เรื่องที่เราคนไทยมองข้ามไม่ได้ คือ เรื่องของการทดแทนบุญคุณผู้ที่เลี้ยงดูเรามา นั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เมื่อพ่อแม่เราแก่ตัวลง คนที่จะต้องดูแลพวกท่านต่อ ก็คือ เราเอง พ่อแม่เราจะให้ใครดูแลล่ะจริงไหม และด้วยที่ตอนนี้ ประเทศไทยบ้านเราในปี 2020 หรือ พ.ศ. 2563 นี้ ประเทศไทยเราได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัวแล้ว คือ ถ้ามีคนเดินมา 5 คน 1 คนในนั้นจะเป็นคน แก่ ซึ่งการเลี้ยงดูผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นปู่ย่า ตายาย หรือจะเป็นพ่อแม่ของเราที่เริ่มแก่ตัวลง นั้นย่อมเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว เรียกว่ากตัญญูแต่เอาเข้าจริงๆการเลี้ยงดูผู้สูงอายุก็ไม่ใช่รื่องง่ายๆนะครับ เพราะผู้สูงอายุ เป็นวัยที่มีโอกาศเจ็บป่วยได้ง่าย และค่ารักษาพยาบาลก็ไม่ใช่ถูกๆ และไหนผู้สูงอายุยังต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษตลอดเวลาอีก นั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเพื่อนๆที่ต้องรับบทในการดูแลผู้สูงอายุ และไหนถ้าเพื่อนๆที่ต้องรับบทดูแลผู้สูงอายุไม่ได้มีการวางแผนด้านการเงินไว้อีกนั้นอาจจะทำให้การเงินในครอบครัวของเพื่อนๆที่ต้องรับบทดูแลผู้สูงอายุแย่ลงก็เป็นได้นะครับ และเมื่ออาจจะเป็นแบบนั้นผม จึงได้เขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยเพื่อนๆที่ยังไม่ได้วางแผนออมเงินสำหรับดูแลผู้สูงอายุมาฝากกัน
1 วิถีชีวิตเรียบง่ายประหยัด
เคล็ดลับแรก ถ้าเพื่อนๆเห็นว่าในอนาคตอันใกล้นี้เพื่อนจะต้องได้ดูแลแน่ๆ ผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ของเพื่อนๆเอง หรือ อาจจะเป็นปูย่า ตายาย ของเพื่อนๆ สิ่งที่เพื่อนๆจะต้องทำ คือ การกลับเข้าสู่วิถีชีวิตที่ประหยัด และเรียบง่าย นั้นก็เพื่อมันจะได้เป็นเรื่องง่ายขึ้นที่เพื่อนจะเริ่มต้นออมเงินได้เอาไว้ใช้ในอนาคต ซึ่งนี้เป็นวิธีเดียวกันเลยกับตอนที่เพื่อนๆกำลังจะเกิดมา คุณพ่อคุณแม่ของเพื่อนก็เข้าสู่วิถีชีวิตที่เรียบง่ายและประหยัดเหมือนกัน เพื่อที่พอเพื่อนๆเกิดมาจะได้มีค่าเลี้ยงดูเพื่อนๆได้ตั้งแต่แบเบาะ ไปจนถึง เรียนจบ ทำงาน ถึงแม้ว่ามันจะดูแล้วเป็นเรื่องยาก เพราะในปัจจุบัน ค่าครองชีพสูง แต่ในฐานะลูกฐานะหลานแล้ว แม้มันจะลำบากขนาดไหนก็ต้องอดทนผ่านไปให้ได้ครับ สู้ๆ เคล็ดลับที่ 1 ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เรียบง่ายละประหยัด
2 ดูแลสุขภาพตัวเองไปพร้อมกับผู้สูงอายุ
