โรคร้ายแรง คือโรคที่รุนแรงจนอาจถึงขั้นเสียชีวิตและเป็นโรคที่อาจจะต้องใช้การรักษาเฉพาะทาง และอาจใช้เวลายาวนานทำให้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงมากในแต่ละครั้ง สำหรับโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด 5 อันดับในปี 2019 คือ 1. โรคมะเร็ง 2.โรคเบาหวาน 3.โรคหัวใจ4.โรคความดันโลหิตสูง และ 5.วัณโรค ดังนั้นสาเหตุที่เราต้องมีประกันโรคร้ายแรง เพราะโรคเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกวัย รวมถึงค่าใช้จ่ายที่แพงมากๆ บางบ้านเมื่อมีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคร้ายแรงเหล่านี้ถึงกับต้องกู้เงิน หรือเอาที่ดิน เอาบ้านไปจำนองเพื่อรักษา หรือบางคนก็หมดตัวเลยทีเดียว และสุดท้ายคือการรักษาที่ยาวนาน อาจจะทำให้เราต้องออกจากงาน หรือหยุดงานทำให้มีผลกระทบต่อรายได้และต่อครอบครัวได้
แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่าประกันสุขภาพกับประกันโรคร้ายแรงของแต่ละบริษัทต่างๆมันต่างกันยังไง สำหรับประกันโรคร้ายแรงจุดเด่นหลักๆคือ วงเงินในการรักษาสูง เบี้ยประกันต่ำเมื่อเทียบกับเบี้ยประกันสุขภาพ เนื่องจากประกันโรคร้ายแรงจำกัดความคุ้มครองเฉพาะโรคร้ายแรงที่กำหนดเท่านั้น ทำให้เบี้ยประกันถูกกว่าเบี้ยประกันสุขภาพครับ แล้วเมื่อไหร่ที่เราควรซื้อประกัน ควรซื้อประกันโรคร้ายแรงตั้งแต่ยังมีสุขภาพที่ดี เพราะตอนอายุน้อยเรายังมีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งข้อดีก็คือ ค่าเบี้ยไม่สูง เพราะอัตราเบี้ยประกันโรคร้ายแรงมักเปลี่ยนตามอายุ ดังนั้นอายุน้อย เบี้ยก็น้อยครับ ต่อมาคือได้ค่าเบี้ยปกติ ไม่มีการปรับเพิ่มเนื่องจากความเสี่ยงด้านสุขภาพ และสุดท้ายคือได้รับความคุ้มครองโรคร้ายแรง โดยไม่มีข้อยกเว้นครับ ซึ่งบทความนี้จะช่วยแนะนำประกันโรคร้ายของบริษัทประกันภัยต่างๆ ที่เบี้ยประกันไม่แพงมาให้ทุกคนได้อ่านกันนะครับ
AIA
สำหรับบริษัทแรกคิดว่าทุกคนรู้จักดีนั่นก็คือ AIA ครับ โดยประกันโรคร้ายแรงของประกัน AIA ที่จะแนะนำก็คือ AIA CI SuperCare ครับ จุดเด่นของ AIA CI SuperCare ก็คือ คุ้มครอง 62 โรคร้ายแรง คุ้มครองสูงสุด 5 ล้านบาท เริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท คุ้มครองตั้งแต่ระยะเริ่มต้น หมายความว่าเมื่อตรวจพบว่าเราเป็นโรคอะไร ประกันก็จะเริ่มคุ้มครองทันทีครับ ค่าเบี้ยประกันคงที่ จ่ายแค่ 10 ปี คุ้มครองตลอดชีวิตหรือ 99 ปีครับ จำนวนเงินเอาประกันคือ 200,000 – สูงสุด 4,999,999 บาทครับ สำหรับรายละเอียดความคุ้มครองมีดังนี้ครับ
