พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคงคงทราบดีกันแล้วว่า เส้นทางการค้าของเรานั้น มันก็อาจไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบอันหอมกรุ่นเสมอไป แต่ต้องแลกมาด้วยความพยายาม ความมานะ และไอเดียที่มากกว่า! ใครอยู่ทางสายนี้มานาน ก็คงเห็นด้วยว่าเราไม่ได้ขู่ แต่สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ เราก็อยากจะบอกกันตรงนี้ไว้เลยว่า การสร้างธุรกิจ ขายสินค้า ไม่ว่าจะหน้าร้านจริงๆ หรือหน้าร้านออนไลน์ มันไม่ได้ง่ายนะตัวเธอ! แต่อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งไม่เคยอยู่เหนือการพากเพียรพยายามของมนุษย์เราหรอก จริงมั๊ย?! บทความนี้ จึงจะมาแนะนำ 3 วิธีสุดเจ๋ง เพื่อการสร้างยอดขายแบบไม่หยุดยั้งสำหรับร้านค้าคูล ๆ ที่เราสามารถเอามาเป็นแนวทาง และนำไปประยุตก์ใช้ต่อไปได้ด้วย เพื่อให้เราสู้กับคู่แข่งได้อย่างอยู่รอด ปลอดภัย มาดูกันเลยดีกว่า..
มีชั้นเชิงในการตั้งราคา
ใครๆ ก็เลือกหาของที่ถูกกว่ากันก่อนเสมอ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็ตั้งราคาให้ถูกบ้างเพื่อหวังขายดิบขายดี หรือขาช็อปทั้งหลาย ก็ชอบจริงๆ ที่จะพุ่งตัวไปหาของที่ถูกกว่า จนเราอาจจะลืมไปด้วยก็ได้ว่า บางครั้งสินค้าราคาถูก ก็กลับไม่ได้มียอดขายที่สูงที่สุดแบบที่เราคิดกันอยู่
การทดลองนึงในสหรัฐ เคยมีการตั้งราคาขายเสื้อผ้าเกรดดีที่ 500 บาท เกรดรองลงมาขายที่ 300 บาท ผลออกมาว่า กว่า 80% คนก็เลือกซื้อเสื้อผ้าที่เกรดดีกว่าแม้แพงกว่า. แต่พอนำเสื้อผ้าเกรดรองเหมือนกันมาขายในราคา 400 บาท ก็มีผู้คน 80% ซื้อสินค้าราคากลางๆและอีก 20 % ซื้อสินค้าเกรดแพงที่สุดอยู่
เราจึงสรุปผลได้ว่า คนส่วนมาก มักจะชอบสินค้าที่อยู่ในระดับราคากลางๆ ไปจนถึงราคาสูง เพราะการเลือกใช้แบบลักษณะเดิมๆ หรือชอบแบบไม่มากไม่น้อยเกินไป แต่สินค้าราคาต่ำที่สุด อาจไม่ค่อยเป็นที่นิยมด้วยเรื่องความไม่มั่นใจในคุณภาพ เราจึงอาจลองตั้งปรับราคาดู โดยอาจสำรวจจากท้องตลาดก่อนสักหน่อย ไม่ตั้งราคาต่ำกว่าสินค้าที่เราเดินผ่านมา เพราะบางที ของถูกที่สุดกลับโดนเมินก่อนเป็นอันอับแรกก็ได้
ลดราคาแบบได้ใจลูกค้าและได้ยอดสูง
การลดราคาบ้าง ยังเป็นตัวช่วยในเรื่องของสีสันในการขาย และการสร้างแรงดึงดูดใจที่เห็นผล แต่หัวใจในการลดราคา เราต้องไม่ทำให้ตำแหน่งด้านการตลาดของแบรนด์เราต่ำไปจากเดิมให้ได้ด้วย จึงต้องใช้กลยุทธ์ในการขาย เพื่อสร้างความได้เปรียบแม้มีการตัดราคาขายต่ำกว่า เราต้องมีความเหมาะสมในเรื่องของเวลาที่ควรลด อย่างการลดในช่วงเทศกาลพอ และไม่ควรลดราคาจนเป็นปกติ เพราะอาจทำให้กลุ่มลูกค้ามองแบรนด์เราเป็นแบรนด์ระดับล่างเอาได้ด้วย