เรื่องของสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญ สำหรับผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าเพื่อนๆได้ดูแลผู้สูงอายุแล้วเพื่อนๆจะเห็นได้ว่าค่าใช้จ่ายหลักของผู้สูงอายุจะหมดไปกับค่ารักษาและค่ายาสักส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นถ้าให้ดีเพื่อนๆควรจะออมเงินและซื้อประกันสุขภาพให้กับผู้สูงอายุที่เพื่อนๆจะต้องดูแลในอนาคตแต่เนิ่นๆจะเป็นเรื่องที่ดีในการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในอนาคต ผู้สูงอายุนั้น ก็คือ พ่อและแม่นั้นเอง และถ้าให้ดีเรื่องสุขภาพของตัวเพื่อนๆเองก็ควรที่จะรักษาให้ดีไปพร้อมกับผู้สูงอายุที่เพื่อนๆต้องดูแลก็จะดีมาก เพราะถ้าเราไม่รักษาสุขภาพของตัวเอง วันหนึ่งเราอาจจะอายุสั้นกว่า ผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลก็เป็นได้นะครับ และถ้าหากเพื่อนๆออมเงินซื้อประกันสุขภาพให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้แล้ว อีกสิ่งหนึ่ง คือ เพื่อนก็ควรที่จะออมเงินเผื่อไว้สำรองสำหรับเรื่องค่ารักษาพยาบาลเอาไว้ด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อเหตุจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อนจะได้อุ่นใจได้
3 เตรียมตัวล่วงหน้า
การเตรียมตัวล่วงหน้า เป็นคุณสมบัติที่ดีของหลายๆอย่าง ยิ่งถ้าเป็นเรื่องการเงินสำหรับใช้ดูแลผู้สูงอายุแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องที่ดีที่จะเตียมตัวล่วงหน้า แล้วถ้าถามว่าล่วงหน้าขนาดไหน ผมว่าควรที่จะเตรียมตัวล่วงหน้าตั้งแต่เพื่อนๆเรียนจบเลยก็ได้ เพราะเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วที่ในอนาคตพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามาแก่ตัวลงคนที่จะต้องดูแลก็คือเรา และถ้าเพื่อนๆมีการเตรียมตัวล่วงหน้าเร็วขนาดไหนก็จะยิ่งเป็นการลดความเสี่ยงด้วยมากเท่านั้น ไม่ต้องรอให้อยู่วัยกลางคนกาอนถึงค่อยมาคิดเรื่องพวกนี้หรอกครับ และ ถ้าเพื่อนๆมาคิดเรื่องการออมนี้ช้าเกินไปในอนาคตมันอาจจะทำให้เพื่อนมีปัญหาทางการเงินได้ และอาจจะทำให้เพื่อนๆเป็นหนี้โดยไม่จำเป็นอีกด้วย
4 วางแผนการออมไปพร้อมๆกับพ่อแม่ก่อนท่านเกษียณ
ถ้าเพื่อนๆรู้แน่ๆว่าในครอบครัวเพื่อนๆในอนาคตเพื่อนๆจะต้องรับหน้าที่ดูแลพ่อแม่ในยามแก่ชรา เคล็ดลับที่ 4 คือ ให้เพื่อนๆเดินเข้าไปคุยกับพ่อแม่เลยตั้งแต่ที่ท่านยังไม่เกษียณ เกี่ยวกับการวางแผนการเก็บเงินเกษียณของพวกท่านว่าเป็นอย่างไร พวกท่านมีแผนอย่างไรใรวัยเกษียณ และพวกท่านมีการวางแผนอะไรยังไงบ้างในวัยเกษียณ ร่วมกันวางแผนไปด้วยกันเลย เมื่อถึงเวลานั้นขึ้นมาจริงๆ เมื่อถึงเวลาที่เพื่อนๆจะต้องดูแลเพื่อจะได้สามารถทำได้โดยที่ไม่ปัญหาอะไร
เพื่อการดูแลผู้สูงอายุจะราบรื่นต้องเริ่มจากคนที่ดูแลด้วย
