ในปัจจุบันที่ความฝันของใครหลายๆคน คือ การได้เป็นนายตัวเองกำลังมาแรงไม่ว่าใครที่ไหนตอนนี้ก็ อยากที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจส่วนตัว หรือ บางคนก็มีธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้วก็อยากที่จะมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งความฝันที่จะเรียนจบหางานประจำทำในปัจจุบันนั้นมีน้อยลงทุกวันๆซึ่งธุรกิจส่วนตัวหรือเส้นทางนายตัวเองนั้น จุดเริ่มต้นก็มาจากความคิดและริเริ่มลงมือทำทำตามความคิด ส่วนใครจะประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จ ประสบความสำเร็จน้อยประสบความสำเร็จมาก ก็ขึ้นอยู่กับความคิดของเพื่อนๆเอง

แต่สิ่งที่จะทำให้มันเกิดขึ้นได้ คือ การเริ่มลงมือทำ และธุรกิจที่จะทำให้เพื่อนๆได้เดินบนเส้นทางนายตัวเองในปัจจุบันนั้นก็มีมากมายหลากหลายอย่าง และธุรกิจที่ผมจะมาพูดถึงในบทความนี้ถ้าเพื่อนๆได้อ่านหัวเรื่องไปแล้วก็น่าจะรู้แล้วว่ามัน คือ ธุรกิจอะไร ใช่แล้วครับ มันคือ ธุรกิจ การขายเสื้อผ้าออนไลน์ ซึ่งเรื่องที่เราจะมาพูดถึงกันก็ คือ รูปแบบวิธีการทำงานแต่ละอย่างของผู้เป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มีวิธีไหนบ้างและมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรในวิธีนั้นๆ เพื่อจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับเพื่อนๆที่ยังไม่ได้คิดว่าอยากจะทำธุรกิจอะไรเพื่อเป็นนายตัวเองได้ลองศึกษาข้อมูลธุรกิจนี้ดุก่อน

รับเสื้อผ้ามาขาย

รับเสื้อผ้ามาขาย

วิธีแรกเลยเป็นวิธีเบๆหรือธรรมดามากๆของพ่อค้าแม่ค้าขายเสื้อผ้าทั้งที่ขายในโลกออนไลน์และไม่ได้ขายในโลกออนไลน์ก็ใช้วิธีนี้กันเป็นส่วนใหญ่ นั้นคือ การรับเสื้อผ้ามาแล้วก็ขาย จริงๆมันก็เป็นหลักการง่ายของการขายของอยู่เหมือนกัน คือ การรับมาขายไปเป็นพิ้นฐานของธุรกิจจำพวกการขายของ ซึ่งการที่จะได้กำไรจากวิธีนี้ คือ การที่พ่อค้าแม่ค้าจะต้องไปหาแหล่งเสื้อผ้าที่ตัวเองอยากจะขายที่มีการขายเป็นราคาส่ง โดยที่พ่อค้าแม่ค้าจะสามารถซื้อเสื้อผ้าเหล่านั้นได้ในราคาส่งก็คือการซื้อในจำนวนมาก ซึ่งนั้นจึงเป็นที่มาของการสต๊อกของที่เราจะมักจะเห็นร้านค้าจริงๆไม่ว่าจะขายอะไรก็ตามมักจะมีการสต๊อกของเพราะการซื้อที่ละจำนวนมากๆมักจะได้ราคาที่ถูกกว่าการซื้อแค่ 1 - 2  ชิ้นอยู่แล้ว และปัจจุบันที่มีช่องทางออนไลน์ก็ทำให้มีร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ที่ขายส่งมาเปิดร้านในโลกออนไลน์เหมือนกันทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์นั้นสะดวกในการเลือกซื้อเสื้อผ้ามากขึ้นโดยไม่ต้องเดินทางไปถึงแหล่งเหมือนกับในสมัยก่อนแล้ว

ซึ่งข้อดีของวิธีการรับเสื้อผ้ามาแล้วขายไปนั้นก็มีข้อดีอยู่ที่ว่า พ่อค้าแม่ค้าจะสามารถได้สินค้าที่ถูกใจลูกค้า และรู้ว่าเสื้อผ้าแบบไหนที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมถ้าสั่งมาจะต้องขายดี พ่อค้าแม่ค้าก็สามารถที่จะเลือกเสื้อผ้าเหล่านั้นมาขายได้ทำให้ร้านของพ่อค้าแม่ค้าเหล่านั้นก็จะขายดีเป็นเทน้ำเททากันเลยทีเดียว

