ในโลกยุคปัจจุบันนี้เราคงต้องยอมรับกันว่า”อินเทอร์เน็ต”ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญยิ่งกับการใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์เรา ไม่ว่าจะใช้เพื่อการศึกษา การทำงาน การสื่อสาร การค้นคว้าหาข้อมูล การให้ความบันเทิง ฯลฯ ทุกคนในยุคนี้จึงพยายามก้าวตามให้ทันกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะได้ไม่เป็นคนตกยุคกันค่ะ นอกจากนี้การก้าวตามเทคโนโลยีนั้นก็ยังมีข้อดีตรงที่ช่วยให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันของเรานั้นง่ายและสะดวกขึ้นไปอีกด้วย

ปัจจุบันนี้โครงข่ายอินเทอร์เน็ตมีความครอบคลุมและกระจายได้ทั่วถึงทุกพื้นที่ทั่วโลก ทำให้คนเราสามารถเข้าถึงทุกสิ่งที่ต้องการได้ในแบบที่ไร้ขีดจำกัด “การขายของออนไลน์” จึงเป็นอีกอาชีพที่เกิดขึ้นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในปัจจุบัน เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากมายทุกพื้นที่ทั่วโลก ประหยัดค่าเช่า ไม่ต้องหาทำเล สามารถดำเนินธุรกิจได้ง่ายๆด้วยตัวเอง และที่สำคัญนั้นยังเป็นที่ชื่นชอบและถูกใจของเหล่านักช็อปในปัจจุบันกันอีกด้วย เพราะมีความสะดวกสบาย ได้เลือกหาสินค้าได้หลากหลาย ไม่ต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพียงแค่ คลิ๊ก ของก็ส่งตรงถึงบ้าน เรียกได้ว่ามีข้อดีทั้งผู้ขายและผู้ซื้อกันจริงๆเลยล่ะค่ะ ด้วยข้อดีหลายๆอย่างของการขายของออนไลน์นี้ จึงทำเอาหลายๆคนสนใจที่อยากจะเริ่มธุรกิจขายของออนไลน์กันดูบ้าง วันนี้เราจึงนำ “8 วิธีขายของออนไลน์ยังไงให้ปัง!” มาฝากเพื่อนที่อยากเริ่มต้นแต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรมาให้ติดตามกัน ตามอ่านไปพร้อมๆกันได้เลยค่ะ

สร้างความประทับใจแรกให้เป็นของเรา

สร้างความประทับใจแรกให้เป็นของเรา

หน้าตาของเว็บไซต์นั้นเป็นสิ่งแรกที่สามารถช่วยดึงดูดความสนใจให้ลูกค้าได้แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมในเว็บไซต์ของเราค่ะ หน้าตาของเว็บไซต์จึงเป็นด่านแรกที่ผู้ขายของออนไลน์นั้นจำเป็นต้องให้ความสำคัญให้มาก ควรออกแบบให้มีสีสันที่สวยงาม ไม่รกเลอะเทอะ หรือดูลิเกจนเกินไป มีภาพและรายละเอียดของสินค้าที่อ่านแล้วน่าสนใจ มีความน่าเชื่อถือ รวมไปถึงคำจำกัดความของร้านก็ควรเป็นประโยคที่ดึงดูด กระชับ อ่านแล้วเข้าใจได้ง่ายก็จะยิ่งช่วยสร้างความโดดเด่นให้แก่ร้านค้าของเราค่ะ ยิ่งหากเว็บไซต์ของร้านเรานั้นได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายในการค้นหาสินค้าของลูกค้า มีความง่ายต่อการกดสั่งซื้อ ไม่ซับซ้อนหลายขั้นตอนมากจนเกินไปด้วยแล้ว ก็ยิ่งจะช่วยส่งให้ร้านค้าของเราเป็นที่รู้จักของลูกค้าอื่นๆได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วยค่ะ เรียกว่าเป็นการ  ”สร้างความประทับใจแรกให้เป็นของเรา” นั่นเองค่ะ

