การลงทุนไม่ว่าเรื่องอะไรย่อมทำให้ผู้ลงทุนนั้นเกิดความกังวลไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นการลงทุนในธุรกิจต่างๆที่ต้องลงทุนมั้งกำลังทรัพย์ทั้งแรงในการทำงานและความคิด แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงการลงทุนอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ต้องใช้แรงแต่ใช้กำลังทรัพย์เป็นหลักส่วนความคิดก็จำเป็นด้วยนั่นก็คือ การลงทุนในหุ้นถึงแม้ว่าการลงทุนในหุ้นนั้นจะช่วยแบ่งเบาภาระการทำงานของเราไปได้มากแต่การลงทุนในหุ้นก็สามารถสร้างความกังวลให้กับคนที่ลงทุนได้เหมือนกันโดยเฉพาะทุกวันนี้ที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนไม่แน่นอนตามไปด้วย ซึ่งบางครั้งนักลงทุนในหุ้นก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เรียกว่า หุ้นตก เมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้นักลงทุนมืออาชีพอาจจะเข้าใจและพอจะรับมือได้แต่นักลงทุนมือใหม่อาจจะตกใจทำอะไรไม่ถูก แต่ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุที่ทำให้หุ้นตกหรือตลาดหุ้นเกิดความผันผวนนั้นก็มาจากสถานการณ์เศรษฐกิจเป็นสาเหตุหลักค่ะ
ในบทความนี้จะมาให้คำแนะนำสำหรับนักลงทุนในหุ้นไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว หรือนักลงทุนมือใหม่ด้วยเพื่อจะสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในการลงทุนไม่ตกใจรับมือและแก้ไขสถานการณ์ได้มาบอกกัน เพราะสถานการณ์ตลาดหุ้นผันผวนหรือหรือหุ้นตกนั้นไม่ได้เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายเกินกว่าจะแก้ไขหรือรับมือได้ถึงแม้จะทำให้เราในฐานะนักลงทุนและเจ้าของเงินเกิดความกังวลขึ้นมาบ้าง ซึ่งบทความนี้จะมาให้ข้อมูลว่าเมื่อหุ้นที่เราลงทุนไปนั้นไม่ได้ผลลตอบแทนอย่างที่คาดหวังหรือถึงกับขาดทุนจะต้องทำอย่างไรได้บ้างเพื่อเดินหน้าต่อไปได้และระวังการลงทุนของเรามากขึ้น สิ่งที่นักลงทุนต้องทำมีทั้งหมด 6 วิธีดังนี้ 1. ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจสม่ำเสมอ / 2. กระจายการลงทุนเพิ่มมากขึ้น / 3. ทบทวนการของตัวเองก่อน / 4. ลงทุนในกองทุน SET 50 / 5. ลงทุนแบบ DCA / 6. ปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจตอนนั้น การพิจารณาวิธีเหล่านี้น่าจะช่วยให้นักลงทุนรับมือช่วงเวลาที่หุ้นผันผวนได้ดีขึ้นค่ะ
ติดตามข่าวสารเศรฐกิจสม่ำเสมอ