1.0 ความคุ้มครองโรคร้ายแรง ซึ่งคุ้มครอง 44 โรคร้ายแรงระดับรุนแรงและ 18 โรคร้ายแรงระดับต้นถึง ระดับปานกลาง จาก 6 กลุ่มโรคร้ายแรงดังนี้: กลุ่ม 1: กลุ่มโรคมะเร็งและเนื้องอก กลุ่ม 2: กลุ่มโรคหัวใจ ระบบหายใจ และระบบการไหลเวียนโลหิต กลุ่ม 3: กลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง ระบบประสาท และกล้ามเนื้อ กลุ่ม 4: กลุ่มโรคอวัยวะและระบบการทำงานที่สำคัญของร่างกาย กลุ่ม 5: กลุ่มภาวะติดเชื้อ การบาดเจ็บร้ายแรง และภาวะทุพพลภาพ กลุ่ม 6: กลุ่มโรคร้ายแรงสำหรับผู้เยาว์ (คุ้มครองผู้เอาประกันภัยตั้งแต่อายุ 1 เดือน - 16 ปี)
1.1 ความคุ้มครองโรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลาง 20% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย สำหรับโรคร้ายแรงเพียงโรคเดียวเท่านั้น (จ่ายเพียงครั้งเดียว) และกรมธรรม์ยังมีผลบังคับต่อ หากยัง มีการชำระค่าเบี้ยประกันภัย เช่น หากลูกค้าได้รับวินิจฉัยว่าเป็นระดับรุนแรงในภายหลัง จะได้รับความคุ้มครองส่วนที่เหลืออีก 80% ของ จำนวนเงินเอาประกันภัย 1.2 ความคุ้มครองโรคร้ายแรงระดับรุนแรง หรือ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย หักผลประโยชน์ความคุ้มครอง โรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลางที่จ่ายไปแล้ว (ถ้ามี) และกรมธรรม์ จะสิ้นผลบังคับทันที
2.กรณีเสียชีวิต หรือรับ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย หักผลประโยชน์ความคุ้มครอง โรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลางที่จ่ายไปแล้ว (ถ้ามี) และกรมธรรม์จะสิ้นผลบังคับทันที
3.ผลประโยชน์ ณ วันครบสัญญารับ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย หักผลประโยชน์ความคุ้มครอง โรคร้ายแรงระดับต้นถึงระดับปานกลางที่จ่ายไปแล้ว (ถ้ามี) และกรมธรรม์จะสิ้นผลบังคับทันทีครับ
https://www.aia.co.th/th/our-products/life-protection/aia-ci-supercare-10-99-non-par.html
KRUNGTHAI-AXA (กรุงไทยแอ็กซ่า)
เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ดำเนินธุรกิจตามหลักมาตรฐานสากล โดยมีการร่วมทุนระหว่าง บมจ.ธนาคารกรุงไทยกับ AXA Group ซึ่งเป็นบริษัทประกันชั้นนำจากประเทศฝรั่งเศสครับ โดยมีบมจธนาคารกรุงไทย ถือหุ้น 50% บริษัท ซึ่งกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้เปิดให้บริการประกันชีวิต ด้วยตัวแทนหรือที่ปรึกษาวางแผนทางการเงินระดับมืออาชีพ พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ และการบริการที่หลากหลาย เช่น:
1.ประกันออมทรัพย์ 2.ประกันสุขภาพ อุบัติเหตุ โรคร้ายแรง 3.ประกันบำนาญ เพื่อการเกษียณอายุ 4.ประกันคุ้มครองชีวิต
โดยประกันโรคร้ายแรงที่จะแนะนำก็คือ แอกซ่า สมาร์ท แคร์ ครับ แล้วบางคนอาจจะสงสัยว่าประกันตัวนี้คุ้มครองอะไรบ้าง?
