ขึ้นชื่อว่ามนุษย์เงินเดือน หลายๆอาจคงเคยมีความรู้สึกแบบนี้ “ใกล้ๆสิ้นเดือนทีก็แทบจะพาสิ้นใจเอาเสียจริงๆเลย” ก็เพราะเจ้ากรรมเงินในกระเป๋าช่วงใกล้ๆจะสิ้นเดือนนี้ มันร่อยหรอเสียแทบต้องลุ้นเป็นวันๆไปว่า “พรุ่งนี้จะพอไปทำงานไหมหนอ ช่วงนี้ก็กินอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียงไปก่อนแล้วกัน อีกสองวันก็เงินเดือนออกแล้วเรา สู้สู้” เมื่อถึงวันเงินเดือนออกเท่านั้นล่ะ ทุกตู้เอทีเอ็มตามที่ชุมชนต่างๆ ก็ถูกรุมต่อคิวไปด้วยเหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลายที่มาชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมาย หันไปทางไหนไม่ว่าจะตลาด ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สวนอาหารก็กลับคึกคักแน่นไปด้วยผู้คนมากกว่าปกติจนดูแปลกตาไปกว่าวันอื่นๆ ทำให้เราเองก็สามารถสัมผัสกันได้ว่า “อ้อ..วันนี้ คือวันเงินเดือนออก” นั่นเอง
จากพฤติกรรมดังกล่าวข้างต้น สามารถบ่งบอกได้ถึงพฤติกรรมการใช้เงินของเหล่ามนุษย์เงินเดือนว่าเป็นอย่างไรกันเลยใช่ไหมคะ หากคุณเองเป็นคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมคล้ายๆที่กล่าวมาข้างต้น คงไม่ต้องบอกเลยว่าสภาพคล่องทางการเงินของคุณคงต้องย่ำแย่แน่ๆช่วงใกล้ๆจะสิ้นเดือน วันนี้เรามีวิธีเล็กๆน้อยๆที่ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้อยู่ไปจนถึงสิ้นเดือนได้ในแบบฉบับของมนุษย์เงินเดือนมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ กับ ”4 วิธีเด็ด ประหยัดค่ากินอยู่ สำหรับมนุษย์เงินเดือน” มาติดตามกันได้เลยค่ะ
จดบันทึกทุกการใช้จ่าย
การจดบันทึกทุกการใช้จ่ายนั้นช่วยให้คุณได้สำรวจตัวเองค่ะว่าคุณหมดเงินไปสิ่งไม่จำเป็นอะไรบ้างในแต่ละเดือน ได้รู้ว่าพฤติกรรมการใช้เงินของตัวคุณเองนั้นเป็นอย่างไร และมีแนวโน้มของการใช้เงินหมดไปกับเรื่องไหน ซึ่งหากคุณทำการจดบันทึกทุกการใช้จ่ายในทุกๆวันอย่างสม่ำเสมอแล้วนั้น ก็จะช่วยให้คุณสามารถคิดปรับ หรือแก้ไขพฤติกรรมไม่ดีในการใช้เงินของตัวคุณเองได้ค่ะ และจะนำมาซึ่งการมีเงินเหลือที่เพิ่มขึ้นในกระเป๋าของตัวคุณเอง ทำให้คุณมีเงินใช้ไปได้ตลอดทั้งเดือนโดยที่ไปต้องมาขัดสนในช่วงใกล้ๆสิ้นเดือนเหมือนที่เคย หรือเผลอๆการใช้วิธีจดบันทึกทุกการใช้จ่ายทุกๆวันอย่างสม่ำเสมอนี้ อาจทำให้คุณถึงกับมีเงินเหลือเก็บในแต่ละเดือนด้วยซ้ำ อย่าได้มองข้ามการจดบันทึกทุกการใช้จ่ายกันไปเชียวค่ะ
ซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยให้น้อยลง
ในบรรดาสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า น้ำหอม เครื่องสำอางค์ อุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ฯลฯ ล้วนจัดเป็นของฟุ่มเฟือยที่ดึงเงินในกระเป๋าของคุณออกมาได้มหาศาลชนิดที่ไม่ทันได้ตั้งตัว แถมมีแล้วก็อยากมีอีก ซื้อได้เรื่อยๆกันเลยล่ะค่ะ โน่นก็น่าซื้อ นี่ก็น่าใช้ สิ่งต่างๆล้วนชวนให้คุณอยากจะได้จนต้องน้ำลายหกทั้งนั้น ของเหล่านี้คอยจ้องดูดเงินในกระเป๋าของคุณอยู่ แต่ขอคุณพยายามท่องไว้ในใจตลอดเลยค่ะว่า ”ของเหล่านี้ ถึงไม่มีก็ไม่ตาย แต่ถ้าซื้อก็อาจจะตายได้ เพราะอาจทำให้ต้องกินแกลบกันตั้งแต่กลางเดือนเลยทีเดียว” เราเข้าใจดีค่ะว่าการจะให้คุณต้องเลิกขาดในการจับจ่ายสิ่งของเหล่านี้อาจทำให้คุณเองต้องเหี่ยวเฉาตายเป็นแน่ ฉะนั้นการซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยให้น้อยลง ควบคุมตัวเองไม่ให้เพลิดเพลินมากจนเกินไปกับของฟุ่มเฟือยต่างๆ คงจะเป็นทางสายกลางที่ดีที่สุดค่ะ เพราะคุณจะมีทั้งของเหล่านี้ และยังคงมีเงินใช้ได้ตลอดทั้งเดือนเลยล่ะค่ะ
ทำอาหารทานเอง
การทำอาหารทางเอง นับเป็นความคิดที่ดีที่จะช่วยคุณเซฟค่าใช้จ่ายที่หมดไปกับการซื้ออาหารข้างนอกรับประทานลงไปได้เยอะมากเลยเชียวล่ะค่ะ คุณอาจต้องเสียเวลาในการเตรียม การทำไปบ้าง แต่ก็ช่วยให้คุณมีอาหารทานชนิดที่อิ่มท้องแน่นอน และยังสะอาด รสชาติก็ถูกปากมากกว่าอาหารข้างนอกเสียอีก ที่สำคัญยังช่วยให้ประหยัดค่าอาหารไปได้ถึง 2-3 วันเลยล่ะ นอกจากนี้คุณอาจหาภาชนะดีๆสักใบมาบรรจุอาหารไปรับประทานมื้อกลางวันในที่ทำงาน ก็ดูเก๋ไม่เช่นเล่นเลยค่ะ เพราะนอกจากจะประหยัด อิ่มท้อง สะอาด ถูกปากแล้ว ก็ไม่ต้องเดินออกไปนอกออฟฟิศ รอเข้าคิวซื้ออาหารให้เหงื่อไหลไคลย้อยภายใต้อากาศที่ร้อนจัดในแต่ละวันอีกด้วยค่ะ
ลดหรือเลิกสูบบุหรี่
ใครที่เป็นสิงห์รมควันอยู่ คุณเคยนั่งนับรายจ่ายที่หมดไปกับค่าบุหรี่ในแต่ละเดือนไหมคะ เราลองมาคำนวณเงินที่เสียไปอย่างคร่าวๆกันดูค่ะ ในปัจจุบันค่าบุหรี่ยอดฮิตสำหรับสิงห์รมควันกันทั้งหลายตกอยู่ที่ราคาซองละ 150 บาท หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สูบบุหรี่เฉลี่ยวันละ 1-2 ซอง ก็เท่ากับว่าในเดือนๆหนึ่งคุณจะต้องหมดเงินไปแน่ๆกับค่าบุหรี่ 4,500 - 9,300 บาทเชียวค่ะ ซึ่งหากคุณเองทำงานได้รับเงินเดือนอยู่ที่เดือนละ 15.000 บาท ก็เท่ากับว่าคุณหมดเงินไปถึง 30-62% ของรายได้ต่อเดือนไปกับค่าบุหรี่ เงินที่เหลือต่อเดือนจึงไม่เพียงพอที่จะดำเนินชีวิตประจำวันของคุณเองอย่างแน่นอนค่ะ
