เมื่อประมาณ4ปีที่แล้วการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่ลำบากมากๆสำหรับใครหลายๆคนที่อยากไปเที่ยว เพราะต้องทำวีซ่าเข้าไปท่องเที่ยวซึ่งเพื่อนๆหลายคนบอกว่าลำบากและยุ่งยากมาก แต่พอรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศให้ยกเลิกการทำวีซ่าให้กับประเทศไทยจึงทำให้ประเทศญี่ปุ่นอยู่ในอันดับต้นๆที่คนไทยอยากไปเที่ยวสักครั้งแต่การไปเที่ยวต่างแดนใช่ว่าจะง่ายเสมอไปเพราะเราส่วนมากไม่ทราบเลยว่าประเทศที่เราจะไปนั้นมีอะไรบ้างที่น่าสนใจหรือไปช่วงไหนจะเหมาะในการท่องเที่ยวมากที่สุด เพื่อนๆหลายคนพยายายามหาข้อมูลอย่างมากเพื่อจะได้ไปท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นการวางแผนสำหรับการท่องเที่ยวจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากแต่อาจจะมีเพื่อนๆหลายคนยังไม่ทราบว่าจะวางแผนอย่างไรดี ตอนนี้ผมขอแนะนำข้อมูลที่จะทำให้การวางแผนการท่องเที่ยวของคุณง่ายขึ้น

ศึกษาข้อมูลการท่องเที่ยว

ศึกษาข้อมูลการท่องเที่ยว

ทุกวันนี้มีการรีวิวการท่องเที่ยวเยอะมาก ทำให้หลายคนมีความคิดว่าไม่ต้องหาข้อมูลอะไรก็ได้เพียงแค่ไปเที่ยวตามที่เขารีวิวก็น่าจะพอแล้ว ผมเลยอยากขอเตือนเพื่อนๆที่กำลังคิดแบบนี้ครับว่าไม่สมควรทำเป็นอันขาดเพราะส่วนมากแล้วคนที่รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมักจะเสนอแง่มุ่มที่ดีๆเท่านั้นและยังถ่ายรูแเฉพาะมุมที่สวยงามเท่านั้นเพื่อนๆต้องระวังการทำตามพวกเขา เพราะการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่เราอยากไปไม่ใช่ให้ใครมากำหนดกิจกรรมการท่องเที่ยวของเรา ดังนั้น มีข้อมูลอะไรบ้างที่เราต้องหา เมื่อเราอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นที่เราควรรู้คือ

ลักษณะภูมิประเทศ

ของเขา ประเทศญี่ปุ่นเป็นเกาะรวม 6,852 เกาะ ทอดตามชายฝั่งแปซิฟิกของเอเชียตะวันออก เกาะที่น่าสนใจคือเกาะฮอนชูซึ่งมีขนาด230,000ตารางกิโลเมตร เกาะฮอนชูซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด ยังแบ่งเป็น 5 ภาค เรียงจากเหนือลงมาคือ โทโฮะกุ คันโต จูบุ คิงคิ และจูโงกุ มีจังหวัดต่าง ๆ ทั้งหมด 47 จังหวัด