1.คุ้มครองคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปี และสูงสุดอายุ 65 ปี 2.ไม่ต้องตรวจสุขภาพ แค่ตอบคำถามก็สมัครได้ 3.จ่ายเงินชดเชยเมื่อตรวจพบมะเร็งครั้งแรกหลังจากเอาประกันภัย 4.คุ้มครอง ครอบคลุม โรคมะเร็งทุกชนิด ทั้งระยะลุกลาม และไม่ลุกลาม 5.ให้ความคุ้มครองโรคมะเร็งด้วยทุนประกันภัยสูงสุดถึง 900,000 บาท 6.ขยายความคุ้มครองมะเร็งผิวหนัง 20% ของทุนประกันภัย 7.จ่ายเงินก้อนให้ทันทีหลังแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง 8.เมื่อซื้อแผนครอบครัว ฟรี ความคุ้มครองบุตรอายุ 1-22 ปีที่ยังเป็นโสด โดยไม่จำกัดจำนวนบุตร 9.ผ่อนผันระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัยได้ถึง 30 วันในปีที่ต่ออายุกรมธรรม์ 10.เบี้ยประกันสุขภาพนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุดถึง 15,000 บาท
1.มะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ (ยกเว้นมะเร็งผิวหนัง) Plan 1 200,000 บาท Plan 2 500,000 บาท Plan 3 750,000 บาท 2.มะเร็งผิวหนังทุกชนิด ทุกระยะ (20%ของทุนประกันข้อ 1.) ทั้งนี้ ยังคงให้ความคุ้มครอง ในข้อ 1 มะเร็งทุกชนิดทุกระยะต่อไป Plan 1 40,000 บาท Plan 2 100,000 บาท Plan 3 150,000 บาท จำนวนผลประโยชน์ (บาท)
FWD
เอฟดับบลิวดี กรุ๊ป ดําเนินธุรกิจในประเทศฮ่องกง มาเก๊า ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ญี่ปุ่นและมาเลเซีย โดยมีผลิตภัณฑประกันหลากหลายชนิด เช่น ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันวินาศภัย ประกันกลุ่ม และชะรีอะห์ ตะกาฟุล (ประกันภัยตามหลักศาสนาอิสลาม) เอฟดับบลิวดี มุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ของลูกค้าโดยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจง่าย และได้นําเทคโนโลยีดิจิตอลมาประยุกต์ ซึ่งได้นําเสนอผลิตภัณฑ์ประกัน ผ่านสายตาของลูกค้าโดยออกแบบนโยบายและผลิตภัณฑ์ที่เน้นผู้คนเป็นหลักครับ
สำหรับประกันที่จะแนะนำในบทความนี้ก็คือสัญญาเพิ่มเติมประกันภัยโรคร้ายแรง ซีไอ 50 จากเอฟดับบลิวดีที่ดูแลคุณเมื่อเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงถึง 50 โรค ดูแลครอบคลุมการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นคุ้มครองสูงสุด 100% รวมถึงการเสียชีวิตครับ รายละเอียดการคุ้มครองมีดังนี้ครับ:
1.อายุรับประกันคือ 16-65 ปี 2.ระยะเวลาคุ้มครอง คุ้มครองจนถึงอายุ 85 ปี 3.ทุนประกันขั้นต่ำคือ 100,000 บาท ชำระเบี้ยประกันแบบรายปี / 6 เดือน / 3 เดือน และ รายเดือนครับ 4.รับ 20% ของทุนประกันภัย ตั้งแต่ตรวจพบโรคร้ายระยะเริ่มต้น และรับอีก 80% ของทุนประกันภัย เมื่อเป็นระยะรุนแรง หรือ 100% ของทุนประกันภัย หากตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายระยะรุนแรง
ข้อดีของแผนประกันโรคร้ายนี้ คือการคุ้มครองการรักษาโรคต่างๆ มากถึง 50 โรคครับ ซึ่งแต่ละโรคนั้นเป็นโรคที่ต้องใช้เงินในการรักษาจำนวนมากและต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาอย่างต่อเนื่อง เป็นโรคที่ค่อนข้างมีความรุนแรงต่อชีวิต เช่น โรคมะเร็ง หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง กล้ามเนื้อหัวใจเป็นต้น