ดูแล้วก็เป็นตัวเลขที่สูงจนน่าตกใจเลยใช่ไหมคะ แต่ที่น่าตกใจและน่าเศร้าใจไปกว่านั้น นั่นคือคุณยอมเสียเงินจำนวนมากในทุกๆเดือนของตัวเองมาจ่ายเพื่อทำร้ายร่างกายของตัวคุณ และคนรอบข้างที่คุณรักอีกด้วยล่ะค่ะ รู้อย่างนี้การลดหรือเลิกสูบบุหรี่ก็จะเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณมีเงินใช้ไปได้ตลอดทั้งเดือนอย่างไม่ขัดสน และอาจถึงกับมีเงินเหลือเก็บได้อีกด้วย ที่สำคัญสุขภาพของตัวคุณเอง และคนรอบข้างของคุณจะแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน อย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ “4 วิธีเด็ด ประหยัดค่ากินอยู่ สำหรับมนุษย์เงินเดือน” ที่คัดสรรมาฝากกันในครั้งนี้ หวังว่าคงจะช่วยให้คุณรู้ถึงวิธีป้องกันตัวเองในการใช้เงินเพื่อให้มีเงินใช้ได้คล่องตัวไปจนถึงปลายเดือนกัน และถ้าคุณทำได้ ก็รับรองได้ว่าชีวิตจะไม่ต้องไปข้องแวะกับการเป็นหนี้ได้อย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ แต่ถึงแม้จะมีวิธีเด็ด หรือเคล็ดลับเจ๋งๆอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดนั้นก็คงจะต้องเป็นการปรับพฤติกรรมของตัวคุณเองเท่านั้นค่ะที่จะพาให้เกิดผลดีที่สุด
Peach
หนูทำงานประจำมีเงินเดือนที่แน่นอนแต่วิถีชีวิตแบบนี้นี่แหละทำให้เรานิสัยเสียเพราะเรารู้ว่าทุกเดือนเราจะต้องได้เงินเดือนเท่านี้เท่านั้นแน่ๆ ก็เลยไม่ค่อยประหยัดบ่อยๆที่ใช้เงินเดือนชนเดือน พอได้มาอ่านเรื่องนี้ก็มาฉุกคิดได้ว่าต้องประหยัดซะแล้วโดยเฉพาะต้องประหยัดตั้งแต่ต้นๆเดือนสิ่้นเดือนจะได้สบายๆหน่อย แล้วที่หนุ้อยากเอาไปใช้คือเรื่องทำอาหารทานเองที่บ้านคิดว่าจะประหยัดไปได้เยอะเลยแหละ
บุญยง
ชีวิตของมนุษย์เงินเดือนก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ บางครั้งการประหยัดหรือการอดออมเงินก็เป็นเรื่องยาก บทความนี้ทำให้ผมเห็นว่ามีการสามารถช่วยให้เราประหยัดโดยการตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปด้วย รายการปรับเปลี่ยนรูปแบบชีวิตในบางอย่างเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน ก็สามารถช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วยเช่นเดียวกัน
น้ำหวาน
แม้แต่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราเราก็จำเป็นต้องประหยัดเหมือนกันนะคะ บทความนี้ทำให้ฉันเห็นว่ามีวิธีการที่จะช่วยให้เราสามารถประหยัดทำให้เรามีเงินเดือนเหลือเยอะขึ้นด้วยค่ะ คิดว่าถ้าไม่ทำแบบนี้ชีวิตก็คงจะใช้เงินฟุ่มเฟือยและไม่ได้คิดหน้าคิดหลังอย่างแน่นอน ถ้ามีเงินเหลือเยอะจะได้เอาไปทำธุรกิจแล้วทำให้เงินเพิ่มมากขึ้นอะไรแบบนี้ค่ะ
Prajak
ยิ่งอ่านยิ่งโดน วิธีเด็ด-ประหยัดค่ากินอยู่ของมนุษย์เงินเดือนนี่น่ะครับ แต่ละอย่างก็รู้กันอยู่แล้วล่ะว่ามันควรจะลดและบางอย่างนะควรจะเลิกไปเลยด้วยซ้ำ แต่ๆๆๆมันตัดใจยากครับ ถ้าทำทุกอย่างพร้อมกันการจะเกิดความเครียดขั้นรุนแรงได้ ผมว่าค่อยๆลองทำทีละอย่างไปก่อนดีกว่า ทำได้สักอย่างนึงชีวิตก็เริ่มดีขึ้นแล้วละครับ
