10 เหตุผลทำไมถึงต้องทำประกันชีวิต

ในอดีตเมื่อเราพูดถึงคำว่า “ประกันชีวิต” คนไทยส่วนใหญ่ในตอนนั้นยังคงขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง และไม่เห็นความสำคัญที่แท้จริงว่ามีความสำคัญอย่างไร มองการซื้อประกันชีวิตนั้นเป็นการสาปแช่งตัวเองให้มีอันเป็นไป แต่เมื่อยุคสมัยได้เปลี่ยนไปการรับรู้ข่าวสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น อีกทั้งความรู้ต่างๆก็ยังสามารถหาดูหาอ่านกันได้ง่ายขึ้น ความเข้าใจในเรื่องของประกันชีวิตของผู้คนในยุคนี้จึงถูกเปลี่ยนไปเป็นแบบที่มีความเข้าใจที่ถูกต้องมากขึ้น มุมมองของผู้คนสมัยนี้จึงเปิดใจ มองเห็นประโยชน์และเห็นถึงความสำคัญของประกันชีวิตกันมากขึ้นตามไปด้วย แต่ก็ยังมีผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังคงไม่มีความเข้าใจในแบบที่ถูกต้อง และเห็นถึงประโยชน์ของการทำประกันชีวิต หรือรู้ดีถึงประโยชน์ของประกันชีวิตแล้ว แต่ยังคงไม่ได้ให้ความสำคัญที่จะทำประกันชีวิต ฯลฯ

เพื่อนๆทราบกันไหมคะว่าประชากรของประเทศญี่ปุ่นนั้นทำประกันชีวิตกันเยอะจนถึงขั้นติดอันดับต้นๆของโลก (ข้อมูลจาก http://insurance.whereis.center/2014/04/blog-post.html) ข้อมูลนี้บ่งบอกถึงว่าประชากรของประเทศญี่ปุ่นนั้นตระหนักและให้ความสำคัญในเรื่องของชีวิตและสุขภาพของพวกเขาค่ะ แล้วเพราะสาเหตุใดทำไมประเทศที่เจริญก้าวหน้าอย่างประเทศญี่ปุ่น ประชากรของเขาจึงให้ความสำคัญกับการทำประกันชีวิต? นั่นแสดงว่าประกันชีวิตจะต้องมีอะไรดีแน่ๆ แล้วประกันชีวิตมีดีอะไรล่ะ? วันนี้เราจะมาเจาะข้อมูลเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับประกันชีวิตกันค่ะ กับ “10 เหตุผลทำไมถึงต้องทำประกันชีวิต” ที่เพื่อนๆได้อ่านกันแล้วจะรู้และเข้าใจถึงข้อดีของการทำประกันชีวิตกันได้ลึกซึ้งมากขึ้น ขอเรามาติดตามอ่านไปพร้อมๆกันได้เลยค่ะ

1.ทำให้รู้สึกปลอดภัย

เพื่อนๆเคยคิดไหมคะว่าชีวิตประจำวันในทุกๆย่างก้าวของเรานั้น เราทุกคนต่างเดินอยู่บนความเสี่ยงตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าเราจะเดินทางไปทำงาน ไปเรียน ไปตลาด ไปเที่ยว นั่งกินอาหาร เข้าห้องน้ำ นั่งพักผ่อน หรือแม้กระทั่งระหว่างที่เรากำลังหลับสนิทอยู่ ในทุกๆกิจกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันนั้นอาจมีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับเราได้ทุกๆเมื่อ การที่เรามีประกันชีวิตนั้นจึงช่วยให้เรารู้สึกปลอดภัยในการใช้ชีวิตมากขึ้น แต่เพื่อนๆคงจะอดสงสัยไม่ได้ว่าแล้วประกันชีวิตจะทำให้เรารู้สึกปลอดภัยได้อย่างไร? ใช่ไหมคะ ประกันชีวิตไม่ได้ทำให้ความเสี่ยงในชีวิตประจำวันของเราลดลงหรอกค่ะ แต่ช่วยให้เรารู้สึกอบอุ่นใจในการใช้ชีวิตในแต่ละวันที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนค่ะ เพราะในเมื่อความไม่แน่นอนในแต่ละวันนั้นไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจะต้องเจอกับอะไร และเมื่อไหร่ ประกันชีวิตจึงเป็นตัวการันตีให้เราอุ่นใจได้ว่า ไม่ว่าเราจะต้องเจออะไร เมื่อไหร่ก็ตามชีวิตของเรานั้นก็จะมีอะไรมารองรับ ไม่เจ็บตัวฟรี ไม่สูญเปล่าแน่ๆค่ะ นี่จึงเป็นที่มาของประกันชีวิตที่บอกว่า ทำให้รู้สึกปลอดภัย นั่นเองค่ะ

