Brand สินค้า ไม่ใช่แค่ Logo แต่ ‘แบรนด์’ ที่ดี จะเปรียบได้เหมือนกับ ประตูสู่ชัยชนะของธุรกิจ! เราจึงต้องสร้างภาพลักษณ์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่สุด สร้างความรู้สึกที่น่าประทับใจต่อผู้บริโภคในสินค้าและบริการส่วนของเราให้มากที่สุด ผ่านการโฆษณาเพื่อให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้างเป็นเวลาต่อมาด้วย. แม้แบรนด์ที่ประสบผลสำเร็จจะต้องใช้เวลา แต่เมื่อเวลาผ่านต่อไป ผู้บริโภคที่เกิดความผูกพันต่อสินค้าของเรา เลือกซื้อเลือกใช้เพราะความไว้วางใจ แต่บางครั้งเราอาจไม่ได้ตอบโจทย์และมัดใจลูกค้าได้เหมือนก่อน จึงอาจจะถึงเวลา ที่เราต้องทำความรู้จักกับ การรีแบรนด์ (Rebranding) บทความนี้ จะพาเราไปดูว่า การรีแบรนด์คืออะไร เมื่อไหร่เป็นเวลาที่เราต้องทำการรีแบรนด์ ไปจนถึงประโยชน์และขั้นตอนในการรีแบรนด์ พร้อมชวนมาดูตัวอย่างของแบรนด์ดัง ที่รีแบรนด์มาแล้วประสบความสำเร็จได้อย่างสวยงาม เพื่อเป็นไอเดียทางธุรกิจต่อไปด้วย มาดูกันเลย..
การรีแบรนด์คืออะไร
การรีแบรนด์ (Rebranding) คือ กลยุทธ์ด้านการตลาด เพื่อปรับเปลี่ยนในส่วนของภาพลักษณ์องค์กร เพื่อรูปแบบทางธุรกิจที่แปลกใหม่ขึ้น มีการสื่อสารได้อย่างต่อเนื่องและชัดเจนขึ้น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนในด้านวิสัยทัศน์ตามมา อีกทั้งยังเกิดขึ้นเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนขององค์กรต่อไปด้วย
เมื่อไหร่ที่เราต้องรีแบรนด์
การทำการรีแบรนด์มันดี และใช้ได้ แต่เราก็ต้องตรวจสอบก่อนว่า สิ่งนี้คุ้มกว่า และเหมาะกับเราในสถานณ์นี้หรือไม่ โดยปกติแล้ว กลุ่มที่ทำการรีแบรนด์ส่วนใหญ่ จะมีอยู่ 3 กลุ่มหลัก คือ
- Under Branding หรือกลุ่มที่ยังไม่เคยมีการตั้งแบรนด์
- Confused Branding หรือกลุ่มที่มีแบรนด์แล้ว แต่ยังไม่ค่อยมีความชัดเจน
- Over Branding หรือกลุ่มที่ผู้ติดกับสินค้าเฉพาะกลุ่มเกินไป และไม่ครอบคลุมในเรื่องสินค้าและบริการในองค์กร เมื่อเรามีการวิเคราะห์และตัดสินใจว่าเราอยู่ในกลุ่มไหนแล้ว ก็สามารถมองหาเหตุผลเพื่อการตัดสินใจลงมือได้ หากสถานการณ์ของเราเข้าข่ายว่า กลุ่มเป้าหมายของเรากำลังเปลี่ยนไปตามยุคสมัยที่เกิดขึ้น ตลาดในปัจจุบันก็มีการขยายตัวออกไป ในแบบที่ต้องการความหลายหลายของสินค้าด้วย จึงอาจจะเป็นเวลาที่เราต้องทำการขยับขยาย หรือโกอินเตอร์บ้าง. หรือองค์กรของเราอาจกำลังเจอกับการเป็น แบรนด์เก่าทางประวัติศาสตร์ที่กำลังจะถูกลืมเลือน , มีการเปลี่ยนแปลง CEO หรือผู้บริหาร และมีสัญญาณ Disrupt ที่กำลังส่อเค้าอยู่ และมีเหตุการณ์อื่นร่วมอย่าง การเทคโอเวอร์ของบริษัท การมีธุรกิจอื่นใช้ชื่อแบรนด์ซ้ำกับเรา ก็คงถึงเวลาแล้วสำหรับการรีแบรนด์!
