สุขภาพช่องปากเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะละเลยได้ ซึ่งก็ได้มีหลายคนในทุกวันนี้ที่ไม่ได้เอาใจใส่กับช่องปากของตัวเอง และนั้นทำให้ตามมาด้วยปัญหาเกี่ยวกับช่องปากมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฟันผุ ปวดฟันคุด ฟันหัก แมลงกินฟัน เหงือกอักเสบ มีกลิ่นปาก ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาที่กวนใจและเจ็บปวดทรมาณเป็นอย่างมาก ซึ่งช่องปากของเรานั้นมันได้มีอวัยวะอย่างหนึ่งที่เรียกว่าฟันที่ ซึ่งเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญพอสมควรกับร่างกาย เพราะฟัน

นอกจากจะช่วยเสริมบุคลิกภาพแล้วยังเป็นอวัยวะที่อยู่ในกระบวนการย่อยอาหารอันดับแรกก่อนจะเข้าสู่ร่างกาย ทำหน้าที่ในการบดอาหาร และถ้าเพื่อนๆละเลยสุขภาพช่องปากจนทำให้เกิดปัญหาที่ได้บอกไปในตอนต้นแล้ว ค่ารักษานั้นก็ไม่ใช่ถูกๆนะครับ แต่ถ้าหากเพื่อนๆมีประกันสังคม เพื่อนๆก็จะสามารถเข้ารับการดูแลช่องปากได้โดยใช้สิทธิของประกันสังคม ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว แต่ประกันสังคมทำฟัน จะดูแลได้ขนาดไหน และดูแลในเรื่องอะไรได้บ้างให้เพื่อนๆไปดูด้วยกันครับ

ใครจะมีสิทธิ์ได้ทำฟันจากประกันสังคม

ใครจะมีสิทธิ์ได้ทำฟันจากประกันสังคม

จริงอยู่ที่ในบทความนี้เราพูดกันถึงเรื่องของสิทธิ์การทำฟันของผู้ที่มีประกันสังคม แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่มีประกันสังคมทุกคนจะสามารถรับสิทธินี้ได้ ซึ่งนั้นก็แปลว่าผู้ที่จะรับสิทธิประกันสังคมทำฟันได้นั้นมีเงื่อนไขอยู่ ผู้ที่จะมีสิทธิ์ได้ทำฟันจากประกันสังคม คือ ผู้ที่ได้ประกันตนในมาตรา 33 และ 39 เท่านั้น ไม่รวมผู้ประกันตนในมาตรา 40 และมีเงื่อนไขดังนี้  คือ ผู้ประกันตนในมาตรา 33 และ 39 ที่ส่งเงินประกันสังคมครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนถึงจะได้รับสิทธิเข้ารับการดูแลฟัน ซึ่งถ้าเพื่อนๆผ่านเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว เพื่อนๆจะเข้ารับการดูแลฟันเมื่อไรก็ได้ตามสะดวก และในกรณี ที่เพื่อนๆผ่านเงื่อนไขแล้วแต่เพื่อนๆได้ลาออกจากงาน ในกรณีนี้เพื่อนๆก็ยังเข้ารับการดูแลฟันได้อยู่ เพราะประกันสังคมจะมีการคุ้มครองต่อหลังจากที่ลาออกจากงานเป็นเวลาอีก 6 เดือน นับจากวันที่ลาออก

สิทธิประกันสังคมให้คุณทำฟันอะไรได้บ้าง?

สิทธิประกันสังคมให้คุณทำฟันอะไรได้บ้าง?

ถ้าพูดว่าเพื่อนๆที่สามารถเข้ารับการทำฟันได้ คือเพื่อนๆที่ประกันตนในมาตรา 33 และ 39 โดยมีเงื่อนไข คือ ต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคมมาเป็นเวลา 3 เดือน นั้นก็ดูจะเป็นการพูดที่เป็นแบบมุมกว้างเกินไปใช่ไหมครับ เพราะถ้ามาพูดถึงฟันของเรานั้น มันมีปัญหามมากกว่าหนึ่งปัญหาจริงไหมครับ เพราะฉะนั้นการทำฟันหรือการรักษาฟันก็มีวิธีมากมายเช่นกัน เพราะฉะนั้น ในหัวข้อนี้ จะพูดถึง สิทธิประกันสังคม ที่บอกว่าสามารถเข้ารับการทำฟันได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายสักบาทนี้คือ ทำอะไรได้บ้าง?

คำตอบ คือสิทธิที่เพื่อนๆสามารถใช้ได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว คือ การขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน และผ่าฟันคุด ซึ่งทุกอย่างที่เพื่อนๆทำทั้งหมดนี้จะต้องอยู่ในวงเงินที่ไม่เกิน 900 บาท แต่ถ้าหากเกินนอกเหนือจาก 900 บาท เพื่อนๆก็จะต้องทำการจ่ายเองนะครับ แต่สิทธิทำฟันจากประกันสังคม นอกเหนือจาก ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน และผ่าฟันคุด ยังมีอีกหนึ่งบริการ คือ การใส่ฟันปลอม ซึ่งการใส่ฟันปลอมถ้าเพื่อนๆมีประกันสังคมทำฟันเพื่อนๆก็จะได้รับเงินชดเชยค่ารักษาและค่าฟันปลอม ภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่เริ่มใส่ฟันปลอม