อาจลดราคาอย่างฉลาด แบบซื้อเยอะก็รับส่วนลดเยอะ วิธีนี้ อาจมาพร้อมกับการซื้อสินค้าแบบเป็นคู่ หรือ การซื้อแบบ 3 แถม 1 เพื่อสร้างความเสียดาย และกระตุ้นการซื้อในสินค้าต่อไปด้วย และหากเราสังเกตดู สินค้าที่ลดราคาสัก 50 % ก็คงไม่ใช่สินค้ารุ่นใหม่หรือล็อตใหม่ เราจึงสามารถตั้งราคาลดที่เยอะกว่า ในสินค้าที่ไม่เป็นที่สนใจมาก หรือค้างสต็อค เพื่อให้ลูกค้าได้ลองเปิดใจและทดลองใช้มากขึ้น
และอย่างที่พูดไปบ้าง คือการลดราคาช่วงเทศกาล แต่ละปี อาจมีสัก 1 หรือ 2 ช่วงก็พอ เพื่อจัดโปรโมชั่นให้เหมาะกับท้องตลาดและกระตุ้นยอดขายได้. และผู้บริโภคปัจจุบันชอบดูรีวิว และมีแนวโน้มชอบเปรียบเทียบราคา เราจึงต้องให้ช่องทางในการติดต่อที่สะดวกๆทางธุรกิจด้วย เช่น หน้าร้านออนไลน์ หรือ เพจ Facebook เอาไว้ด้วยเพื่อได้ตอบคำถาม และได้ใจลูกค้าไปพร้อมๆกัน
การจัดการกับสินค้าค้างสต๊อกด้วยโปรโมชั่นเด็ด
สินค้าคงเหลือ หรือค้างสต็อคอยู่ มักเป็นปัญหาใหญ่ของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ตัวยง ที่เป็นแบบนี้เพราะ สินค้าหลายอย่างพวกแฟชั่น มักมาไวไปไว ถึงแม้กลุ่มลูกค้าจำเป็นต้องใช้สินค้าแนวเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายอยู่เป็นประจำ แต่พอกาลเวลาเปลี่ยนไป คำว่าตกเทรนด์ ตกยุค และเชย ก็อาจจะมาลงกลอนให้สินค้าของเราขายไม่ออกกันได้
ทางออกที่ดีคือ เราต้องมีการจัดการกับสินค้าค้างสต๊อกเหล่านี้ด้วยโปรโมชั่นเด็ด หาทางระบายออกไปเรื่อยๆ ถึงแม้ตลาด ณ ตอนนั้นจะยังไม่โดน หรืออาจหยิบมา Mix & Match ให้เหมาะเหม๋งกว่าเดิมด้วย เครื่องประดับแสนเก๋ไม่เหมือนใคร หรือการขายคู่กันไปเลย อย่างเสื้อท่อนบน ก็ขายคู่กับกระโปรงท่อนล่าง หรือจับอันใดอันหนึ่ง มาหั่นลดราคาแบบพิเศษ พอนักช๊อปทั้งหลายเกิดภาพไอเดียการแต่งตัวที่หลากหลาย ยอดขายของเราก็คงกระเตื้องบ้าง
เมื่อโปรโมชั่นเด็ด เปลี่ยนกำไรที่อาจหดหายของเรา กลับมาพอเป็นทุนหมุนเวียนในร้านได้บ้างแบบนี้ พอถึงคราวต่อๆไป เราก็ต้องไม่ปล่อยให้สินค้าต้องมาจมกับต้นทุนแบบนี้อีกละกัน ต้องหมั่นงัดโปรโมชั่นโดนใจมากระตุ้นยอดขายกันเป็นระยะไปด้วย ใส่ความคิดลงไปล่อตาล่อใจตลาดสักหน่อย รับรอง จะโบกมือลาสินค้าค้างสต็อคไปได้อีกยาวเลยล่ะ
วางแผนในเรื่องราคาและสินค้าให้โปรกว่าใคร ด้วยเทคนิคคูลๆ!
