ในช่วงวัย 20 ขึ้นไป เป็นช่วงวัยที่เปิดโอกาสให้ทำอะไรต่างๆมากมาย เริ่มจากการไม่มีขีดจำกัดมากเหมือนตอนที่ยังอยู่ในช่วงวัยไม่ถึง 20 ซึ่งมักจะถูกห้ามกีดกันไม่ให้ทำอะไรหลายๆอย่างจากผู้ใหญ่เพราะมองว่าเรายังเด็ก แต่ในช่วงเริ่มเข้าสู่วัย 20 ขึ้นไปแล้วมุมมองของผู้ใหญ่ก็จะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเริ่มมองว่าเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาและเริ่มอนุญาติให้ทำสิ่งต่างๆได้มากขึ้น จึงเป็นวัยที่กำลังมีการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่อยู่เสมอซึ่งไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรให้ดีได้ก็ต้องอาศัยปัจจัยที่เป็นตัวเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นการตั้งเป้าหมายที่เรียนต่อจนจบปริณญาตรี ปริณญาโท ปริณญาเอก การทำงานประจำ การทำธุรกิจส่วนตัว การทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดต้องเป็นเป้าหมายที่มีการวางแผนควบคู่ไปกับการบริหารจัดการการเงินไปด้วย

ทำไมต้องบริการจัดการการเงินให้ดีมากๆในช่วงวัย 20 ปี? คำตอบก็เพราะว่านอกจากจะมีการวางแผนทำอะไรหลายอย่างในการเรียนและการงานแล้ว วัยนี้ก็เป็นวัยที่ชอบความสนุกสนานชอบเที่ยวชอบกิน ช้อปปิ้งและมีการใช้จ่ายที่มากขึ้นมากว่าตอนที่ยังเรียนมัธยมเนื่องจากสังคในมหาวิทยาลัยก็เป็นสังคมที่กว้างมากขึ้นจึงต้องมีการซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ในกระแสความนิยมมากขึ้นตามไปด้วย ถ้าเกิดไม่มีการบริหารจัดการเรื่องเงินอย่างดีก็อาจจะไม่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ เพราะการจัดการการเงินในวัยนี้สำคัญมากการทำอย่างนี้จะส่งผลต่อความรับผิดชอบที่ดีของเราด้วย เพื่อนๆในวัยนี้ต้องรับผิดชอบเอาใจใส่การเรียนให้ดีเพื่อไม่ให้เงินที่เสียไปสำหรับค่าเล่าเรียนนั้นเสียเปล่าและการตั้งใจเรียนช่วยให้นำความรู้นั้นมาใช้ในกการทำงานได้อย่างดีด้วย และให้ความสนุกสนานนันทนาการต่างเป็นเรื่องที่อยู่ในอันดับรองไปก่อน บทความนี้ขอนำ 5 สิ่งที่เพื่อนๆจะต้องทำให้มีให้ได้ในชีวิตวัย 20 ขึ้นไปนี้เพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต ทั้งเรื่องของเงิน เรื่องงาน เรื่องครอบครัว เรื่องสุขภาพ มาดูข้อมูลอย่างละเอียดกันค่ะ

เริ่มต้นออมเงินระหว่างเรียนและมีเงินเก็บ

เริ่มต้นออมเงินระหว่างเรียนและมีเงินเก็บ

ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีการจัดการเรื่องเงินอยู่แล้วตั้งแต่เด็กๆก็จะมีการออมเงินเป็นนิสัยอยู่แล้วก็แค่จะต้องปรับเปลี่ยนจำนวนเงินในการออมให้มากขึ้นตามรายรับที่ได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าเกิดว่าใครยังไม่มีนิสัยในการออมเงินก็ให้พยายามรีบๆสร้างนิสัยการออมเงินให้เร็วที่สุด เพราะอย่างที่บอกไปช่วงวัยนี้จะต้องมีการเริ่มต้นทำสิ่งต่างๆมากมายและต้องมีปัจจัยหลักเพื่อจะทำได้ คือ เงิน ถึงแม้จะเป็นเงินที่เพื่อนๆอาจจะยังไม่ได้มาจากการทำงานเองแต่ได้มาจากพ่อแม่ผู้ปกครองก็ตาม แต่การจัดสรรเงินที่ได้มาอย่างดีไม่ฟุ่มเฟือยใช้อย่างประหยัดรอบคอยก็จะช่วยให้มีเงินเก็บสำรองไว้สำหรับสิ่งอื่นได้อีกด้วย และยังเป็นการฝึกนิสัยออมเงินไปตลอดด้วยแม้เข้าสู่วัยทำงานแล้วนิสัยการออมเงินที่ดีก็ต้องทำต่อไป ยกตัวอย่างเพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆในการออมเงินอย่างนี้ว่า ถ้าเพื่อนๆแบ่งเงินไว้เก็บเดือนละ 1,000 บาท เท่านั้น เริ่มตั้งแต่ตอนอายุ 20 ปี และเก็บไปเรื่อยจนถึงอายุ 60 ปี คือวัยที่ไม่ได้ทำงานแล้วหรือเรียกว่าวัยเกษียณนั่นเอง ตอนนั้นเพื่อนๆจะมีเงินเก็บเอาไว้ใช้ในช่วงวัยเกษียณถึง  480,000 บาท เลยนะ คิดอย่างนี้

