ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันนี้มีธุรกิจเล็กๆ หรือที่เรียกกันว่า Startup เกิดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก โดยปริมาณของพนักงานในธุรกิจไม่จำเป็นต้องมีมากเหมือนบริษัทขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัท Startup หลายแห่งไม่ได่มีเวลาที่ตายตัวว่าต้องทำงานกี่โมงหรือเลิกกี่โมง หรืออาจไม่ต้องเข้าออฟฟิศเลยก็ได้ ถ้าพนักงานคนนั้นสามารถบริหารจัดการเวลาของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีอาชีพในหลายสายงานที่สามารถทำงานนอกสถานที่ เช่น ฟรีแลนซ์ เป็นต้น
ธุรกิจ Co-Working Space คืออะไร?
เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ธุรกิจ Co-Working Space เป็นมายังไง? เริ่มต้นมาจากการทำงานในรูปแบบที่เรียกว่า Co-Working ซึ่งก็คือการที่กลุ่มคนจากต่างสาขาอาชีพมารวมตัวกันและทำงานในพื้นที่เดียวกัน ส่วนใหญ่แล้วคนที่จะมาทำงานร่วมกันนี้มักเป็นกลุ่มคนทำงานอิสระ ซึ่งแน่นอนว่าการทำงานในลักษณะนี้แตกต่างจากการทำงานในบริษัทหรือองค์กรโดยทั่วไป ซึ่งในสถานที่นี้จะมีการแบ่งปันพื้นที่ในการทำงานร่วมกันเท่านั้น สถานที่เปิดให้เช่าพื้นที่ทำงานที่เรียกกันว่า Co-Working Space จึงได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อรองรับรูปแบบการทำงานในลักษณะนี้ Co-Working Space นอกจากจะหมายถึงการรวมตัวกันในพื้นที่ทำงานชั่วคราวแล้ว ยังอาจหมายถึงชุมชนย่อม ๆ ที่เป็นสังคมแห่งการแบ่งปันของคนทำงานจากหลายสาขาอาชีพได้อีกด้วย
ทำไมถึงได้รับความนิยม
สิ่งสำคัญที่ทำให้คนทำงานรุ่นใหม่สนใจคงจะหนีไม่พ้นบรรยากาศการทำงานสบาย ๆ และการออกแบบสถานที่ที่คำนึงถึงประโยชน์ด้านการใช้งานและความสวยงาม ซึ่งนั่นทำให้ Co-Working Space นั้นแตกต่างจากออฟฟิศธรรมดา ๆ โดยสิ้นเชิง ซึ่งเกือบทุกที่จะมีบางอย่างที่คล้ายๆกัน เช่น
ราคาประหยัด
กลุ่มคนที่ต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานเพื่อใช้เป็นที่ทำงานชั่วคราวนั้นคือกลุ่มคนเพียงกลุ่มเล็กๆ ซึ่งการที่จะเช่าสำนักงานที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นอาคารที่ใหญ่โต มีหลายชั้น และมีพื้นที่มากเกินความต้องการของคนกลุ่มนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกินความจำเป็นสำหรับคนทำธุรกิจที่เพิ่งสร้างตัวซึ่งมีกำลังคนน้อยและยังไม่มีเงินทุนมากนัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกที่จะใช้ร้านกาแฟ แต่เมื่อ Co-Working Space เปิดให้เช่าโดยคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายชั่วโมงและรายวันในราคาที่ประหยัดกว่า ทำให้กลุ่ม Startup รุ่นใหม่ และคนทำงานอิสระอีกหลายสาขาอาชีพให้เข้ามาใช้บริการ
เหมาะสมกับการทำงานและไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
