ในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งเมื่อได้เข้าไปดูผลสำรวจของบริษัทประกันบริษัทหนึ่งประจำปี 2561 ปีที่แล้วนี้ก็พบว่ามีความน่าเป็นห่วงในเรื่องของสุขภาพจิตของคนไทยอย่างมาก เพราะผลสำรวจเผยออกมาว่า คนไทยเกือบ 100% มีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจเพราะกลัวว่าจะมีผลกระทบเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินของตัวเองและครอบครัว และกังวลว่าจะสามารถดูแลความเป็นอยู่ของครอบครัวได้ดีต่อๆไปหรือไม่? ซึ่งคนไทยมีภาวะความเครียดเกือบ 100% นี้เป็นค่าเฉลี่ยที่มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอีกที่อยู่แค่ 80% เท่านั้น เรื่องนี้จึงน่าเป็นห่วงมากจริงๆ และภาวะความเครียดนี้ส่งผลต่อเรื่องอะไรอีกบ้าง
กรมสุขภาพจิตได้ออกมาพูดว่า คนไทยจะมีแนวโน้มที่จะมีความเครียดเพิ่มมากขึ้นส่วนมากก็คืออยู่ในช่วงวัยทำงานมากที่สุด และเป็นความเครียดที่สะสมมานาน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงแลเต็มไปด้วยการแข่งขันที่สูงขึ้นทุกๆวัน และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีซึ่งดูเหมือนจะช่วยอำนวยความสะดวกแต่ก็มีข้อเสียตามมาคือความกดดันและความเครียด เพราะทุกอย่างที่เร็วขึ้นจึงทำให้ผู้คนมีการใช้ชีวิตที่เร่งรีบแข่กับเวลาอยู่ตลอด ซึ่งทำให้เกิดความเครียดสิ่งนี้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันทุกอย่างรวมถึงส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์กับคนอื่นๆรวมถึงคนในครอบครัวด้วย
เมื่อมีการสำรวจด้านสุขภาพจิตแล้วการสำรวจด้ายสุขภาพกายก็เช่นกัน พบว่าคนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีลดลงจากปีก่อนๆไปมาก โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพ โดยพบอีกว่าปัญหาด้านสุขภาพเป็นปัญหาใหญ่ที่เป็นความกังวลอันดับต้นๆของคนไทยสืบเนื่องมาจากความคิดและทัศนะและภาวะความเครียดความกังวล โดยส่วนมากก็เกิดมาจากการเงินและเรื่องของครอบครัวที่ไม่มีความสมดุลกัน โดยผลสำรวจและการถามความคิดเห็นส่วนใหญ่บอกว่าไม่ค่อยมีเวลามากเพียงพอกับครอบครัวหรือการทำกิจกรรมร่วมกันเพราะส่วนใหญ่ทุ่มเทเวลาไปกับการทำงานแต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ค่อยจะเพียงพอ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องมีการลงมือแก้ไขปัญหาแต่เพื่อจะแก้ปัญหาอย่างดีเราก็ต้องรู้ถึงสาเหตุก่อนว่ามันเป็นเพราะอะไรที่ทำให้คนไทยมีความกังวลเรื่องเงินมากขนาดนี้และจะแก้ไขอย่างไรได้?
