หลายคนต่างมีเป้าหมายในชีวิต บางคนตอบได้เลยว่าเรียนจบแล้ว อยากทำงานอะไร สามารถสร้างฐานเงินเดือนได้จำนวนไหน มีรูปแบบชีวิตเช่นไร หรือแม้แต่การวางแผนเรื่องครอบครัวและการเลี้ยงดูลูกๆในอนาคต ยาวไปถึงวัยเกษียณ.. การคิดล่วงหน้าเป็นเรื่องที่ดี แต่เราก็ต้องมีวิธีจัดการ เพื่อการใช้ชีวิต และมีแผนการด้านการเงินแบบที่รองรับเป้าหมายในอนาคตของเราเช่นกัน บทความนี้ จะพาเราได้ดูพร้อมๆกันตามประสามือใหม่นักวางแผนว่า เราจะต้องทำยังไงบ้าง เพื่อการก้าวสู่อิสระภาพทางการเงินจะเป็นไปได้อย่างมีระบบ และชัดเจนมากขึ้น มาดูกันเลย

เป้าหมายในเรื่องระยะเวลาและผลตอบแทน

เป้าหมายในเรื่องระยะเวลาและผลตอบแทน

การวางแผนระยะใกล้ เราอาจแพลนได้ดีกว่าระยะไกลๆ สำหรับหลายคน เราตอบได้เลยว่า พรุ่งนี้จะต้องทำอะไร ไปที่ไหน เจอใครบ้าง กินอะไรดี หรือจะออกกำลังกายรึเปล่า?! แต่พอเป็นการวางแผนที่ซับซ้อนสักหน่อย เพื่อก้าวสู่ความเป็นอิสระภาพทางการเงินและชีวิตการลงทุน เราอาจจะยังไม่รู้ว่าต้องเริ่มแบบไหน หรือบางคนตัดปัญหา ไม่ทำต่อเอาซะดื้อๆ เพราะคิดว่า ไม่รู้! จริงๆ แล้ว แค่เราเข้าใจในระยะเวลาก็ถือเป็นกุญแจที่สำคัญ  เพราะเวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่าในการลงทุน ถ้าเราฝากเงินในธนาคาร 10 ปี ย่อมงอกเงยมากกว่า การฝาก 5 ปี เราจึงต้องเลือกหุ้นที่เติบโตทุกปี เลือกกองทุนที่มีผลดำเนินงานดีต่อเนื่อง เพื่อออกแบบแผนการลงทุนแบบที่สามารถบรรลุอิสระภาพทางการเงิน หรือการตั้งเป้าการเกษียณได้ง่ายขึ้น

ส่วนเงินต้นและผลตอบแทบจะถือเป็นข้อสังเกตที่มีผลตามมาด้วย ถ้าเราใช้เงินต้นในการลงทุน ยิ่งมากก็ยิ่งดี แม้อาจเริ่มจากน้อยก่อนสำหรับบางคน แต่พอมีมากขึ้น ก็ลงทุนเพิ่มตามลำดับได้ ยิ่งเราทยอยทำได้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็เหมือนการติดปีกให้ไปสู่อิสระภาพทางการเงินได้เร็วเท่านั้น. ส่วนอัตราผลตอบแทนในการลงทุนแต่ละอย่าง มันก็อยู่ที่การเลือกของเรา ว่าเลือกแบบความเสี่ยงระดับไหน หรือผลตอบแทนสูงระดับไหน แต่ถ้ายิ่งสูงมาก ก็ยิ่งเสี่ยงมาก จึงไม่อยากแนะนำให้ทำ เพราะโอกาสในการผันผวนก็จะมีมากตามไปด้วย เราจึงควรเลือกลงทุน ในระดับความเสี่ยงที่พอรับได้ จึงจะดีที่สุด

