เป็นเรื่องที่ยากมากในสมัยปัจจุบันที่จะสอนลูกให้เติบโตมาเพื่อที่จะรู้จักในการใช้ชีวิตในทุกๆด้านทั้งทางด้านศีลธรรมอีกด้วย ในการเลี้ยงลูกก็จะมีไว้ของเขาเราอยากสอนเขาให้เป็นคนที่รู้จักควบคุมตัวเองทำตัวและมีความรับผิดชอบเป็นคนที่ซื่อสัตย์ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากที่สุดสำหรับพ่อแม่ที่จะสอนลูกให้อยู่ในขอบเขตที่ถูกต้อง อีกเรื่องหนึ่งที่พ่อแม่หลายคนก็เป็นห่วงและพยายามที่จะสอนลูกในเรื่องนี้ด้วยก็คือทำอย่างไรให้ลูกของเราเติบโตมาเพื่อที่จะรู้จักในเรื่องของการเงินหรือเป็นคนที่มีการควบคุมตัวเองในเรื่องเงินมากขึ้น
จริงอยู่เงินเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเรายังคงมีชีวิตต่อไปได้และยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ช่วยครอบครัวให้มีสิ่งจำเป็นในชีวิต แต่เราจะทำให้ลูกเห็นได้อย่างไรว่าเงินไม่ใช่ส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตหรือเราจะทำอย่างไรให้ลูกรู้ว่าเงินไม่จำเป็นต้องมาก่อนทุกสิ่ง ในบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆหรือพ่อแม่รู้ว่าเราควรที่จะสอนลูกให้รู้จักควบคุมตัวเองหรือมีความคิดที่สมดุลในเรื่องการเงินได้อย่างไร แล้วจะสอนให้เขาบริหารเงินเพื่อใช้ในสิ่งที่จำเป็นอย่างไรเมื่อเขาโตขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายด้วย เรามาเริ่มที่หัวข้อแรกกันเลย…
สอนลูกให้รู้จักคิดเรื่องเงินอย่างสมดุล
เราในฐานะที่เป็นพ่อแม่เรารู้อยู่แล้วว่าการที่เรามีเงินมากๆก็ไม่สามารถซื้อบางสิ่งบางอย่างกลับมาได้ ดังนั้นอันดับแรกเราควรจัดการความคิดหรือเรื่องความสมดุลเกี่ยวกับเรื่องเงินก่อนโดยทำให้ลูกเห็นและเข้าใจว่าเราควรมีแง่คิดแบบไหนกับเงิน? อันที่จริงมีสิ่งที่ช่วยเราตรวจสอบด้วยว่าเราคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องเงินและพอเรารู้คำตอบแล้วก็จะสามารถแก้ไขความคิดผิดๆที่มีกับเรื่องเงินได้เช่น เราอยากมีเงินมากๆเพราะอะไร? เพื่อที่จะซื้อสิ่งต่างๆและทำให้ตัวเองมีทุกอย่างพร้อมไหม? หรือเพียงแต่อยากให้สังคมรู้ว่าคุณเองก็มีเงินมากมาย? สิ่งเหล่านี้ถ้าคุณลองถามตัวเองดูแล้วว่าคุณคิดแบบนั้นแสดงว่าคุณกำลังตกอยู่ในอันตรายและกำลังใช้เงินในแบบที่ไม่ฉลาดแสดงว่าคุณกำลังมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องเงินเกินกว่าที่มันจะเป็น
