู้ว่ามันดีไหมเพราะถึงเวลาที่จะต้องต่ออายุประกันเเล้ว ช่วงนี้เงินไม่ค่อยมีถ้ามีอะไรช่วยประหยัดได้ก็อยากทำไว้
นภารัตน์
มีหลายอย่างที่เราต้องตัดสินใจจริงๆเวลาที่เราจะซื้อประกันภัยรถยนต์ เมื่อก่อน ตอนที่รถยนต์ของเราทำประกัน1ชั้นได้ เราจะเลือก ว่าประกันตัวไหนซ่อมที่ไหนคะ ส่วนใหญ่ถ้าเราจะเลือกจะเป็นซ่อมที่ศูณย์ คะ ไม่ค่อยมั่นใจเรื่องการซ่อมที่อู่ข้างนอกเลยคะ แต่ตอนนี้ทำประกันชั้น1ไม่ได้แล้ว ก็หันมาใช้แบบ 2+ คะ คุ้มครองน้อยกว่า แต่ก็ดีกว่าชั้น3คะ
ข้าวพอง
@susie ถ้าคุณไม่ค่อยได้ใช้รถ หรือ ใช้งานน้อยมาก แนะนำให้สมัครประกันรถยนต์แบบปิดเปิด ประหยัดดี ของบริษัทไทยวิวัฒน์อ่ะค่ะ ถ้าเป็นแบบ 2+ ราคาประมาณ สามพันนิดๆเอง ถ้าใช้รถก็ค่อยเปิด ถ้าไม่ได้ใช้ก็ปิด คุ้มครองเหมือนประกันรถทั่วๆไปเลยคือหนึ่งปี ดีกว่าทำประกันมาแต่ไม่ได้ไปไหนแล้วต้องเสียค่าเบี้ยไปฟรีๆ ยิ่งช่วงโควิดแบบนี้ใช้รถน้อยยิ่งคุ้มกว่า
nSarin
กว่าจะตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคันต้องคิดแล้วคิดอีก เปรียบเทียบราคาของแต่ละรุ่น แต่ละร้านแล้วค่อยมาตัดสินใจซื้อ หลังจากตัดสินใจซื้อรถยนต์ได้แล้ว ยังต้องมาเปรียบเทียบราคาค่าประกันภัยรถยนต์กันอีก แต่มันต้องทำอะนะ จะรีบซื้อ รีบจ่ายเงินก็ไม่ได้เดี๋ยวไม่คุ้มแน่ๆ ดีครับที่จัดทำบทความแบบนี้มาให้ข้อมูล ให้คำแนะนำดีๆกัน
วิยะวิทย์
ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันนะครับ คนที่มีรถยนต์ใหม่ส่วนก็เลือกที่จะซื้อประกันชั้น3กันทั้งๆที่รถยนต์ของตัวเองสามารถซื้อประกันชั้น1ได้อย่างสบายๆ ผมเองก็อยากซื้อชั้น1นะครับ แต่เนื่องจากอายุของรถยนต์ผมค่อนข้างหลายสิบปีแล้วทางประกันเลยไม่ขายให้ ตอนนี้ก็ทำได้แค่ซื้อประกันชั้น2+เท่านั้นครับ จะให้ซื้อประกันชั้น3เหมือนของหลายๆคนไม่เอาดีกว่า
#Bay%
โอ้โห! ปัญหาที่เจ้าของรถยนต์อาจเจอที่บทความนี้บอกมาในตอนต้น เช่น โจรที่จ้องจะขโมยรถ คนไม่เคารพกฎระเบียบจราจร คนเลือดร้อนตัดหน้ากันไปมา คนเมา คนหลับใน สารพัดที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ อันนี้ก็จริงนะครับ บอกมาขนาดนี้เจ้าของรถยนต์แทบจะรีบไปซือประกันภัยรถยนต์กันเลยทีเดียว เดี๋ยวต้องเจอกันบ้าง อย่างใดอย่างหนึ่งนี่แหละ
lip2@
ก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์กับบริษัทไหน ไปดูอู่ซ่อมรถก่อนนะคะว่าอู่ซ่อมรถแถวบ้านที่คุณมั่นใจว่าเขาซ่อมรถยนต์ดีนั้นน่ะเขารับซ่อมของบริษัทประกันไหนไว้บ้าง บางทีประกันภัยรถยนต์ดี บริษํทโอเค แต่อู่ซ่อมรถอาจจะไม่โอเคก็ได้นะ ที่บ้านก็ดูแบบนั้นเหมือนกัน เพราะกลัวว่าจะเจออู่ซ่อมรถที่ไม่ใส่ใจรถของลูกค้าน่ะค่ะ
-น้องเบสท์//
เปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้คุ้มก่อนจะตัดสินใจซื้อ มันก็ดีนะคะ แต่ว่าอย่าใช้เวลานานเกินไปเดี๋ยวจะไม่ได้ซื้อประกันกันพอดี ทำอย่างที่บทความนี้แนะนำน่าจะได้ประกันภัยรถยนต์แบบที่คุ้มค่านะ เราว่าลองถามคนที่เคยซื้อประกันภัยรถยนต์ด้วยก็ดี เผื่อว่าเขาจะมีคำแนะนำเพิ่มเติม ที่แน่ๆจะได้รีวิวจากประสบการณ์จริงด้วยนะคะ