Muang Thai (เมืองไทยประกันชีวิต)
สำหรับบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต เป็นอีกบริษัทที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่หลายล้านคนในความไว้วางใจและใช้บริการมานานหลายปี สำหรับโปรแกรมประกันโรคร้ายแรง ที่จะมาแนะนำก็คือ โครงการเมืองไทย ยิ้มสู้โรคร้ายครับ โดยจุดเด่นของประกันตัวนี้คือ
1.ค่าชดเชย 15 โรคร้ายแรง ตั้งแต่ตรวจพบ สูงสุด 200% 2.คุ้มครอง กรณีเสียชีวิตสูงสุด 2,000,000 บาท 3.ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย 20 ปี 4.ระยะเวลาเอาประกันภัย เมื่อครบอายุ 99 ปี 5.การชำระเบี้ยประกันภัย รายปี /ราย 6 เดือน/ราย 3 เดือน/รายเดือน 6.จำนวนเงินเอาประกันขั้นต่ำ 150,000 บาท
1.หากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่ และได้รับการวินิจฉัยโรคจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นครั้งแรกว่าเป็นโรคร้ายแรงใดโรคร้ายแรงหนึ่งตามที่ระบุไว้ในตารางโรคร้ายแรง (ก) บริษัทจะจ่ายจำนวนเงินให้แก่ผู้เอาประกันภัย หรือมูลค่าเวนคืนในขณะนั้นตามแต่จำนวนใดจะมากกว่า เช่น ประเภทโรค มะเร็งและเนื้องอก โรคมะเร็งขั้นรุนแรง (Severe cancer) ร้อยละของประกันภัยคือ 150 โรคมะเร็งระยะลุกลาม (Invasive cancer) ร้อยละของประกันภัยคือ 100 เนื้องอกในสมอง ชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง (Benign brain tumor) ร้อยละของประกันภัยคือ 100 2.กรณีผู้เอาประกันภัยยังคงมีชีวิตอยู่ และได้รับการวินิจฉัยโรคจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นครั้งแรกว่าเป็นโรคร้ายแรงใด โรคร้ายแรงหนึ่งตามที่ระบุไว้ในตารางโรคร้ายแรง (ข) บริษัทจะจ่ายจำนวนเงินให้แก่ผู้เอาประกันภัยในแต่ละรายการเพียงครั้งเดียวตลอดอายุของผู้เอาประกันภัย และสัญญาประกันภัยยังคงมีผลบังคับอยู่ เช่น ประเภทโรคมะเร็งและเนื้องอก
โรคมะเร็งระยะไม่ลุกลาม (Non-invasive cancer / Carcinoma in situ) ร้อยละของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มสัญญา ร้อยละ 25 (สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท) ประเภทโรคเกี่ยวกับหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่รักษาด้วยการสวนหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery disease requiring angioplasty) จำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันเริ่มสัญญา ร้อยละของ 25 (สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท)
Bangkok Life (กรุงเทพประกันชีวิต)
สำหรับประกันโรคร้ายตัวสุดท้ายที่จะแนะนำคือ ประกัน บีแอลเอ อุ่นใจ โรคร้าย จากกรุงเทพประกันชีวิต คุ้มครองโรคมะเร็ง และกลุ่มโรคร้ายแรง รวม 11 โรค นานถึง 90 ปีครับ เบี้ยเริ่มต้นเพียง 1,525 บาท/ปี และสามารถลดหย่อนภาษีได้ด้วยครับ เงื่อนไขการรับประกันภัย