งั้นเราจะแก้ไขอย่างไรล่ะเพื่อทำให้การเงินของเราและความคิดของเราเกี่ยวกับเรื่องเงินสมดุลมากขึ้น เราควรที่จะพยายามคิดว่าเงินทำให้เราอยากได้อยากมีมากขึ้นไหมและพยายามที่จะปรับปรุงนิสัยนี้ถ้าเรามีของบางอย่างที่มีอยู่แล้วไม่ควรที่จะหาข้อแก้ตัวหรือข้ออ้างเพื่อที่จะซื้อสิ่งนี้ใหม่ซึ่งแน่นอนในแต่ละปีแต่ละเดือนก็จะมีแบรนด์ใหม่ที่ออกมาเรื่อยๆซึ่งผู้คนก็จะนิยมแตกต่างกันไปในแต่ละปี ถ้าเราอยากตามแฟชั่นมากๆในทุกๆปีคุณจะมีเงินเก็บมากพอที่จะช่วยคุณเมื่อคุณเกิดอุบัติเหตุหรือไม่เหตุฉุกเฉินในอนาคตไหม ก็คงไม่แน่ๆดังนั้นเพื่อนๆควรที่จะพยายามคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังและลองปรับปรุงนิสัยดูทีละเล็กทีละน้อยแล้วก็เพื่อนๆจะเห็นความแตกต่างอย่างแน่นอนว่าก่อนหน้านั้นเรามีความคิดแบบไหนแล้วตอนนี้ล่ะเราคิดอย่างไรกับเรื่องเงิน มีคำพูดหนึ่งที่น่าสนใจมากบอกว่า ถ้าเราพอใจกับสิ่งที่เรามีอยู่ เราจะมีความสุขมากกว่าการหาเงินให้ได้มากๆจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น และนั้นมีผลกระทบอย่างอื่นตามมาด้วยเราอาจจะไม่มีเพื่อนที่รักเราจริงๆ ขาดโอกาสที่จะใกล้ชิดกับครอบครัวมากขึ้นอีกด้วย
สอนลูกให้รู้จักวิธีบริหารเงิน
ปกติแล้วลูกๆควรที่จะได้รับการสอนวิธีบริหารเงินก่อนที่พวกเขาจะมีครอบครัวหรือออกไปอยู่เอง มีคำพูดของคนหนึ่งที่บอกว่า ถ้าเราไม่ฝึกการบริหารเงินตั้งแต่ตอนที่อยู่กับพ่อแม่ ก็เหมือนกับเราถูกโยนลงในสระลึกซึ่งเราว่ายน้ำไม่เป็น ดังนั้นดีกว่าที่เราจะให้พ่อแม่สอนเราว่าเราควรบริหารเงินของเราอย่างไรให้เป็นระบบระเบียบและไม่มีปัญหาในภายหลัง ก่อนอื่นต้องถามตัวเองว่า เรามีความรู้สึกว่าเงินไม่พอใช้บ่อยไหม? เราชอบซื้อของแพงหรือของแบรนด์เนมไหม? ถ้าเรามีแนวคิดที่ว่าจำเป็นต้องซื้อของแพงและของที่มีความนิยมตามแฟชั่นในปัจจุบันแสดงว่าเรากำลังไม่ควบคุมหรือบริหารค่าใช้จ่ายของเรา เราควรจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร?
ก็รู้ดีว่าปัจจุบันนี้เราจะซื้ออะไรก็ดูเหมือนง่ายไปหมด เพราะเรามีทั้งบัตรเครดิต การโอนที่สะดวกสบาย แค่คลิกนิดเดียวก็สามารถซื้อได้หลายอย่างมีคำพูดของผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่า "ฉันเคยแต่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แค่ 30 นาทีเท่านั้นปวดไปเกือบ 2000 กว่าบาทแล้วเพียงแค่ซื้อของที่มีลดราคาแต่ไม่หยุดเลย" เพื่อนๆคงเคยรู้สึกแบบเดียวกันใช่ไหมตอนที่เราซื้อมาจะไม่ได้รู้สึกอะไรแต่พอหลังจากที่เราคิดไปเท่านั้นแหละเราก็ไม่รู้ตัวเลยว่าเราหมดเงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นบางครั้งถึงกับเสียดายในภายหลังด้วยซ้ำว่าทำไมฉันถึงตัดสินใจซื้อสิ่งนี้! เอาล่ะคราวนี้เราจะมาพูดถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายของเราจะทำยังไงให้เราควบคุมมันได้อยู่มัด