นอกจากเรื่องของความคุ้มค่าในการเช่าพื้นที่ทำงานในราคาประหยัดแล้ว Co-Working Space ยังเป็นมากกว่าพื้นที่รวมตัวของคนทำงาน เป็นเหมือนกับตัวแทนของคนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็น นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่อยากจะเป็นเจ้านายตัวเอง ไม่อยากทำงานออฟฟิศ เป็นมนุษย์เงินเดือนแบบคนรุ่นก่อน ๆ หรือแม้แต่ นักเขียน ศิลปิน ไปจนถึงช่างภาพ ที่มักจะรับงาน Freelance นั่นทำให้ Co-Working Space เหมาะกับลักษณะการทำงานและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ยืดหยุ่น
มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม
Co-Working Space ส่วนใหญ่มักมีอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำงาน เก้าอี้ โซฟา หรือโต๊ะสำหรับวางคอมพิวเตอร์ ตลอดจนเครื่องพิมพ์เอกสาร อินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย รวมไปถึงของใช้ในสำนักงานอื่น ๆ ไม่ต่างจากออฟฟิศทั่วไป แต่สิ่งที่ต่างจากออฟฟิศทั่วไปก็คือ ความยืดหยุ่นที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละคน ทั้งเรื่องเวลา จะมากี่โมงก็ได้ หรือสถานที่ เลือกนั่งตรงไหนของห้องก็ได้ในกรณีที่เป็นห้องรวม ไม่ว่าจะมาคนเดียวหรือแบบกลุ่ม และยังมี การมีบริการให้เช่าห้องทำงานเฉพาะบุคคล ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวและต้องการสมาธิในการทำงาน ห้องประชุมเพื่อคุยงาน ห้องอบรมสัมมนา หรือพื้นที่พิเศษในการจัดกิจกรรม รวมไปถึงห้องครัวและห้องอาหาร บางแห่งยังมีเครื่องดื่ม หรือขนมให้บริการฟรีอีกด้วย
เหมาะกับคนกลุ่มไหนบ้าง
Co-Working Space เหมาะกับกลุ่มคนที่ต้องการความยืดหยุ่นหรืออิสระในการทำงาน โดยส่วนมากจะเป็นกลุ่มคนที่กำลังรวมตัวกันเพื่อประกอบธุรกิจใหม่ หรือที่เรียกกันว่า Startup Company ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ (Freelancer) ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ ถ้าคุณจะเจอคนจากหลากหลายสาขาอาชีพ เช่น Startup สาย Social Enterprise Developer สาย IT Graphic Designer หรือ คนทำงานสาย Creative ภายใน Co-Working Space แห่งเดียวกัน หรือถ้าหากคุณทำงานประจำ แต่อยากเข้าไปเล่นอินเทอร์เน็ต นั่งทำงานนอกสถานที่เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ประชุมคุยงานด่วน หรือจะนัดพบกับลูกค้าคนสำคัญก็สามารถทำได้
ข้อดี
ประหยัดค่าใช้จ่าย
สำหรับธุรกิจ Startup อาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องใช้สถานที่ในการทำงาน แต่การที่จะไปเช่าสำนักงานก็เป็นอะไรที่ใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง และยังมีสัญญาเรื่องของระยะเวลาในการเช่าอีกด้วย ดังนั้น Co-Working Space จะมาแก้ปัญหาในส่วนของค่าใช้จ่ายในที่นี้ เพราะว่ามันสามารถเช่าได้ทั้งแบบเป็นรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี
การเดินทางที่สะดวก