ไม่มีจุดเริ่มต้นที่ดี
จุดเริ่มต้นที่ดีไม่ได้เริ่มจากการกระทำนะคะอย่าพึ่งเข้าใจผิด แต่จุดเริ่มต้นที่ดีเริ่มต้นจากความคิดและทัศนะต่อสิ่งนั้นๆเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพื่อจะจัดการกับสุขภาพจิตและสุขภาพกายให้ดีขึ้นได้ต้องมีแนวคืดและทัศนะในแง่บวกการคิดแบบนี้จะเป็นพลังที่ทำให้คุณสามารถรับมือกับปัญหาได้ เมื่อคิดบวกแล้วเราจะคิดว่าไม่ว่ามีปั
ญหาอะไรก็จะสามารถแก้ไขได้และยอมรับให้ได้เมื่อเกิดปัญหาขึ้น และพร้อมที่จะเจอกับความจริงไม่ว่าความจริงนั้นคุณจะมีปัญหาอะไรก็ตามเรื่องเงินก็ยอมรับไปเลยว่าคุณมีปัญหาเรื่องนี้แล้วคิดในแง่บวกเพื่อหาทางที่ดีที่สุดจัดการกับปัญหานั้น แต่ถ้าคุณมีความคิดในแง่ลบคุณไม่มีทางที่จะคิดหาทางแก้ปัญหาที่ดีได้แน่นอนแต่อาจจะได้วิธีที่ทำให้ปัญหามันแย่ลงไปอีกแทน คุณต้องเริ่มต้นอย่างดีในด้านความคิดโดยคิดแบบนี้
-
การมีปัญหาเรื่องเงินไม่ได้แปลว่าล้มเหลวปัญหาสามารถแก้ไขได้เสมอ
-
ยอมรับความจริงและเข้าใจเหตุผลของปัญหา
-
คิดถึงอยู่เสมอว่าคุณมีครอบครัวและคนที่คุณรักต้องดูแล
-
หาโอกาสให้ตัวเองได้มีความสุขในทุกๆเรื่อง
-
เมื่อคิดถึงการแก้ปัญหาแล้วก็เริ่มลงมือแก้ปัญหานั้นอย่างใจเย็น
-
พักผ่อนและพยายามผ่อนคลายเพื่อลดความเครียด
จุดเริ่มต้นที่ดีเหล่านี้จะช่วยให้คุณลดความเครียดความกังวลลงไปได้มาก แล้วการกระทำในเรื่องการวางแผนการเงินก็จะเป็นสิ่งที่ตามมาทีหลังเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีกการวางแผนการเงินจึงสำคัญอย่างมากเริ่มต้นวางแผนให้เร็วที่สุดที่จะทำได้
ไม่พร้อมเมื่อถึงวัยเกษียณ
สาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียดอีกเรื่องหนึ่งก็คือ ความกังวลว่าจะไม่มีความมั่นคงทางการเงินเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งก็เป็นสาเหตุมาจากการขาดการวางแผนที่ดี ซึ่งความคิดโดยทั่วไปของคนไทยก็คือ 40% มีความคิดว่าเมื่ออายุมากขึ้นจะต้องใช้เงินเก็บที่มีเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล 29% มีความคิดที่จะพึ่งพาภาครัฐเรื่องค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาพยาบาล 23% มีการวางแผนที่ดีในการฝากค่ารักษาพยาบาลไว้กับบริษัทประกันที่ให้ความคุ้มครองที่ดีที่สุด ดังนั้นความกังวลถึงการเงินในตอนที่อายุมากขึ้นจึงเป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำเกิดความเครียดตั้งแต่ในช่วงวัยทำงานยาวนานต่อเนื่อง เพราะก็เห็นตัวอย่างของหลายคนหรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเราที่ไม่มีเงินเพียงพอไว้ใช้จ่ายในช่วงวัยเกษียณและเดือดร้อนถึงลูกหลานต้องคอยเลี้ยงดู