มีเวลาเก็บเงิน 40 ปี  x 12 = 480 เดือน ก็คือมีเวลาเก็บเงิน 480 เดือน x จำนวนเงินที่เก็บเดือนละ 1,000 บาท = 480,000 บาทค่ะ

นี่เป็นแค่ตัวอย่างนะคะ เพราะตามความเป็นจริงคุณต้องแบ่งเงินมาเก็บได้มากกว่าเดือนละ 1,000 บาทแน่นอนเมื่อเริ่มทำงานแล้ว  และเมื่ออยู่ฝนวัยเกษียณแล้วก็จะมีเงินเหลือเก็บมากกว่าจำนวนที่ยกตัวอย่างให้แน่ๆค่ะ เห็นแบบนี้แล้วมีกำลังใจเก็บเงินกันขึ้นมาหรือยังคะ?

วางแผนเรียนให้จบและมีงานทำ

วางแผนเรียนให้จบและมีงานทำ

การเรียนในรั้วมหาวิทยาลับใครก็บ่นว่ายากและสร้างความเตรียดให้มากมาย และไม่ใช่เรื่อง่ายๆเลยที่จะเรียนให้จบ ดังนั้นการวางแผนที่ดีก็จะช่วยได้ อันดับแรกต้องตั้งเป้าหมายให้แน่วแน่และลงมือทำอย่างตั้งใจว่าเพื่อนๆจะต้องเรียนจบให้ได้ ทัศนะอย่างหนึ่งที่มีเรื่องเนมาเกี่ยวข้องก็คือ เมื่อเพื่อนๆมีนิสัยการเก็บออมก็จะรู้ว่ากว่าจะมีเงินสักก้อนหนึ่งในหลักพันหลักหมื่นก็ต้องใช้ความพยายามและอดทนแค่ไหนกว่าจะเก็บได้ ทัศนะความคิดแบบนี้ทำให้เพื่อนๆเห็นค่าของเงินการเห็นค่าของเงินช่วยให้เพื่อนตั้งใจเรียนได้เพราะไม่อยากให้เงินที่เสียไปกับค่าเรียนสูญเปล่า จึงต้องตั้งใจเรียนให้คุ้ม ซึ่งจะต่างกันกับนักศึกษาที่ไม่มีทัศนะแบบนี้เมื่อไม่เห็นค่าของเงินเพราะไม่เคยเก็บออมมีแต่ขอเงินพ่อแม่และใช้จ่ายจนหมดไปวันๆ ทำให้เมื่อเกิดการท้อใจกับการเรียนก็จะเลิกได้ง่ายๆผลที่ตามมาคือเรียนไม่จบหรือจบช้ากว่ากำหนดนั่นเอง