1.โครงการ บีแอลเอ อุ่นใจ โรคร้าย ประกอบด้วย สัญญาประกันชีวิต บีแอลเอ อุ่นใจ และสัญญาเพิ่มเติม บีแอลเอ อีซี แคร์ 2.ไม่ต้องตรวจสุขภาพ (กรณีที่ข้อมูลการแถลงสุขภาพไม่เพียงพอต่อการพิจารณารับประกันภัย ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแจ้งขอตรวจสุขภาพก่อนรับประกันภัย) 3.โครงการ บีแอลเอ อุ่นใจ โรคร้ายสามารถซื้อได้มากกว่า 1 กรมธรรม์ โดยจำนวนเงินเอาประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติม บีแอลเอ อีซี แคร์ ทุกกรมธรรม์รวมกันไม่เกิน 3,000,000 บาท
ความคุ้มครอง ผลประโยชน์ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
1.สัญญาประกันชีวิต บีแอลเอ อุ่นใจ 1.1กรณีเสียชีวิต ผลประโยชน์ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย 1.2กรณีมีชีวิตอยู่จนครบอายุ 90 ปี ผลประโยชน์ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย 2.สัญญาเพิ่มเติม บีแอลเอ อีซี แคร์ 2.1คุ้มครองกรณีเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง ผลประโยชน์ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เช่น
-
โรคมะเร็งระยะลุกลาม
-
เนื้องอกในสมองชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง
-
โรคกล้ามเนื้อหัวใจ
-
การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ
-
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่รักษาด้วยการสวนหลอดเลือดหัวใจ
-
กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด
-
โรคระบบประสาทมัลติเพิล สเคลอโรสิส
-
โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน
-
สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส
-
โรคหลอดเลือดสมองโป่งพองที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด 2.2คุ้มครองกรณีเจ็บป่วยโรคมะเร็งระยะไม่ลุกลามต่อครั้ง (รวมสูงสุดไม่เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินเอาประกันภัย) ผลประโยชน์ที่จะได้รับคือ 20% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และสำหรับสัญญาเพิ่มเติม บีแอลเอ อีซี่ แคร์ ไม่คุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคอื่นใด และไม่คุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงซึ่งเกิดขึ้นโดยตรงหรือโดยอ้อม จากสาเหตุต่อไปนี้
-
อาการของโรคร้ายแรง หรือโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้นก่อนวันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติม หรือตามการต่ออายุของสัญญาเพิ่มเติม หรือ วันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมในเฉพาะส่วนที่เพิ่ม
-
การฆ่าตัวตาย หรือการทำร้ายร่างกายตนเอง หรือพยายามกระทำเช่นว่านั้น
-
การติดเชื้อไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่อง (HIV Positive) หรือภาวะของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS)
https://www.bangkoklife.com/th/products/detail/188
