การเป็นมนุษย์เงินเดือนทุกวันนี้ไม่ง่ายเลย!l สำหรับใครที่เป็นพนักงานประจำอยู่ หรือทำงานฟรีแลนซ์ ไม่ว่าจะมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันแค่ไหน ถ้าต้องการวางแผนอนาคต หรือมองการณ์ไกลถึงวัยเกษียณ ทุกคนต่างก็คิดถึงการออมเงิน เพื่อจะไม่ฝืดเคืองในอนาคต ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ ทำงานมานานแค่ไหน ก็ไม่สายที่จะเริ่มออมเงิน แต่มนุษย์เงินเดือนแบบเราควรเลือกอย่างไร เพราะการออมเงินก็มีหลายแบบอยู่เหมือนกัน หากจะเลือกออมเงินในบัญชีเงินฝากแบบธรรมดา ก็กลัวว่าดอกเบี้ยจะไม่ค่อยเป็นใจสักเท่าไหร่ หรือจะเลือกลงทุนในหุ้นก็ไม่ค่อยมีเวลาติดตามหรือรับความเสี่ยงสูงๆ ไม่ไหว แล้วการลงทุนแบบไหนบ้างที่จะให้เงินของเรางอกเงย และตอบโจทย์ที่สุดสำหรับมนุษย์เงินเดือน ถ้าอยากรู้ มาดูไปพร้อมๆกันเลยว่า ตัวเลือกอย่าง ‘กองทุนรวม’ จะน่าสนใจสำหรับมนุษย์เงินเดือน และตอบโจทย์ชีวิตเราได้มากแค่ไหน เราควรมีกองทุนรวมไว้เพื่ออะไร ให้ผลประโยชน์อะไรกับเราบ้าง และจะเข้าใจเป้าหมายในการมีกองทุนรวมแบบต่างๆ ได้อย่างไร มาดูกันเลย
มีกองทุนรวมเพื่ออะไร
กองทุนรวมคืออะไร?! ตอบง่ายๆของการทำงานของมันก็คือ เงินก้อนใหญ่ที่เราจะได้ จากการที่มีผู้ลงทุนรายย่อยเช่นเรารวมเงินกัน โดยจะมีการจดทะเบียนในฐานะนิติบุคคล แล้วมีผู้ดูแลกองทุนนำไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อีกที อาจจะมีในสินทรัพย์ต่างๆ หรือกระจายการลงทุนให้กับเราและมีการกระจายความเสี่ยงเกือบครบทุนการลงทุน เช่น หุ้น , ทองคำ , ตราสารหนี้และพันธบัตร หรืออสังหาริมทรัพย์ หรือขอบเขตที่ใหญ่ขึ้นอย่างหุ้นต่างประเทศก็ยังทำได้
ดังนั้น ในการที่เราถือกองทุนรวม จะทำให้เรากลายเป็นผู้ลงทุนเต็มตัวที่จะได้มาซึ่งหน่วยลงทุน ถือเป็นหลักฐานว่าเราเป็นเจ้าของกองทุนนั้นๆ แล้วก็จะมี บลจ. หรือเรียกเต็มๆว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เข้ามาเป็นตัวกลางในการจัดตั้งกองทุนให้เรา รวมถึงบริหารเงินให้งอกเงย และเฉลี่ยผลตอบแทนคืนมาให้ตามสัดส่วนที่เราลงทุน โดยการกำหนดนโยบาย คัดเลือกหุ้นทั้งในและต่างประเทศเลยก็มี
กองทุนรวมมีระบบการทำงานที่ต่างจากหุ้นอย่างชัดเจน การลงทุนในหุ้นเราอาจต้องมองหาโบรกกเกอร์ (บล.) ทุกการตัดสินใจจะอยู่ที่ผู้เล่นหุ้นเป็นหลัก แต่สำหรับกองทุนรวม เราจะมี บลจ. เป็นตัวกลาง เราจึงต้องมองหาบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุนแบบที่ไว้ใจได้ แต่ปลอดภัยตรงที่ เงินของเราจะมีผู้ดูแลผลประโยชน์อีกที แม้ บลจ. อาจล้มละลายไป สถาบันการเงินที่ดูแลอยู่ก็จะทำการจัดสรรเงินคืนให้กับเราเพื่อลงทุนกองนั้นต่อได้อีกเป็นต้น
กองทุนรวมให้อะไรกับเราบ้าง