เรื่องตอมาที่ต้องวางแผนตั้งแต่ตอนที่ยังเรียนไม่จบ คือ การหางานทำ เพื่อนบางคนเริ่มทำงานหาเงินเรียนเองตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา ซึ่งการทำอย่างนี้ก่อผลดีมากการทำงานจะช่วยให้มีโอกาสและมีประสบการณ์เมื่อเรียนจบและเริ่มหางานทำ เพราะส่วนมากนอกจากการรับคนเข้าทำงานจะพิจารณาวุฒิการศึกษาแล้วก็จะพิจารณาประสบการณ์และความสามารถด้วย แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนยังไม่เคยได้ทำงานระหว่างเรียนการวางแผนความคิดไว้ก่อนว่าต้องการทำงานแบบไหนอย่างไรก็จะช่วยให้จบออกมาหางานได้ง่ายขึ้นไปได้ถูกทางเร็วขึ้น ไม่ลอยเคว้งคว้างแบบไม่มีจุดหมายและความต้องการว่าจะทำงานแบบไหนกันแน่ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจะส่งผลต่อการเงินหรือรายรับที่ไม่ต่อเนื่องของเพื่อนๆได้ค่ะ ดังนั้นการตั้งใจเรียนและจบมามีงานทำเร็วที่สุดมีผลต่อการเงินของเพื่อนๆด้วยนะคะ อย่ามองว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะการเรียนไม่จบหรือเรียนจบช้าก็ต้องใช้เงินเมื่อเรียนไม่จบเงินที่จ่ายไปกับค่าเล่าเรียนก็สูญเปล่าแต่ถ้าเรียนจบช้าก็ต้องเสียเงินเพิ่มหรือเสียเงินซ้ำแล้วซ้ำอีก และการหางานทำได้ช้าก็จะมีผลต่อเงินเก็บที่ออมไว้ต้องนำออกมาใช้โดยที่ยังไม่รายรับเข้ามาเพิ่มเติมให้เก็บออม ซึ่งทำให้เป้าหมายในการออมเงินให้ได้ตามจำนวนที่ต้องการก็จะลดลงไปด้วย เห็นมั้ยคะว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินทั้งนั้นเลย

รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของตัวเองได้

รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของตัวเองได้

ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นส่วนตัวของเพื่อนอาจจะหมายถึงอะไรบ้าง? ก็อย่างเช่น ค่าบริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ / ค่าของใช้ส่วนตัวถ้าเป็นผู้หญิงก็จะมีพวกค่าเครื่องสำอางเป็นส่วนใหญ่ / ค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นต้น ถ้าเพื่อนสามารถหาเงินเองเพื่อมาจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนตัวเหล่านี้ได้ก็จะดีมาก หรือการออมเงินที่ได้รับจากพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อมาใช้จ่ายส่วนตัวก็ดีเช่นกัน เพื่อที่จะไม่ต้องเดือดร้อนขอจากพ่อแม่เพิ่มเติม

และข้อดีของการทำอย่างนี้จะช่วยให้เพื่อนๆมีนิสัยความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้นเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นโดยแค่เริ่มจากการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนตัวเล็กน้อยเหล่านี้  เพราะนอจากค่าใช้จ่ายเรื่องจำเป็นส่วนตัวที่ยกตัวอย่างนี้ ก็คงจะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องเที่ยวเรื่องกินอีกด้วย เช่นไปกินเลี้ยงกับเพื่อนๆ ไปดูหนังกับเพื่อนๆ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ถ้าไม่ต้องไปรบกวนพ่อแม่ก็จะดีมากเป็นการฝึกฝนความรับผิดชอบได้อย่างดี และถ้าเพื่อนๆไม่มีเงินเพียงพอที่จะไปกินไปเที่ยวก็จะฝึกความอดทนเก็บออมให้มีเงินไปกินไปเที่ยวด้วยตัวเองให้ได้ ไม่ไปรบกวนพ่อแม่ สิ่งนี้ฝึกการบริการเรื่องเงินได้ด้วยนะคะ ถ้าเพื่อนๆอยากมีเงินไว้จ่ายเรื่อส่วนตัวเหลานี้ ก็ต้องมีการแบ่งเงินเก็บเป็นส่วนๆ เก็บเพื่อใช้จ่ายส่วนตัว และ เก็บเพื่ออนาคตไม่เอามาใช้ และเก็บเพื่อกรณีฉุกเฉินด้วยก็ดีค่ะ

มีเวลากับครอบครัวและนันทนาการและมีเงิน

มีเวลากับครอบครัวและนันทนาการและมีเงิน

อย่างที่บอกไปไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็ต้องใช้เงิน จึงสำคัญอย่างมากที่จะสร้างนิสัยการออมเงินที่ดี และการบริหารจัดการเรื่องเงินเป็นส่วนๆ อย่างหัวข้อนี้เรื่องเงินจะมีผลต่อครอบครัวอย่างไรบ้าง? เมื่อเพื่อนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยก็อาจจะมีเวลกับครอบครัวน้อยลงอย่างเช่นบางคนต้องไปเรียนที่ต่างจังหวัด หรือพักอยู่ที่หอพัก ซึ่งบางครั้งต้องเดินทางเพื่อกลับไปหาครอบครัวการเดินทางก็ต้องใช้เงินจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเก็บเงินในส่วนนี้เอาไว้ด้วย