การวางแผนที่ดีด้านการเงินตั้งแต่แรกพร้อมกับความคิดในง่บวกจะช่วยได้มากเพื่อให้คุณเตรียมความพร้อมในเรื่องเงินเพื่อให้วัยเกษียณอยู่อย่างสุขสบาย แต่การที่คุณมานั่งเครียดอยู่ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้น การลุกขึ้นมาลงมือทำต่างหากที่จะช่วยให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ถ้าคุณมีปัญหาทางการเงินและเคยผิดพลาดมาก่อน ก็ไม่สายค่ะที่จะเริ่มต้นใหม่ แต่ต้องเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ไปอย่างถูกทางด้านความคิดด้วยนะคะ อย่าปล่อยให้ความกัลวลถึงช่วงวัยเกษียณมาเป็บกับดักทำให้คุณไม่ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่ให้พยายามมองหาโอกาสต่างๆที่มีมากมายในทุกวันนี้ คือ
-
การวางแผนค่าใช้จ่ายจัดสรรรายได้ที่เข้ามาอย่างดีตั้งแต่เนิ่นๆ
-
การวางแผนทำประกันที่เหมาะสมกับคุณและคนในครอบครัว
-
การมีความคิดในแง่บวกเพื่อเพิ่มพลังในการทำงานในช่วงของวัยทำงาน
-
มองอนาคตในแง่ดีไว้ก่อนขจัดความเครียดออกไปให้มากที่สุด
แต่ถึงยังไงก็ต้องตระหนักถึงสาเหตุที่ทำให้ความเครียดเกิดขึ้นก่อน ซึ่งสาเหตุที่ยังทำให้คนไทยมีความกังวลเรื่องการเงินในช่วงวันเกษียณนั้นก็เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลและยิงช่วงนี้เป็นช่วงที่ศรษฐกิจไม่มีความแน่นอนเอาซะเลยก็ยิ่งจะกังวลดังนั้นต้องเร่มจากเรื่องที่กังวลโดยจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลก่อนอย่างน้อยก็ช่วยลดความกังวลลงไปได้เรื่องหนึ่งแล้วโดยพึ่งการทำประกันดีที่สุดค่ะและเป็นสิ่งที่มั่นคงที่สุดไม่ว่าแผนการเงินของคุณจะไม่แน่นอนแค่ไหนก็มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองในเรื่องค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลแม้แต่ในช่วงวัยทำงานไปจนถึงวัยเกษียณก็หมดห่วงค่ะ
เกือบ 50% ของสถานที่ทำงานไม่เอาใจใส่พนักงาน
หน้าที่การงานและสภาพแวดล้อมด้านการงานก็เมีส่วนสำคัญที่เป็นสาเหตุของความเครียดด้วยนะคะไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน สถานที่ทำงาน และอื่นๆ ซึ่งผลสำรวจพบว่าคนไทยไม่มีความสมดุลในเรื่องเหล่านี้ทำให้ส่งผลต่อชีวิตส่วนตัว ซึ่งผลสำรวจออกมาแบบนี้ เกือบ 90% ของคนทำงานจะไม่หยุดงานแม้ว่าป่วยเพราะสวัสดิการของสถานที่ทำงานนั้นไม่อำนวยในเรื่องของการพักรักษาตัวและถ้ามีการหยุดงานเมือ่ป่วยก็อาจจะขาดรายได้ และการทำงานทั้งๆที่ป่วยก็ส่งผลต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายและส่งผลต่อคุณภาพของงานที่ทำด้วย ผลสำรวจพบว่า ไม่ถึง 40% ของสถานที่ทำงานในประเทศไทยที่ให้ความสนใจด้านสุขภาพของพนักงาน นอกเหนือจากนั้นยังไม่มีการเอาใจใส่ที่ดีพอสำหรับเรื่องนี้ค่ะ ทำให้สุขภาพและการเป็นอยู่ของคนที่ทำงานนั้นลดลงและส่งผลเสียต่อหลายๆด้าน เรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งคือส่งผลเสียต่อการเงินในภาพรวมค่ะ
ซึ่งทำให้คนไทยในจำนวนมากไม่ได้รับการเอาใจใส่ในเรื่องค่ารักษาพยาบาลจากสถานที่ทำงานแต่ต้องพึ่งพาภาครัฐมากกว่าเพื่อช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนของค่ารักษาพยาบาลที่ทุกวันนี้ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทางเลือกที่คนในวัยทำงานจะสามารถลดความกังวลเรื่องนี้ได้เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนของค่ารักษาพยาบาลนี้ก็คือ การทำประกันสุขภาพ หรืออุบัติเหตุก็ได้ และเลือกทำในราคาที่เหมาะสมสามารถจ่ายได้ไม่เดือนดร้อนมากต่อรายได้ของแต่ละคน ซึ่งทุกวันนี้มีแผนการทำประกันมากมายหลายรูปแบบที่คุรสามารถเลือกได้หลากหลายมากขึ้น