เมื่อเราทราบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้หุ้นเกิดความผันผวนและไม่แน่นอนนั้นมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศและของโลกดังนั้นการที่เราติดตามข่าวสารเศรษฐกิจอยู่เสมอจะช่วยให้เราสามารถวางแผนการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะข่าวสารเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตลาดหุ้นที่เราลงทุนอยู่ แต่การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจบางอย่างที่ดูเหมือนว่าไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตลาดหุ้นก็ต้องติดตามและรับรู้ด้วยเพราะข่าวนั้นอาจจะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นบ้างก็เป็นได้ค่ะ แต่บางครั้งการติดตามข่าวสารเรื่องอื่นๆก็สำคัญด้วยเพราะข่าวนั้นอาจจะมีผลต่อตลาดหุ้นได้อีก เช่น ข่าวสารเรื่องการเมืองในประเทศ หรือประเทศเคียง / ข่าวสารเรื่องของภัยพิบัติในประเทศ หรือประเทศใกล้เคียง สองข่าวสารนี้ตอนแรกเราอาจจะคิดว่าไม่สำคัญแต่ตอนนี้คุณต้องเริ่มสนใจข่าวสารเหล่านี้บ้างแล้วเพราะมีผลต่อเศรษฐกิจแน่นอนเมื่อมีผลต่อเศรษฐกิจแล้วย่อมส่งผลต่อตลาดหุ้นในเวลาต่อมาได้ค่ะ จำไว้ว่าคืดจะลงทุนต้องมีความรู้รอบด้านไม่ต่างจากการหารายได้ทางอื่นๆนะคะไม่ใช่แค่การดูผลกราฟเท่านั้นการสนใจสิ่งรอบตัวที่เกี่ยวข้องก็สำคัญด้วยค่ะ นี่คือวิธีแรกที่นักลงทุนต้องหันมาสนใจเรื่องสังคมเรื่องเศรษฐกิจและอื่นๆร่วมด้วยเพื่อสร้างความสังเกตเข้าใจเมื่อเกิดการขาดทุนหรือผลตอบแทนน้อยลงไม่เป็นดั่งที่ตั้งใจไว้และรับมือได้นะคะ
กระจายการลงทุนเพิ่มมากขึ้น
เป็นความจริงที่ว่าเราไม่สามารถควบคุมสถานการณ์อะไรได้เลยแม้เรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน ดังนั้นเราต้องตระหนักถึงข้อเท็จจริงข้อนี้ เมื่อเราเข้าใจกับความขริงเรื่องนี้แล้วเราจะสามารถทำใจยอมรับได้ว่าการลงทุนนั้นอาจจะต้องมีการขาดทุนและได้กำไรขึ้นๆลงๆอยู่บ้าง แต่สิ่งที่เราทำได้ คือ การปรับเปลี่ยนให้ทันเพื่อให้การลงทุนของเรานั้นขาดทุนและเสี่ยงน้อยที่สุด สิ่งที่เราสามารถทำได้คือ การกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ด้วยการลงทุนให้มากขึ้น มากขึ้นในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าลงเงินมากขึ้น แต่หมายความว่าลงทุนในหุ้นหลายตัว หลายๆอย่างนั้นเองค่ะ เช่น การลงทุนในหุ้นที่มีความเสี่ยงน้อยมีความมั่นคงมากหลายอย่างคือ กองทุนรวม / พันธบัตรรัฐบาล / ตราสารหนี้ อะไรแบบนี้เป็นต้น เพราะการลงทุนในรูปแบบเหล่านี้มีความเสี่ยงต่ำล้มลงได้ยากลดความกังวลให้เราได้เยอะค่ะ แม้เราจะลงทุนในตลาดหุ้นที่ผันผวนบ่อยแต่อาจจะได้ผลกำไรมากเมื่อมีความเสถียรแต่การกระจายการลงทุนไปที่อื่นๆบ้างอย่างที่ยกตัวอย่างให้จะช่วยให้คุณรับมือได้เมื่อตลาดหุ้นผันผวนว่าอย่างน้อยก็ยังมีเงินหมุนเวียนจากการลงทุนที่ที่มั่นคงตัวอื่นๆเหลืออยู่ให้สบายใจนั่นเองค่ะ แต่ขอเตือนเรื่องของการลงทุนในกองทุนรวมนิดนึงว่ากองทุนรวมนั้นมีหลายประเภทแบบที่มีความเสี่ยงต่ำก็มีความเสี่ยงสูงก็มีต้องเลือกอย่างดี ขอให้หลีกเลี่ยงกองทุนรวมความเสี่ยงสูงเช่น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ / กองทุนทองคำ กองทุนเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงไม่ช่วยให้คุณกังวลน้อยลงและสบายใจเลยดังนั้นต้องเลือกย่างดีศึกษาให้ละเอียดนะคะ
ทบทวนการลงทุนของตัวเองก่อน
ปัญหาบางอย่างเมื่อเราเป็นผู้เริ่มต้นก็ต้องแก้ที่ตัวเรา เรื่องนี้นำมาใช้ได้กับการลงทุนเช่นกันการที่เราเจอปัญหาเมื่อลงทุนไปแล้วในตลาดหุ้นก็อาจจะต้องกลับมาหยุดคิดสักนิดเพื่อทบทวนการลงทุนของตัเราเองบ้าง การทำอย่างนี้ส่งผลให้คุณมีสติและหาทางแก้ไขปัญหาได้ เพราะหลายครั้งหลายคนเมื่อมีปัญหาโดยเฉพาะเรื่องของเงินๆทองๆมักจะกระวยกระวายมากเกินไปจนเกินเหตุจนทำให้ปัญหามันบานปลายไปใหญ่ได้ดังนั้นเพื่อเรียกสติกลับมาต้องทำอย่างนี้คือ หยุดคิด หยุดทำ ทบทวน แล้วจะเจอทางออกค่ะ ผลดีจากการทำอย่างนี้จะทำให้เรามองภาพในมุมสูงหรือมุมกว้างและเริ่มมองสถานการณ์ออกมากขึ้นว่าการขึ้นๆลงๆของตลาดหุ้นนั้นต่อไปจะไปในทิศทางไหนจริอยู่ที่เราม่สามารถรับรู้ล่วงหน้าแต่ก็สามารถรับรู้ถึงแนวโน้มที่ควรจะเป็นได้บ้างมามากก็น้อยแหละถ้าเรามีสติเท่านั้น การลงทุนในหุ้นก็สามารถใช้คำนี้ได้ว่า สติมาปัญหาเกิด คำนี้เหมาะกับวิธีนี้มากๆค่ะ
ลงทุนในกองทุนหุ้น SET 50
วิธีต่อไปขอแนะนำว่าให้ลงทุนในกองทุนหุ้น SET 50 ทำไมถึงแนะนให้ลงทุนในกองทุนหุ้นตัวนี้ เหตุผลก็เพราะว่ากองทุนหุ้นตัวนี้มีความมั่นคงแข็งแรงเป็นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูงและต่อเนื่องไม่ค่อยผันผวนไปตามกระแสเพราะไม่อ่อนไหวกับภาวะเศรษฐกิจที่แปรปรวน ถ้าเปรียบเทียบก็คงเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่ทนทานต่อพายุที่รุนแรงได้นั่นเอง เมื่อทีพายุแน่อนว่าเราคงอยากหาที่ยึดเกาะที่มั่นคงปลอดภัยที่เป็รเหมือนต้นไม้ใหญ่ การลงทุนก็เหมือนกันเราทราบดีว่าไม่มีความแน่นอนแต่บางครั้งก็ทำใจยากที่จะต้องสูญเสียเงินไปดังนั้นกองทุนหุ้น SET 50 ก็เป็นเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่มั่นคงในการลงทุนให้เรายึดเกาะไว้ได้ในช่วงพายุเศรษฐกิจแปรปรวนรุนแรงแบบนี้ค่ะ