ประโยชน์ของการรีแบรนด์
การรีแบรนด์ เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว ตามระยะเวลา ในแต่ละประเภทของธุรกิจ เพื่อให้สถานะของแบรนด์มีความร่วมสมัย สร้างตัวตนให้แบบที่น่าจดจำกับผู้บริโภค. สำหรับแบรนด์ใหม่เริ่มต้น เราก็รีแบรนด์ได้เพื่อ พัฒนาปรับปรุงเพื่อให้สินค้าและบริการเข้าสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้ตรงที่สุด ส่วนแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ก็จะได้ประโยชน์จากการรีแบรนด์ ในการทำแบรนด์ให้แข็งแรงกว่าเดิม และเอาชนะคู่แข่งทางการตลาดได้มากกว่าเดิมด้วย ทั้งยังช่วยให้ทั้งองค์กรตื่นตัว มีเป้าหมายที่จะเดินหน้าอย่างเป็นระบบ ไม่ติดอยู่กับความเคยชินแบบเดิมๆ แต่ช่วยกันเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่าเดิมอีกเรื่อยๆ. รีแบรนด์จึงเป็นเหมือนการค้นหาความจริง เพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ลงไปในธุรกิจของเรา ด้วยการเปลี่ยนแปลงด้านความคิดเพื่อทำให้แบรนด์ที่หลับใหลกลับมามีชีวิตอีกครั้งนั่นเอง
ขั้นตอนในการรีแบรนด์
การเปลี่ยนแปลงด้วยการรีแบรนด์ทำได้หลายวิธี ไม่กว่าจะเป็นการเปลี่ยนชื่อของแบรนด์ไปเลย หรือการสร้างการจดจำใหม่ การพัฒนาสินค้าในรูปแบบใหม่ๆ หรือการเปลี่ยนแพ็คเกจและบรรจุภัณฑ์. ส่วนช่วงแรกๆของการรีแบรนด์ เราก็ต้องสร้างความแปลกใหม่ในเรื่องการใช้ถ้อยคำ เพราะประโยคที่เคยฮิตในครั้งก่อน ก็อาจจะเชยในภายหลังด้วย เมื่อเราคำนึงถึงผลกระทบที่จำเป็นต้องรีแบรนด์แล้ว ก็สามารถลงมือทำ เพื่อผลกระทบในระยะยาวด้วย 5 ขั้นตอน คือ
-
กำหนดจุดยืนและเอกลักษณ์ของแบรนด์ : เราต้องวิเคราะห์เรื่องกลุ่มเป้าหมายเพื่อกำหนดหัวใจหลักของธุรกิจได้ เพื่อสร้างมูลค่าของแบรนด์ เราต้องตอบให้ได้ว่า ทำอย่างไรถึงจะเข้าไปเป็น 1 ในใจผู้บริโภคได้ เมื่อลูกค้าเลือกใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ เราจะพิชิตใจพวกเขาได้หรือไม่
-
สร้างความแตกต่างให้น่าจดจำ : ถ้าเราตอบได้ว่าแบรนด์นี้สร้างความแตกต่างอย่างไร ก็เป็นความพร้อมที่ขาดไม่ได้ในการรีแบรนด์ที่ดี หากความแตกต่างไม่เด่นชัด ลูกค้าก็จะสับสนกับภาพลักษณ์ที่หลากหลายในท้องตลาดได้ จึงต้องตอบให้ได้ว่า แบรนด์ของเรามีมาเพื่ออะไร