กองทุนรวมจริงๆแล้ว เราสามารถเริ่มได้ตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพันก็ได้ บางกองทุนกำหนดไว้แค่ 1 บาทก็มี ถือว่าเริ่มต้นได้ไม่ยากที่เราจะสร้างฐานเงินออมและความมั่นคงในชีวิต แล้วสำหรับเรื่องสำคัญที่มนุษย์เงินเดือนสนใจ ก็คือผลตอบแทนที่แน่นอนนี่ล่ะ! สิ่งที่กองทุนรวม จะให้กับเราคือ ‘กำไร’ ที่สามารถเลือกรับได้ใน 2 รูปแบบ คือ ‘เงินปันผล’ และ ‘กำไรส่วนต่างจากราคาหลักทรัพย์’ มาดูรายละเอียดกันสักหน่อย
เงินปันผล (Dividend) - ก็คือค่าตอบแทนที่ บลจ. จะจ่ายให้กับเราเป็นประจำตามที่ตกลงกัน ปัญผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนตามลำดับ อาจมาให้รูปแบบของเงินสดตรงๆ หรือเป็นหุ้น ซึ่งในบางแห่งอาจมีการนำเงินจำนวนนี้ไปลงทุนต่อก็จะเป็นกำไรสะสม ให้ต่อไปอีก โดยอาจเป็นเป็นสัดส่วนในการถือหุ้นแก่เรา หรือมาในรูปมูลค่าสุทธิของกองทุนเติบโตอย่าง NAV (Net Asset Value) ที่หลายคนคุ้นหู
กำไรส่วนต่างจากราคากองทุนหรือหลักทรัพย์ (Capital Gain) - ถือเป็นกำไรที่เราจะได้มาจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่งอกเงยขึ้นมาตามปกติ หรือการซื้อถูกขายแพงนี่แหล่ะ อาจมาโดยเราขายหน่วยลงทุนคืน เมื่อเห็นว่ามีกองทุนอื่นอีกที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า ซึ่งมีราคาขายสูงกว่าต้นทุนการลงทุนของเรา แต่ไม่ควรทำบ่อยๆ เพราะจะลงทุนแบบไหนก็ตาม เวลาในการงอกเงยก็จำเป็นทั้งนั้น
เป้าหมายในการมีกองทุนรวมแบบต่างๆ
หากจะถามว่ามนุษย์เงินเดือนเหมาะกับกองทุนรวมไหม? มีความเสี่ยงมากน้อยอย่างไร? ก็ขึ้นอยู่กับ ‘เป้าหมายในการลงทุน’ นี่ล่ะ! ทำให้เราต้องคิดทบทวนก็ดีๆสักหน่อย ไหนๆก็จะลงทุนทั้งทีแบบนี้ ถ้าจะเปรียบระหว่าง ‘กองทุนรวม’ กับ ‘หุ้น’ สิ่งที่เราตัดสินใจได้ง่าย ก็ขึ้นอยู่กับความเสี่ยง แม้เสี่ยงมากผลตอบแทนก็อาจมากตามไปด้วย แต่สถานะแบบเราต้องดูว่าพร้อมรับความเสี่ยงได้ในระดับไหนแน่ๆ ดังนั้น กองทุนรวมถือว่าตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือนเพราะจัดว่าอยู่ใน ‘ระดับความเสี่ยงปานกลาง’ ต่างจากหุ้นที่อาจต้องมีทักษะหรือเชี่ยวชาญในการซื้อมันตรงๆ ต้องเลือกหุ้นให้ถูกตัวและมีความรู้พื้นฐานที่แน่นกว่า
การลงทุนในกองทุนรวมแบบต่างๆ ถือว่าเหมือนการลงทุนทางอ้อม ที่เป็นแบบนี้เพราะ เราจะมีผู้บริหารหรือผู้ดูแลกองทุน คอยจัดการให้ตลอดเวลา กระจายความเสี่ยงให้ เพื่อลงทุนในผลิตภัณฑ์การเงินที่ระบุในหนังสือชี้ชวนตามสไตล์ที่เราเลือกหรือตกลงกัน แม้เราอาจเริ่มต้นด้วยจำนวนเงินที่น้อยกว่าก็ทำได้เลย , มีมืออาชีพคอยดูแล , จำกัดและควบคุมความเสี่ยงได้ง่าย รวมทั้งมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่มากขึ้นสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราเลยล่ะ