แนะนำประกันของ AIA
เนื่องจากบริษัท AIA มีแบบประกันโรคร้ายแรงที่หลากหลายให้เราเลือก ไม่ว่าจะเป็นแบบที่เน้นคุ้มครองโรคที่พบบ่อยไม่กี่โรค ไปจนถึงแบบที่คุ้มครองโรคร้ายแรงที่ครอบคลุมตั้งแต่ระยะเริ่มต้นไปจนถึงระยะรุนแรงเลยครับ และสำหรับเพื่อนๆที่ต้องการความคุ้มครองที่สูงมาก AIA ก็มีมีวงเงินที่รับประกันที่สูงถึง 50 ล้านบาท ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของแบบประกันและสุขภาพของผู้เอาประกันด้วยนะครับ และนอกจากนั้นเอไอเอได้มอบส่วนลดเบี้ยประกันโรคร้ายแรงสูงสุดถึง 25% สำหรับแบบประกันที่เข้าร่วมโครงการ เอไอเอ ไวทัลลิตี้ด้วยนะครับ รวมทั้งประกันโรคร้ายแรง AIA CI Super Care คุ้มครองโรคร้ายแรงระดับรุนแรง 44 โรค (รวมโรคเด็ก 4 โรค) และสามารถลดหย่อนภาษีเงินได้ เฉพาะเบี้ยประกันในส่วนของความคุ้มครองชีวิตครับ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือ 5 ประกันโรคร้ายแรงที่เราแนะนำครับ ซึ่งแต่ละบริษัทก็มีรายละเอียดอีกเยอะ ซึ่งถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจประกันตัวไหนก็ลองติดต่อบริษัทประกันนั้นๆ หรือติดต่อตัวแทนที่รู้จักได้ครับเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจนะครับ
Chuchai
เคยได้ยินมาว่าบางคนก็เคลมได้บางคนก็เคลมได้ เลยยังไม่กล้าทำ แต่ที่เคลมไม่ได้เพราะอะไรเราก็อยากจะรู้ข้อมูลเหมือนกัน.... ตอนนี้ใช้วิธีการเก็บออมแทน ยังไม่ได้ทำประกันเพราะว่ารายได้ยังไม่พร้อม กลัวจะส่งเบี้ยไม่ไหว อีกอย่างก็เป็นคนตรวจสุขภาพบ่อย และไม่ค่อยป่วยด้วย เลยไม่รู้ว่าถ้าทำจะคุ้มค่ากันรึเปล่า ก็เลยตอนนี้กำลังตัดสินใจอยู่
Baroma
ขอบคุณค่ะที่แนะนำให้รู้ว่าจำเป็นต้องใช้ประกันภัยอะไรบ้างสำหรับ โรคที่ร้ายแรงที่จะเป็นในอนาคต เพราะว่าถ้าเกิดขึ้นกับตัวเราคงเสียค่ารักษาพยาบาลมากเลยค่ะ แต่ถ้าเลือกใช้ประกันภัยที่มีการเสนอแนะมาคิดว่าจะช่วยให้ จ่ายค่ารักษาพยาบาลถูกลงถึงแม้ว่าเรา จะไม่มั่นใจว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเราแต่เป็นการป้องกันตัวเองเกี่ยวกับความเสี่ยงไว้ก่อนค่ะ
น้ำผึ้ง
โรคร้ายแรงที่กล่าวมานั้นเป็นอะไรที่เปลืองค่ารักษาพยาบาลเป็นอย่างมากเลยค่ะ ถ้าเกิดว่าเป็นขึ้นมาแล้วจำเป็นต้องเสียเงินเยอะเลยทีเดียว บทความนี้ทำให้เห็นว่ามีวิธีการที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายแต่เราจำเป็นต้องเสียเงินซื้อประกันสุขภาพของบริษัทเหล่านี้นะคะ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นแต่ก็เป็นการป้องกันไว้ในกรณีถ้าเกิดโรครุนแรงแบบนี้เกิดขึ้นกับเราจะได้มีค่ารักษาพยาบาลในการช่วยเหลือค่ะ
นิรัช
"ประกันโรคร้ายแรง" แต่ละโรคที่รับประกันไม่ใช่แค่โรคร้ายแรงเท่านั้นแต่เป็นโรคยอดฮิตของคนไทยเลยครับ น่าคิดนะว่าผมจะทำบ้างดีมั้ย ตอนนี้ไม่มีอาการอะไรหรอกแต่ในอนาคตก็ไม่รู้ครับ บริษัทประกันเขาจะถามมั้ยว่ามีคนในครอบครัวเราเป็นโรคเหล่านี้หรือไม่? หากว่ามี บริษัทเขาจะให้เราทำประกันหรือเปล่าเพราะบางโรคอาจมาจากกรรมพันธ์ด้วยน่ะครับ