และทางแก้อีกอย่างหนึ่งที่คุณสามารถเลือกได้เพื่อลดความกังวลจากการไม่เอาใจใส่ของสถานที่ทำงานและช่วยลดความเครียดในการทำงานและมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ก็คือ การเลือกสถานที่ทำงานนั่นเอง จะมีวิธีสังเกตอย่างไร?ในการเลือกสถานที่ทำงานที่ไม่ควรไปทำงานด้วย
-
สถานที่ทำงานที่พนักงานลาออกบ่อยๆ
-
สถานที่ทำงานที่ดูเหมือนที่ความขัดแย้งกันเองของพนักงานระดับสูง
-
สถานที่ทำงานที่ดูดีแค่ภายนอกแต่ภายในนั้นวุ่นวาย
-
สถานที่ทำงานที่ไม่ค่อยเน้นการทำงาน
-
สถานที่ทำงานที่มีความไม่ซื่อสัตย์ต่อพนักงาน
-
สถานที่ทำงานที่ดูจะไม่มีความก้าวหน้าในการทำงาน
นี่คือการเลือกดูสถานที่ทำงานที่คุณวรหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ไห้เกิดความเครียดแต่จะสามารถรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้ก็ต้องใช้เวลาและการสอบถามและการสังเกตนะคะ ถ้าคุณเริ่มต้นด้วยการฉลาดเลือกสถานที่ทานเชื่อว่าความเครียดของคุณก็จะลดลงไปได้มาเลยค่ะ
สรุป
วันนี้ทุกคนก็ได้รู้ถึงสาเหตุของภาวะความเครียดที่คนไทยเป็นกันแล้ว ส่วนใหญ่ปัจจัยหลักก็มาจากเรื่องเงินและความเป็นอยู่ของครอบครัวและตัวเองในช่วงวัยเกษียณ จึงอยากมาสรุปให้ว่าจะหาทางไหนเพื่อคลายความเครียดที่มีให้ลดลงไปเพื่อคนไทยจะได้มีสถิติที่ดีขึ้นมาบ้างแน่นอนว่าคงจะไม่มีทางขจัดความเครียดออกไปให้หมดได้อย่างแน่นอนเพราะว่าทุกคนก็ต้องมีภาระหน้าที่ในเรื่องเงินกันอยู่ไม่มากก็น้อย และทุกคนก็ต้องเคยมีปัญหาเรื่องเงินกันทั้งนั้น ต้องทำตามวิธีต่อไปนี้เพื่อสู้ต้อไป
ยอมรับกับปัญหาให้ได้ ตัวอย่างเช่นปัญหาเรื่องเงินที่ทำให้เกิดความเครียดมากๆเลยก็คือการเป็นหนี้ การไม่สนใจหนี้สินก็ไม่ได้ช่วยอะไรแต่ให้หันมาสนใจและจัดการกับมันยอมรับความจริงกันไปเลย
การเป็นหนี้ไม่สามารถวัดความล้มเหลวได้ การเป็นหนี้ก็เหมือนเราล้มและเราก็จะสามารถลุกขึ้นมาได้เช่นกันเราสามารถปลดหนี้ได้ถ้าลุกขึ้นมาจัดการและวางแผน
ให้คิดถึงคนรอบข้างเสมอ การคิดแบบนี้ช่วยให้คุณมีพลังทีจะต่อสู้กับปัญหาที่เข้ามาได้ โดยเฉพาะคิดถึงคนที่รักคุณ และคนเหล่านี้สามารุเป็นที่ปรึกษาและให้การช่วยเหลือคุณได้ค่ะ
อย่าลืมลงมือแก้ปัญหาอย่างจริงจัง การเริ่มลงมือแก้ปัญหาอย่างจริงจังจะเป็นทางเดียวที่ปัญหาจะหมดไปช่วยให้คุณหายเครียดไปได้ และทำไปพร้อมกับการปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตด้วยนะคะ
สามารถ
สภาวะความเครียดที่เกิดจากการเงิน เป็นไปตามที่บทความนี้ได้พูดไว้เลยครับ ได้มีการพูดถึงความเป็นไปได้ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ ที่เกิดจากความเครียดในการใช้จ่ายหรือการบริหารเงิน ทำให้ช่วงเกษียณหรือบั้นปลายชีวิตนั้นไม่มีเงินใช้ หรือเป็นหนี้สิน แต่ก็ดีนะครับที่มีแนวทางการแก้ไข เพื่อช่วยให้สามารถที่จะดูแลตัวเองในเรื่องนี้ได้