สภาพอากาศในแต่ละช่วงของปี

  • ฤดูใบไม้ผลิ : ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ในช่วงฤดูกาลนี้ทิวทัศน์ของภูเขาทุ่งนาและสวนต่างๆจะปกคลุมไปด้วยสีชมพูสวยงาม ช่วงฤดูนี้ยังเป็นรอยต่อของช่วงฤดูหนาวอยู่อากาศยังหนาวสำหรับคนไทย  ถ้าใครจะวางแผนเดินทางไปเที่ยวในช่วงนี้ก็ต้องเตรียมเสื้อผ้าหนาๆไปด้วย เช่นเสื้อกันหนาว กางเกงขายาว และอย่าลืมรองเท้าบู๊ทสำหรับกันหนาวไปด้วย
  • ฤดูร้อน : ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ในช่วงฤดูร้อนนี้จะเริ่มในเดือนมิถุนายนแต่ที่น่าสังเกตคือ ในช่วงนี้จะมีฝนตกร่วม 3 – 4 สัปดาห์ หลังจากเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปอากาศจะชื้นและร้อนขึ้นอย่างมาก ทำให้ผู้คนนิยมไปเที่ยวตามชายทะเลเป็นส่วนใหญ่หรือบางคนก็ไปพักผ่อนตามภูเขาต่างๆเพื่อคลายร้อนและในช่วงนี้ประเทศญี่ปุ่นจะมีเทศกาลต่างๆเยอะมาก ถ้าใครวางแผนอยากไปเที่ยวในช่วงนี้ ควรเตรียมเสื้อผ้าแบบที่ใส่สบายๆไปด้วย พกครีมกันแดดหรือไปหาซื้อเอาข้างหน้าแต่อย่างหาเสื้อคลุมบางๆไปด้วยเพราะช่วงเย็นๆอากาศจะเย็นลง
  • ฤดูใบไม้ร่วง : ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ในช่วงฤดูนี้จะมีสายลมที่พัดเบาๆและมีอุณหภูมิที่เย็นสบาย จะได้เห็นความสวยงามตามภูเขาต่างๆที่มีสีสันตามฤดูกาล ในช่วงหน้านี้ประเทศญี่ปุ่นชอบจัดนิทรรศการต่างๆ เช่น งานดนตรีหรือการแข่งขันกีฬา ถ้าใครวางแผนอยากไปเที่ยวในช่วงนี้ ควรเตรียมเสื้อแขนยาวที่กันหนาวและสามารถถอดได้ง่ายเพราะอากาศจะเย็นเมื่ออยู่ในร่มแต่จะร้อนเมื่ออยู่ด้านนอกในช่วงฤดูนี้อากาศจะไม่หนาวเท่าฤดูหนาวแต่จะมีลมเย็นๆพัดตลอดทั้งวัน
  • ฤดูหนาว : ช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นตั้งในที่ราบตลอดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกนั้นมักจะไม่หนาวจัดจนต่ำ ในช่วงนี้ของฤดูอากาศจะแจ่มใสสำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจอยู่ที่ ตอนกลางและตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงเรื่องกีฬาฤดูหนาว ถ้าใครวางแผนอยากไปเที่ยวในช่วงนี้ ควรเตรียมเสื้อและกางเกงแนบเนื้อด้านใน ต้องมีเสื้อคลุมโอเวอร์โค๊ตถ้าหนาวมากอาจต้องมีที่ปิดหู และเตรียมรองเท้าบูทที่กันความหนาวเย็นและหิมะได้ และควรสวมใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่นอยู่ตลอดเวลา

เมื่อคุณได้ข้อมูลข้างต้นคุณจะสังเกตุได้ว่าการไปเที่ยวญี่ปุ่นแทบจะได้ได้ทุกเดือนเลยก็ว่าได้ซึ่งในแต่ละฤดูสถานที่ท่องเที่ยวและบรรยากาศก็ไม่เหมือนกันตอนนี้คุณสามารถกำหนดได้ว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงไหนของปีได้ซึ่งคุณสามรถวางแผนเรื่องอื่นๆที่ตามมาได้

การจองตั๋วเครื่องบิน

การจองตั๋วเครื่องบิน

เมื่อคุณวางแผนได้ว่าจะไปเที่ยวในช่วงไหนของปี ขั้นต่อมาก็คือ ต้องทำการจองตั๋วเครื่องบิน ทำไมถึงเป็นเรื่องสำคัญในอันดับสอง ผมขอให้เหตุผลคือ ปกติแล้วราคาตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวญี่ปุ่นราคาจะค่อนข้างแพงมากซึ่งข้อดีของการจองล่วงหน้าจะทำให้เราได้ราคาตั๋วที่ถูกลง แต่เทคนิคในการจองหรือดูตั๋วเครื่องบินก็เป็นเรื่องสำคัญมากๆ ขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยคุณให้สามารถจองตั๋วในราคาประหยัดได้

เปรียบเทียบราคา

ตั๋วเครื่องบินที่จะลงในแต่ละสนามบินของญี่ปุ่น โดยปกติแล้วสนามบินหลักๆของญี่ปุ่นคือ

  • ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ (Narita International Airport)
  • ท่าอากาศยานฮาเนดะ (Haneda Airport)
  • ท่าอากาศยานนานาชาติโอซาก้าคันไซ (Osaka Kansai International Airport)
  • ท่าอากาศยานนาโงย่า/นาโกย่าจุบุเซ็นแทร (Nagoya Chubu Centrair Airport)

การจองตั๋วเครื่องบินข้ามปี

จากข้อแรกเราได้ทำการประเมินคร่าวๆแล้วว่าค่าตั๋วเครื่องบินจะอยูที่ราคาประมาณเท่าไร เราก็สามารถกำหนดเป้าของราคาไว้ได้เมื่อเราเจอราคาที่ถูกใจก็อาจทำการจองได้ บางครั้งสายการบินอาจมีการจัดโปรข้ามปีด้วยดังน้นเราต้องคอยเช็คข้อมูลของสายการบินต่างๆให้บ่อยขึ้นและอย่าเสียใจถ้าทำการจองไปแล้วแตไปเจอโปรที่ถูกกว่าเพราะเหมือนที่บอกไปสายการบินเขาไม่บอกเราล่วงหน้าแค่เราได้ราคาที่เราสู้ไหวก็พอแล้ว