2.เงินชดเชยหากเสียชีวิต

เป็นสิ่งที่แน่นอนว่าคนเราทุกคนหลีกหนีไม่พ้นความตาย ไม่ว่าจะด้วยชราภาพ เจ็บป่วย อุบัติเหตุ ก็ล้วนแต่เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการสูญเสียของคนในครอบครัวค่ะ ซึ่งการสูญเสียนี้เป็นเรื่องที่เราทุกคนต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าไม่มีใครอยากให้เกิด และก็เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหลีกหนีได้พ้นอีกด้วย แต่ในวันนี้เราสามารถกำหนดได้ด้วยตัวเองกับการทำประกันชีวิตค่ะว่าจะให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้วคนที่เรารักต้องมาเดือดร้อน หรือแบบไม่ต้องเดือดร้อน หรือจะอธิบายง่ายๆคือ ไม่ว่าเหตุการณ์ใดจะมาพรากชีวิตไปก็ตาม การที่เราทำประกันชีวิตจะช่วยให้คนที่เรารักและห่วงใยไม่ต้องถูกซ้ำเติมด้วยภาระค่าใช้จ่ายของเราที่ไปตกเป็นภาระให้กับพวกเขาอย่างแน่นอนค่ะ ด้วยผลประโยชน์จาก “เงินชดเชยหากเสียชีวิต” ที่เป็นเงินก้อนจำนวนหนึ่งซึ่งถูกเรียกว่า “ทุนประกัน” นั้นจะถูกส่งถึงมือให้กับคนที่เรารักแบบที่เราหมดห่วงได้เลยว่า พวกเขาจะไม่ต้องเดือดร้อนในวันที่เราไม่อยู่ในโลกนี้แล้วแน่ๆค่ะ

3.มีเงินใช้หลังเกษียณ

หลายคนอาจเข้าใจว่าการทำประกันชีวิตมีประโยชน์ไว้เพื่อเป็นมรดกให้คนที่เรารักเพียงแค่นั้น เหมือนกับประโยคที่ว่า “คนทำไม่ได้ใช้ และคนใช้ก็ไม่ได้ทำ” แต่ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของประกันชีวิตนั้นมีมากมายหลายแบบให้เลือกเพื่อตอบสนองความต้องการของผู่บริโภคให้ได้ตรงจุดมากที่สุด และหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของประกันชีวิตในปัจจุบันจึงมีแบบ “ประกันชีวิตแบบบำนาญ” เกิดขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้คนค่ะ ประกันชีวิตแบบบำนาญ จึงตอบโจทย์ของผู้คนในยุคนี้ในการวางแผนการเกษียณค่ะ แต่จะดีกว่าการวางแผนการเกษียณในรูปแบบอื่นๆตรงที่นอกจากเป็นการเก็บเงินเพื่อเกษียณแล้วก็ยังได้รับความคุ้มครองชีวิตไปในตัวอีกด้วยค่ะ นั่นคือหากยังมีชีวิตอยู่ก็จะมีเงินใช้หลังเกษียณอย่างแน่นอน หรือหากเสียชีวิตในช่วงใดๆก็ตาม เงิน (ทุนประกัน) จะถูกส่งมอบให้กับคนที่เรารักเป็นมรดกได้ในทันทีเลยค่ะ จึงนับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับการวางแผนการเกษียณที่ดีอีกทางเลือกหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ

4.สอนให้เราวางแผนอย่างเป็นระบบ

การทำประกันชีวิตนอกจากจะเราจะได้ประโยชน์ตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น แม้แต่เรื่องการชำระเบี้ยประกันชีวิตที่เป็นเรื่องที่ทำให้คนเรารู้สึกเบื่อหน่ายก็ยังจะสร้างประโยชน์ให้แก่เราไปในตัวอีกด้วยค่ะ เพื่อนๆพอทราบกันไหมคะว่าการชำระเบี้ยประกันนั้นสร้างประโยชน์กับเรายังไง? การชำระเบี้ยประกันที่ตรงต่อเวลานั้น เป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันที่ต้องรับผิดชอบเองค่ะ จึงเป็นการฝึกวินัยแบบต่อเนื่องสม่ำเสมอให้กับตัวเราเองในระยะยาว และเป็นการช่วยสอนให้เราวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบมากขึ้นอีกด้วย เพราะเราต้องคอยจัดสรรรายได้ที่เข้ามาในแต่ละเดือนให้ลงตัวให้ได้ว่ากองไหนสำหรับค่าอะไร กองไหนสำหรับทำอะไรให้เป็นสัดเป็นส่วนได้อย่างเป็นระบบมากขึ้นค่ะ

5.หมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล

การทำประกันชีวิตยังสามารถให้เราได้เลือกความคุ้มครองที่เพิ่มเติมขึ้นได้อีกด้วยค่ะ ในทีนี้จะขอกล่าวถึงความคุ้มครองเพิ่มเติมที่เราสามารถเลือกความคุ้มครองให้ตัวเองได้ในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลค่ะ เพราะในปัจจุบันที่เป็นที่ทราบกันดีว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลแต่ละที่นั้นสูงเพิ่มขึ้นทุกวัน มากเสียจนบางคนอาจถึงขั้นหมดเงินเก็บที่มีไปเพื่อการรักษาตัวเอง หรือบางคนอาจถึงขั้นต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นไปก่อน แต่หากเราได้ทำประกันชีวิตและได้เลือกความคุ้มครองเพิ่มเติมในส่วนของค่ารักษาพยาบาลนี้ การใช้ชีวิตในทุกๆวันของเราก็จะยิ่งเพิ่มความอบอุ่นใจมากขึ้นได้อย่างชัดเจนเลยล่ะค่ะ เพราะไม่ว่าเราจะเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม เราก็จะหมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลไปได้เลย ซึ่งจากข้อดีตรงนี้ก็จะช่วยให้เงินเก็บออมของเรายังอยู่ครบ ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาจ่ายค่ารักษา หรือตกเป็นภาระค่าใช้จ่ายให้คนในครอบครัวต้องมาแบกรับให้เดือดร้อนกันเลยค่ะ

6.ลดหย่อนภาษีได้

การทำประกันชีวิตนอกจากจะมีข้อดีมากมายกับเราดังที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นแล้ว ข้อดีถัดมาซึ่งเป็นแรงจูงใจให้บรรดาเพื่อนๆที่มีรายได้สูงทั้งหลายหันมาทำกันมากขึ้นนั่นก็คือ การได้รับประโยชน์จากการทำประกันในเรื่องของ “การลดหย่อนภาษี”ได้นั่นเองค่ะ ซึ่งนอกจากเราจะได้ความคุ้มครองชีวิต มีสวัสดิการ มีเงินออมการเกษียณ มีมรดกแล้วนั้นยังช่วยให้เราได้รับเงินคืนภาษีกลับใส่ลงกระเป๋าในแต่ละปีได้อีกด้วยนะคะ เนื่องจากรัฐบาลเองก็เห็นดีด้วยว่าการทำประกันชีวิตนั้นมีความสำคัญ จึงให้การสนับสนุนโดยการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนผู้รายได้ที่ต้องเสียภาษีนั้นสามารถนำเบี้ยประกันมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีประจำปีได้ค่ะ ในส่วนของข้อดีของการทำประกันชีวิตยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ ยังจะมีข้อดีอีกมากมายที่เราจะมาดูกันต่อๆไป ขอเชิญติดตามกันต่อได้เลยค่ะ