ทำตามกฏ

ทำตามกฏ

หากร้านค้าออนไลน์ของเรานั้นเป็นเว็บไซต์ของเราเอง ก็คงไม่มีปัญหาอะไรในเรื่องของการทำตามกฎกติกามารยาทค่ะ แต่หากร้านค้าของเราต้องไปฝากไว้กับเว็บไซต์ออนไลน์อื่นๆ เช่น Shopee , Lazada ฯลฯ เราควรต้องอ่านกฎกติกามารยาทให้ดีและเข้าใจกันเสียก่อน และควรจะทำตามกฎที่มีนั้นอย่างเคร่งครัดค่ะ เช่น ระยะเวลาการจัดส่งสินค้า ข้อกำหนดของสินค้าต้องห้ามที่ห้ามลงขาย ฯลฯ มิเช่นนั้นเราอาจถูกเว็บไซด์ออนไลน์นั้นๆหักคะแนนความประพฤติของร้านค้า ซึ่งสิ่งนี้มีผลทำให้ลูกค้าที่เห็นนั้นเกิดความไม่เชื่อถือ และไม่สั่งซื้อสินค้ากับร้านค้าของเรานั่นเองค่ะ หรือหากคุณผิดกฎของเว็บไซต์นั้นอยู่เป็นประจำ ก็อาจถึงขั้นถูกสั่งปิดบัญชีร้านค้าของเราตลอดไปได้เลยนะคะ แต่ตรงกันข้ามหากว่าเราปฏิบัติได้ถูกต้องตามกฎกติกาที่ตั้งไว้ของเว็บไซต์ออนไลน์นั้นๆ ก็จะช่วยส่งผลดีให้ร้านค้าออนไลน์ของเราติดอันดับความน่าเชื่อถือ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ลูกค้าก็จะหลั่งไหลเพิ่มมากขึ้น และจะนำมาซึ่งยอดขายของร้านที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่องกันเลยค่ะ

อยู่แถวหน้าให้ได้

อยู่แถวหน้าให้ได้

คงจะดีไม่น้อยหากชื่อร้านค้าออนไลน์ของเราเด้งขึ้นมาอยู่เป็นอันดับต้นๆ ในหน้าแรกของ Google ในตอนที่ลูกค้าค้นหาสินค้าที่ต้องการใช่ไหมคะ? การเด้งขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ หรือการ “อยู่แถวหน้าให้ได้” นั้นมีผลช่วยให้ร้านค้าของเรามีโอกาสที่จะได้รับการเข้าชมจากลูกค้าได้สูงมากกว่าร้านค้าออนไลน์ร้านอื่นๆ  เรียกได้ว่ามีชัยไปกว่าครึ่งกันแล้วค่ะ เพราะเมื่อลูกค้าได้เข้ามาเยี่ยมชมเราก็จะมีโอกาสขายสินค้าในร้านของเราได้ก่อนร้านอื่นๆนั่นเอง แต่การจะขึ้นมาอยู่แถวหน้าอย่างที่กล่าวไว้ให้ได้นั้นต้องทำอย่างไร? ตรงนี้ก็ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่เราควรจะตั้งชื่อร้านให้ง่ายต่อการเข้าถึง และชูจุดเด่นให้อ่านแล้วดูน่าสนใจ เช่นเรื่องของราคาที่ถูก  สินค้านำเทรนด์ล่าสุด สินค้าที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ควรจะนำลิงค์ หรือโฆษณาของร้านเราไปขึ้นไว้ตามเว็บไซต์ต่างๆ ตามเว็บบอร์ด ตามบล็อกต่างๆที่ได้รับความนิยมกันอยู่เป็นประจำ ตรงนี้ก็เป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนรู้จัก และคุ้นเคยกับร้านของเรากันมากขึ้นค่ะ