เมื่อลูกยังเล็กอย่าตามใจเขาให้มันมากแล้วทำให้เขารู้ว่าทุกอย่างที่เขาอยากได้มันจะต้องเป็นของเขาทั้งหมด พยายามพี่จะสอนเขาแบบมีเหตุผลว่าทำไมจึงสำคัญที่ลูกจะต้องบริหารหรือควบคุมตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ การบริหารเงินที่ถูกต้องการใช้จ่ายกับสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น คำว่าจำเป็นมีอะไรบ้าง? คำว่าจำเป็นในที่นี้หมายถึงอาหารที่คุณกินในทุกวันเสื้อผ้าที่คุณมีใส่หรือค่าใช้จ่ายทางโทรศัพท์ รวมไปถึงค่าที่อยู่อาศัยสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น และสิ่งที่ไม่จำเป็นหมายถึงสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วแต่คุณอยากหาเพิ่มหรือมีแบบใหม่ตามแฟชั่นซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ดังนั้นขอให้เพื่อนๆแยกให้ออกว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นและสิ่งที่ไม่จำเป็นเพื่อที่จะไม่หมดเงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นและเสียดายในภายหลัง
สอนลูกให้รู้จักควบคุมค่าใช้จ่าย
การสอนลูกให้รู้จักควบคุมค่าใช้จ่ายตัวพ่อแม่เองต้องเป็นตัวอย่างที่ดีด้วย ตัวอย่างของเราจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของลูกมากอย่าคิดว่าตัวอย่างของคุณไม่มีผลกับลูก ไม่มากก็น้อยนิสัยของลูกจะทำให้คุณเห็นตอนโตว่าเขาเก็บนิสัยเรานั้นมาจากคุณ การสอนลูกตั้งแต่เล็กๆให้รู้จักควบคุมไม่ว่าจะเป็นการซื้อของเล่นให้เขาหรือการให้ขนมเขาดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆที่พ่อแม่อาจจะตามใจลูกแต่การตามใจลูกมากเกินไปมันส่งผลกับลูกในอนาคตว่าฉันก็สามารถใช้จ่ายในสิ่งที่ฉันอยากได้โดยไม่จำเป็นต้องควบคุมมัน ที่เป็นสิ่งแรกที่พ่อแม่ต้องคิดใคร่ครวญอย่างดีเมื่อคุณสอนเขาคุณเองก็ต้องทำแบบนั้นด้วย การควบคุมค่าใช้จ่ายก็คือการคิดใคร่ครวญอย่างดีว่าสิ่งที่คุณกำลังซื้อจำเป็นจริงๆไหม? การใช้บัตรเครดิตของเราส่งผลต่อเราทำให้เรามีหนี้สินมากขึ้นไหม? ถ้าใช่ เพื่อนๆคงเห็นปัญหาแล้วล่ะว่าคนแก้ที่ไหน นั่นก็คือที่บัตรเครดิตนั่นเอง นี่เป็นตัวชี้ชัดเจนว่าเพื่อนๆใช้เงินไปมากแค่ไหนในแต่ละเดือน
สิ่งที่จะช่วยเราได้ก็คือ
-
การจดบันทึกว่าเราใช้เงินที่เราได้และเงินที่เรารับในแต่ละเดือนเท่าไหร่ งั้นเราก็ต้องเขียนอีกด้วยว่าเราซื้ออะไรไปบ้างในแต่ละวันแต่ละเดือนราคาเท่าไหร่แล้วพอถึงสิ้นเดือนเราก็มารวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่นี้เราก็จะเห็นว่าใน 1 เดือนเรามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่จะซื้อสิ่งต่างๆและมีเงินเก็บเท่าไหร่