-
เตรียมในส่วนของลูกค้า : เราต้องไม่ทำให้ลูกค้าหรือกลุ่มผู้บริโภครู้สึกขาดช่วง หรือขาดการติดต่อ เมื่อมีการรีแบรนด์เกิดขึ้น ก็อธิบาย หรือเกริ่นนำล่วงหน้า เพื่อบอกพวกเขาว่า แบรนด์รูปแบบใหน่ตัวนี้ มาจากอะไร และมีประโยชน์ต่อเขาอย่างไรด้วย เมื่อลูกค้าจดจำได้ ก็จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีตามมาด้วย
-
การลงพื้นที่เพื่อพูดคุย :การรีแบรนด์เราจะไม่ทำแค่การเปลี่ยนโลโก้ หรือเปลี่ยนชื่อ แต่เราต้องทำการวิจัยเพื่อวางแผนงานที่มีจุดยืน เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค และ บอกกล่าวกระบวนการเบื้องหลังเพื่อแชร์ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นนี้แก่ฐานลูกค้าด้วย พร้อมกลยุทธ์ในการโพสต์อย่างสม่ำเสมอด้วย
-
ภาพรวมในอนาคต : การรรีแบรนด์ทำให้เราได้คิดให้ดีก่อนลงมือทำการใหญ่ และเมื่อลงมือไปแล้ว ก็ต้องมองการณ์ไกลต่อไป ในส่วนของภาพรวมว่าอีก 5 - 10 ปี เราจะทำอะไรต่อด้วย เพราะแบรนด์ที่ดี ต้องมีตัวตนเสมอ เรายิ่งต้องสร้างความเชื่อมั่นและพัฒนาสินค้าต่อๆไป
สร้างความน่าจดจำอีกครั้งด้วยการรีแบรนด์ให้ได้ตรงตามเป้าหมาย!
เพราะ ‘แบรนด์’ คือสัญลักษณ์ที่ช่วยทำให้คนเห็นภาพ และจดจำสินค้าของเราได้ จึงถือว่ามีอานุภาพมากในการทำให้ธุรกิจของเราเป็นที่รู้จักในท้องตลาด และเป็นบันไดก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เราจึงควรเข้าใจธรรมชาติของแบรนด์ และรู้จักทางออกที่เหมาะสม เมื่อต้อง ‘รีแบรนด์’ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ให้เป็นที่จดจำของสังคมด้วย. และเนื่องจากแบรนด์ที่เคยนิยม แม้แต่แบรนด์ดังๆ เมื่อเวลาผ่านไป ก็ยังไม่อาจอยู่ในสถานะเดิม เนื่องจากคู่แข่ง หรือสภาวะที่เราควบคุมไม่ได้ จึงต้องมีกระแสการ รีแบรนด์ เข้ามาช่วยเปลี่ยนแปลง เพื่อปรับภาพลักษณ์ใหม่ๆ และให้กลุ่มผู้บริโภคตื่นตัว และเปิดใจรับอีกครั้ง. เราจึงเล็งเห็นถึงประโยชน์และตัวอย่างมากมายกับผลิตภัณฑ์ที่เรารู้จัก จึงอยากจะฝากผู้ทำธุรกิจทุกคนไว้ว่า การกล้าคิดอย่างสร้างสรรค์ เพื่อการเปลี่ยนแปลง มันไม่แย่เสมอไป และเราสามารถลงมือที่จะเริ่ม เพื่อสิ่งที่ดีกว่าได้ อย่างการรีแบรนด์!