สั้น กระชับ ชัดเจน

สั้น กระชับ ชัดเจน

วิธีถัดมาเรามาดูถึงในเรื่องการโพสต์ข้อความเพื่อลงขายสินค้ากันบ้างค่ะ การลงโพสต์ของข้อความเพื่อลงขายสินค้านั้นควรให้มีข้อความที่ ”สั้น กระชับ ชัดเจน” ไม่ควรใส่ข้อความเยอะจนเกินไปเสียจนแลดูแล้วไม่น่าอ่าน เราควรเลือกใส่ข้อมูลที่สำคัญๆ ลงไปเท่านั้น เข่น ชื่อสินค้า คำบรรยายสินค้าที่เป็นจุดเด่นแบบสั้นๆ รหัสของสินค้า ราคาสินค้า และช่องทางการติดต่อของร้านค้า (เบอร์โทรศัพท์ , Line ID , Facebook , IG ) แค่นี้ก็เพียงพอแล้วล่ะค่ะ เพื่อที่โพสต์ของเรานั้นจะได้ดูน่าอ่าน และหากมีผู้สนใจในสินค้าของเราก็ยังจะสามารถรู้ถึงรายละเอียดของสินค้าในแบบย่อๆได้อีกด้วย ซึ่งหากลูกค้านั้นสนใจจริงๆก็จะติดต่อเพื่อขอรายละเอียดของสินค้าเพิ่มเติมกับเรามาเองค่ะ เพราะฉะนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญในการเลือกข้อความที่จะโพสต์ลงให้มากด้วยนะคะ เพราะสิ่งๆนี้ก็จะเป็นตัวช่วยดึงดูดการตัดสินใจของลูกค้าว่าจะเลือกอ่านหรือไม่ ซึ่งก็จะมีผลกับการตัดสินใจซื้อของลูกค้าตามมาค่ะ

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

“การตอบกลับอย่างรวดเร็ว” ของเรานั้นเป็นความคาดหวังอย่างยิ่งสำหรับลูกค้า และเว็บไซต์ต้นขั้วของร้านค้าเรา ที่พวกเขาอยากจะได้เห็นจากเราค่ะ เป็นเรื่องธรรมชาติที่ลูกค้าสนใจในตัวสินค้าแล้วต้องการข้อมูลรายละเอียดที่เพิ่มมากขึ้นจากทางร้านค้าเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อ เนื่องจากสินค้านั้นๆเป็นสินค้าที่ได้เห็นแค่เพียงรูปภาพ และรายละเอียดสินค้าอยู่เพียงเล็กน้อย การสอบถามเพิ่มเติมจึงมักเกิดขึ้นตลอดในการซื้อ-ขายของออนไลน์ค่ะ โดยปกติการตอบกลับนั้นมักจะถูกคาดหวังไว้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่หากร้านค้าของเราสามารถทำได้รวดเร็วกว่านั้นล่ะคะ? แน่นอนเลยค่ะว่าต้องเป็นที่ประทับใจและพึงพอใจของลูกค้า และเว็บไซต์ต้นขั้วของเราอย่างแน่นอน นอกจากนี้การตอบกลับที่รวดเร็วก็ยังเป็นการช่วยส่งให้การตัดสินใจที่อยากจะซื้อของลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วยค่ะ ปัจจุบันนี้หลายๆเว็บไซต์ก็ได้พัฒนาช่องทางไว้อำนวยความสะดวกเพื่อให้เราได้สามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น  อย่างเช่นการมีหน้าต่างแชทที่ช่วยให้เราได้ติดต่อกับลูกค้าได้ทันท่วงทีค่ะ ซึ่งในหน้าต่างแชทนี้เรายังสามารถเพิ่มช่องทางการติดต่อที่เป็นทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็วให้กับลูกค้า เช่น Line , Facebook กันได้อีกด้วยนะคะ เราจึงควรใช้หน้าต่างแชทนี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่จะนำมาซึ่งการสั่งซื้อของลูกค้าในเวลาถัดไปค่ะ

ให้ความสำคัญกับหีบห่อ

ให้ความสำคัญกับหีบห่อ

แน่นอนว่าคงไม่มีลูกค้าคนไหนต้องการที่จะรับสินค้าในสภาพที่กล่อง หรือหีบห่อบรรจุนั้นพังยับเยิน หรือสินค้าที่อยู่ภายในนั้นแตก หัก เสียหายกันหรอกนะคะ ร้านค้าที่ดีมักจะ”ให้ความสำคัญกับหีบห่อ”ที่บรรจุสินค้าของลูกค้า พวกเขามักจะเข้าใจดีถึงความผิดพลาดของระบบการขนส่งที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงมีการเตรียมหีบห่อ หรือกันกระแทกที่รัดกุมเป็นพิเศษให้กับสินค้าที่ลูกค้าสั่งซื้อ เพื่อที่ให้การรอคอยสินค้าของลูกค้าเมื่อได้รับนั้นอยู่ในสภาพที่ดีสมบูรณ์ได้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจได้มากเลยค่ะ เมื่อเกิดความประทับใจขึ้นก็มักจะเกิดการบอกต่อตามมา จึงนับว่าเป็นการประชาสัมพันธ์อย่างดีให้ร้านค้าของเราให้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นได้อีกทางเลยค่ะ ซึ่งหากว่าเราคิดจะประสบความสำเร็จจากการขายของออนไลน์แล้วนั้น ก็ขออย่าได้มองข้าม หรือขี้เหนียวในเรื่องของหีบห่อที่บรรจุสินค้า หรือตัวกันกระแทกสินค้ากันเชียวค่ะ เพราะเพียงแค่ความใส่ใจในเรื่องเล็กน้อยของเราที่มีต่อการขายนี้ อาจช่วยทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำกับร้านเราอีกรอบก็เป็นไปได้ค่ะ