-
เราควรทำให้แน่ใจว่าเราจัดงบในแบบที่ถูกต้องก็คือไม่เผื่อมากจนเกินไปเพื่อที่จะช้อปปิ้งหรือใช้ในสิ่งต่างๆที่ไม่จำเป็นจดบันทึกไปว่าเราควรใช้เท่าไหร่ในแต่ละวันและควรทำตามตารางนั้นด้วย
-
การปรับนิสัยเรื่องการใช้จ่าย รายการที่ไม่จำเป็นคุณก็ต้องพยายามที่จะไม่ซื้อสิ่งเหล่านั้น การพยายามควบคุมตัวเองจะทำให้คุณจ่ายสิ่งที่จำเป็นก่อนลดค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งที่ไม่จำเป็นข้อนี้ถือว่ายากมากในการปรับเปลี่ยนนิสัยแต่มันก็ไม่ได้ยากเกินไปที่เพื่อนจะทำไม่ได้ การปรับนิสัยจะช่วยให้เรามีเงินเก็บมากขึ้นและเราสามารถซื้อสิ่งที่จำเป็นมากขึ้นในอนาคตหรือถ้าเรามีอุบัติเหตุหรือเกิดอะไรขึ้นเราก็จะสามารถรองรับมันได้โดยไม่จำเป็นต้องกู้เงินที่มีหนี้สินหรือขอความช่วยเหลือจากคนอื่นโดยไม่จำเป็น ทั้งหมดนี้ก็จะช่วยให้เราป้องกันสิ่งต่างๆที่เลวร้ายไม่ให้มันเกิดขึ้นเรื่องเงินถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆถ้าเรายุ่งกับมันมากก็จะทำให้เราติดกับดักได้ง่ายทำให้เราไม่มีเวลาเลยที่จะคิดว่าเรากำลังเป็นคนรักเงินไหม
เราควรคิดถึงข้อเท็จจริงของเรื่องเงินและมีความสมดุลอยู่เสมอ
เพื่อนๆเห็นไหมว่าการคิดอย่างจริงจังว่าเรื่องเงินมันจำเป็นมากแค่ไหนสำหรับเรามีผลกับเราไปตลอดชีวิตถ้าเราไม่มีความคิดสมดุลในเรื่องการเงินเราจะไม่มีความสุขเลยเพราะทั้งชีวิตของเราจะคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเราจะสูญเสียความสัมพันธ์กับคนรอบข้างทำให้เราไม่มีเวลาที่จะสนใจตัวเอง จริงๆก็มีประสบการณ์ของหลายคนที่พวกเขาพยายามหาเงินให้ได้มากๆแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่สามารถนำเงินที่พวกเขาหามาได้ทำให้ชีวิตเขามีความสุขได้ตลอดเพราะสักวันหนึ่งเงินเหล่านี้ก็จะไม่จำเป็นสำหรับเขาเลย ถึงมีข้อความเขียนไว้ว่าถึงแม้เงินจะซื้อหลายสิ่งหลายอย่างที่จำเป็นสำหรับพวกเราได้แต่เงินก็ไม่สามารถซื้อความสุขไม่สามารถซื้อครอบครัวและไม่สามารถทำให้เรามีความสุขที่แท้จริงได้
เราควรจำไว้เสมอว่าเงินเป็นเครื่องป้องกันแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสติปัญญาที่จะใช้เงินอย่างฉลาดนั่นแหละเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าเงิน