Tatum
ธุรกิจในประเทศไทยที่มีการรีแบรนด์อย่างชัดเจนก็จะมี “ศรีจันทร์” สมัยก่อนชื่อผงหอมศรีจันทร์ ตัวสินค้าเดิมแบรนด์เดิม แสดงถึงสินค้าโบราณ ไม่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ทำให้ยอดขายตกลงเรื่อยๆและอาจจะต้องปิดกิจการลง เลยมีการรีแบรนด์ กับ "ชาตรามือ" โดยชุบชีวิตแบรนด์เก่าๆ และเป็นแบรนด์สินค้ารถเข็น ขึ้นมาใหม่ด้วยการในแนวคิดของการนำความเก่ามาทำให้ทันสมัย
Victor
การรีแบรนด์ก็ดีเหมือนกันนะคะ วันนี้ได้เรียนรู้เพิ่มมากขึ้นค่ะว่าการรีแบรนด์ก็เป็นเหมือนกับการกระตุ้นยอดขาย สร้างความจดจำให้กับผู้ใช้ เขาจะมีสัญลักษณ์หรือแบรนด์ใหม่ๆ จะช่วยให้ลูกค้าจดจำสินค้าได้ รวมไปถึงบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือของสินค้าที่ทำการผลิตมา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้สินค้าได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
น้ำฝน
การรีแบรนด์ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะสามารถเพิ่มผลกำไรให้กับสินค้าหรือธุรกิจได้เป็นอย่างดีเลยนะคะ เพราะว่าบางทีการที่เรารีแบนจะช่วยให้เพิ่มสินค้าที่ผู้คนจะรู้จักกันใหม่ๆ หรือล้างประวัติเกี่ยวกับสินค้าที่ลูกค้ารู้จักในแง่ลบ แล้วจะช่วยให้ลูกค้าสามารถจดจำลักษณะหรือคุณภาพใหม่ๆกับตัวสินค้าได้ ถ้าทำตามคำแนะนำเหล่านี้แล้วน่าจะดีขึ้นค่ะ
Tayukorn
ถ้ารีแบรนด์แล้วทำให้กระตุ้นยอดขาย ทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้าดีขึ้น หรือเป็นที่จดจำมากขึ้นก็น่าทำนะครับ สินค้าหรือผลิตภัณฑ์บางอย่างอาจดูเก่าหรือโบราณในสายตาของคนรุ่นใหม่ ทั้งที่เป็นของดีมีคุณภาพ หากมารีแบรนด์ก็คงเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้มากขึ้น ถือเป็นวิธีที่ดีเลยนะครับ แล้วยังทำให้ผมได้รู้กลยุทธ์ทางการตลาดมากขึ้นด้วย
ครวิทย์
ถ้าเราสามารถสร้างแบรยด์ที่เป็นสินค้าของเราได้จริงๆก็ดีสิครับ แต่ปัญหาคือ ถ้าเราเป็นร้าค้าหรือธุรกิจเล็กๆแล้วไปสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่รัก แบบนี้มันจะมีผลกระทบเรื่องของการเสียภาษีไหมครับ เพราะว่าคนที่มีแบรนด์สินค้าของต้วเอง ต้องเสียภาษีไม่ใช่น้อยเลยนะครับ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น มันจะคุ้มไหมถ้าเป็นร้านค้าหรือธุรกิจเล็กๆ
ท้องฟ้าที่สดใส
เราว่าเราไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่กับเรื่องของการรีแบรนด์นะ เพราะคนส่วนมากไม่ค่อยสนใจแบรนด์หรอก คนส่วนน้อยมากกว่า สินค้าหลายอย่างไม่มีแบรนด์ก็ขายได้ดีกว่าสินค้าที่มีแบรนด์ด้วยซ้ำ มันก็ขึ้นอยู่กับว่าขายอะไร ไม่ใช่ทุกอย่างมีแบรนด์แล้วจะขายดีหรอกนะ อันนี้ก็ต้องคิดให้ดีด้วยสำหรับเจ้าของกิจการ ใครเห็นด้วยกับเราบ้าง หรือใครมีความเห็นต่างยังไงก็ตอบมาได้นะจ้ะ
จานิน