ส่วนเรื่องของนันทนาการก็ด้วย ไม่ว่าจะพักผ่อนท่องเที่ยวก็ต้องมีเงิน ถ้าเพื่อนๆมีเป้าหมายที่จะไปเที่ยวก็ให้ออมเงินส่วนนั้นตั้งแต่เนิ่น เพื่อไปเที่ยวพักผ่อนอย่างสบายใจไร้กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ดังนั้นการบริหารเงินจึงจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้ชีวิตในวัย 20 นั้นมีความสุขสนุกสนานไม่เครียดไร้กังวลและสนุกกับการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ และในช่วงวัย 20 นี้ต้องออกไปท่องเที่ยให้มากเพื่อเจอโลกกว้างและประการณ์ใหม่ที่จะนำมาปรับใช้กับชีวิตได้ แต่การจะไปท่องเที่ยวได้นั้นต้องมีการจัดการเรื่องเงินให้ดีก่อนไม่อย่างนั้นจะเอาเงินที่ไหนไปเที่ยวจริงมั้ย !!!!!

มีเงินสำหรับค่ารักษาพยาบาล

มีเงินสำหรับค่ารักษาพยาบาล

ทุกวันนี้อะไรๆก็ไม่แน่ไม่นอน เพื่อนอาจจะเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุได้กระทันหันแบบไม่ตั้งตัว การเตรียมตัวเรื่องการเงินให้พร้อมไว้ก่อนก็เป็นแนวทางที่ควรจะทำ ก็เกี่ยวข้องกับการออมเงินอีกนั่นแหละ คือต้องแบ่งเงินออมมาไว้ในส่วนนี้ด้วย หรือทำประกันเอาไว้ก็ดีมาก เป็นการฝากเรื่องั้งหมดไว้กับบริษัทประกันไม่ว่าเรื่อง อุบัติเหตุ หรือเรื่อสุขภาพก็ได้ทั้งหมด เพราะค่ารักษาพยาบาลทุกวันนี้ก็มีอัตราที่สูงบางครั้งเงินเก็บของเพื่อนอาจจะไม่เพียงพอ การทำประกันจึงเป็นทางเลือกที่ดีมากๆเพราะจะมีวงเงินในการรักษาที่สูงเพียงพอกับเพื่อนๆ และเพื่อนจะสามารถเข้ารับการรักษาได้ในโรงพยาบาลที่มีคุณภาพด้วย และการจ่ายเบี้ยประกันก็มักจะเป็นรายปี ไม่น่าจะเดือนร้อนเท่าไหร่นักคิดว่าเพื่อนๆสามารถจ่ายได้และค้มกับผลตอบแทนที่จะได้รับ

ประกันก็มีอัตราวงเงินต่างกัน เบี้ยกันรายปีที่ต้องจ่ายก็แตกต่างหลากหลาย เพื่อนต้องเลือกที่เหมาะสมนะคะจะได้คุ้มค่ามากที่สุดค่ะ เมื่อเพื่อนที่ทั้งเงินเก็นฉุกเฉินและประกันแล้วก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมั่นใจได้มากขึ้น และไม่มีภาระทางการเงินแน่นอนเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายๆที่ไม่คาดคิด

สรุป

สรุป

ช่วงวัย 20 เป็นช่วงที่ใครหลายคนก็อิจฉาเพราะได้ทำสิ่งต่างๆมากมาย และไม่ว่าเพื่อนๆจะเลือกทำอะไรก็ขอให้การจัดการเรื่อเงินที่ดีมีส่วนช่วยให้ทุกอย่างราบรื่นนะคะ เพราะ เงิน เป็นปัจจัยหลักที่จะขับเคลื่อนการดำเนินชีวิตทุกอย่างของเพื่อนๆให้ก้าวหน้าต่อๆไป และให้เงินช่วยให้เพื่อนๆมีสิ่งจำเป็นที่ต้องมีในช่วงวัย 20 ให้ครบถ้วนเพื่อมีชีวิตที่มีความสุขกับการเรียนและอนาคตนะคะ