ลงทุนแบบ DCA
DCA ( Dollar – Cost Averaging ) เป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่ทำให้คุณเจ็บตัวน้อยที่สุดและไม่เสียเงินก้อนใหญ่มหาศาลไปทีเดียวและปลอดภัย วิธีการลงทุนแบบนี้เป็นการเฉลี่ยการลงทุนเฉลี่ยนเงินลงทุนของเราซึ่งเราสามารถกำหนดการลงทุนของเราได้เรื่อย ทุกครั้งทุกงวดเหมาะมากกับสถานการณ์เศรษฐกิจในทุกวันนี้ ดังนั้นการลงทุนรูปแบบ DCA นี้จึงทำให้การลงทุนของเรานั้นปลอดภัยและมีโอกาสขาดทุนน้อยกว่าการลงทุนรูปแบบอื่นๆ และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่การลงทุนรูปแบบนี้มห้เราได้คือแม้จะสามารถปรับเปลี่ยนการลงทุนได้เรื่อยๆแต่ก็ยังเป็นการลงทุนที่ดำเนินไปอย่างอัตโนมัติช่วยลดความกังวลและความเครียดของนักลงทุนได้มากเลยทีเดียวค่ะ การลงทุนแบบนี้ยังตอบโจทย์ให้นักลงทุนสามารถทบทวนแผนการลงทุนของตัวเองได้ง่ายมากขึ้นด้วย
ปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจตอนนั้น
วิธีสุดท้ายที่จะช่วยนักลงทุนให้รับมือความผันผวนได้คือ การปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจในตอนนั้น เนื่องจากหุ้นจะขึ้นจะลงมักมาจากแนวโน้มทางเศรษฐกิจเสมอ เช่นเมื่อเรามองว่าในตอนนั้นความนิยมของธุรกิจอะไรที่กำลังไปได้ดีการลงทถนในหุ้นแบบนั้นก็จะช่วยให้ได้ผลกำไร แต่ก็ต้องดูด้วยว่าธุรกิจอะไรที่ไปต่อไม่ไหวถ้าเรามีการลงทุนในหุ้นตัวนั้นอยู่ก็ต้องรีบถอนตัวก่อนที่จะถอนตัวไม่ขึ้น การถอนตัวจากหุ้นที่ไปต่อไม่ได้เรียกว่า Cut Loss ซึ่งหมายถึงว่าการที่นักลงทุนตัดสินใจขายสินทรัพย์บางส่วนเพื่อความปลอดภัยของเงินลงทุนของเราเอาไว้ การทำ Cut Loss นั้นสามารถทำได้ง่ายเมื่อมีการลงทุนระยะสั้นสามารถทำได้ทันที แต่หากเป็นการลงทุนระยะยาวอาจจะทำการ Cut Loss ยากหน่อยต้องคิดนานหน่อย นี่คือการปรับพอร์ตเพื่อรับมือกับความผันผวนของหุ้น การปรับเปลี่ยนนี้อาจหมายถึงการขายหุ้นที่เคยถืออยู่ไปเลยก็ได้ค่ะ
แม้ผิดหวังไม่เหมือนที่ตั้งใจบ้างการยอมรับและเข้าใจจะช่วยได้