ลูกพีช
เราชอบทำอาหารอยู่แล้ว เราเลยประหยัดเงินได้มากเลยในเรื่องค่าอาหาร เมื่อเราลองไปเปรียบเทียบกับค่าอาหารของเพื่อนๆที่ทำงานที่เราสนิท ค่าอาหารต่อเดือนของเขาแพงกว่าเรามากเลยเพราะเขาซื้ออาหารกิน และกินตามร้านไม่ทำอาหารเองค่ะ แค่เรื่องกินเปลี่ยนได้ก็ประหยัดไปเยอะเลยนะคะ เราคิดว่าเราไม่ต้องประหยัดเรื่องอื่นเลยก็ได้พอประหยัดเรื่องอาหารแล้วเงินเหลือเยอะมาก
จอมพล
ใช่ๆเป็นเรื่องที่เราแต่ละคนทราบดีอยู่แล้ว แต่พอได้อ่าน ก็เหมือนโดนตอกย้ำเลย คนเงินเดือนอย่างเราเวลาเงินเดือนออก คนมันอัดอันอยากได้ก็ต้องซื้อไว้ก่อน เพราะว่าไม่รู้ว่าเดือนหน้าจะซื้อได้ไหม (ซึ่งมันเป็นข้ออ้างของความอยากได้มากกว่า ) แต่เรื่องทำอาหารทานเองคงยากสำหรับเราเพราะเขาห้ามเราทำอาหารในห้อง ก็เลยประหยัดไม่ได้จริงๆเรื่องนี้
น้ำตาล
เป็นวิธีที่ดีนะคะ แต่ว่ามันยากที่จะทำใครจะไปเลิกบุหรี่ได้ล่ะคะ เข้าใจอยู่ว่าการทำงานโดยที่เราเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นมีความเครียด บางครั้งต้องพึ่งบุหรี่หรือสารคลายเครียดบ้าง หมดเงินไปมากกับของแบบนี้ ถ้าจะให้ลดหรือเลิกเป็นไปได้ยากมากค่ะต้องมีแรงจูงใจที่ สามารถที่จะทำให้เลิกได้แต่ว่าไม่มีหรอกยิ่งทำงานยิ่งเครียดก็เลยยิ่งต้องสูบเข้าไปใหญ่ค่ะ
สำเริง
การจดบันทึกค่าใช้จ่ายทุกครั้งหรือทุกวัน น่าเบื่อจุกจิกมากเลยครับ เป็นวิธีที่ดีและใช้ได้ผมให้ภรรยาเป็นคนทำ ทำให้สามารถที่จะรู้ว่าเราหมดค่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้างในแต่ละเดือน แล้วรู้สามารถคำนวณยอดเงินของเราว่าจะใช้มากน้อยไปกับอะไรบ้าง เป็นวิธีที่ดีนะครับเดี๋ยวผมไม่ทำเองหรอกให้คนอื่นทำดีกว่า เพราะผมไม่ค่อยชอบอะไรที่มันจุกจิกต้องทำทุกวันครับ
น้องยิ้มหวาน
ยังไง ถ้าอยู่ตัวคนเดียว การซื้ออาหารทานยังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดนะ เพราะเราคิดว่าประหยัดกว่าคะ แล้ว ถ้าจะให้ลุกขึ้นมาทำอาหารไปทานที่ทำงานเราว่าเราคงไม่ต้องตื่นนอนตอนตี3เลยเหรอ ซื้อเขากินนะง่ายสุดแล้วเราว่า แล้วเราค่อยไปประหยัดอย่างอื่นแทนดีกว่า อย่างพวกของใช้อะไรแบบเนี๊ยะ มันน่าจะเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่าจริงๆ
ว่าน
มนุษย์เงินเดือนทั้งหลายไม่ค่อยมีเวลาว่างในการทำอาหารกินเองเท่าไหร่ใช่ไหมคะล่ะคะ ก็เลยจำเป็นต้องซื้ออาหารบ่อยๆเพื่อซื้อความสะดวกสบายและเวลาในการเดินทางไปยังสถานที่ทำงาน แต่รู้ไหมคะว่าค่าอาหารที่เราต้องจ่ายไปเมื่อแรกกับการทำอาหารเองนั้นจะทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของอาหารไปได้เยอะได้ดีทีเดียวในแต่ละเดือน