แต่การเลือกกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน โดยการไม่ยึดติดกับสินทรัพย์ชนิดเดียว ก็อาจจะดีกว่าในยุคนี้ อาจจะไม่ใช่แค่ดอกเบี้ยเงินฝาก กับเวลา ก็พอกิน เพราะอัตราปัจจุบัน มีดอกเบี้ยเงินฝากประมาณ 0.5 % ส่วนผลตอบแทนกองทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 8 % ต่อปี เราก็อาจชนะเรื่องปัจจัยของระยะเวลาได้ หรืออาจให้พอร์ตการลงทุนของเรา มีทั้งหุ้น และกองทุน ปะปนกันไป เป็นการกระจายในหลายๆสินทรัพย์ แล้วค่อยเลือกอันที่ผันผวนน้อยที่สุด และมีผลตอบแทนต่อปีสูงที่สุด แล้วเราก็จะวางแผนอนาคตทางการเงินได้ง่ายขึ้นด้วย

พลังจากการออมที่เร็วกว่า

พลังจากการออมที่เร็วกว่า

หลายคนเคยผ่านหู กับประโยคที่ว่า ‘ยิ่งออมเร็ว ยิ่งสบาย’ เพราะยิ่งเราออมเร็ว ก็เท่ากับ ภาระในการออม น้อยลงไปเรื่อยๆ ด้วยพลังของดอกเบี้ยทบต้น. อัตราผลตอบแทนของดอกเบี้ยทบต้น คือ ผลตอบแทนที่เราได้ จากการออมเงินในงวดก่อน พอเราลงซ้ำในงวดต่อมา ก็มีค่าเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น เช่น เคยลงทุนอยู่ที่อัตราผลตอบแทน 6 % ต่อปี ถ้าเราลงทุนด้วยเงินต้น 100 บาท สิ้นปีเราจะมีเงินออม 106 บาท พอปีที่สอง เราก็ลงทุนด้วยเงินจำนวน 106 บาทนี่ล่ะ พอบวกกับ อัตราตอบแทน 6 % สิ้นปีเราก็จะมีเงินออม 112.36  บาท

ยิ่งเวลาผ่าน อัตราผลตอบแทนของปีที่ผ่านมา พอรวมกับเงินต้นของเรา เงินออมก็จะเติบโตอย่างต่อเนื่องแบบกราฟเป็นเส้นโค้ง ถ้าเราเริ่มเร็วตั้งแต่อายุ 25 ปี ออมแค่เดือนละ 2000 บาท พอรวมกับระยะเวลา 35 ปี พร้อมดอกเบี้ยที่ทบต้นไปเรื่อยๆ พอเราอายุ 60 ปี ก็จะมีเงินเก็บเพื่อวัยเกษียณได้เป็นล้าน! เราจึงไม่ควรดูเบา หรือออมเงินช้า ยิ่งออมแต่เนิ่นๆเร็วเท่าไหร่ ชีวิตเราก็จะสบายมากกว่าเมื่ออายุมากขึ้น ถึงวันนั้น เมื่อลองมาใช้ชีวิตเรียบง่าย ก็คงพูดได้อย่างเต็มปาก ว่าเรามาสู่อิสระภาพทางการเงินแล้ว และสร้างชีวิตปั้นปลายอย่างมีความสุข

การวางแผนอย่างมีจินตนาการ

การวางแผนอย่างมีจินตนาการ

เราสามารถได้บทเรียน ดูจากโลกลูกหนังได้เหมือนกัน ในเกมกีฬาฟุตบอล ที่ถือเป็นกีฬาในดวงใจของผู้ชายหลายคน และหลายวัย ถ้าเรารู้จักการวางแผนทางการเงิน ได้เหมือนการวางแผนกีฬาฟุตบอล ทั้งกองหน้า กองกลาง หรือกองหลัง บวกกับกองเชียร์ข้างสนาม แล้วถ้วยรางวัลมันจะไปไหนพ้น โดยเราต้องสำรวจกองทัพผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่ตอบโจทย์อิสระภาพทางการเงินของเราดีๆ  ทั้ง สินทรัพย์ เงินปันผล หุ้น อนุพันธ์ ตราสารหนี้ บำนาญ หรือประกันสุขภาพ แล้วให้ ประตูชัย คือ เงินเก็บหรือการลงทุนที่เรามี เช่น