เราไม่สามารถควบคุมสถานการณ์อะไรได้ แม้จะเป็นการหารายได้จากการทำงานประจำก็ตาม การลงทุนก็ยิ่งแล้วใหญ่ สถานการณ์ของการลงทุนนั้นหาความแน่นอนได้ยาก แต่ก็สามารถรักษาให้อยู่ในระยะความปลอดภัยได้ การลงทุนในความจริงก็อาจจะต้องขาดทุนทำให้ผิดหวังได้แต่การทำความเข้าใจก็จะช่วยให้คุณรับมือได้ ทั้งรับมือตรวตามตัวอักษรคือแก้ปัญหาได้ แต่การรับมืออีกความหมายหนึ่งคือการรับมือกับความผิดหวังได้และพร้อมจะเริ่มใหม่เพราะเข้าใจการลงทุนอย่างดีนั่นเอง สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชอบจากคำแนะนำในนี้คือ สติมาปัญญาเกิด นี่ใช้ได้จริงแม้จะมีการแนะนำให้ขายหุ้นเพื่อความปลอดภัยแต่การทำอย่างนั้นก็ต้องอาศัยข้อมูลที่ดีด้วยเพื่อจะไม่เสียใจภายหลัง หวังว่าบทความนี้จะช่วยลดความเครียดของนักลงทุนไปได้บ้างนะคะ
Thanee
อยากลงทุนด้วยการเล่นหุ้นอยู่นะครับ ความคิดเก่าของผมคือการเล่นหุ้นคงทำให้ได้เงินมากๆตั้งแต่ช่วงแรกที่เล่น แต่ได้ความรู้ใหม่เลยครับว่าการเล่นหุ้นนั้นมีโอกาสขาดทุนสูงสูงมากกว่าการลงทุนอื่นๆเลย รู้งี้เริ่มกลัวแล้วหล่ะสิ ไม่มีเพื่อนที่เล่นหุ้นที่จะปรึกษาซะด้วย ถ้าขาดทุนยับเยินขึ้นมาโดนด่าแน่ๆเลย เพราะมีคนไม่สนับสนุนรอทบถ่มอยู่ คิดดีๆก่อนละกันครับ
Ashwin
ใช่แล้วครับบางทีการที่เราตั้งใจจะเล่นหุ้นและมีหุ้นอยู่ในกำมือ ก็มักจะไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้เสมอไป เมื่อมีผลกระทบต่อหุ้นที่เราถืออยู่เราก็มาจากมีอาการเดือดร้อนขึ้นมา ผมรู้สึกชอบบทความนี้นะครับที่อธิบายเกี่ยวกับวิธีรับมือกับปัญหาดังกล่าว ก็ยังสามารถที่จะดูวิธีหาทางออกจากกรณีแบบนี้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถวิกฤตเป็นโอกาสและหาทางออกโดยที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อนครับ
น้ำผึ้ง
ต้องทำใจเผื่อไว้เลยค่ะในกรณีที่ไม่เป็นไปตามที่เราได้คาดหมาย เพราะว่าไม่ว่าจะสาเหตุหรือปัจจัยอะไรก็ตามที่อาจเกิดขึ้นได้ บทความนี้ก็ช่วยให้เราได้คลายกังวลมากทีเดียวในกรณีที่เราถือหุ้นอยู่ในมือแล้วและเกิดเหตุการณ์ที่ ส่งผลต่อหุ้นที่เราถือนั้นราคาตกลง ช่วยให้เราที่จะสามารถกระจายความเสี่ยง ไปช่วยให้เราที่จะมีตัวเลือกหรือวิธีการทำให้เราอยู่ต่อไปได้
Saiyai
คนเล่นหุ้นต้องเจอบ้างละเนอะ เรื่องการลงทุนไปแล้วมันไม่ได้เป็นไปตามที่คิดเอาไว้ คำแนะนำเหล่านี้ดีมากนะคะ อยู่ที่ว่านักลงทุนจะเลือกใช้วิธีไหนในการรับมือ แต่ละคนมีความชอบความถนัดไม่เหมือนกันด้วย ส่วนตัวเราจะกระจายการลงทุนอยู่แล้วเพื่อลดความเสี่ยงค่ะ หรือไม่ก็ปรับพอร์ตการลงทุ พอจะช่วยได้อยู่ ทำอะไรได้ก็ทำไปค่ะ
ทราย
การลงทุนในหุ้นไม่เหมือนการลงทุนบางอย่างที่ทำตัวสบายๆได้นะคะ ต้องใช้เวลาต้องคิด ต้องวางแผน ไม่อย่างนั้นไม่มีทางจะประสบความสำเร็จค่ะ คำแนะนำในบทความนี้แนะนำดีมาก การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจเสมอก็เป็นวิธีที่ดีมากค่ะ เล่นหุ้นต้องติดตามค่ะซื้อทิ้งซื้อขว้างไม่ได้นะคะ ไม่มีใครมาจัดการการลงทุนนี้ให้คุณด้วยค่ะ เล่นหุ้นแล้วต้องเดินหน้าต่อไปค่ะ