บางครั้งเราอาจหลงไปหรือกลับไปทำนิสัยเดิมอีกแต่ถ้าเราตรวจสอบตัวเองเป็นระยะๆว่าเรากำลังใช้เงินในแบบที่ฟุ่มเฟือยไหมนั้นช่วยดึงเรากลับมาให้คิดถึงความจำเป็นและความสมดุลในเรื่องของการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะวัยรุ่นที่เริ่มที่จะออกไปหารายได้ด้วยตัวเองไม่มีพ่อแม่อยู่กับคุณตลอดเวลาที่จะคอยบอกคุณว่าคุณต้องทำอย่างไรหรือไม่ทำอะไรดังนั้นการที่คุณมีอิสระในการตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำอะไรก็ได้ในแบบที่คุณชอบแต่การที่พ่อแม่ไว้ใจให้คุณออกไปมีที่ส่วนตัวและทำงานได้เองแสดงว่าพ่อแม่ไว้ใจคุณว่าคุณสามารถทำได้ดูแลตัวเองได้ และพ่อแม่ก็คงดีใจด้วยว่าคุณเป็นลูกที่พยายามเลียนแบบนิสัยและวิธีการสอนที่พวกเขาพยายามอบรมคุณมาตลอดชีวิตของพวกเขาเขาจะภูมิใจในตัวคุณมากถ้าคุณทำให้พวกเขารู้ว่าคุณดูแลตัวเองได้
ปฐม
ในฐานะที่เราเองเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวบางทีก็เลี้ยงลูกแบบตามใจมากเพราะกลัวว่าลูกจะขาดอะไร เลยให้ทุกอย่างที่ลูกขอด้วยความที่รักลูกมากเกินไป จนบางเดือนหมุนเงินไม่ทัน แต่เราก็ต้องโทษตัวเราเองด้วยแหละที่ไม่ค่อยมีระเบียบเรื่องการใช้เงินเลยทำให้เกิดปัญหา ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าต้องสอนลูกยังงัย...ดีนะที่ได้มาอ่านเจอบทความดีๆแบบนี้ทำให้เราคิดอะไรได้
Rung
เราเห็นด้วยนะคะ เพราะว่าถ้าเด็กๆไม่ได้รับการสอนในเรื่องเงินตั้งแต่เด็กเขาก็จะคิดว่าเงินเป็นสิ่งหาง่ายๆไม่รู้จักคิด แต่ก็ไม่ได้สอนให้ลูกคิดว่าเงินเป็นสิ่งมีค่าเกินไปชอบค่ะที่บอกว่าเราต้องสอนลูกให้รู้จักคิดเรื่องเงินอย่างสมดุลเพราะลูกเราเป็นคนรักเงินมากเกินไปก็ไม่ดีไม่เห็นค่าเงินเลยก็ไม่ได้ชอบมากค่ะ ของเราเวลาสอนลูกๆก็ต้องอดทนแต่สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือต้องเป็นตัวอย่างให้เขาค่ะ
น้ำตาล
เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกันนะคะสำหรับพ่อแม่ที่จะปลูกฝังลูกตั้งแต่เด็กๆ ให้เห็นความสำคัญของการออมเงินหรือการเก็บเงินตั้งแต่เด็ก เพราะว่าจำเป็นต้องคิดถึงเกี่ยวกับลูกเล่นหรือสิ่งที่จะทำให้ลูกสนใจในการออมเงินให้ทำแล้วก็สนุกด้วย เพราะเด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันวิธีการสอนก็ไม่เหมือนกัน ต้องปรับการสอนให้เข้ากับนิสัยของเด็กด้วยเพื่อจะช่วยเด็กให้รักการออมเงิน
Natsuda
เห็นด้วยนะคะเรื่องการสอนลูกให้รู้จักใช้เงิน โดยเฉพาะสอนตามข้อเท็จจริงและให้มีความสมดุลด้วย เรื่องนี้สำคัญมากค่ะ ความรู้จากบทความนี้ไม่ใช่แค่คนที่เป็นพ่อแม่เอาไปสอนลูกได้เท่านั้นแต่คนที่เป็นผู้ใหญ่อย่างเราก็เอาไปใช้ประโยชน์ได้เหมือนกัน จะว่าไปก็ยังทำไม่ครบทุกอย่างเลย ต้องพยายามให้มากกว่านี้ เดี๋ยวอายเด็กค่ะ
พนมพร