ส่วนข้อเสียของวิธีการรับเสื้อผ้ามาแล้วขายไป ก็คือ สินค้าที่ได้รับความนิยมมากๆจะไม่สามารถหามาได้ง่ายๆเนื่องจากขายดีจนขาดตลาดผลิตไม่ทัน ซึ่งการที่จะมีเสื้อผ้าขายดีเหล่านั้นได้ก็คือจะต้องมีเงินลงทุนในการซื้อเสื้อผ้าเหล่านั้นมาสต๊อกของก่อนที่เสื้อผ้าเหล่านั้นจะได้รับความนิยม ซึ่งมันก็เป็นเหมือนดาบสองคม คือถ้าเสื้อผ้าตัวนั้นได้รับความนิยมมันก็ขายหมดถ้าเสื้อผ้าตัวนั้นที่สต๊อกไว้ดันไม่ได้รับความนิยมก็จะขายไม่หมดจนทำให้เรามักจะเห็นการขายลดล้างสต๊อกกันบ่อยๆของร้านขายของ

เปิดรับพรีออเดอร์

เปิดรับพรีออเดอร์

วิธีที่สอง เป็นวิธีที่ตอนนี้ถือว่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ในโลกออนไลน์กำลังนิยมทำกันมากที่สุด นั้นก็คือ การเปิดพรีออเดอร์ การเปิดพรีออเดอร์คืออะไร? การเปิดพรีออเดอร์เป็นการที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทำตัวเองเป็นคนกลางของการประสานงานระหว่างลูกค้าและผู้ผลิตหรือเรียกว่าร้านขายส่ง โดยอันดับแรก พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะต้องไปหาแหล่งขายเสื้อผ้าส่งและทำการตกลงกับทางร้านว่าต้องการจะขายเสื้อผ้าตัวนี้แบบนี้และทำการถ่ายรูปไปลงในช่องทางออนไลน์ของตนเองและเมื่อมีลูกค้าสนใจสั่งเสื้อผ้ากับทางพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เหล่านั้นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็จะทำการไปสั่งที่ทางร้านขายส่งตามออเดอร์ที่ได้รับมาให้ทำการจัดส่งไปยังที่อยู่ของลูกค้าที่ออเดอร์มากับทางเราโดยมีการหักเปอร์เซ็นเอาเป็นกำไรส่วนต่าง ซึ่งราคาที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ตกลงกับทางร้านขายส่งนั้นก็จะมีราคาที่ต่างจากที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เอาไปลงไว้ในช่องทางออนไลน์ของตัวเองในส่วนตรงนั้นแหละที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เหล่านี้ได้กำไร ซึ่งวิธีนี้ก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่เหมือนกัน

ข้อดีของวิธีการเปิดพรีออเดอร์ คือ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องลงทุนในการสั่งซื้อเสื้อผ้าหรือการสต๊อกของคือสามารถที่จะเป็นพ่อค้าแม่ค้าได้โดยที่ไม่ต้องลงทุน ใช้เพียงแค่ทักษะการเจรจาและรูปถ่ายที่นำไปลงในช่องทางออนไลน์ของตัวเองแค่นี้ก็สามารถที่จะการขายเสื้อผ้าออนไลน์ได้แล้ว

ข้อเสียของการเปิดพรีออเดอร์ คือ  การเปิดพรีออเดอร์นั้นยากที่จะควบคุมอะไรหลายๆอย่างทั้งเรื่องของระยะเวลาในการจัดส่งสินค้าเพราะตัวเองไม่ได้เป็นคนจัดส่งแค่ทำการติดต่อเพียงเท่านั้น และเรื่องของคุณภาพสินค้าก็เช่นกันก็ไม่สามารถที่จะควบคุมได้ให้มีคุณภาพ 100% เพราะตัวเองไม่ได้เป็นคนเลือกสินค้าแพ๊คส่ง นั้นทำให้ส่งผลกระทบไปถึงลูกค้าและลูกค้าจะไม่ได้ทำการต่อว่าไปที่ต้นทางแต่จะเป็นการต่อว่ามาที่พ่อค้าและแม่ค้าออนไลน์แทนเกี๋ยวกับปัญหาทั้งหมดที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งเรื่องเวลา และ คุณภาพสินค้า ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็ทำได้เพียงแค่รับผิดชอบต่อปัญหาทั้งหมดที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนก่อในฐานะคนกลาง หลักของข้อเสีย คือ การควบคุมในหลายๆเรื่องเพราะตัวเองทำได้แค่ติดต่อสื่อสารเท่านั้น