นิติกร
คืออยากทราบเรื่องการลงทุน หุ้นแบบ set50 หน่อยนะครับ set50 ถ้าเป็นการซื้อขายของ ธนาคาร กสิกร ช่วงนี้ ดูราคาขาย กับราคาซื้อ ต่อหุ้น ได้ไม่ค่อยมากเท่าไร ใช่ไหมครับ แล้วแบบนี้ การเล่นแบบ set50 ยังจะน่าเล่นอยู่ไหมครับ แล้วมีช่วงไหนบ้างครับที่เรา สามารถที่จะลงทุนในกองทุน set50 ได้ดีแล้วก็ได้รับผลตอบแทนที่มากกว่านี้ครับ เพราะตอนนี้ ถ้าเราซื้อ อยู่ที่ 29.53บาท/หุ้น ถ้าขาย 29.56บาท/หุ้น เอง
พร
ฉันชอบการลงทุนแบบ DCA เพราะสำหรับฉันแล้วการที่มีเงินไว้ใช้อยู่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แล้วเป็นการลงทุนที่ดูเหมือนจะเป็นการเซฟตัวเองมากที่สุด ซึ่งในการลงทุนสำหรับฉันเองไม่จำเป็นต้องเรียนแบบหรือคิดถึงวิธีที่คนอื่นทำมาก เพราะถ้าคิดว่าเขาลงทุนมากเขาได้เยอะเราก็น่าจะทำบ้าง ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นเพราะว่าเงินอยู่กับเราเราก็สามารถที่จะตัดสินใจได้ด้วยตัวเองไม่ต้องไปทำตามคนอื่นค่ะ
ใยไหม
ต้องปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในเศรษฐกิจในตอนนั้นค่ะ เพราะบางทีเรื่องนี้อาจจะเหมือนกับเป็นการขายหุ้นของตัวเองไป เพื่อที่จะถอนตัวไม่ขึ้นหรือว่าได้รับผลกระทบที่ร้ายแรงกว่านี้ บางคนอาจจะคิดว่ารอไปก่อนเราไปก่อน แต่บางครั้งการรอก็จะนำไปสู่การขาดทุนที่มากขึ้นค่ะ ดังนั้นต้องสังเกตเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจถ้าดูเหมือนว่าหุ้นตกลงการปล่อยมือเร็วก็เป็นเรื่องที่ฉลาด
ยศพร
เวลาคนเรา ขาดสติเป็นอย่างที่บอกจริงๆเลยครับ ถ้าจะสติแตกเรื่องการเล่นหุ้นเราก็เจอกันบ่อยๆครับ บางคนเครียดจากการลงทุน จนกลายเป็นปัญหาอื่นตามมาจริงๆครับ ดังนั้นการที่เราทบทวนเกี่ยวกับเป้าหมายของการลงทุนที่เราลงไปเป็นประจำมันจะช่วยเราให้ดึงสติกลับมาได้จริงๆครับ ดังนั้นหากเกิดปัญหาอะไรขึ้นระหว่างการลงทุน เราต้องรีบเรียกสติเรากลับมาให้เร็วที่สุดครับ
บอล
สิ่งที่ทำได้ก็ต้องเป็นการกระจายความเสี่ยงและครับ ถ้าเราถือหุ้นตัวเดียวมีโอกาสที่เราจะขาดทุนแน่นอน แต่ถ้าเราเข้าใจความเสี่ยงคือหลายๆหุ้นอย่างน้อยก็มีโอกาสที่จะได้และโอกาสที่จะเสียเท่าๆกัน อยู่ที่ว่าเราเป็นคนกล้าได้กล้าเสียมากแค่ไหนครับ ถ้ามั่นใจว่าหุ้นตัวนี้จะช่วยฝ่าวิกฤตในช่วงที่มีตลาดหุ้นแปรปรวนได้ ก็ต้องลองแล้วครับ