ใช่ๆเงินเป็นเครื่องปกป้องอนาคตของเราจริงๆด้วย แต่เราก็ต้องใช้สติปัญญาของเราในการใช้จ่ายเงินด้วยเหมือนกัน เพราะมีเงิน แต่ไม่มีสติปัญญาในการใช้เงิน ไม่นานเงินก็หมดได้ ลองดูสิคนที่อยู่ๆแล้วรวย ขาดสติแล้วเงินที่ได้มาก็หมดไปได้อย่างรวดเร็วเลย เราต้องสอนลูกๆเราให้มีสติเสมอเมื่อเขาโตขึ้นแล้วสามารถทำงานหาเงินด้วยตัวเองได้
นนท์
ผมเป็นคนที่โตมาแบบพ่อแม่ไม่สอนเรื่องเงินเลย แต่ก็ยังไม่สายที่ผมพยายามหาความรู้เรื่องเงินด้วยตัวเองจึงไม่ลำบาก ผมเลยตั้งใจสอนลูกของผมให้รู้จักเรื่องเงินตั้งแต่เด็กๆ อย่างเช่น ก่อนจะให้เงินเขาก็ให้เขาทำงานแลกก่อน และสอนเขาหาเงินโดยใช้ความสามารถของเขาเอง ลูกสาวผมชอบงานประดิษฐ์ก็ให้เขาทำงานนั้นไปขาย เขาจะได้รู้จักการหาเงินครับ แล้วผมก็เห็นด้วยกับบทความนี้มากๆเลย
เบน
บางคนคิดว่าการควบคุมโดยการให้เงินกับลูกจำนวนน้อยเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ลูกใช้เงินเป็น จริงๆแล้วไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ฝึกให้ลูกรู้จักบริหารการใช้เงินใน 1 วันก่อน หลังจากนั้นค่อยๆเพิ่มขึ้นเป็น 1 สัปดาห์ เพื่อที่เด็กจะได้เรียนรู้ว่าใช้เงินไปก่อนหมดเร็วก็จะได้รับผลกระทบยังไง หลังจากนั้นก็เพิ่มเป็นให้เงินสำหรับค่าใช้จ่าย 1 เดือนให้ไปบริหารเอง นี่ต่างหากล่ะคะที่เป็นการช่วยลูกจริงๆ
บอล
ตอนที่ทำการลงบันทึกประจำวันว่าจะต้องใช้จ่ายเงินเท่าไหร่ ต้องสอนลูกด้วยนะคะว่าจะต้องไม่ลงแบบตึงเกินไป ให้เผื่อไว้สำหรับที่ต้องใช้จ่ายจริงๆด้วย และแต่ละวันเมื่อได้ลงบัญชีไปแล้วว่าจะใช้ไปวันละเท่าไหร่ ก็ให้ทำตามสิ่งที่เขียนไว้อย่างเคร่งครัด การทำแบบนี้จะช่วยให้ลูกสามารถที่จะมีระเบียบวินัยและรู้ว่าจะต้องใช้เงินอย่างที่ตัวเองวางแผนไว้เพื่อให้มีเงินเหลือเก็บ
ชยภัค
ทำอะไรหมดทุกอย่าง ถ้ายังไม่ได้ผลในเรื่องการสอนลูกๆในรู้จักคุณค่าของเงิน เราว่า แทนที่จะสอนจะพูดอย่างเดียว ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนการสอนแล้ว เอาตัวของพ่อแม่เป็นแบบอย่างเลย การสอนด้วยตัวอย่าง อย่าคิดนะครับว่าจะใช้ไม่ได้ ลูกมักเรียนแบบพ่อแม่ครับ ถ้าเราเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการใช้เงิน รับรองครับว่าลูกเราเรียนแบบตามแน่นอน
สมชาย
วิธีหนึ่งที่จะสอนลูกที่กำลังอยู่ในช่วงวัยกำลังโตให้ใช้เงินได้ก็คือ สอนให้ลูกควบคุมค่าใช้จ่ายครับ ต้องให้เขามีประสบการณ์ว่าถ้าเขาไม่ควบคุมค่าใช้จ่ายแล้วผลจะเป็นยังไง ต้องยอมให้เขาได้เจอกับประสบการณ์ของตัวเอง ถ้าครั้งเดียวยังไม่พอก็ต้องให้เจอบ่อยๆ เผื่อเขาจะได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่าการที่เขาไม่ควบคุมการใช้เงิน จะทำให้เขาไม่มีเงินใช้ในบางวัน