สำหรับคนที่มีที่พักอยู่ห่างไกลจากสถานที่ทำงาน Co-Working Space จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจถ้าหากคุณสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเข้าสำนักงาน เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว Co-Working Space จะหาได้ง่ายๆ ในตัวเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพ ที่บางแห่งมีตามแนวของรถไฟฟ้า BTS / MRT
ได้พบกับสังคมใหม่ๆ
Co-Working Space ไม่ได้จำกัดว่าคุณจะต้องทำอาชีพอะไรหรือมาจากที่ไหน ดังนั้นเราสามารถเข้าไปเจอหลากหลายอาชีพในนั้น สามารถแลกเปลี่ยนความคิดกับคนอื่นๆ ซึ่งคุณอาจจะได้เพื่อนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ และมุมมองใหม่ๆ ในการทำงานกลับมาด้วยครับ
แดง
ผมว่าน่าสนใจนะครับ เพราะผมเองก็อยากเปิดกิจการเล็กๆแต่การต้องเช่าสถานที่เพื่อเปิดกิจการก็น่าจะไม่ค่อยไหว ส่วนอาคารเล็กๆที่ต้องการก็หายากส่วนมาก็สองสามชั้นไปเลย ผมอยากเปิดแค่ร้านถ่ายรูปอัดรูปเล็กๆ แต่พอมาอ่านเรื่องนี้ก็ทำให้มีไอเดียครับเดี๋ยวจะลองหาเพื่อนๆ หรือคนรู้จักที่อยากแชร์สถานที่ทำงานด้วยกันดู ผมว่าคนที่ทำงานส่วนตัวออนไลน์ก็คงสนใจเพราะเหมือนการได้เปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน แทนที่จะทำงานอยู่แต่ที่บ้านนะ
Ratanaporn
Co-Working Spaceรูปแบบการทำงานแบบนี้กำลังเป็นที่นิยม น่าสนใจมากเลยทีเดียวนะครับ เพราะว่าช่วยให้เราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจเยอะมาก แล้วถ้าเราเป็นเพื่อนกันก็สามารถใช้รูปแบบนี้ได้เลยครับถึงแม้ว่าจะทำงานกันคนละอย่าง ซึ่งบทความนี้ทำให้เราเห็นถึงความเป็นไปได้ ถึงแม้ว่าเราจะทำงานคนละอย่างกันแต่ก็ทำงานร่วมกันในอาคารหรือห้องเดียวได้
สายชล
Co-Working Space เป็นไอเดียที่ดีนะครับ เพราะช่วยให้ประหยัดพื้นที่ และใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เป็นการผสมผสานกันระหว่างคนละสาขาอาชีพงาน ผมคิดว่าเป็นความคิดที่ดีและสุดยอดมากเลยครับ ซึ่งแนวคิดแบบนี้สามารถนำไปใช้กับสิ่งอื่นได้ เป็นการผสมผสานเพื่อผลประโยชน์ของหลายๆฝ่าย เป็นรูปแบบที่น่าสนใจ
Piyapong
สถานที่ทำงาน Co-Working Space เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับคนทำงานอิสระ นี่แค่อ่านยังอยากจะไปนั่งบ้างเลยครับ หัวคิดดีมากเลยนะ รองรับกับงานอาชีพในปัจจุบันดี คนที่มีตึกหรืออาคารหลังใหญ่อาจจะต้องปรับเปลี่ยนมาเป็น Co-Working Space บ้างแล้วล่ะ ยิ่งเดี๋ยวนี้ผู้ประกอบการต้องการลดต้นทุนด้วยน่าจะได้รับการตอบรับดีกว่าครับ
แมวเหมียว
มีอย่างงี้ด้วยนะ พึ่่งรู้ มันก็น่าจะดีนะ แต่มันก็น่าจะเป็นไปได้ยากนะถ้ามองในมุมของสังคมไทยบ้านเราที่แบบ ของใครของมันไม่ค่อยข้องเกี่ยวกัน ยิ่งโดยเฉพาะเรื่องของการแชร์นู่นแชร์นี่กันอะ เพราะมันจะต้องมีคนที่ไม่ทำตามกฎแน่ๆแล้วนั่นแหละคือปัญหา ถ้าแบ่งสถานที่กันก็ต้องช่วยกันทำความสะอาด แต่เรื่องทำความสะอาดก็เห็นปัญหาแล้วค่ะ