เป้าหมายในการลงทุนของมนุษย์เงินเดือนก็หนีไม่พ้น การต้องการผลตอบแทนที่ดีขึ้น หรือการเริ่มด้วยจำนวนเงินแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะไม่อยากเสี่ยงเกินไป หรือบางคนก็ไม่ค่อยมีเวลาจริงๆในการติดตามข้อมูลข่าวสารแต่ก็อยากวางแผนภาษีไปในตัว กองทุนรวมจึงถือว่าให้เราได้ดีในแง่ที่ว่า แต่ก็จะมีเรื่องระยะเวลามากำหนดวิธีการของเราด้วย ดังนี้
เป้าหมายแบบระยะสั้น
จะเหมาะกว่าสำหรับคนที่ต้องแหล่งพักเงินในระยะสั้นๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสภาพคล่องที่ดีขึ้น มีผลกำไรที่น่าพอใจกว่าการฝากในธนาคาร เพราะสามารถเป็นเป็นเงินสดได้ในเวลาไม่นาน ที่นำมาจัดการกับรายจ่างต่างๆในระยะเวลา 3 เดือน , 6 เดือน หรือ ไม่เกิน1 ปี เช่น กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund) แบบทั้งภาครัฐหรือเอกชนให้เราเลือก แต่ก็อาจมีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ยังไม่สูงนัก ประมาณ 1-2%
เป้าหมายแบบระยะกลาง
แบบนี้ก็ยังถือว่าคล้ายกับเป้าหมายระยะสั้นบ้าง แต่มากขึ้นมาหน่อยในเรื่องจำนวนผลตอบแทนและเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น อย่างเช่นความต้องการในการซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือการแต่งงาน ซึ่งอาจมีเวลาวางแผนที่นานขึ้น ใน 3 - 7 ปี เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ หุ้นกู้ทั้งภาครัฐและเอกชน หรือ กองทุนรวมหุ้น LTF ที่มนุษย์เงินเดือนหลายคนเลือกเพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคต และมีสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษี ผลตอบแทนเฉลี่ยที่เราจะได้ก็ประมาณ 2 - 4 %
เป้าหมายแบบระยะยาว
จะถูกกำหนดด้วยระยะเวลาที่มากกว่า 3 ปีขึ้นไป เงินต้นที่เราต้องลงทุนก็อาจจะเพิ่มขึ้นมา แต่ผลตอบแทนก็จะมากขึ้น ถ้าเราไม่ได้ถอนออกมายิ่งจะงอยเงยมากขึ้น ด้วย ‘ดอกเบี้ยทบต้น’ หรือ Re-invest ได้ด้วย มนุษย์เงินเดือนหลายคนที่เลือกแบบนี้ก็เพราะอยากวางแผนในเรื่องการเกษียณให้มีประสิทธิภาพ ป้องกันปัญหาขาดรายได้ในอนาคต จึงหันมาลงทุนระยะยาวกันมากขึ้นด้วย กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF ที่จะขายคืนเมื่อมีอายุ 55 ปี แต่ลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปีปฎิทิน หรือเน้นในการลงทุนกับหุ้นขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นไทยอย่าง กองทุนที่อิงกับดัชนีSET50, กองทุนพลังงาน หรือกองทุนกลุ่มโรงพยาบาล และกองทุนต่างประเทศแบบตลาดหุ้นสหรัฐหรือจีน รวมทั้งกลุ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ
กองทุนรวมนี่แหละ ตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือนที่สุด!
เป็นเรื่องปกติที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ พอทำงานได้เงินมา ก็อยากหาวิธีเก็บออมหรือต่อยอดให้เงินก้อนนั้นงอกเงยต่อไป เพราะการฝากเงินด้วยบัญชีธรรมดากับธนาคารแบบเดิมๆ ไม่ทำให้เราเอาชนะค่าเงินที่เฟ้อขึ้นเรื่อยๆ ได้เลย ‘กองทุนรวม’ จึงถือเป็นตัวเลือกหลักๆ ที่มนุษย์เงินเดือนหลายคนคิดว่าเหมาะสมกับมือใหม่ดี เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลามานั่งคอยติดตาม และยังมีผู้จัดการกองทุนที่เป็นมืออาชีพคอยดูแลการลงทุนให้เราไปในตัวด้วย เราก็มีหน้าที่หลักๆ แค่มีวินัยในการออมทุกๆเดือนแค่นั้น
การตั้งเป้าหมายของเรานั้นสำคัญ การกำหนดว่าเราลงทุนในกองนี้เพื่ออะไรอย่างชัดเจน ถือว่าตอบโจทย์ที่สุด เช่น การเกษียณ การออมเพื่อบ้านหลังแรก หรือวางแผนการศึกษาของลูก พอเราได้เป้าหมายมาแล้วก็จะรู้จำนวนเงินที่ต้องจ่าย และระยะเวลาในการใช้เงินก้อนนี้ สามารถกำหนดการลงทุนต่อเดือนได้ เพื่อมีการประเมินและวัดผลที่เหมาะสม โดยอาจหาข้อมูลหรือการเลือกกองทุนที่เหมาะกับเราได้ตามกูรูการลงทุนในอินเทอร์เน็ตที่เข้าตา ถ้ายังไม่เข้าใจก็อย่างเพิ่งรีบร้อน อ่านอีกสักรอบก่อนก็ได้ เพราะการเปิดบัญชีกองทุนทำได้ง่ายมากๆ ไม่ว่าจะไปซื้อเองที่ธนาคารหรือตลาดหลักทรัพย์นั้น ผ่าน Mobile Application หรือ เว็บไซต์ แค่ไม่กี่นาทีก็สะดวกมาก
แนะนำว่ามือใหม่ควรเริ่มจากลงทุนน้อยๆก่อน อาจตัดออมผ่านบัญชีทุกเดือนก่อนก็ได้ ออมเท่าที่เราออมไหว สามารถเพิ่มได้ในตอนหลังได้ เพื่อฝึกวินัยของเราไปในตัวด้วยและทำให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้เร็วขึ้น ส่วนเรื่องการจัดพอร์ตการลงทุนก็ไม่สูตรตายตัวหรือเฉพาะ ทำให้มนุษย์เงินเดือนก็สามารถวางแผนแบบที่เหมาะกับวัตถุประสงค์หรือเป้าหมาย ด้วยระยะเวลาที่ทำให้การลงทุนของเราตอบโจทย์มากขึ้น และต้องมีการติดตามผลการลงทุนบ้าง ถึงไม่บ่อย แต่ถ้าเรามีความรู้ความเข้าใจที่เพิ่มขึ้น ก็ยิ่งทำให้สามารถต่อยอดการลงทุนในแบบที่เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนแบบเราต่อไปได้ และเราสามารถเพิ่มความมั่นใจด้วยการ ‘ศึกษาผลตอบแทนในอดีต’ ของกองทุนย้อนหลังบ้าง เพื่อดูแนวโน้มต่างๆ หรือทิศทางในการลงทุน แล้วอนาคตทางการเงินของมนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็จะยิ่งมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ และได้ผลตอบแทนที่มากขึ้นด้วยอย่างแน่นอน
Gina
เดี๋ยวนี่มนุษย์เงินเดือนเขาไม่พึ่งแต่เงินเดือนแล้ว ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า การลงทุนอยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้นทุกที ไม่ว่ากองทุน หรือการลงทุนแบบไหนก็เลือกไปเถอะครับ วางแผนให้ดีสักหน่อยเรื่องการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แล้วอย่าเลือกที่มีความเสี่ยงมากเกินไปก็พอ เท่านี้ก็น่าจะได้รายได้เสริมเพิ่มแล้ว เผลอๆต่อเดือนจะได้มากกว่าเงินเดือนด้วยซ้ำ
Warun
สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้วกันคิดถึงกองทุนรวม ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่มนุษย์เงินเดือนสามารถได้รับผลประโยชน์หรือได้รับเงินเพิ่มจากกองทุนดังกล่าวได้ จำได้ยังได้รับการลดหย่อนภาษีได้ด้วย ชอบบทความนี้เลยค่ะที่แนะนำเกี่ยวกับกองทุนรวมที่น่าสนใจสำหรับมนุษย์เงินเดือน เพราะว่ามนุษย์เงินเดือนมักจะมีเงินเดือนอยู่แล้วสามารถทำให้เพิ่มพูนได้ค่ะ
น้ำฝน
ก็ต้องเป็นกองทุนรวมระยะยาวอยู่แล้วค่ะ พอแม้ว่าจะดูเหมือนว่าได้รับผลตอบแทนนะเหลือเกิน แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้วยิ่งยาวนานเท่าไหร่อาจจะดูเหมือนว่าทรมานมาก แต่ผลตอบแทนที่ได้รับมาก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะว่ายังไงสำหรับฉันกองทุนรวมระยะยาวก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ฉันคิดว่าคุ้มค่าที่สุดแล้วค่ะ อันนี้ก็แล้วแต่คนอื่นจะคิดยังไงนะคะ
Yupa
เมื่อก่อนก็เฉยๆนะเวลาใครพูดถึงเรื่องการลงทุนในกองทุนต่างๆ แต่ตอนนี้เริ่มสนใจละค่ะ ยิ่งได้มาอ่านบทความนี้ เราว่าถ้าลงทุนกับกองทุนไว้บ้างก็ดีนะ เพราะไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตอันใกล้ชีวิตของเราจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อย่างช่วงที่โควิด-19ระบาด คนตกงาน โดนลดงานกันเยอะ ลำบากกันมากเลย ใครที่ไม่มีเงินสำรองนี่แย่เลยนะ เราเองอยากลงทุนบ้างแล้วล่ะ
วิชัย
ผมลงทุนกับกองทุนรวมครับ ผมก็เลยคิดว่ามันก็ดีนะเพราะนอกจากเงินเดือนแล้วจะได้รับเงินปันผลด้วย ตอนแรกๆก็ลงทุนนิดหน่อยในแบบมือใหม่ พอลงทุนไปเรื่อยๆก็เพิ่มขึ้น หรือซื้อกองุทนตัวใหม่ๆที่เขาแนะนำมาให้บ้างก็ทำให้ได้เงินเพิ่มขึ้นก็ดีนะ ผมว่าถ้าเราได้เงินเดือนประจำอยู่แล้วแบ่งมาสักหน่อยเพื่อลงทุนกองทุนก็ดีเพราะใช้เงินไม่เยอะ ไม่เสียเวลามีคนจัดการให้ครับ
วัลณภา
เข้าท่าดีนะ เรื่องการลงทุนในกองทุนรวม มีระยะเวลาให้เราเลือกด้วย แต่ เราไม่เคยเข้ากองทุนรวมแบบที่ว่ามาก่อนเลย เราอยากถามเพิ่มเติมได้ไหมคะ ว่า ถ้าเราสนใจอยากที่จะลงทุนในกองทุนรวมแบบระยะยาวเหมือนกับที่บทความนี้บอกไว้ ไม่ทราบว่า เราสามารถลงทุนกองทุนรวมแบบที่ว่านี้ได้จากที่ไหนบ้าง แล้ววิธีการเข้าร่วมกองทุนแบบที่ว่ามันทำยังไง
คาน
เราต้องดูก่อนนะครับว่าเป้าหมายในการลงทุนกับกองทุนรวมของเรามีเป้าหมายอย่างไร บางคนอยากได้ผลตอบแทนในระยะสั้น บางคนอยากได้ผลตอบแทนในระยะยาว ก็สามารถเลือกลงทุนรวมแบบที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการของเราได้ ช่วยเราสามารถมีเงินทุนขึ้นจากเงินเดือนที่เราทำงานได้ แต่ถ้าไม่อยากลงทุนกับกองทุนรวมก็ไปหาการฝากประจำก็ได้ครับได้เงินดอกเบี้ยน้อยแต่แน่นอนกว่า
ทองแท้
@วัลณภา เรื่องการเข้ากองทุนรวม ทำได้ไม่ยากครับ เราสามารถไปที่ธนาคารไหนก็ได้ครับ แต่ถ้าอยากลงทุนจริงๆ แนะนำให้ไปที่ธนาคาร SCB ครับ เขามีกองทุนรวมให้เราได้ลงทุนครับ ราคาในการลงทุน เริ่มต้นที่ 5,000 บาทครับ ถ้าจำไม่ผิด เขาเรียกว่า บริการ ROBO ADVISOR สามารถใช้งาน บนแอปพลิเคชัน EASY INVEST ได้ครับ ลองๆเข้าไปคุยกับธนาคารดูนะครับ
บอลครับ
กองทุนรวมจะว่าไปก็ต้องเลือกให้เหมาะกับตัวเรานะครับ อย่างเช่นกองทุนรวมที่มีชื่อมีเสียงอย่าง LTF งี้ เพราะตามที่บทความเค้าได้บอกไว้เลยคือในระยะกลาง วางแผนในการซื้อ รถ บ้าน หรือแต่งงาน แถมยังลดหย่อนภาษีได้อีก ซึ่งผมก็กำลังศึกษากองทุนรวมตัวนี้เหมือนกัน ข้อมูลที่นำมาถือว่าใช้ได้เลยครับ เป็นกำลังให้ทำต่อไปครับ
แนน
สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้วการที่มีกองทุนรวมจะช่วยในการลดหย่อนภาษี และยังสามารถที่จะเป็นการสะสมเงินไว้สำหรับอนาคตได้ด้วยนะคะ แล้วแต่ว่าบางคนจะเลือกสำหรับกองทุนระยะสั้น หรือเป็นกองทุนรวมระยะยาว แต่สำหรับฉันเองฉันคิดว่าการเลือกกองทุนระยะสั้นมีความเสี่ยงน้อยกว่าค่ะ และยังได้รับผลตอบแทนเร็วด้วย ชอบคนทางนี้มากกว่าค่ะ
Yindee
@แนน ชอบเหมือนกันค่ะ กองทุนแบบระยะสั้น เพราะรู้ากว่าไม่ผูกมัด แต่ไม่รู้คุณคิดเหมือนกันไหมว่าเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้กำไรเท่าไหร่เลย ไม่เหมือนเมื่อก่อน ก็เลยไม่ได้ลงทุนต่อค่ะ ตอนนี้ดิฉันวางแผนอยากซื้อประกันมากกว่า น่าจะคุ้มกว่า ไม่อยากลงทุนแล้วค่ะ คุณล่ะคะคิดยังไง? อยากฟังความคิดเห็นคนที่ลงทุนช่วงนี้บ้างว่าเป็นยังไง?