ที่จริง หลักการขายที่ง่ายๆ ก็คือ เราต้องตั้งราคาให้กลางๆ เข้าไว้ เพราะบางครั้งของถูกที่สุดอาจโดนเมินก่อนเป็นอันดับแรกเพราะความไม่มั่นใจในคุณภาพก็เป็นได้ หรือการลดราคาอย่างฉลาด เราก็สามารถทำได้ แบบซื้อเยอะก็รับส่วนลดเยอะ พวกการกระตุ้นให้ซื้อสินค้าแบบเป็นคู่ หรือ การซื้อแบบ 3 แถม 1 เป็นต้น ลำดับต่อมาที่ลืมไม่ได้คือ หาทางจัดการกับสินค้าค้างสต๊อกด้วยโปรโมชั่นเด็ด ถ้าพวกเสื้อผ้าแฟชั่นก็ลองหยิบจับมา Mix & Match เพื่อเปลี่ยนกำไรที่อาจหดหายของเรา กลับมาพอเป็นทุนหมุนเวียนในร้านได้บ้าง
ก็หวังว่า การบริการที่เรียบง่าย แต่ได้รายละเอียด ในวิธีที่เรากำลังทำในธุรกิจนั้น จะผ่านไปได้อย่างสวยงาม และสร้างความสนิทสนมกันดี ระหว่างแบรนด์ของเราและตัวลูกค้าไปด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใด เราต้องมีการพัฒนาระดับการบริการ และสินค้าของเราให้ควบคู่กันไป อย่างดีขึ้นเรื่อยๆด้วย พอเราลงทุนมาถูกทางแบบนี้ ลูกค้าในมือ ก็คงจะมอบใจ และไม่หนีไปซื้อร้านอื่นอีกหรอกน่า ถือเป็น Connection ดีๆและรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจที่เราไม่ควรพลาด จริงมั๊ย!
น้ำฝน
แม้แต่การขายของก็ต้องมีเทคนิคเหมือนกันนะคะ เพื่อที่จะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายและทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการรู้สึกติดใจอยากมาอีก พอได้อ่านบทความแบบนี้ก็ได้แนวคิดการจัดร้าน และวิธีที่จะช่วยให้ลูกค้าติดใจแล้วกลับมาซื้ออีกได้เลยค่ะ ซึ่งคิดว่า ถ้าเรานั่งคิดด้วยตัวเองบางทีก็คิดไม่ออก แต่พอได้อ่านบทความนี้แล้วเชื่อว่าใช่เลยค่ะ
Piyapong
เป็นแนวทางการค้าขายที่ดีมากเลยครับ ได้ประโยชน์ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ผมในฐานะผู้ซื้อเห็นด้วยนะครับกับการตั้งราคาสินค้า ผมเองก็ซื้อของราคากลางๆ แต่ก็ดูคุณภาพสินค้าด้วยนะ บางครั้งก็ซื้อราคาที่สูงที่สุด ส่วนคุณผู้หญิงน่าจะชอบแบบลด แลก แจก แถม เป็นธรรมดาครับ อยู่ที่ร้านค้าต่างๆจะเลือกใช้วิธีไหน ดึงดูดใคร ยังไงก็ขายดีแน่นอน
วิษณุ
ครับ ผมเห็นด้วยกับคำแนะนำที่บอกมา ผมเองมีร้านขายอาหารบุฟเฟ่แบบหมูกระทะแบบนั้น เพื่อจะได้ลูกค้าเราก็ต้องยอมปรับลดราคาบ้างแต่ก็ต้องดูว่าเราได้อะไรมั้ย ถ้าเราขาดทุนเกินไปเราก็อยู่ไม่ได้ คือผมขอบ่นหน่อยเพราะบ้างร้านเนี่ยปรับลดราคาเหมือนให้กินฟรีอะ คือแย่งลูกค้าเราไปหมดแต่เขาจะอยู่ได้นานแค่ไหนในเมื่อต้นทุนก็เท่ากัน มันเจ็บใจครับ
สิรินันท์