Obama
โดยส่วนตัว ผมทำของ เอไอเอครับ แล้วไม่ใช่แค่ผมครับที่ทำของเอไอเอ เราทำกันทั้งบ้านครับ ผมเเลือกประกันชีวิตแบบ 15/90 ครับ แล้วก็ซื้อประกันโรคร้ายแรงเพิ่มครับ เข้าท่ามากเลยนะครับ ประกันโรคร้ายแรง เพียงแค่ผลออกมา บอกว่าเราเป็น เราได้ไปก่อนเลยครับ 200,000 บาท เขาเรียกว่าค่าทำขวัญครับ แล้วถ้าตรวจอีกทีแล้วไม่เป็นเขาก็ไม่เรียกคืนด้วยครับ
รถถัง
ไม่ว่าประกันของบริษัทไหนก็ทำเถอะครับ โรคร้ายเนี่ยน่ากลัวจริงๆ แต่ที่น่ากลัวกว่าโรคร้ายน่าจะเป็นค่าใช้จ่ายนะครับสำหรับผม ตอนนี้แม่ผมป่วยค่าใช้จ่ายนู่นนี่นั่นเยอะมาก แล้วแม่ก็ไม่มีประกันด้วยผมทำได้แค่ให้แม่รักษากับโรงพยาบาลรัฐฯ ไปตรวจทีต้องไปตั้งแต่เช้าคิวเยอะมาก ผมเลยทำประกันโรคร้ายของตัวเองตั้งแต่ตอนนี้เลยครับ เข็ดหลาบ
อยู่ให้เป็น
ผมคิดว่าถ้าใครที่ไม่ค่อยมีเงินมากหรือมีรายได้จำกัด ก็ไม่ต้องทำหรอกครับประกันโรคร้ายอะไรเนี่ย... สิทธิบัตรทองกับประกันสังคมก็ใช้ได้เหมือนกัน แถมยังรักษาดีด้วย อีกอย่างถ้าใครไม่อยากจะต้องเสียเงินเยอะๆเราสามารถที่ลดความเสี่ยงได้ โดยที่ดูแลสุขภาพของเราอย่างสม่ำเสมอ หมั่นไปตรวจสุขภาพและออกกำลังกายเป็นประจำกินอาหารที่มีประโยชน์ ผมว่าแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วนะครับ
ปาร์ม
มีการแนะนำเกี่ยวกับประกันภัยที่ช่วยเราในตอนที่เจอกับโรคภัยร้ายแรง เพราะว่าเราคิดถึงเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล และค่าตอบแทนที่จะได้รับจากการที่เราป่วยเป็นโรคร้ายแรงแล้ว คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดถึงเกี่ยวกับบริษัทประกันภัยที่ยกขึ้นมาในบทความนี้ ถึงแม้จะมีราคาที่เราต้องจ่ายแต่ก็คุ้มค่าทีเดียวถ้าเราเกิดเป็นโรคร้ายแรง
หนุ่ม
ใช้บริการของกรุงเทพประกันชีวิตดีกว่าครับ ก็ดูเหมือนว่ามีหลายบริษัทให้เราเลือกใช้บริการจากความเจ็บป่วยโรคร้ายแรงต่างๆที่กล่าวมา เบี้ยประกันภัยก็ไม่แพงด้วยอยู่ที่ปีละ 1,500 บาท ทำให้เราสามารถได้รับการคุ้มครองจากโรคที่เจ็บป่วยร้ายแรงที่มีค่ารักษาพยาบาลสูงได้ จะได้เอาไว้ช่วยเซฟค่าใช้จ่ายในตอนที่เป็นโรคที่ไม่คาดคิดที่ร้ายแรงเหล่านี้ครับ
Ratchanon 😎
ส่วนใหญ่ ถ้าพูดถึงประกันภัย หลายคนมักจะนึกของ ของ AIA เท่านั้นแหละ เพราะAIA คิดว่าน่าเป็นเจ้าที่เก่าแก่ในบ้านเรานะ แถมAIAเบี้ยประกันก็ถูกกว่าหลายๆเจ้าด้วย แล้ว เขายังมีการซื้อประกันเพิ่มเติมจากประกันหลักมีหลายอย่างด้วย แล้วตอนนี้ก็มีแบบเหม่าจ่าย ค่ารักษาด้วย เราดูๆแล้วดีกว่าเจ้าอื่นๆนะ แต่อย่างว่า ชอบใครชอบมันครับ
นาเดีย
@รถถัง เราก็คิดเหมือนกันเลยค่ะคิดเหมือนกับคุณเลย สิ่งที่น่ากลัวพอๆกับโรคร้ายเลยก็คือค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายนี่ล่ะค่ะ แถมสมัยนี้ค่าเบี้ยประกันมันไม่ใช่ถูกๆนะคะไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันชีวิตเบี้ยประกันแพงมากถ้าอยากได้แบบที่ครอบคลุมแบบมีเงินปันผลแบบที่เหมือนเป็นเงินเก็บดีไม่ดีค่าเบี้ยประกันครั้งละเป็นหมื่นก็มีขายในแต่ละงวด สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ต้องคิดดีๆเลยค่ะ
