ค่าเงินบาทแข็งตัวมีผลกระทบต่อกับการเงินของคนไทยอย่างไรบ้าง?

เราคนไทยใช้เงินที่เรียกว่าบาท หรือสกุลเงินบาทกัน ซึ่งในช่วงนี้เงินบาทที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนั้นมีการแข็งตัวเรียกว่าค่าเงินบาทแข็งตัว ซึ่งเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นประมาณ 7.5% เมื่อทำการเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเป็นปรากฎการค่าเงินบาทแข็งตัวที่เร็วและมากที่สุดในเอเชีย และแข็งค่าเป็นอันดับต้นๆสกุลหนึ่งของโลกเลยทีเดียว และนั้นทำให้เกิดคำถามขึ้นว่ามันจะมีผลกระทบอย่างไรถ้าหากเกิดค่าเงินบาทแข็งตัวเป็นเวลานานๆ นำไปสู่เนื้อเรื่องของบทความในวันนี้ที่จะมาพูดกันถึงสิ่งที่จะถูกกระทบหากค่าเงินบาทแข็งตัว

ผลกระทบที่มีต่อค่าใช้จ่ายซื้อสินค้า และผู้ประกอบการ

ค่าเงินบาทแข็งตัวส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและผู้ประกอบการอย่างไร แน่นอนว่าทุกคนรู้เรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและการที่ค่าเงินบาทแข็งตัวมีผลกระทบโดยตรงกับเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะกับเรื่องของสินค้านำเข้า เพราะถ้าหากค่าเงินในประเทศผู้ที่นำเข้าสินค้า เกิดการแข็งค่าขึ้น อย่างบ้านเราในตอนนี้ ราคาของสินค้าที่จะนำเข้ามาก็จะต้องถูกปรับราคาน้อยลง นั้นก็หมายความได้ว่าถ้าหากซื้อสินค้าเหมือนเดิมแต่จะได้ราคาสินค้าที่ถูกลง ส่วนนี้ผู้ประกอบการเกี่ยวกับสินค้านำเข้าจะได้เปรียบเมื่ออยู่ในประเทศที่มีค่าเงินแข็งตัวอย่างเช่นบ้านเราในตอนนี้ที่ค่าเงินบาทแข็งตัว เพราะธุรกิจที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบหรือเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตจากต่างประเทศจะสามารถซื้อของเหล่านี้ได้ถูกลง ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง แต่ก็ตรงกันข้ามกับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจส่งออกจะเสียเปรียบ เพราะจากที่เคยได้รายได้และผลกำไรจากการส่งออกก็จะได้รายได้และผลกำไรลดลง และเมื่อมีรายได้ลดลงผู้ประกอบการอาจจะคิดที่จะตัดสินใจลดกำลังการผลิต และ จะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานอย่างที่เราเห็นในข่าวว่ามีการปิดตัวของโรงงานไปแล้วหลายแห่ง สาเหตุก็มาจากค่าเงินบาทแข็งตัว

ผลกระทบที่มีต่ออัตราเงินเฟ้อ

เงินเฟ้อหรือมูลค่าของเงินน้อยลง แน่นอนว่าสิ่งนี้ก็ได้รับผลกระทบมากจากเรื่องของค่าเงินบาทแข็งตัวและอ่อนตัวด้วยเหมือนกัน มาดูกันที่สมมุติค่าเงินอ่อนตัวกันก่อน ถ้าค่าเงินอ่อนตัวจะกระทบกับอัตราเงินเฟ้อทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และถ้ามีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นทางธนาคารกลางก็คงจะต้องตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อที่จะรับมือกับภาวะอัตราเงินเฟ้อและเพื่อป้องกันไม่ให้ค่าเงินอ่อนค่าลงไปมากกว่าเดิม ซึ่งผลกระทบเกี่ยวกับเงินเฟ้อถ้าค่าเงินแข็งค่าขึ้นก็มีผลตรงกันข้ามกับค่าเงินอ่อนตัว คือ จะทำให้สามารถที่จะกดดันอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำและส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่ถ้าในกรณีที่เกิดค่าเงินแข็งตัวรวดเร็วเกินไปก็จะทำให้เกิดปัญหาอย่างการขาดเสถียรภาพทางการเงิน และถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น เครื่องมือที่จะสามารถรับมือกับสถานการณ์นั้นได้ดีก็คงจะต้องเป็น การใช้นโยบายการเงินด้วยการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ในระดับต่ำเอาไว้ เพื่อที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวและทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มสูงขึ้น