สร้างความน่าเชื่อถือ

สร้างความน่าเชื่อถือ

การ”สร้างความน่าเชื่อถือ”ให้กับลูกค้านับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการขายของออนไลน์ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบการชำระเงิน การรับประกันตัวสินค้า ระบบการคืนเงิน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับทางร้านค้าของเราค่ะ ลูกค้าทุกคนต่างก็ล้วนต้องการซื้อสินค้าจากร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือกันทั้งนั้น และยิ่งเป็นการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยแล้ว ลูกค้าก็ยิ่งต้องการซื้อสินค้าจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือ และมีการรับประกันต่างๆมากเป็นพิเศษเลยค่ะ เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าการจ่ายเงินชำระสินค้านั้นมีระบบที่ปลอดภัย และสินค้าถึงมือได้จริงตรงตามเวลาค่ะ ดังนั้นเราจึงเลือกเว็บไซต์ที่มีระบบการชำระเงินที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากลในการเปิดร้านค้าออนไลน์ของเราค่ะ นอกจากนี้เราจึงควรมีนโยบายในการรับประกันสินค้าของทางร้านที่แจ้งบอกกับลูกค้าไว้อย่างชัดเจน ก็จะเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับทางร้าน และเพิ่มความมั่นใจในการสั่งซื้อของลูกค้าให้มีมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

อัพเดตความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ

อัพเดตความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ

อีกสิ่งที่ร้านค้าออนไลน์ควรหมั่นปฏิบัติอยู่เป็นประจำนั่นก็คือ การอัพเดตความเคลื่อนไหวของร้านค้าค่ะ ถึงแม้ว่าร้านค้าของเราอาจจะไม่ได้มีสินค้าใหม่ๆเพิ่มเข้ามาให้ต้องอัพเดต แต่เราก็ยังสามารถอัพเดตความเคลื่อนไหวอยู่เสมอได้โดยการ นำสินค้าภายในร้านวนกลับมาสร้างความโดดเด่นใหม่ การให้ความรู้เรื่องราวต่างๆ หรืออาจแสดงรีวิวต่างๆของลูกค้าก็ได้ค่ะ การทำแบบนี้จะช่วยทำให้ลูกค้านั้นเกิดความรู้สึกว่าร้านค้าของเรานั้นยังคงเปิดดำเนินกิจการ และมีความพร้อมในการขายสินค้าอยู่ตลอดนั่นเองค่ะ

เติบโตได้ไม่ใช่เรื่องยาก

เติบโตได้ไม่ใช่เรื่องยาก

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ “8 วิธีขายของออนไลน์ยังไงให้ปัง” ที่เราได้นำมาฝากเพื่อนๆที่คิดสนใจ และอยากจะเริ่มธุรกิจขายของออนไลน์ คงพอจะได้ทราบกันบ้างแล้วว่าควรจะเริ่มต้นอย่างไรนะคะ จริงๆแล้วการจะพาธุรกิจขายของออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จได้นั้นเรื่องของวิธีการก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง แต่หัวใจสำคัญที่สุดที่จะพาให้ธุรกิจขายของออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนนั่นคือ ความจริงใจที่ต้องแสดงออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมให้ได้ค่ะ ฉะนั้นในวันนี้หากเรามีวิธีการแล้ว ก็ให้บวกกับความตั้งใจ และใส่ความจริงใจของเราลงไปธุรกิจ รับรองได้เลยค่ะว่าโอกาสเติบโตธุรกิจขายของออนไลน์ของเรานั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