ดิรานันท์
ผมว่าแบบนี้มันจะไม่สับสนปวดหัวไปใหญ่เลยเหรอ เผมว่าน่าจะไม่สะดวกนะถ้าเราไปทำงานในที่แห่งนี้ ผมว่าสมาธิแตกแน่นอนเลยครับ ผมว่ามันเหมาะกับคนที่อยากประหยัดเงินมากกว่าครับ แต่ผมว่ามันน่าจะมีข้อเสียนะครับ คือมันดู้หมือนเป็นออฟฟิตที่ไม่ใช่งานมาตรฐานนะครับ ผมว่ามันขาดความน่าเชื่อถือนะ ถ้าเราต้องทำงานอะไรที่เป็นงานใหญ่ๆ
แมน
อันนี้ชอบเลยครับสำหรับCo-Working Space เพราะว่าจุดที่โดดเด่นแล้วก็ดีสำหรับผมก็คือความประหยัดนั้นเองครับ อาจจะดูสับสนบ้างในช่วงแรก แต่เวลาผ่านไปสักหน่อยก็จะลงตัวเองครับ รายการประหยัดต้นทุนก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะได้รับผลกำไรตอบแทนดีด้วย อย่างน้อยก็เซฟค่าใช้จ่ายในเรื่องของสถานที่การทำงานได้แหละครับ ดีออก
เพรช
เป็นรูปแบบการทำงานที่น่าสนใจนะครับ เพราะมีการประหยัดพื้นที่และหลายๆสายงานมาทำงานร่วมกันในพื้นที่เดียวกัน ผมคิดว่าจุดที่น่าสนใจก็คือการประหยัดเวลาในการเดินทางครับ บางคนสร้างออฟฟิศแบบนี้ในบ้านของตัวเอง แต่สามารถที่จะทำงานได้หลายอย่างในออฟฟิศเดียว ไม่ต้องเดินทางไกลไปยังพื้นที่ทำงาน สะดวกดีการเดินทางด้วย
น้ำพลุ
แสดงว่า Co-Working Space ต้องเป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่พอสมควรเลยนะครับ เพราะว่าต้องมีห้องทำงาน แบบกลุ่ม แบบแยก แถม ยังต้องมีห้องประชุมอีก ผมว่า ถ้าใครมีเงินลงทุนทำออฟฟิตแบบนี้ น่าสนดีนะครับ เดี่ยวนี่คนที่ทำงานอิสระบางคนก็อยากสร้างภาพเวลาตัวเองนั้งทำงาน ไม่ใช่มาถ่ายแต่รูปทำงานที่บ้านหรือร้านกาแฟอย่างเดียว
สาว
ชอบข้อดีของการทำงานร่วมกันของCo-Working Space ค่ะ เพราะว่าจะช่วยเปิดประสบการณ์ในการทำงานให้กับเราในการดูงานอื่นๆด้วย ในช่วยให้เราสามารถมีปฏิสัมพันธ์หรือเรียนรู้งานอีกสายงานหนึ่ง ทำให้เราไม่รู้สึกเบื่อไม่จำเจหรือยังสามารถที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราในการทำงานอีกด้วย พ่อใครจะไปรู้ล่ะคำว่าการทำงานแบบนี้จะเริ่มเป็นที่นิยมกันแล้ว
สุภาพรรณ์
ถ้าเป็นเมื่อสองปีที่แล้ว การทำงานแบบ Co-Working Space ถือว่าได้รับความนิยมมากคะ ไม่ต้องมีออฟฟิตที่ใหญ่โต สามารถแบ่งพื้นที่กันใช้งานได้อย่างสบายๆ แต่แย่อหน่อยคะ ช่วงโควิด-19แบบนี้ Co-Working Space ก็ต้องคิดมากคะ ถ้าจะทำแบบเดิม เพราะว่ามีความเสี่ยงมากกว่าเดิม หลายคนเลยเลิกที่จะทำงานที่บ้านมากกว่าคะในช่วงนี้
XYZ
จริง... เห็นด้วยกับคุณสุภาพรรณ์ เดี๋ยวนี้คนเค้าประหยัดกันค่ะ ผู้บริหารตอนนี้ขนลูกน้องไปทำงานที่บ้านตัวเองกันทั้งนั้น หรือไม่ก็ให้พนักงานทำงานที่บ้าน แล้วใช้ zoom คุยงานกัน เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครมาเช่าอะไรแบบนี้ให้ตัวเองเพิ่มรายจ่ายมากขึ้นหรอก เค้าประหยัดกันทั้งนั้น ถ้าใครอยากจะลงทุนแบบนี้ต้องคิดกันดีๆเลยค่ะ