เรื่องการตั้งราคานี่ โดนใจเราไปเลยคะ เราไปขายเสื้อผ้าที่เปิดท้าย ตอนแรกก็เอาเถอะกำไรแค้ตัวละ 10บาทก็พอละ ตั้งราคาแบบร้านข้างๆจะยิงหัวเอาเลย แต่ปรากฏว่ายังรู้ไหม คนเข้ามาดูนะแล้วไม่มีใครซื้อเลย ได้ยินเขาคุยกันว่าของก๊อปป่าว แล้วก็เดินออกเลย แต่พออีกที่เราตั้งเลยราคาเท่ากับร้านข้างๆ ปรากฏขายได้เฉย เข้าใจเลยว่าของถูกมักถูกเมิน
บิน
ผมคิดว่าเป็นการตลาดที่น่าสนใจเลยทีเดียวนะครับสำหรับการลดราคาเพื่อที่จะได้รับปริมาณการขายที่มากๆ เพราะถ้าลูกค้ารู้ราคาจากร้านอื่นแล้วก็จะมีการเปรียบเทียบราคา เมื่อสินค้าของเรามีราคาที่ถูกกว่าแน่นอนว่าก็จะเป็นที่สนใจจะเพิ่มยอดขายได้ดีเลยทีเดียว ยิ่งถ้าได้ขายในยอดปริมาณมากๆถึงแม้จะไม่ได้กำไรมากแต่ได้รับยอดสูงอยู่นะครับ
ชาญ
โทรหาด้วยนะครับวิธีไหนที่จะช่วยเพิ่มยอดขายก็คือการลดราคาแบบ super sale ไปเลย เพราะว่าการลดราคาเยอะๆจะทำให้ลูกค้าให้หันความสนใจมาอย่างสินค้า เพิ่มให้มีการซื้อสินค้าเยอะๆนั่นเอง รู้จักโปรโมชั่นอาจจะ 1 วัน 1 ชั่วโมง นาทีทองก็ได้ ถ้าเราเข้าไปดูใน lazada หรือช้อปปี้ แล้วเขาจะเห็นว่ามีช่วงเวลาโปรโมชั่นจำกัดสำหรับวางสินค้าเพื่อเพิ่มยอดขายด้วย
น้องพู่กัน
หลายคนที่ขายของ มักเจอเรื่อง สินค้าค้างสต๊อก กันใช่ไหมครับ วิธีการที่ทำ ก็เอามาลดราคากัน อันนี้เป็นสิ่งที่ควรทำจริงๆครับ เพราะถ้าเรายังขืนปล่อยให้ สินค้าค้างสต๊อกไปเรื่อยๆมันจะกลายเป็นขยะในที่สุดครับ แล้วลูกค้าส่วนใหญ่ก็รอคอยสินค้าลดราคา สินค้าค้างสต๊อก แบบนี้กันเยอะมากครับ เพราะได้ของดีราคาไม่แพงกัน
น้ำฝน
ถ้ารู้สึกว่าสินค้าข้างในสต๊อกเยอะก็จัดโปรโมชั่นตอนสิ้นปีคะ ลดแลกแจกแถมค่ะทำไปเลย ต้องคิดให้ดีนะครับว่าเราสามารถที่จะได้รับเงิน จากค่าสินค้าถ้าต้องแลกกับการที่เราเก็บสินค้าไว้แล้วต้องหมดอายุหรือว่า ต้องทิ้งสินค้านั้นไปก็ทำการลดแลกแจกแถมไปเลยค่ะ ดังนั้นความเหมาะสมของอายุสินค้ากับราคาจำเป็นต้องส่งมาด่วนกัน
มันเผา
@Piyapong ใช่ครับถึงทุกร้านต้องทำการตลาดนะจะมีลูกค้าเข้ามาเยอะขึ้นเรื่อยๆผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ตอนนี้อยากจะเป็นการตลาดที่ดีเหมือนกันอยากจะขายของให้ได้เยอะๆเพราะว่าช่วงนี้ มีคู่แข่งเยอะครับคู่แข่งทางการค้านี่แหละครับหลายคนก็ออกจากงานประจำมาแล้ว ออกมาขายของขายกับข้าวขายนู่นใครนี่ก็ยิ่งดีพ่อค้ามากขึ้นเรื่อยๆตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงนะครับเราจะสู้กันไปนะครับ
หมีแพนด้า
ต้องหาข้อมูลเลยนะครับเรื่องนี้ อยากจะพัฒนาธุรกิจร้านอาหารของตัวเองการให้เข้าสู่โลกออนไลน์ให้มากที่สุด เพราะตอนนี้คิดว่าธุรกิจออนไลน์คือดีที่สุด ทุกวันนี้ขายได้กับลูกค้าในตลาดออนไลน์นี่แหละครับ ขายตัวต่อตัวหรือขายหน้าร้านได้น้อยมาก บทความนี้ก็ให้คำแนะนำดีครับสำหรับคนที่ทำธุรกิจทุกวันนี้ต้องพาธุรกิจเข้าสู่ตลาดออนไลน์ให้เร็วที่สุด