7.ช่วยออมเงิน

การทำประกันชีวิตในทุกๆวันนี้เป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น เพราะคนในทุกวันนี้ศึกษาข้อมูล และเป็นที่เข้าใจว่าการทำประกันนั้นเกิดประโยชน์อย่างมากมายกับตัวผู้ทำประกัน อีกทั้งยังมองเห็นถึงข้อดีว่าเป็นการออมเงินในรูปแบบหนึ่งที่มีความมั่นคงและให้ผลตอบแทนแบบแน่นอนอีกด้วย เนื่องจากข้อดีที่มีมากมายของการทำประกันชีวิตในทุกวันนี้หลายๆคน ในทุกเพศ ทุกวัยจึงหันมาออมเงินผ่านประกันชีวิตกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ของการออมเงินมาแทนที่การฝากธนาคารในรูปแบบเดิมๆกันค่ะ

8.เพิ่มความน่าเชื่อถือ

ในปัจจุบันนี้การทำประกันชีวิตยังสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวผู้ทำประกันอีกด้วยนะคะ ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่เราไปขอสินเชื่อเพื่อทำการซื้อบ้านสักหลังนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าการผ่อนค่างวดนั้นมีระยะเวลายาวนานมากถึงขั้นแทบจะตลอดอายุงานที่มีของเราเลยเทีเดียว การที่เรามีประกันชีวิตจึงเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือของเราเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับธนาคารในการช่วยให้การอนุมัติวงเงินกู้ในการผ่อนบ้านให้เป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้น  เพราะไม่ว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันใดๆขึ้นกับผู้กู้ก็ตาม ทางธนาคารก็จะได้รับเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยคืนเต็มจำนวนจากทางบริษัทประกันอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การยื่นขอกู้ของเราสามารถอนุมัติได้ง่ายขึ้น เพราะธนาคารเกิดความมั่นใจในตัวเรามากขึ้นนั่นเองค่ะ

9.วิธีใหม่ของการแสดงความรัก

อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่าในอดีตคนเรามองว่าการทำประกันเป็นเรื่องของการแช่ง แต่ในปัจจุบันความเข้าใจที่มีมากขึ้นทำให้มุมมองของการทำประกันนั้นถูกเปลี่ยนไปชนิดที่ตรงกันข้ามเลยล่ะค่ะ เพราะในปัจจุบันการทำประกันให้ใครสักคนนั้นเป็นการบ่งบอกถึงความรักความห่วงใยที่เรามีให้ค่ะ เป็นการออมเงินให้กับพวกเขา สร้างสวัสดิการให้กับพวกเขา ฉะนั้นการทำประกันชีวิตจึงเป็นตัวแทนและเป็น ”วิธีการใหม่ของการแสดงความรัก” อีกอย่างหนึ่งของเราที่แสดงออกมาให้กับคนที่เรารักได้อย่างเป็นรูปธรรมที่ดีอีกอย่างหนึ่งด้วยค่ะ

10.ปลอดภัยกว่าการลงทุนหุ้น

การทำประกันชีวิตนั้นอาจไม่ได้ผลตอบแทนที่มากมายจนน่าพอใจเหมือนกับการลงทุนในตลาดหุ้น เป็นเพราะชีวิตของคนเราไม่สามารถนำมาประเมินเป็นมูลค่าได้ จึงไม่ใช่เป็นการลงทุนเพื่อหวังผลกำไรค่ะ แต่การทำประกันชีวิตจึงถือเป็นทางเลือกในการออมรูปแบบหนึ่งที่มีความเสี่ยงต่ำมาก และได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน ซึ่งหากคุณเองลงทุนในหุ้นอยู่แล้วนั้น การทำประกันชีวิตจึงเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงที่ปลอดภัยกว่าการลงทุนหุ้น และยังข้อดีมากมายที่ให้คุณได้ในสิ่งที่ตลาดหุ้นไม่มีให้ค่ะ

ดีๆแบบนี้ ไม่มีไม่ได้แล้ว

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ “10 เหตุผลทำไมถึงต้องทำประกันชีวิต” คงทำให้เพื่อนได้มองเห็นถึงความสำคัญของการทำประกันชีวิตกันได้มากขึ้นนะคะ เมื่อเราได้เห็นข้อดีต่างๆมากมายของการทำประกันชีวิตแล้ว ก็อย่ามัวลังเลใจต่อไปเลยค่ะ รีบมองหาบริษัทประกันที่เราชอบ และขอคำแนะนำจากทางตัวแทนในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการ และตอบโจทย์ในทุกๆข้อของคุณตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