จริงอย่างที่คุณท้องฟ้าสดใสว่าค่ะ เดี๋ยวนี้การตลาดมันเหมือนเปลี่ยนไปแล้ว คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยติดแบรนด์เเละเน้นของถูก ถามว่าสินค้าบางตัวเมื่อรีแบรนด์แล้วอาจจะปัง บางตัวอาจจะพังก็มีค่ะ แล้วแต่สินค้าด้วยเหมือนกัน ถึงรีแบรนด์ไปถ้าคนไม่นิยมก็จบ.... เดี๋ยวนี้การแข่งขันสูงมากนะคะเน้นไปไวมาไว ถ้าอยากจะรีแบรนด์จริงๆต้องทำการตลาดดีๆ
ใยไหม
ดีเหมือนกันนะคะสำหรับการรีแบรนด์ แต่ถ้าไม่อยากมีแฟนก็สามารถที่จะให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เก่าๆมีการจดจำที่ใหม่ๆได้เหมือนกันค่ะ โดยทำการรีวิวสินค้าหรือพยายามโปรโมทแบรนด์ของตัวเอง ให้มีการโฆษณาเยอะๆ เพื่อช่วยให้ ผู้คนจดจำแบรนด์ของตัวเองได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์และสินค้าที่แบบนี้สนับสนุนอยู่ ได้รับความนิยมมากขึ้นด้วยค่ะ
กิ่ง
การรีแบรนด์จะสำคัญก็ต่อเมื่ออยากจะสร้างความจดจำใหม่ๆให้กับกลุ่มลูกค้า แต่คิดว่ากว่าจะสร้างความรู้จักกับแบรนด์ใหม่ก็ต้องใช้เวลาเหมือนกันนะคะ ทำไมไม่ทำการพัฒนาแบรนด์เก่าให้ผู้คนรู้จักมากขึ้น หาสโลแกนใหม่ๆหาคนมารีวิว หาวิธีการใหม่ๆในการแนะนำแบรนด์ของตัวเอง เพียงเท่านี้ก็จะสามารถทำให้ผู้คนเข้าถึงและรู้จักแฟนเก่าที่เราใช้อยู่ได้แล้วค่ะ
ดิจิ
ตอนนี้ เพื่อนๆมีความเห็นแตกแยกออกเป็นสองฝ่ายแล้วสินะ บางคนว่า ดี บางคนว่า ไม่ดี แบบนี้ผมจะอยู่ฝ่ายไหนดีละครับ เอางงี้แล้วกันครับ อยากเล่าอะไรให้ฟังครับเกี่ยวกับเรื่องนี้ เคยเจอสินค้าตัวหนึ่งครับ ขายที่ห้าง ราคาไม่แรงมาก มียี้ห้อ แล้วผมก็เดินเที่ยวตลาดแถวบ้าน เจอสินค้าตัวเดียวกันกับในห้างเลยครับ แต่ไม่ติดยี้ห้อ ถ้าเป็นแบบนี้ เพื่อนจะเลือกอันไหนครับ
New
@ดิจิ คำถามของคุณน่าคิดมาก มันก็ตอบยากเหมือนกันนะ อยู่ที่ว่าสินค้าตัวนั้นคืออะไร สมมุติว่า อยากจะซื้อรองเท้าแตะ กับ รองเท้าทำงาน รองเท้าแตะจริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องซื้อยี่ห้อหรือราคาแพงซื้อตามตลาดแบบไม่มียี่ห้อก็ได้ แต่ถ้าเป็นรองเท้าทำงานก็อาจจะต้องซื้อที่มีคุณภาพดีหน่อยอยู่ดี ใช้ได้นานก็มีความจำเป็นที่จะซื้อแบบมียี่ห้อและราคาแพงๆ
นัฐศรา
เราเข้ามาอ่านเอาสนุกแล้วก็ปนความรู้นิดๆคะ ส่วนตัวแล้วไม่เคยที่จะทำอะไรที่ใหญ่โตขนาดนี้เลยคะ คิดว่าความสามารถของตัวเองในเรื่องของการบริหารและการจัดการ คงไม่สามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้คะ แต่เรื่องการรีแบรน เราเคยเห็น น้ำชาเจ้าดังในบ้านเราใช่ไหมคะ ที่มีการเปลี่ยนชื่อสินค้าของเขาใหม่ ตอนนี้เพิ่งทราบคะว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องของการตลาด
Omo
ยิ่งอ่านเรื่องของการลงทุน ความรู้ก็ยิ่งกว้างขึ้นกว้างขึ้นทุกที ใจจริงคืออยากลงทุนบ้างค่ะแต่เงินทุนยังไม่พร้อม อย่างเราเข้ามาในเว็บไซต์เนี่ยก็มาทยอยอ่านบทความเกี่ยวกับการลงทุนเยอะเหมือนกันนะในเว็บไซต์นี้ที่มีให้อ่าน แล้วเราก็ได้ความรู้ใหม่ๆเยอะด้วย บทความนี้ก็เช่นกัน ก็ไม่เสียหายนะสะสมความรู้ไปเรื่อยๆก่อน