ออกแบบตัดเย็บและขายเอง

ออกแบบตัดเย็บและขายเอง

วิธีสุดท้ายวิธีที่สาม คือ วิธีที่สำหรับผู้ที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องของเสื้อผ้าเป็นพิเศษ เช่น เป็นดีไชต์เนอร์ เรียนจบทางด้านนี้มา หรือผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องของเสื้อผ้าเป็นพิเศษ ถึงจะใช้วิธีนี้ในการพันตัวเองมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ขายเสื้อผ้า นั้นคือ วิธีการออกแบบเสื้อผ้าเป็นของตัวเองสั่งตัดเองและนำมาขายเองโดยการออกแบบมาเป็นแบรนด์ซึ่งจะเป็นแบรนด์เล็กแบรนด์ใหญ่ก็อยู่ที่งบประมาณของแต่ละคน

ซึ่งวิธีนี้เรามักจะเห็นคนทำกันก็จะเป็น คนที่เรียนมาทางด้านออกแบบเสื้อผ้ามาโดยตรง หรือ ไม่ก็เป็นคนของประชาชนที่มีคนให้ความสนใจพวกเขาเยอะในเรื่องของการแต่งตัว เช่น ดารา นักร้อง นักแสดงที่ออกมาทำแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองมากมาย หรือ คนที่มีใจรักในเสื้อผ้าจริงๆอาจจะทำมาให้ตัวเองใส่และพอเริ่มมีคนสนใจก็สั่งทำมากขึ้นเพื่อขาย และช่องทางการขายให้ทั่วถึงและเป็นที่รู้จักกับเสื้อที่ทำการผลิตเองนั้นวิธีเดียว คือ ขายทางช่องทางออนไลน์นั้นเอง ไม่มีทางที่เปิดร้านแล้วจะมีคนรู้จักเยอะ แต่ก็อาจจะมีบางคนที่เปิดร้านด้วยแต่อย่างน้อยก็ต้องมีช่องทางออนไลน์ในการขายด้วย

ผมขอยกตัวอย่าง แบรนด์ เสื้อผ้า แบรนด์หนึ่งนะครับ มีชื่อว่า BERRER โดยเจ้าของเขาเป็นคนอ้วนที่หาเสื้อผ้าไชต์เขานั้นยากมากทำให้พี่สาวของเขาต้องสั่งทำเสื้อผ้าไชต์พิเศษสำหรับเขาขึ้นมาและเมื่อเขาสังเกตว่าคนที่มีไชต์เขาก็มีเยอะอยู่เหมือนกันน่าจะมีปัญหาเดี๋ยวกันทำให้เขาตัดสินใจทำแบรนด์เสื้อผ้าสำหรับคนไชต์เขาขึ้นมา ซึ่งนั้นก็ทำให้จากพนักงานประจำเขากับพี่สาวก็กลายมาเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าขึ้นมาได้ ซึ่งตอนนี้แบรนด์ BERRER ก็มีทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ให้สั่งซื้อเสื้อผ้ามาใส่ได้ เป็นเสื้อผ้าสำหรับคนไชต์ใหญ่ ซึ่งวิธีการออกแบบตัดเย็บและนำมาขายเองนี้ก็มีทั้งข้อดีข้อเสียด้วยอีกเหมือนกันโดยข้อดีและข้อเสียของวิธีนี้ก็มีดังนี้

ข้อดีของการออกแบบตัดเย็บและนำมาขายเอง นั้นคือ ทำให้มีความสามารถในการควบคุมต้นทุน และเลือกวัตถุดิบของเนิ้อผ้าในการจะนำมาผลิตเองได้ด้วยให้มันตรงกับเป้าหมายของลูกค้าโดยเฉพาะ