กำหนดสถานที่ที่อยากไป

กำหนดสถานที่ที่อยากไป

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเอาเรื่องนี้ไว้หลังจากการกำนดวันที่จะบิน เหมือนที่บอกไปเราไม่สามารถทราบได้ว่าช่วงไหนโปรโมชันของสายการบินจะถูก ดังนั้นเราจึงต้องหาราคาเครื่องบินที่ถูกก่อน และการจองตั๋วเครื่องบินเราจะได้รู้กำหนดของวันที่เราจะไปเที่ยวได้อย่างแม่นยำเราจึงเลือกสถานที่ที่เราอยากไปได้แบบเจาะจง ตอนนี้เราสามารถกำหนดได้ว่าเราอยากไปเที่ยวที่ไหนแต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าที่ๆเราจะไปเที่ยวห่างกันแค่ไหน มีวิธีงายๆที่คุณสามารถทำได้ ทุกวันนี้เราใช้อินเตอร์เน็ตและโทรศัพทย์มือถือเราสามารถใช้ประโยชน์จากสองตัวนี้ได้ ลองใช้ แอฟ Google Maps เพื่อกำหนดสถานที่ที่จะไปแล้วลงปักเป็นรูปดาวสีเหลืองดูหลังจากนั้นเราลองดูแผนที่แบบไกลๆเราก็สามารถทราบว่าสถานที่ต่างๆไกลกันแค่ไหนแล้วครับและเราสามารถปรับแผนท่องเที่ยวให้แคบลงมาได้อีกถ้าแต่ละที่ไกลกันมากและข้อดีของการทำแบบนี้จะทำให้แผนการท่องเที่ยวของเพื่อนๆเป็นไปตามแผนที่ต้องการมากที่สุดเลยก็ว่าได้

การจองที่พัก

การจองที่พัก

ตอนนี้เราได้ ช่วงเดือนที่เราจะไปเที่ยว ได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินแล้ว และเลือกสถานที่จะไปเที่ยวแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือ ทำการจองโรงแรมที่เราจะไปพัก  หลักของการจองที่พักนั้นไม่จำเป็นต้องทำการจองในที่ๆเราจะไปเที่ยว เราอาจทำการจองที่พักให้อยู่ตรงจุดศูนย์กลางที่เราจะไปเที่ยวได้สะดวกอย่างเช่น จุดที่เราทำการจองที่พักควรเดินทางสะดวกอาจอยู่ใกล้สถานีรถไฟแต่สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวในที่ห่างไกลกันก็ต้องทำการบ้านนิดหนึ่งว่าสถานที่เราไปมันคุ้มค่ามากแค่ไหนเมื่อเทียบกับราคาค่าเดินทางที่เราต้องเดินทางไปกลับที่พักเดิม ถ้าหากราคาไม่ต่างกันมากก็ทำการจองที่อื่นๆได้เพราะเราจะได้เปลี่ยนบรรยากาศในการท่องเที่ยวด้วยแต่อย่าลืมจองที่พักใกล้สถานีรถไฟหรือสถานีขนส่งอื่นๆ เพราะเราจะได้เดินทางไปไหนมาไหนง่ายขึ้นแถมบริเวณนั้นยังมีบริการอื่นๆที่เราอาจจำเป็นต้องใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นห้างสินค้าที่เราอยากเดินซื้อของฝากให้กับเพื่อนหรือครอบครัวของเรา หรืออาจจะมีร้านอาหารที่ราคาไม่แพงที่เราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ส่วนหนึ่งแลพที่สำคัญการอยู่ใกล้ๆสถานที่เหล่านี้เราสามารถปรับแผนได้ทันเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิดขึ้นมา

วางแผนท่องเที่ยวแบบสบายใจ

วางแผนท่องเที่ยวแบบสบายใจ

เราจะสังเกตเห็นว่า ขั้นตอนที่กล่าวไปข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาข้อมูลการท่องเที่ยว,การจองตั๋วเครื่องบินและการจองที่พักล้วนเป็นสิ่งสำคัญสามอันดับแรกที่เราต้องทำการที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น  และยังมีอีกหลายขั้นตอนที่จะช่วยให้การวางแผนเที่ยวญี่ปุ๋นเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นสำหรับเพื่อนที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นและเพื่อเพื่อนๆจะได้เคล็ดลับดีๆในการวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นผมจึงอยากแนะนำอีกหลายๆวิธีที่เพื่อนๆสามารถทำได้ ดังนั้นในตอนที่สองของบทความเรื่องเคล็ดลับการวางแผนเที่ยวญี่ปุ๋นแบบสบายใจจะทำให้คุณรู้เคล็ดลับอื่นๆที่เหลือ และจะทำให้การวางแผนการเท่องเที่ยวของเพื่อนๆง่ายขึ้นแน่นอน เชิญติดตามอ่านเคล็ดลับการวางแผนเที่ยวญี่ปุ๋นแบบสบายใจ(ตอน2)ได้ในเร็วๆนี้!