แน่นอนว่าการดูแลผู้สูงอายุ นั้นเป็นเรื่องที่สังคมไทยจะมองข้ามไม่ได้ และการจะดูแลผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพมากขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับคนที่ดูแล โดยคนที่รับหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ ต้องมีทั้งแรงใจและแรงกายในการใช้ดูแล ผมทราบว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก ผมเข้าใจ แต่ขอมองในแง่ดีว่าการดูแลผู้สูงอายุคุณพ่อคุณแม่ทำให้ได้อยู่กันพร้อมหน้ากันตลอดเวลา ขอให้เพื่อนๆที่ได้รับหน้าที่ในการดูแลผู้สูงอายุ สู้สู้ และนำเคล็ดลับทั้ง 4 เคล็ดลับที่ผมแนะนำไปใช้ก่อนที่จะถึงเวลาที่จะต้องดูแลผู้สูงอายุจริงๆ ผมเชื่อว่ามันจะช่วยเพื่อนๆได้มากเลยทีเดียว
Pongpanet
ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวเลยนะครับสำหรับคนที่ อยากดูแลผู้สูงอายุเองที่บ้าน ก็มีขั้นตอนต่างๆที่ช่วยให้สามารถเตรียมตัว เเละทำให้เรามีเงินสำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เมื่อนึกถึงการดูแลผู้สูงอายุต้องใช้เวลาอยู่กับผู้สูงอายุตลอด ทำให้เราไม่สามารถทำงานประจำได้ และยังมีค่าใช้จ่ายที่ตามมาอีกด้วยทั้งตัวเราและของผู้สูงอายุเอง
วิโรจน์
ผมเองกับครอบครัวมีหน้าที่ต้องดูแลพ่อแม่ของผมที่ตอนนี้ก็สูงอายุมากแล้ว ผมกับภรรยาและลูกๆก็อยากจะดูแลท่านให้ดีที่สุดจึงเข้ามาหาข้อมูลว่าเราต้องทำอย่างไรได้บ้าง ซึ่งผมชอบเรื่องของการดูแลสุขภาพของเราเองด้วย เพราะมัวแต่คิดถึงแต่สุขภาพของพ่อแม่ แต่ถ้าเราไม่ดูแลตัวเราเองบ้างเกิดเราเจ็บป่วยขึ้นมาพ่อแม่จะเดือดร้อนได้เรื่องนี้ไม่คิดมาก่อนขอบคุณบทความนี้ครับ
น้ำผึ้ง
ถ้าไม่อยากให้ชีวิตของคนที่เรารักหรือผู้สูงอายุจบที่บ้านพักคนชรา จำเป็นที่ตัวเราจำเป็นต้องมีเงินเก็บหรือว่าค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะเอาไว้ดูแลคนที่เรารักด้วย บทความนี้แนะนำดีมากเลยค่ะที่จะช่วยให้เราสามารถเก็บออมเงินในตอนนี้ เพื่อที่จะดูแลค่าใช้จ่ายของตัวเองในอนาคต และดูแลสำหรับผู้สูงอายุที่อยู่ในการดูแลของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
Worrapat
ยังเตรียมตัวทันมั้ยเนี่ยพ่อผมจะหกสิบแล้ว ส่วนใหญ่จะเห็นแต่บทความที่แนะนำวิธีออมเงินเพื่อเอาไว้ใช้ในยามเกษียณของตัวเอง แต่ไม่ได้เตรียมการอย่างจริงจังสำหรับการดูแลพ่อแม่ของเราเมื่อท่านอายุมาก บทความนี้แนะนำดีมากเลยครับ มีเรื่องการดูแลสุขภาพของตัวเราเองด้วย ซึ่งสำคัญมากนะเพราะเราต้องแข็งแรงไม่อย่างนั้นเราจะดูแลพ่อแม่ไม่ได้นะครับ
sattra
คนไทยส่วนมากไม่ได้คิดแบบนี้นะ ที่เราเจอส่วนมากคนแก่ไม่ได้ทำงานที่สามารถเก็บเงินไว้ตอนแก่ได้ เพราะนิสัยคนไทยไม่ค่อยได้คิดไปไกลขนาดนี้ เอาง่ายๆเลย คนส่วนใหญ่ ก็บอกว่า ถ้าพ่อแม่แก่ตัวไป เขาก็จะดูแลตามความสามารถที่เขาดูแลได้ คือ เขาเองก็ต้องทำงานไปด้วยดูแลไปด้วย น้อยคนนะที่จะคิดว่าเก็บเงินเอาไว้ตอนเลี้ยงคนแก่
ฉลามบก
ครับ จริงครับ เห็นด้วยครับกับคำพูดของคุณข้างบนนี้ คนไทยนะน้อยมากที่จะคิดวางแผนในตอนแก่ ไม่เหมือนคนทางฝั่งยุโรปที่เขาวางแผนกันเป็นปกติ และรัฐบาลก็มาช่วยในการวางแผนด้วย คนไทยส่วนมากก็อย่างที่คุณบอกมาหน่ะจริงทุกประการ ก็ค่าเงินเรามันน้อยคร้าบ จะเก็บเงินก้อนให้พ่อแม่อยู่สบายมันยากเหลือเกิน ต้องพึ่งประกงประกันต่างๆมากมาย ไม่ง่ายเลยจริง
ปูดอง
จริงๆอีกวิธีนึงที่จะไม่ให้หนักเกินไป เราเลือกที่จะทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพให้กับพ่อแม่ค่ะ เพราะว่าตามปกติผู้สูงอายุก็มักจะเจ็บป่วยตามวัย การที่มีประกันสุขภาพช่วยคุ้มครองอยู่ เวลาเจ็บป่วยขึ้นมาก็ไม่เหนื่อยเราเกินไป เพราะว่าเดี๋ยวนี้ค่ารักษาพยาบาลค่อนข้างมีราคาที่สูง อีกอย่างเมื่ออยู่ครบสัญญาบางที่ก็ได้รับเงินคืนด้วย ก็เลยเงินตรงนั้นแหละที่จะเอามาไว้ใช้ดูแลพวกเค้าต่อๆไป
พาคิน
ต้องประหยัดเงินจริงๆนะครับสำหรับคนที่วางแผนจะดูแลผู้สูงอายุในอนาคต ไม่อยากให้พ่อแม่ของตัวเองต้องไปอยู่ในบ้านพักคนชราแล้วมีค่าใช้จ่ายสูง ก็จำเป็นต้องดูแลด้วยตัวเอง วิธีหนึ่งที่ช่วยได้ก็คือการประหยัดเก็บเงินตั้งแต่ตอนนี้ครับ เพราะว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่เราจะสามารถทำได้ หรือไม่ก็หาวิธีการลงทุนทำธุรกิจเพื่อที่จะได้เงินเติบโตมากขึ้นอีกเพื่อเลี้ยงดูตัวเองด้วย
หมิว
การวางแผนและการคุยกันกับพ่อแม่ก่อนวัยเกษียณถือเป็นเรื่องที่สำคัญค่ะ จะช่วยให้เราไม่ต้องรับภาระการเลี้ยงดูและการดูแลพ่อแม่เพียงแค่คนเดียว แต่เป็นการเตรียมตัวสำหรับพ่อแม่ด้วยเพื่อจะมีเงินช่วยเหลือหรือการเก็บออม สำหรับวัยเกษียณค่ะ การวางแผนและการพูดคุยเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการเตรียมตัว เพื่อจะได้รู้ว่าพ่อแม่มีเงินเก็บและค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่จำเป็นต้องใช้ค่ะ
ปริ๊นซ์☄
การดูแลผู้สูงอายุที่ ต้องใช้เวลาจริงๆนะ ยิ่งถ้าผู้สูงอายุ ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อันนี้ต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าเดิมจริงๆ แต่เราไม่เคยได้คิดเกี่ยวกับการที่เราต้องมีเงินเก็บตอนที่ต้องดูแลคนสูงอายุเลยนะ เพราะปกติเราเองก็ทำงานที่บ้านอยู่แล้ว คิดว่าเรื่องนี้คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ทำงานไปด้วยดูแลไปด้วยเราว่าน่าจะได้นะ
เถ้าแก่น้อย
จริงๆผมก็ต้องดูแลพ่อแม่ที่สูงอายุเหมือนกัน แต่พอมาอ่านบทความนี้ก็อยากแนะนำ Admin ที่เขียนบทความนี้สักหน่อยได้ไหมครับว่า ถ้าคุณเพิ่มวิธีการว่าจะต้องเก็บเงินออมเพื่อผู้สูงอายุโดยวิธีไหน หรือบริหารเงินยังไงเข้าไปด้วย เช่น ทำประกันชีวิต หรือลงทุนอะไรบางอย่างไหม?? ถ้าแนะนำวิธีเพิ่มเติมอย่างที่ผมได้พูดไป บทความนี้จะช่วยผมได้เยอะมากเลยทีเดียวครับ