Boo
@รถถัง มันก็จริงอย่างที่คุณบอกว่าโรคร้ายเนี่ยน่ากลัว ถ้าเจ็บป่วยขึ้นมาค่ารักษาก็ไม่ใช่ถูกๆ แล้วก็ต้องรักษาเป็นระยะเวลานานด้วยแต่จะให้ทำประกันโรคร้ายแบบสุ่มสี่สุ่มห้าก็ไม่ได้นะ จะต้องมีการเปรียบเทียบแล้วก็เลิกประกันที่เหมาะกับเรามากที่สุด เหมาะกับความเสี่ยงของเราแล้วก็เหมาะกับเบี้ยประกันที่เราสามารถจ่ายได้ด้วย
KODnoi00
@Chuchai เท่าที่ผมรู้นะครับ เรื่องการเคลมประกันที่ว่าบางคนเคลมได้ บางคนเคลมไม่ได้สำหรับโรคร้ายแรงเนี่ย คือว่าตอนที่ทำประกันทางบริษัทเขาจะให้กรอกข้อมูลส่วนตัวแล้วว่าผู้เอาประกันภัยไม่เคยมีประวัติเกี่ยวกับโรคเหล่านั้นมาก่อน ถ้าทางบริษัทไปตรวจสอบทีหลังแล้วเจอว่าข้อมูลเป็นเท็จ ผู้เอาประกันภัยมาขอเคลมจะไม่ผ่านนะครับ
มนุษย์เจ้าปัญหา
อยากรู้ข้อมูลหน่อยนะครับ พอดีผมมีความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคเบาหวานและมะเร็งเพราะว่าเกือบทั้งตระกูลเสียชีวิตเพราะโรคเหล่านี้ ถ้าผมเป็นบุคคลเสี่ยงแบบนี้ทางบริษัทประกันเค้าจะให้ผมสมัครได้ไหมครับ?? (ตอนนี้ผมปกตินะครับยังไม่ได้เป็น) แล้วอยากรู้ว่าถ้าผมสนใจทำประกันโรคร้ายแรงไว้ผมควรเลือกทำกับของบริษัทไหนดีครับ???
nidnoi
@มนุษย์เจ้าปัญหา ตามที่เรารู้มานะคะเมื่อเราสมัครประกันพวกนี้เค้าจะให้เรากรอกเอกสารอยู่แล้วว่าครอบครัวมีประวัติเกี่ยวกับโรคอะไร แล้วทางบริษัทอาจจะประเมินว่าคุณจะต้องตรวจสุขภาพหรือไหม เค้าอาจจะดูเกี่ยวกับประวัติการรักษาโรคประจำตัวของคุณร่วมด้วยก็ได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับทางบริษัทเป็นผู้พิจารณานะคะ เราฟันธงไม่ได้ค่ะ
Kaowhom
บทความนี้แนะนำประกันภัยโรคร้ายแรงมาหลายบริษัท ดีมากเลยค่ะ คนที่กำลังสนใจอยากซื้อประกันประเถทนี้อยู่คงถูกใจเมื่อได้เข้ามาอ่านบทความนี้ เราเองก็ได้ข้อมูลไปด้วย โรคร้ายแรงมีหลายโรคนะ หากใครเป็นขึ้นมาจริงๆค่ารักษาพยาบาลคงเยอะน่าดู มีประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพสักฉบับที่ให้ความคุ้มครองเรื่องโรคร้ายแรงด้วย จะดีมากเลยค่ะ
สิรินทรา
มีหลายๆเจ้าให้เราเลือกการคุ้มครองโรคร้ายแรง ขอบคุณมากคะ ที่เขียนถึงการคุ้มครองของแต่ละประกันให้เราได้ทราบ แต่อยากทราบได้ไหมคะ ว่า ประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงที่คุณบอกมาทั้งหมดเราสามารถซื้อโดยที่เราไม่ต้องทำประกันประกันชีวิตเอาไว้ก่อนได้เลยไหมคะ เพราะตอนนี้กำลังคิดว่าจะซื้อประกันชีวิตก่อนหรือว่าจะซื้ออย่างอื่นก่อนดี
ซิน
@ สิรินทรา ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้นค่ะแล้วแต่บริษัท บางบริษัทก็สามารถสมัครประกันสุขภาพที่คุ้มครองโรคร้ายแรงได้เลย แต่บางที่ก็ต้องสมัครประกันชีวิตก่อนเป็นสัญญาหลัก แล้วถึงจะสมัครประกันสุขภาพได้ ตรงนี้แนะนำให้คุณลองเลือกเจ้าที่จะสมัครดูก่อนแล้วโทรไปสอบถามรายละเอียด เพราะถ้าคุณยังไม่รู้ว่าสนใจจะสมัครที่ไหนมันจะยากในการหาข้อมูลค่ะ