กองหน้า : เราต้องเลือกจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนดี มีการเปิดเกมรุกได้เร็ว อดทน แข็งแรง จะหลบหลีกคู่ต่อสู้ก็คล่องตัว ยิงประตูก็ได้ และมีชัยชนะต่อฝั่งตรงข้าม ด้วยเครื่องมือทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนสูงอย่าง หุ้นและอนุพันธ์ เพราะถึงแม้ต้องเจอความเสี่ยง แต่ก็มีโอกาสสูงที่สุด

กองกลาง : กองกลางที่ดี ต้องรวดเร็ว แม่นยำ และเฉียบขาด เพื่อทำลายเกมรุกของคู่ต่อสู้ได้ เราจึงต้องมีสินทรัพย์ทางการเงินที่เพิ่มมูลค่าได้ แต่ให้ความเสี่ยงไม่มาก อย่าง บ้านและอสังหาริมทรัยพ์ เงินบำนาญ หรือตราสารหนี้ เพื่อเป็นทั้งตัวรุกตัวรับ ต่อสู้กับความผันผวนทางการเงิน และเพิ่มความมั่นคงให้กับเราได้

กองหลัง : กองหลังเราต้องไม่ให้คู่แข่งเจาะเข้ามาได้ จึงต้องแน่น และมั่นคงแข็งแกร่ง. ถ้าชีวิตเราต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน หรืออะไรที่หลีกเลี่ยงไมได้ อย่างความเจ็บป่วย ภัยพิบัติ หรืออุบัติเหตุ เราจึงต้องมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่บริหารความเสี่ยงได้ดี อย่างกรมธรรม์ต่างๆ ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ หรือ ประกันชีวิต เป็นต้น

เป้าหมายเพื่อสร้างความสุขและอิสระภาพทางการเงินที่เราทำได้จริง!

เป้าหมายเพื่อสร้างความสุขและอิสระภาพทางการเงินที่เราทำได้จริง!

รู้สึกเลยมั้ยว่า เมื่อเรามีการเตรียมตัวอย่างรอบคอบและเป็นระบบมากขึ้นแบบนี้ ทั้งความเข้าใจในระยะเวลาและผลตอบแทน ก็จะช่วยให้เราจัดสรรทรัพยากรในการลงทุนได้ดี รู้จักอัตราการเติบโตของเงินต้น และเลือกกระจายความเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่มั่นคงกว่าได้. หรือแม้แต่การให้เวลากับพลังในการออมที่เร็วกว่า รู้จักกับดอกเบี้ยทบต้น ยิ่งออมแต่เนิ่นๆเร็วเท่าไหร่ ชีวิตเราก็จะสบายมากกว่าเมื่ออายุมากขึ้น ถึงวันนั้น ชีวิตปั้นปลายของเราก็จะมีอิสระภาพทางการเงินและมีความสุขแน่ๆ และปราการด่านสุดท้าย ที่จะช่วยให้เราก้าวข้ามผ่านปัญหาไม่คาดฝันในชีวิต สร้างความมั่นคงและผลตอบแทน ก็คือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ เหมือนเกมกีฬาฟุตบอลที่มีทั้ง กองหน้า กองกลาง และกองหลัง เพียงแค่เราจินตนาการให้ออก มองให้ถูก แล้วการก้าวเข้าสู่อิสระภาพทางการเงินในแบบที่นักวางแผนมือใหม่อย่างเราทำได้จริง ก็จะไม่ไกลเกินฝันอย่างแน่นอน