ข้อเสียของการออกแบบตัดเย็บและนำมาขายเอง นั้นคือ ใช้ต้นทุนการลงทุนที่สูงที่สุดในวิธีทั้งหมดที่กล่าวมาก่อนหน้านี้เลย และไหนจะต้องหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้เจอให้ได้เพื่อที่เมื่อทำเสื้อผ้าออกมาแล้วจะสามารถมีลูกค้าที่ให้ความสนใจได้

งานขายเสื้อผ้าออนไลน์ก็ต้องวางแผน

งานขายเสื้อผ้าออนไลน์ก็ต้องวางแผน

เป็นยังไงกันบ้างครับกับข้อมูลของการที่จะมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์นั้น ไม่ง่ายเท่าไรเลยใช่ไหมครับ ก่อนอื่นถ้าเพื่อนๆสนใจที่จะขายเสื้อผ้าออนไลน์จริงๆ ไม่ว่าเพื่อนๆจะทำวิธีไหนก็แล้วแต่ จะเป็นวิธีที่หนึ่ง ที่สอง หรือที่สามก็ตาม สิ่งที่จำเป็นที่ต้องมีของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั้งสามวิธีมีเหมือนกันคือ ข้อมูลนะครับ และ การจะหาข้อมูลมาได้ก็ต้องมีการวางแผนที่ดี และเรื่องของข้อมูลที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จำเป็นต้องมี ก็จะเป็น ข้อมูลของแหล่งเสื้อผ้าขายส่งสำหรับวิธีที่หนึ่งที่สอง และข้อมูลของกลุ่มลูกค้าที่ตัวเองต้องการให้มาซื้อเสื้อผ้ากับทางร้านของตัวเองว่าพวกเขามีความสนใจอะไรมากน้อยขนาดไหน อันนี้เป็นข้อมูลที่ขาดไม่ได้ของพ่อค้าแม่ค้าอนไลน์ทั้งสามวิธีเลยนะครับ

ผมจะมาสรุปทั้งสามวิธีและเรียงระดับเรื่องของความยากง่ายให้กับเพื่อนๆอีกรอบนะครับกับทั้งสามวิธีในบทความนี้ที่ผมได้นำมาแนะนำ

วิธีแรกที่ผมนำมาแนะนำ คือ การรับมาขายไป เป็นวิธีที่ผมคิดว่าอยู่ในระดับความยากปานกลาง ต้นทุนที่ใช้ก็อยู่ระดับกลาง เพราะต้องมีการสต๊อกของ

วิธีที่สองที่ผมแนะนำ คือ การเปิดรับพรีออเดอร์ วิธีที่นี้ดูจะเป็นวิธีของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มากที่สุด และเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ต้นทุนในการใช้วิธีนี้ก็น้อยมากอาจจะมีค่าโทรศัพท์นิดหน่อยในการติดต่อประสานงานกับทางร้านขายส่งให้จัดส่งสินค้าไปให้กับลูกค้าที่ทำการออเดอร์มากับทางเรา ไม่มีการสต๊อกสินค้า แต่การติดต่อสื่อสารกับทางร้านขายส่งและลูกค้าก็ต้องทำให้ดีมีประสิทธิภาพไม่งั้นก็ไปไม่รอด

วิธีที่สามที่ผมแนะนำ คือ การออกแบบเสื้อผ้าตัดเย็บและนำไปขายเอง วิธีนี้ก็เป็นวิธีที่อยู่ระดับยากที่สุด เพราะมีขั้นตอนในการทำวิธีนี้ให้สำเร็จนั้นมีหลายขั้นตอนและใช้เงินทุนที่สูงมากๆอันดับแรกก็ต้องหากลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนที่สุดให้เจอ และทำการติดต่อประสานงานหลายๆอย่างทั้งเรื่องของร้านผ้าเรื่องของโรงงานผลิตและต้องมีการออกแบบเสื้อผ้าที่จะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่เล็งเอาไว้ด้วยและที่บอกว่าใช้เงินทุนที่สูงมากๆ ก็เพราะมีทั้งต้นทุนในการผลิตเสื้อผ้า ต้นทุนในการโปรโมตสินค้า และอื่นๆ แต่ถ้าทำวิธีนี้สำเร็จคุณก็จะถือได้ว่าประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจระดับสูงได้เลยทีเดียว

ผมหวังว่าข้อมูลที่ผมนำมาให้กับเพื่อนๆได้อ่านกันในวันนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนทุกๆคนนะครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความของผมนะครับ