ในช่วงวัย 20 ขึ้นไป เป็นช่วงวัยที่เปิดโอกาสให้ทำอะไรต่างๆมากมาย เริ่มจากการไม่มีขีดจำกัดมากเหมือนตอนที่ยังอยู่ในช่วงวัยไม่ถึง 20 ซึ่งมักจะถูกห้ามกีดกันไม่ให้ทำอะไรหลายๆอย่างจากผู้ใหญ่เพราะมองว่าเรายังเด็ก แต่ในช่วงเริ่มเข้าสู่วัย 20 ขึ้นไปแล้วมุมมองของผู้ใหญ่ก็จะเปลี่ยนไปเล็กน้อยเริ่มมองว่าเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาและเริ่มอนุญาติให้ทำสิ่งต่างๆได้มากขึ้น จึงเป็นวัยที่กำลังมีการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่อยู่เสมอซึ่งไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรให้ดีได้ก็ต้องอาศัยปัจจัยที่เป็นตัวเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นการตั้งเป้าหมายที่เรียนต่อจนจบปริณญาตรี ปริณญาโท ปริณญาเอก การทำงานประจำ การทำธุรกิจส่วนตัว การทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดต้องเป็นเป้าหมายที่มีการวางแผนควบคู่ไปกับการบริหารจัดการการเงินไปด้วย
ทำไมต้องบริการจัดการการเงินให้ดีมากๆในช่วงวัย 20 ปี? คำตอบก็เพราะว่านอกจากจะมีการวางแผนทำอะไรหลายอย่างในการเรียนและการงานแล้ว วัยนี้ก็เป็นวัยที่ชอบความสนุกสนานชอบเที่ยวชอบกิน ช้อปปิ้งและมีการใช้จ่ายที่มากขึ้นมากว่าตอนที่ยังเรียนมัธยมเนื่องจากสังคในมหาวิทยาลัยก็เป็นสังคมที่กว้างมากขึ้นจึงต้องมีการซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ในกระแสความนิยมมากขึ้นตามไปด้วย ถ้าเกิดไม่มีการบริหารจัดการเรื่องเงินอย่างดีก็อาจจะไม่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ เพราะการจัดการการเงินในวัยนี้สำคัญมากการทำอย่างนี้จะส่งผลต่อความรับผิดชอบที่ดีของเราด้วย เพื่อนๆในวัยนี้ต้องรับผิดชอบเอาใจใส่การเรียนให้ดีเพื่อไม่ให้เงินที่เสียไปสำหรับค่าเล่าเรียนนั้นเสียเปล่าและการตั้งใจเรียนช่วยให้นำความรู้นั้นมาใช้ในกการทำงานได้อย่างดีด้วย และให้ความสนุกสนานนันทนาการต่างเป็นเรื่องที่อยู่ในอันดับรองไปก่อน บทความนี้ขอนำ 5 สิ่งที่เพื่อนๆจะต้องทำให้มีให้ได้ในชีวิตวัย 20 ขึ้นไปนี้เพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต ทั้งเรื่องของเงิน เรื่องงาน เรื่องครอบครัว เรื่องสุขภาพ มาดูข้อมูลอย่างละเอียดกันค่ะ
เริ่มต้นออมเงินระหว่างเรียนและมีเงินเก็บ
ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีการจัดการเรื่องเงินอยู่แล้วตั้งแต่เด็กๆก็จะมีการออมเงินเป็นนิสัยอยู่แล้วก็แค่จะต้องปรับเปลี่ยนจำนวนเงินในการออมให้มากขึ้นตามรายรับที่ได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าเกิดว่าใครยังไม่มีนิสัยในการออมเงินก็ให้พยายามรีบๆสร้างนิสัยการออมเงินให้เร็วที่สุด เพราะอย่างที่บอกไปช่วงวัยนี้จะต้องมีการเริ่มต้นทำสิ่งต่างๆมากมายและต้องมีปัจจัยหลักเพื่อจะทำได้ คือ เงิน ถึงแม้จะเป็นเงินที่เพื่อนๆอาจจะยังไม่ได้มาจากการทำงานเองแต่ได้มาจากพ่อแม่ผู้ปกครองก็ตาม แต่การจัดสรรเงินที่ได้มาอย่างดีไม่ฟุ่มเฟือยใช้อย่างประหยัดรอบคอยก็จะช่วยให้มีเงินเก็บสำรองไว้สำหรับสิ่งอื่นได้อีกด้วย และยังเป็นการฝึกนิสัยออมเงินไปตลอดด้วยแม้เข้าสู่วัยทำงานแล้วนิสัยการออมเงินที่ดีก็ต้องทำต่อไป ยกตัวอย่างเพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆในการออมเงินอย่างนี้ว่า ถ้าเพื่อนๆแบ่งเงินไว้เก็บเดือนละ 1,000 บาท เท่านั้น เริ่มตั้งแต่ตอนอายุ 20 ปี และเก็บไปเรื่อยจนถึงอายุ 60 ปี คือวัยที่ไม่ได้ทำงานแล้วหรือเรียกว่าวัยเกษียณนั่นเอง ตอนนั้นเพื่อนๆจะมีเงินเก็บเอาไว้ใช้ในช่วงวัยเกษียณถึง 480,000 บาท เลยนะ คิดอย่างนี้
มีเวลาเก็บเงิน 40 ปี x 12 = 480 เดือน ก็คือมีเวลาเก็บเงิน 480 เดือน x จำนวนเงินที่เก็บเดือนละ 1,000 บาท = 480,000 บาทค่ะ
นี่เป็นแค่ตัวอย่างนะคะ เพราะตามความเป็นจริงคุณต้องแบ่งเงินมาเก็บได้มากกว่าเดือนละ 1,000 บาทแน่นอนเมื่อเริ่มทำงานแล้ว และเมื่ออยู่ฝนวัยเกษียณแล้วก็จะมีเงินเหลือเก็บมากกว่าจำนวนที่ยกตัวอย่างให้แน่ๆค่ะ เห็นแบบนี้แล้วมีกำลังใจเก็บเงินกันขึ้นมาหรือยังคะ?
วางแผนเรียนให้จบและมีงานทำ
การเรียนในรั้วมหาวิทยาลับใครก็บ่นว่ายากและสร้างความเตรียดให้มากมาย และไม่ใช่เรื่อง่ายๆเลยที่จะเรียนให้จบ ดังนั้นการวางแผนที่ดีก็จะช่วยได้ อันดับแรกต้องตั้งเป้าหมายให้แน่วแน่และลงมือทำอย่างตั้งใจว่าเพื่อนๆจะต้องเรียนจบให้ได้ ทัศนะอย่างหนึ่งที่มีเรื่องเนมาเกี่ยวข้องก็คือ เมื่อเพื่อนๆมีนิสัยการเก็บออมก็จะรู้ว่ากว่าจะมีเงินสักก้อนหนึ่งในหลักพันหลักหมื่นก็ต้องใช้ความพยายามและอดทนแค่ไหนกว่าจะเก็บได้ ทัศนะความคิดแบบนี้ทำให้เพื่อนๆเห็นค่าของเงินการเห็นค่าของเงินช่วยให้เพื่อนตั้งใจเรียนได้เพราะไม่อยากให้เงินที่เสียไปกับค่าเรียนสูญเปล่า จึงต้องตั้งใจเรียนให้คุ้ม ซึ่งจะต่างกันกับนักศึกษาที่ไม่มีทัศนะแบบนี้เมื่อไม่เห็นค่าของเงินเพราะไม่เคยเก็บออมมีแต่ขอเงินพ่อแม่และใช้จ่ายจนหมดไปวันๆ ทำให้เมื่อเกิดการท้อใจกับการเรียนก็จะเลิกได้ง่ายๆผลที่ตามมาคือเรียนไม่จบหรือจบช้ากว่ากำหนดนั่นเอง
เรื่องตอมาที่ต้องวางแผนตั้งแต่ตอนที่ยังเรียนไม่จบ คือ การหางานทำ เพื่อนบางคนเริ่มทำงานหาเงินเรียนเองตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา ซึ่งการทำอย่างนี้ก่อผลดีมากการทำงานจะช่วยให้มีโอกาสและมีประสบการณ์เมื่อเรียนจบและเริ่มหางานทำ เพราะส่วนมากนอกจากการรับคนเข้าทำงานจะพิจารณาวุฒิการศึกษาแล้วก็จะพิจารณาประสบการณ์และความสามารถด้วย แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนยังไม่เคยได้ทำงานระหว่างเรียนการวางแผนความคิดไว้ก่อนว่าต้องการทำงานแบบไหนอย่างไรก็จะช่วยให้จบออกมาหางานได้ง่ายขึ้นไปได้ถูกทางเร็วขึ้น ไม่ลอยเคว้งคว้างแบบไม่มีจุดหมายและความต้องการว่าจะทำงานแบบไหนกันแน่ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจะส่งผลต่อการเงินหรือรายรับที่ไม่ต่อเนื่องของเพื่อนๆได้ค่ะ ดังนั้นการตั้งใจเรียนและจบมามีงานทำเร็วที่สุดมีผลต่อการเงินของเพื่อนๆด้วยนะคะ อย่ามองว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะการเรียนไม่จบหรือเรียนจบช้าก็ต้องใช้เงินเมื่อเรียนไม่จบเงินที่จ่ายไปกับค่าเล่าเรียนก็สูญเปล่าแต่ถ้าเรียนจบช้าก็ต้องเสียเงินเพิ่มหรือเสียเงินซ้ำแล้วซ้ำอีก และการหางานทำได้ช้าก็จะมีผลต่อเงินเก็บที่ออมไว้ต้องนำออกมาใช้โดยที่ยังไม่รายรับเข้ามาเพิ่มเติมให้เก็บออม ซึ่งทำให้เป้าหมายในการออมเงินให้ได้ตามจำนวนที่ต้องการก็จะลดลงไปด้วย เห็นมั้ยคะว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินทั้งนั้นเลย
รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จำเป็นของตัวเองได้
ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นส่วนตัวของเพื่อนอาจจะหมายถึงอะไรบ้าง? ก็อย่างเช่น ค่าบริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ / ค่าของใช้ส่วนตัวถ้าเป็นผู้หญิงก็จะมีพวกค่าเครื่องสำอางเป็นส่วนใหญ่ / ค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นต้น ถ้าเพื่อนสามารถหาเงินเองเพื่อมาจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนตัวเหล่านี้ได้ก็จะดีมาก หรือการออมเงินที่ได้รับจากพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อมาใช้จ่ายส่วนตัวก็ดีเช่นกัน เพื่อที่จะไม่ต้องเดือดร้อนขอจากพ่อแม่เพิ่มเติม
และข้อดีของการทำอย่างนี้จะช่วยให้เพื่อนๆมีนิสัยความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้นเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นโดยแค่เริ่มจากการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนตัวเล็กน้อยเหล่านี้ เพราะนอจากค่าใช้จ่ายเรื่องจำเป็นส่วนตัวที่ยกตัวอย่างนี้ ก็คงจะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องเที่ยวเรื่องกินอีกด้วย เช่นไปกินเลี้ยงกับเพื่อนๆ ไปดูหนังกับเพื่อนๆ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ถ้าไม่ต้องไปรบกวนพ่อแม่ก็จะดีมากเป็นการฝึกฝนความรับผิดชอบได้อย่างดี และถ้าเพื่อนๆไม่มีเงินเพียงพอที่จะไปกินไปเที่ยวก็จะฝึกความอดทนเก็บออมให้มีเงินไปกินไปเที่ยวด้วยตัวเองให้ได้ ไม่ไปรบกวนพ่อแม่ สิ่งนี้ฝึกการบริการเรื่องเงินได้ด้วยนะคะ ถ้าเพื่อนๆอยากมีเงินไว้จ่ายเรื่อส่วนตัวเหลานี้ ก็ต้องมีการแบ่งเงินเก็บเป็นส่วนๆ เก็บเพื่อใช้จ่ายส่วนตัว และ เก็บเพื่ออนาคตไม่เอามาใช้ และเก็บเพื่อกรณีฉุกเฉินด้วยก็ดีค่ะ
มีเวลากับครอบครัวและนันทนาการและมีเงิน
อย่างที่บอกไปไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็ต้องใช้เงิน จึงสำคัญอย่างมากที่จะสร้างนิสัยการออมเงินที่ดี และการบริหารจัดการเรื่องเงินเป็นส่วนๆ อย่างหัวข้อนี้เรื่องเงินจะมีผลต่อครอบครัวอย่างไรบ้าง? เมื่อเพื่อนอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยก็อาจจะมีเวลกับครอบครัวน้อยลงอย่างเช่นบางคนต้องไปเรียนที่ต่างจังหวัด หรือพักอยู่ที่หอพัก ซึ่งบางครั้งต้องเดินทางเพื่อกลับไปหาครอบครัวการเดินทางก็ต้องใช้เงินจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเก็บเงินในส่วนนี้เอาไว้ด้วย
ส่วนเรื่องของนันทนาการก็ด้วย ไม่ว่าจะพักผ่อนท่องเที่ยวก็ต้องมีเงิน ถ้าเพื่อนๆมีเป้าหมายที่จะไปเที่ยวก็ให้ออมเงินส่วนนั้นตั้งแต่เนิ่น เพื่อไปเที่ยวพักผ่อนอย่างสบายใจไร้กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ดังนั้นการบริหารเงินจึงจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้ชีวิตในวัย 20 นั้นมีความสุขสนุกสนานไม่เครียดไร้กังวลและสนุกกับการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ และในช่วงวัย 20 นี้ต้องออกไปท่องเที่ยให้มากเพื่อเจอโลกกว้างและประการณ์ใหม่ที่จะนำมาปรับใช้กับชีวิตได้ แต่การจะไปท่องเที่ยวได้นั้นต้องมีการจัดการเรื่องเงินให้ดีก่อนไม่อย่างนั้นจะเอาเงินที่ไหนไปเที่ยวจริงมั้ย !!!!!
มีเงินสำหรับค่ารักษาพยาบาล
ทุกวันนี้อะไรๆก็ไม่แน่ไม่นอน เพื่อนอาจจะเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุได้กระทันหันแบบไม่ตั้งตัว การเตรียมตัวเรื่องการเงินให้พร้อมไว้ก่อนก็เป็นแนวทางที่ควรจะทำ ก็เกี่ยวข้องกับการออมเงินอีกนั่นแหละ คือต้องแบ่งเงินออมมาไว้ในส่วนนี้ด้วย หรือทำประกันเอาไว้ก็ดีมาก เป็นการฝากเรื่องั้งหมดไว้กับบริษัทประกันไม่ว่าเรื่อง อุบัติเหตุ หรือเรื่อสุขภาพก็ได้ทั้งหมด เพราะค่ารักษาพยาบาลทุกวันนี้ก็มีอัตราที่สูงบางครั้งเงินเก็บของเพื่อนอาจจะไม่เพียงพอ การทำประกันจึงเป็นทางเลือกที่ดีมากๆเพราะจะมีวงเงินในการรักษาที่สูงเพียงพอกับเพื่อนๆ และเพื่อนจะสามารถเข้ารับการรักษาได้ในโรงพยาบาลที่มีคุณภาพด้วย และการจ่ายเบี้ยประกันก็มักจะเป็นรายปี ไม่น่าจะเดือนร้อนเท่าไหร่นักคิดว่าเพื่อนๆสามารถจ่ายได้และค้มกับผลตอบแทนที่จะได้รับ
ประกันก็มีอัตราวงเงินต่างกัน เบี้ยกันรายปีที่ต้องจ่ายก็แตกต่างหลากหลาย เพื่อนต้องเลือกที่เหมาะสมนะคะจะได้คุ้มค่ามากที่สุดค่ะ เมื่อเพื่อนที่ทั้งเงินเก็นฉุกเฉินและประกันแล้วก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมั่นใจได้มากขึ้น และไม่มีภาระทางการเงินแน่นอนเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายๆที่ไม่คาดคิด
สรุป
ช่วงวัย 20 เป็นช่วงที่ใครหลายคนก็อิจฉาเพราะได้ทำสิ่งต่างๆมากมาย และไม่ว่าเพื่อนๆจะเลือกทำอะไรก็ขอให้การจัดการเรื่อเงินที่ดีมีส่วนช่วยให้ทุกอย่างราบรื่นนะคะ เพราะ เงิน เป็นปัจจัยหลักที่จะขับเคลื่อนการดำเนินชีวิตทุกอย่างของเพื่อนๆให้ก้าวหน้าต่อๆไป และให้เงินช่วยให้เพื่อนๆมีสิ่งจำเป็นที่ต้องมีในช่วงวัย 20 ให้ครบถ้วนเพื่อมีชีวิตที่มีความสุขกับการเรียนและอนาคตนะคะ
น้ำตาล
ถึงแม้ว่าเราจะอายุ 20 ต้น บางคนอาจจะคิดนะคะว่าไม่เป็นอะไรหรอกรอให้เรียนจบแล้วทำงานให้มีความมั่นคงทางด้านอาชีพก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องการสะสมเงินทองหรือการทำธุรกิจ แต่บทความนี้ทำให้เห็นว่าเป็นไปได้ที่เราจะคิดเรื่องการบริหารเงินหรือรูปแบบการใช้ชีวิตตั้งแต่อายุ 20 ที่จะช่วยให้เรามีเงินเหลือเก็บไว้สำหรับอนาคตได้
ทองกวาว
อยากให้น้องเราเข้ามาอ่านบทความนี้จัง ถึงเราอ่านแล้วไปบอกน้อง น้องมันก็ไม่ฟังหรอก ต้องให้เข้ามาอ่านเองค่ะ เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง อย่างว่าแต่คนอายุ 20 ปีเลย บางคนอายุมากกว่านั้นยังทำได้ไม่ครบเลยนะเนี่ย ช่วงวัยที่ยังเรียนอยู่ ยิ่งพ่อแม่ส่งให้เรียน ยิ่งมีโอกาสเก็บออมเงินได้มากนะคะ ถ้าหางานพาร์ทไทม์ทำเองได้ด้วยนี่..เริ่ด!มากเลยค่ะ
นาริน
วัย 20 น่าจะเป็นวัยที่กำลังเรียนรู้เลยหล่ะ เราเองนี่แหละที่อยุ่ในช่วงวัยนี้เลย พออ่านบทความนี้เราได้ข้อคิดนะ เราชอบคำแนะนำที่บอกเรื่องของการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของตัวเอง เราไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเพราะพ่อแม่ซับพอร์ตตลอดทุกเรื่องที่ต้องจ่าย แต่เราว่ามาคิดว่าเออ ถ้าเกิดเราเองสามารถรับผิดชอบเองได้คงดีมากเลยนะ จะพยายามทำข้อนี้เลยค่ะ
น้องฝ้าย
อ่านบทความนี้ ดูเหมือนจะทำง่ายๆนะ แต่เอาเข้าจริงๆเราว่าความเป็นไปได้ อยู่ที่ 40% มากกว่า เพราะอย่างที่หลายคนบอก อายุ20 นี่ช่วงวัยกำลังเรียนมหาลัยเลย แสดงว่า ก่อนที่จะอายุ20 คนๆนั้นต้องมีงานทำแล้วซึ้งเราว่าเป็นได้อยากมาก เพราะว่า กว่าจำทำงานได้เต็มที่แบบถูกฏหมาย ก็ต้อง อายุ18 แถมอายุเท่านี้ทำงานคงได้แค่วุฒิ ม.6 เท่านั้น เราว่ายากนะ
มิ้น
เห็นด้วยอย่างแรงเลยค่ะสำหรับการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่ตัวเองสร้างขึ้น เพราะว่าถ้าเราไม่รู้จักควบคุมตัวเองในเรื่องการใช้จ่าย จะทำให้ไม่สามารถที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายหรือว่ามีค่าใช้จ่ายเกินตัวนั้นเอง ซึ่งในระดับที่เรายังเด็กอยู่เรายังไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองในเรื่องนี้ได้ เมื่อเราโตขึ้นถึงแม้เราจะมีเงินมากขึ้นแล้วก็ยังจะเป็นคนใช้จ่ายเกินตัวอยู่ดีค่ะเก็บเงินไม่ได้หรอก
Aileen
การมีความรับผิดชอบในการใช้จ่ายเป็นการสร้างนิสัยเรื่องการใช้เงินจริงๆคะ เดียวนี้ วัยรุ่น พ่อแม่ส่งเงินให้เรียน ส่งไปเท่าไรก็ไม่พอใช้คะ แถมบางเดือนก็โทรมาขอเงินเพิ่มอีก แบบนี้แย่ใช่ไหมคะ ไม่รู้คุณค่าของเงินที่พ่อแม่หามาได้ แบบนี้ต้องจับมาดูพ่อแม่ทำงานสักหน่อยว่าท่านทำงานเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะได้เงินแต่ละบาทเพื่อส่งให้ลูกได้เรียนสูงๆ
แบงค์
ตั้งแต่เด็กและเข้าสู่วัยรุ่นเราจำเป็นต้องคิดวิธีการบริหารจัดการเงินหรือที่พ่อแม่ก็ฝึกสอนเรามาตั้งแต่นานแล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องจัดการตัวเองในเรื่องนี้ครับเพราะว่าส่งผลกระทบต่อตัวเราเองในอนาคตในการใช้เงิน ถ้าเราไม่รู้จักบริหารการเงินเราจะไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วจะทำให้เราเป็นหนี้ในอนาคตแล้วต้องมาเดือดร้อนพ่อแม่อีกในภายหลัง
น้ำขิง
ดีนะเนี่ยที่เข้ามาอ่านก่อนที่ตัวเองจะอายุ 20 จะว่าไปหากจะเริ่มก่อนอายุ 20 ก็คงไม่เสียหายอะไร เพราะการเตรียมตัวเก็บเงินตั้งแต่เนิ่นๆน่าจะดีกว่าไปเริ่มทำหลังๆ แต่พูดถึงการออมมันก็ยากสำหรับคนที่เก็บเงินไม่ค่อยจะอยู่อย่างเราเนี่ยแหละค่ะ ไม่น่าอยู่ในโลกที่มีของอร่อยเยอะแบบนี้เลยTT ห้ามใจกับของใช้ เสื้อผ้าสวยๆได้นะคะ แต่ของกินแพ้ทางตลอดเลย
ศิวะราช
ไม่น่าจะใช่นะครับ ที่บอกว่าอายุ20 ปี ต้องสามารถจ่ายค่าใช้จ่ายบางอย่างขิงตัวเองได้ ตอนที่ผมไปเรียนที่กรุงเทพ จำได้ว่าอายุ 18 ปี เรียนจนอายุ 21 ปี ก็ยังต้องให้ทางบ้านส่งเงินมาให้ทุกๆเดือนเลยครับ จะหางาน ก้ไม่ได้ครับ เพราะว่าเรียนตั้งแต่จันทร์ถึงเสาร์เลยครับ ไม่่มีงานที่ไหนเขาจ้างเราหลอกครับ เลยต้องใช้เงินพ่อกับแม่เยอะมากในตอนนั้น
พี่สุภาณี
แนะนำดีมากค่ะบทความนี้ น้องๆที่อายุ 20 ปีคนไหนมาอ่านบทความนี้แล้วสามารถทำตามได้เนี่ย นับถือเลย อนาคตรุ่งเรืองแน่ๆเพราะเป็นการวางแผนชีวิตล้วนๆ ก็จริงนะ การวางแผนสำคัญมาก วางแผนดีบวกกับการทำตามแผนได้อย่างดีด้วยแล้วละก็ อย่างที่บอกเลยอะค่ะ ว่าอนาคตรุ่งเรืองอย่างแน่นอน เราอายุเกิน 20 ปีไปนานละ วางแผนทันปะเนี่ย
Titaree+_+
เป็นการเตรียมการที่ดีมาก ให้คำแนะนำที่ดีมากเลยค่ะบทความนี้ น้องๆที่มีอายุ 20 ปีก็ถึงวัยที่จะคิดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆที่ตัวเองสามารถรับผิดชอบได้แล้ว หากสามารถทำอย่างอื่นได้อีกตามที่บทความนี้บอกจะดีมากๆเลยล่ะค่ะ ยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ การวางแผนต่างๆก็จะสำเร็จเร็วเท่านั้น มีการวางแผนที่ดี ชีวิตก็มีความสุขนะ