กรณีที่ได้รับเงินชดเชยนั้นก็แบ่งได้ ดังนี้ ใส่ฟันปลอมถอดได้บางส่วน และการใส่ฟันปลอมถอดได้บางส่วนก็จะแบ่งออกเป็นอีก 2 กรณีในการรับเงิน ได้แก่ ใส่ฟันปลอมจำนวน 1-5 ซี่ ซึ่งถ้าใส่ฟันปลอมในจำนวนดังกล่าวเงินที่จะได้รับก็คือ 1,300 บาท และใส่ฟันปลอมมากกว่า 5 ซี่ขึ้นไป เงินที่จะได้รับก็จะเป็น 1,500 บาท  และมาถึงกรณี ใส่ฟันปลอมถอดได้ทั้งปาก กรณีนี้ก็ จะได้รับเงินชดชเยโดยแบ่งเป็น 2 กรณี เช่นกัน คือ ฟันปลอมที่ถอดได้ทั้งปากบน หรือ ปากล่าง เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงวงเงินไม่เกิน 2,400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ใส่ฟันปลอม และ ใส่ฟันปลอมชนิดถอดได้ทั้งปากบน และ ปากล่าง เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงวงเงินไม่เกิน 4,400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ใส่ฟันปลอม ซึ่งการใช้สิทธิการทำฟันของประกันสังคมนั้นเพื่อนๆสามารถใช้สิทธิได้ทั้งกับโรงพยาบาลรัฐ หรือจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนก็ได้ แต่ก็ต้องเป็นสถานพยาบาลที่ประกันสังคมระบุเอาไว้ด้วยเช่นกัน

การเบิกค่าทำฟันจากประกันสังคม

การเบิกค่าทำฟันจากประกันสังคม

เพื่อนๆที่มีประกัน คงจะทราบถึงกระบวนการจ่ายเงินชดเชยของประกันส่วนใหญ่นะครับ ว่าผู้ประกันตนนั้นจะต้องมีการสำรองจ่ายไปก่อนและหลังจากนั้นก็ถึงค่อยนำบิลไปเบิกค่ารักษากับทางบริษัทประกัน ซึ่งส่วนตรงนี้ ทางประกันสังคมทำฟันนั้นแตกต่างออกไป คือ ถ้าเพื่อนๆเข้าทำฟันโดยใช้สิทธิประกันสังคม เช่น การขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน และผ่าฟันคุด ถ้าเพื่อนๆทำสิ่งเหล่านี้โดยผ่านสิทธิประกันสังคมเพื่อนๆไม่จำเป็นต้องสำรองจ่าย หรือก็เป็นไปตามที่ผมบอก คือ เพื่อนๆสามารถเข้าทำฟันได้เลยโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว

แต่เดี๋ยวก่อน ยังมีกรณีที่เพื่อนๆจะต้องสำรองจ่ายอยู่เมื่อกันในการใช้สิทธิทำฟันจากประกันสังคม นั้นก็คือ การทำฟันปลอมนั้นเอง ใช่แล้วครับ ถ้าเพื่อนๆทำฟันปอลมโดยใช้สิทธิ์ของประกันสังคม เพื่อนๆจะต้องทำการสำรองจ่ายไปก่อนและหลังจากนั้นก็นำบิลไปเบิกกับประกันสังคมอีกที ซึ่งช่องทางเบิกค่าทำฟันจากประกันสังคม ก็มีด้วยกันสองช่องทาง ได้แก่

  1. ช่องทางที่หนึ่ง สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพ ตรงนี้รวมไปถึงสำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาทุกแห่งทั่วประเทศ ยกเว้นสำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณะสุข ในวันเวลาราชการ
  2. ช่องทางที่สอง คือ ยื่นเอกสารผ่านทางไปรษณีย์ ไปให้กับสำนักงานประกันสังคมที่ใกล้บ้าน และ จ่าหน้าซองไปว่า ฝ่ายสิทธิประโยชน์ 
 ต่อมามาพูดถึงเอกสารที่ใช้ในการดำเนินเรื่องของเบิกค่าทำฟันแน่นอนว่า ไม่ได้ใช่แค่บิลค่ารักษาเพียงอย่างเดียวแน่  และสำหรับเอกสารที่ใช้ดำเนินการเบิกค่าทำฟันกับประกันสังคม ก็มีดังนี้ :
  • แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีทันตกรรม(สปส.2-16)
  • ใบรับรองแพทย์
  • ใบเสร็จรับเงิน
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือจะเป็นบัตรอื่นๆที่ทางราชการได้ออกให้
  • เวชระเบียนของแพทย์ผู้รักษา
  • สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี

ประกันสังคมก็ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายค่าทำฟันได้ต้องหาข้อมูลให้ดี

ประกันสังคมก็ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายค่าทำฟันได้ต้องหาข้อมูลให้ดี

สุดท้ายแล้วผมก็อยากจะให้พื่อนๆได้เห็นเหมือนกับที่ผมเห็นว่า ประกันสังคมที่เราโดนบังคับหักไปในแต่ละเดือนนั้น มันไม่ได้ศูนย์เปล่าแต่อย่างใดเลย เอาเข้าจริงๆมันมีประโยชน์มากมาย และมันสามารถช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะพวกเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษาต่างๆ อย่างการรักษาสุขภาพช่องปาก ในวันนี้ เช่นการทำฟัน ที่ได้ยกมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันในบทความนี้ และถ้าหากเพื่อนๆที่ทำงานในหน่วยงานหรือบริษัทต่างๆแน่นอนอยู่แล้วว่าจะต้องมีประกันสังคม ก็จงรับรู้สิทธิของตัวเองในการเข้ารับการรักษาสุขภาพช่องปากตามที่บทความนี้บอกไปได้เลยนะครับ อย่างลืมไปใช้สิทธิของตัวเองกันนะครับ