ใครที่มีลูกฟังทางนี้เลยค่ะ คุณรู้หรือไม่นอกจากค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูกพื้นฐานอย่างเช่น เรื่องค่านม ค่าเสื้อผ้า ค่าเทอม ค่ายารักษาโรคของลูกน้อย แล้วยังมีค่าใช้จ่ายอะไรอีกคะที่คุณอาจจะยังนึกไม่ถึง ก็ค่าดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของลูกน้อยของคุณนั่นไงที่คุณต้องเอาใจใส่ด้วย สุขภาพช่องปากของเด็กนั้นกลายเป็นสิ่งที่พ่อแม่หลายคนปล่อยปละละเลยไม่สนใจใส่ใจ จนทำให้เราพบเห็นบ่อยๆว่าเด็กอายุประมาณ 1 – 2 ขวบนั้นฟันผุทั้งแผงไปแล้ว แต่ถ้าวันนี้คุณที่เป็นพ่อแม่ได้อ่านบทความนี้แล้วคุณก็เริ่มหันมาสนใจดูแลรักษาฟันให้ลูกน้อยของคุณได้แล้วนะคะ เพราะการดูแลรักษาฟันของลูกตั้งแต่ยังเล็กจะช่วยให้เขามีสุขภาพฟันที่แข็งแรงไม่มีฟันผุและฟันน้ำนมก็หลุดออกในเวลาที่สมควรพร้อมๆกับเป็นการรักษาเหงือกให้แข็งแรงพร้อมตอนที่ฟันแท้กำลังจะขึ้นด้วยค่ะ

แต่โดยส่วนมากแล้วพ่อแม่อาจจะกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายของการดูแลรักษาฟันของลูกก็ได้เมื่อเริ่มคิดถึงค่าใช้จ่ายก็เลยทำให้ไม่อยากจะพาลูกไปตรวจฟัน หรือทำฟันสักเท่าไหร่แต่จริงๆแล้วเมื่อมองเห็นว่าการดูแลรักษาฟันของลูกๆนั้นสำคัญอย่างไรคุณเองที่เป็นพ่อแม่ก็สามารถหาข้อมูลราคาค่าทำฟันของลูกจากโรงพยาบาลรัฐฯ และเอกชนได้ค่ะเพื่อทราบค่าใช้จ่ายเบื้องต้นก่อนแล้วเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนนี้ล่วงหน้าเอาไว้จะได้คลายความกังวลลงไปได้ บทความนี้จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวการทำฟันขอเด็กๆและค่าใช้จ่ายในการทำฟันทั้งในโรงพยาบาลรัฐฯ และเอกชนค่ะเพื่อคุณจะสามารถเลือกดูว่าแบบไหนเหมาะกับสภาพทางการเงินของครอบครัวมากที่สุดและจะได้เตรียมตัวสำหรับค่าใช้จ่ายตรงนั้นค่ะ บทความนี้มีเรื่องต่อไปนี้คือ เด็กๆเริ่มทำฟันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่? / ค่าทำฟันเด็กในโรงพยาบาลรัฐฯ / ค่าทำฟันเด็กในโรงพยาบาลเอกชน การหาข้อมูลเรื่องนี้จะช่วยให้คุณสามารถเอาใจใส่ดูแลลูกน้อยของคุณให้ครบทุกๆด้านอย่างมีคุณภาพโดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพลูกๆของคุณเพราะปัญหาช่องปากจะนำมาซึ่งโรคภัยและความเจ็บป่วยมากมายค่ะ