ผลกระทบที่มีต่อดอกเบี้ยของเงินฝากและเงินกู้

เมื่อค่าเงินเกิดการแข็งค่าขึ้น อย่างรวดเร็วเหมือนที่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้และเป็นระยะเวลานาน นั้นก็อย่างที่บอกไปในหัวข้อก่อนหน้านี้ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทางธนาคารกลางจะต้องทำการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ในระดับต่ำไว้ นั้นทำให้กระทบกับต้นทุนทางการเงินของสถาบันการเงินเพราะมันทำให้ต้นทุนของสถาบันการเงินนั้นลดลงตามไปด้วย และเนื่องจากทางธนาคารกลางทำการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำทำให้ทางสถาบันการเงินทั้งหลายสามารถที่จะลดอัตราดอกเบี้ยของเงินฝากและเงินกู้ตามไปด้วย ซึ่งเป็นผลกระทบที่ทำให้ผู้ประกอบการมีแรงจูงใจในการกู้ยืมเพิ่มมากขึ้นเพื่อที่จะนำเงินกู้เหล่านั้นไปลงทุน แต่ในขณะเดียวกันเรื่องของดอกเบี้ยเงินฝากก็ถูกปรับให้ต่ำลงเหมือนกันทำให้คนคิดที่จะหาทางลงทุนมากขึ้น เช่นการ เป็นสมัครกองทุน ลงทุนในตราสารหนี้ หุ้น หรืออื่นๆ ซึ่งให้อัตราดอกเบี้ยที่มากกว่า เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยในอีกทางหนึ่ง

ผลกระทบที่มีต่อพอร์ตการลงทุน

การลงทุนถูกกระทบจากค่าเงินบาทแข็งตัว กับ บริษัทที่ฐานรายได้ในรูปสกุลเงินดอลลาร์และมีบริษัทย่อยอยู่ในต่างประเทศ สาเหตุที่กระทบเพราะนำรายได้ที่มาในรูปของสกุลเงินดอลลาร์มาแลกเป็นเงินไทยค่าของเงินก็จะถูกลดลง ซึ่งนั้นส่งผลต่อรายได้และกำไรของบริษัทดังกล่าว และ ถ้าพูดถึงบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์การที่ค่าเงินบาทแข็งตัวก็ถูกกระทบด้วยเหมือนกัน ถ้าประเมินแล้วจากการที่ค่าเงินบาทแข็งตัว บริษัทหรือธุรกิจนำเข้าส่งออกที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์อาจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของราคาหุ้น และถ้าราคาหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงจุดนั้นแหละครับที่จะทำให้กระทบกับการลงทุน

ค่าเงินบาทแข็งตัวมีผลกระทบในมุมกว้าง

จากที่ข้อมูลที่ผมได้นำมาเสนอในบทความนี้ให้เพื่อนๆอ่านจะเห็นได้ว่า การที่ค่าเงินมีการแข็งตัวขึ้นนั้นส่งผลกระทบกับหลายๆอย่างในมุมกว้าง และในตอนนี้ค่าเงินบาทในบ้านเราก็มีการแข็งตัวและแข็งตัวอย่างรวดเร็วสักด้วยแข็งค่าขึ้นประมาณ 7.5% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ มาสรุปกันนิดหน่อยนะครับว่าการที่ค่าเงินบาทแข็งตัวในบ้านเรานั้นส่งผลกระทบกับอะไรบ้าง โดยในบทความนี้ที่ผมนำมาให้เพื่อนๆอ่านกัน การที่ค่าเงินบาทแข็งตัวมีผลกระทบอยู่ด้วยกัน 5 อย่าง

อย่างที่หนึ่ง กระทบกับค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้า ถ้าค่าเงินแข็งตัวการซื้อสินค้าที่มีการนำเข้ามาจะมีราคาที่ถูกลง

อย่างที่สอง กระทบกับผู้ประกอบการ ผู้ประกอบการในที่นี้หมายถึงผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้าและส่งออก สำหรับผู้ประกอบการนำเข้าการที่ค่าเงินแข็งตัวก็ส่งผลดี แต่กับผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกการที่ค่าเงินแข็งตัวก็ส่งผลเสีย

อย่างที่สาม อันตราเงินเฟ้อ การที่ค่าเงินแข็งตัว ทำให้ทางธนาคารกลางสามารถที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ แต่ถ้าค่าเงินเกิดการแข็งตัวรวดเร็วและดูแนวโน้มว่าจะแข็งค่าต่อไปเรื่อยๆ ทางธนาคารกลางก็จะต้องมีการปรับนโยบายอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำเอาไว้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

อย่างที่สี่ กระทบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ หลังจากที่ทางธนาคารกลางปรับนโยบายอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำ ทำให้สถาบันการเงินต่างๆก็มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามไปด้วยเพื่อที่จะให้ผู้คนหันมาสนใจที่จะกู้เงิน และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากก็ถูกปรับให้ต่ำลงไปด้วยเพื่อกระตุ้นให้คนนำเงินที่ฝากไปลงทุนแทน

อย่างสุดท้ายอย่างที่ห้า กระทบต่อพอร์ตการลงทุน หมายถึงกระทบต่อนักเล่นหุ้นเพราะบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์มักมีสาขาย่อยอยู่ในต่างประเทศและมีรายได้และกำไรเป็นเงินสกุลดอลลาร์และเมื่อค่าเงินบาทแข็งตัวการที่จะนำรายได้หรือกำไรนั้นกลับมาเป็นเงินไทยก็จะได้มูลค่าน้อยลงทำให้มีผลส่งไปถึงราคาของหุ้นด้วย ผมหวังว่าข้อมูลทั้งที่นำมาใหกับเพื่อนๆได้อ่านะเป็นประโยนช์ไม่มากก็น้อยนะครับ