Kraiwit
มีใครไม่เครียดบ้างเหรอครับเรื่องเงินเนี่ย จะรวยหรือจนมีความเครียดกันทั้งนั้น แต่อาจจะเครียดกันคนละอย่างต่างกันไป คำแนะนำจากบทความดีมากนะครับ แต่มันทำยากนะบางอย่างน่ะ บางครอบครัวหาเงินมาได้เท่าไหร่ไม่เคยพอใช้เลย คือไม่พอแม้แต่จะซื้อข้าวกิน อย่างที่เห็นข่าวบ่อยๆ คนที่ต้นทุนต่ำมากการทำมาหากินของเขาลำบากมากจริงๆครับ
วินวิน
ผมคิดว่าเมืองไทยบ้านเราไม่ได้มีการสอนเรื่องของการเงินมั้งครับ ก็เลยไม่ค่อยมีวินัยในการเงินกันสักเท่าไหร่ คนไทยเนี่ยยอมรับเลยว่าเป็นหนี้กันมาก เป็นหนี้กันง่าย และไม่ค่อยรับผิดชอบ โดเฉพาะคนทำงานหาเช้ากินค่ำ จะสนใจเรื่องเงินด่วนกันมากจนไม่คิดถึงผลเสียทีหลัง อันนี้ไม่ได้ว่าใครนะครับเป็นเรื่องจริงที่เห็นๆกันอยู่ครับ ผมเองก็ไม่ได้ดีอะไรก่อนจะมีความรู้เรื่องเงินผมก็เป็นหนี้มาเหมือนกันครับ
จิตรกร
คงเป็นไปไม่ได้หลอก คะ ที่จะทำให้คนไทยหายเครียดกับเรื่องเงินได้ ยิ่งตอนนี้แล้วยิ่งเครียดหนักเลยคะ ไม่ได้ทำงานมาสามเดือน นี่ส่อแววแล้วคะว่าจะยาวนานไปเป็นแรมปีแน่นอนคะ แบบนี้ความเครียดเรื่องเงินจะต้องอยู่คู่กับคนไทยไปอีกยาวนานเลยคะ อย่าบอกนะคะว่าไม่มีใครเครียดจาก สถานการณ์ โควิด-19 ที่กำลังเป็นอยู่ในบ้านเราตอนนี้
หนุ่ม
เป็นผมผมก็เครียดเหมือนกันครับ ตอนนี้อายุจะ 50 ก็ไปแล้วแต่ไม่ได้เก็บเงินหรือว่าลงทุนกับ กองทุนรวมอะไรไว้เลย ตอนที่เกษียณแล้วจะทำยังไงดีล่ะครับจะมีเงินสำหรับบ้านพักคนชราหรือว่าการเลี้ยงดูตัวเองไหม นี่แหละครับที่ผมยังเครียดแล้วก็คิดอยู่ลูกก็ไม่มีงานก็ยังไม่แต่งที ญาติพี่น้องก็ไม่มีสงสัยก็ต้องอยู่ตามมีตามเกิดกันไปแล้วล่ะครับ
ธัช
เอาแบบนี้ไหมครับ คุณ หนุม ตอนนี้ อายุ 50แล้ว ยังพอมีแรงในการทำงานอยู่บ้างไหมครับ เดือนๆหนึ่ง หลังจากนี้ไปเก็บเงิน สักเดือนละ 2-3 พัน ดูไหมครับ กว่าจะอายุ 60 ผมว่าคงได้หลายบาทอยู่นะครับ แล้วเรื่องกลัวลูกไม่เลี้ยงดู ผมว่าอย่าไปคิดเลยครับ ลูกยังไงก็ต้องมาดูแลเราบ้างแหละ คงไม่ใจดำปล่อยให้พ่อต้องอดตายหลอกครับ
สมนึก
ผมคิดว่าจริงๆแล้วคนไทยมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องเงินไม่ถูกต้องครับ คนส่วนใหญ่มีความคิดที่ว่าเงินเป็นส่วนสำคัญมากในที่สุดจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เงินมา บางคนทุ่มเทกำลังความสามารถและความคิดทุกอย่างให้กับการทำงานเพื่อได้เงิน โดยที่ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการให้เวลากับครอบครัว สุขภาพของตัวเอง เรื่องแค่นี้จัดลำดับความไม่ถูกต้องก็สมควรเครียดไปเลยครับ
Dan
ผมเป็นเด็กนักเรียนยังเครียดเลยครับ ไม่เพียงแต่ผู้ใหญ่เท่านั้น เด็กๆก็สามารถเครียดเรื่องเงินได้ นั่นเป็นเพราะอะไร ใช่ครับเรื่องการศึกษา เพราะหากเราไปเรียนเราก็ต้องมีทุนการศึกษาที่เอาไว้ใช้ และหากครอบครัวของเราไม่มีทุนการศึกษาให้ บางรร.ก็ไม่ให้เรียนก็มีครับ ดังนั้นแล้วถ้าผมโตไป ผมไม่ให้พวกท่านต้องลำบากแน่นอน ผมจะตั้งใจเรียนครับ