เด็กๆเริ่มทำฟันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

เด็กๆเริ่มทำฟันได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

สุขภาพช่องปากที่ดีของลูกน้อยมีผลต่อการเติบโตของเขาและมีผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมด้วยนะคะ ดังนั้นคุณทราบหรือไม่ว่าการทำฟันหรือตรวจเช็คสุขภาพฟันของลูกนั้นเริ่มต้นได้ตั้งแต่กี่ขวบ? คุณอาจจะแลกใจกับคำตอบที่ต้องบอกว่าสามารถดูแลสุขภาพช่องปากของลูกๆและพามาพบทันแพทย์ได้ตั้งแต่แรกเกิดเลยค่ะ คุณอาจจะสงสัยว่าแรกเกิดนั้นฟันของลูกยังไม่ขึ้นด้วยซ้ำแล้วจะดูแลอย่างไร? แต่สามารถดูแลได้ตั้งแต่ฟันซี่แรกของลูกยังไม่ขึ้นเนี่ยแหละค่ะดีแล้ว เพราะฟันจะแข็งแรงได้ต้องเริ่มจากเหงือกที่แข็งแรงก่อนเป็นเหมือนการเตรียมดินก่อนจะปลูกพืชผัก  การเตรียมเหงือกของลูกน้อยก่อนฟันซี่แรกจะขึ้นก็เช่นกันค่ะต้องดูแลอย่างดี และเมื่อฟันซี่แรกขึ้นก็ควรจะดูแลทำความสะอาดอย่างดีเพื่อไม่เกิดฟันผุค่ะเพราะเด็กจะเกิดฟันผุได้ง่ายมากๆและจะมีโอกาสฟันผุมากขึ้นเมื่ออายุ 1 ขวบขึ้นไปค่ะ ซึ่งถ้าไม่ได้รับการดูแลฟันอย่างดีตั้งแต่แรกก็จะเกิดฟันผุอย่างแน่นอนทำให้ฟันหลุกออกก่อนเวลามีผลต่อการรับประทานอาหารและส่งผลไปจนถึงการรับสารอาหารที่ไม่เพียงพอต่อการเติบโตค่ะ  อาจจะทำให้พ่อแม่ต้องเสียเงินกับการที่ลูกๆมีอาการปวดฟันจากฟันผุ หรือเสียเงินเพื่อถอนฟันที่ผุได้ค่ะ ดังนั้นการดูแลตั้งแต่เนิ่นดีที่สุดค่ะ จะช่วยป้องกันปัญหาฟันผุของลูกน้อยได้ค่ะ แล้วเพื่อที่พ่อแม่จะไม่เสียค่าใช้จ่ายไปเรื่อยๆเรื่องปัญหาฟันผุของลูก หรือเมื่อต้องเสียค่าใช้จ่ายเหล่านี้การรับการรักษาตรวจเช็คสุขภาพช่องปากของลูกน้อยในโรงพยาบาลรัฐฯ และเอกชนต่างกันอย่างไรมาอ่านกันต่อในหัวข้อต่อไปค่ะ

ค่าทำฟันเด็กๆในโรงพยาบาลรัฐบาล

ค่าทำฟันเด็กๆในโรงพยาบาลรัฐบาล

ค่าทำฟันเด็กในโรงพยาบาลรัฐบาลนั้นสามารถใช้สิทธิ์ได้สองแบบดังนี้คือ  สิทธิ์ข้าราชการ (ทำฟันในเวลาราชการ) : เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี สามารถทำฟันได้ทุกๆกรณี ยกเว้นเรื่องการจัดฟันจะคิดค่าเครื่องจัดฟันแบบถอดได้ที่มีราคาชิ้นละ 1,500 บาท เป็นเงิน 200 บาทแทนค่ะ  ส่วนการทำฟันในโรงพยาบาลรัฐบาลบางแห่งในเรื่องการเคลือบฟลูออไรด์ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์เบิกจ่ายได้ต้องจ่ายเอง ราคาอยู่ที่ประมาณ 300 – 400 บาทค่ะ 
 สิทธิ์บัตรทอง และประกันสังคม (ทำฟันในเวลาราชการ) : เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำฟันทุกๆกรณี เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่มีสิทธิ์ในบัตรทองสามารถเข้าไปตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่โรงพยาบาลรัฐบาลที่ต้องการไปติดต่อค่ะ มีข้อยกเว้นถ้าทำฟันครอบเหล็กไร้สนิมต้องชำระเงินเอง ซี่ละ 600 บาทค่ะ  https://www.amarinbabyandkids.com/parenting/toddler/price-dentist-kid/2/

ค่าทำฟันเด็กๆในโรงพยาบาลเอกชน

ค่าทำฟันเด็กๆในโรงพยาบาลเอกชน

ค่าทำฟันในโรงพยาบาลเอกชนก็ไม่มีการใช้สิทธิ์อะไรได้ทั้งนั้นจะเป็นการคิดราคาเต็มคล้ายกับการไปทำฟันที่คลินิก ซึ่งมีราคาดังต่อไปนี้ค่ะ

  • ถ่าย X – Ray ฟิล์มเล็ก ฟิล์มละ 100 – 400 บาท
  • เคลือบฟลูออไรด์ครั้งละ 400- 1,200 บาท
  • เคลือบหลุมร่องฟันซี่ละ 400 – 600 บาท
  • อุดฟันซี่ละ 300 – 2,000 บาท (ราคาจะแตกต่างกันตามวัสดุและขนาดของฟันที่ผุ)
  • รักษารากฟันหรือรักษโพรงประสาทฟันซี่ละ 1,500 – 3,000 บาท
  • ครอบฟันซี่ละ 1,500 – 10,000 บาท (ราคาแตกต่างกันตามวัสดุ คือ ครอบฟันเหล็กไร้สนิม / ครอบฟันเหล็กไร้สนิมร่วมกับอุดด้วยวัสดุสีเหมือนฟันปะเภทเรซิน / ครอบฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟันประเภทเรซินทั้งซี่ / หรือครอบฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน Zircronia
  • ถอนฟันซี่ละ 300 – 800 บาท
  • เครื่องกันที่ฟัน / เครื่องจัดฟันเบื้องต้น 2,500 7,000 บาท (แตกต่างกันตามประเภท) ปรับเครื่องจัดฟันครั้งละ 400 – 700 บาท

นี่เป็นเพียงค่าใช้จ่ายคร่าวๆในการทำฟันในโรงพยาบาลเอกชนซึ่งก็ไม่แพงมากสมราคาเพียงแต่ไม่สามารถใช้สิทธิ์ทำฟันฟรีได้ต้องจ่ายเอง และบางครั้งก็จะค่าใช้จ่ายเสริมเช่น ค่าแพทย์ ค่าฆ่าเชื้อเครื่องมือทันตกรรม ค่าฉีดยา ค่าใส่แผ่นยางกันน้ำลาย ค่าปรับพฤติกรรมเด็ก เป็นต้น  https://www.amarinbabyandkids.com/parenting/toddler/price-dentist-kid/2/

สุขภาพช่องปากของลูกน้อยสำคัญมากควรเอาใจใส่อย่างดี

สุขภาพช่องปากของลูกน้อยสำคัญมากควรเอาใจใส่อย่างดี

จากที่ได้อ่านบทความนี้คงทำให้พ่อแม่หลายคนทราบแล้วว่าค่าใช้จ่ายในการทำฟันของลูกน้อยนั้นก็สามารถวางแผนได้และเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องวางแผนเพราะจะมีผลต่อสุขภาพร่ายการโดยรวมของลูกๆค่ะ  ถ้าสภาพการเงินของคุณไม่ค่อยดีการเตรียมพร้อมเพื่อให้ลูกๆมีสิทธิ์ทำฟันฟรีกับโรงพยาบาลรัฐบาลก็จะดีมากถึงแม้จะมีข้องยกเว้นบางอย่างที่ต้องจ่ายเองแต่ก็ช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้หลายอย่าง แต่ถ้าใครมีสภาพทางการเงินที่ดีมากหน่อยการดูแลสุขภาพช่องปากของลูกๆโดยใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนก็เป็นทางเลือกที่ดีด้วยเพราะอาจจะได้รับการบริการที่ดีกว่าสำหรับการทำฟันของเด็กๆนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆถ้านึกถึงตอนเป็นเด็กการไปหาหมอฟันถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก แต่ในโรงพยาบาลเอกชนจะช่วยให้เด็กๆรู้สึกดีกว่าเพราะบรรยากาศและมีบริการปรับพฤติกรรมเด็กๆด้วยค่ะ ดังนั้นการทำฟันที่โรงพยาบาลเอกชนคุณเองก็สามารถใช้บริการได้ถ้าวางแผนการเงินส่วนนี้ไว้ล่วงหน้าสำหรับลูกน้อยของคุณค่ะ เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนคงอยากเลือกสิ่งที่ดีให้ลูกอยู่แล้วเพื่อลูกๆจะได้สิ่งที่ดีพ่อแม่ต้องวางแผนการเงินอย่างดีนะคะการทำฟันของลูกๆก็เป็นส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายที่ต้องวางแผนและสุขภาพปากและฟันของลูกๆก็เป็นเรื่องสำคัญมากค่ะที่พ่อแม่จะลงทุน