เพื่อนๆจะสังเกตเห็นได้ว่าตอนนี้ สถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 นั้นดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะจบเมื่อไร และด้วยระยะการฟักตัวของเชื้อที่กินเวลานานถึง 14 วัน ทำให้คนที่ติดเชื้อนั้นไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อและใช้ชีวิตตามปกติทำให้เกิดการแพร่เชื้อไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งนั้นทำให้เกิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีกฏข้อห้ามหลายๆอย่างและหนึ่งอย่างที่มีผลกระทบมากต่อผู้คนคือการปิดสถานที่ที่มีโอกาศสูงที่จะเป็นที่ๆมีผู้คนไปชุมนุมกันหนาแน่น เช่น สนามกีฬา สถานบังเทิง และร้านอาหารหลายๆแห่ง และนั้นทำให้มีผู้คนหลายล้านคนตกงานจากสถานการณ์นี้ และทำให้ทางภาครัฐบาลที่ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องทำการออกมารับผิดชอบกันนิดหน่อยต่อสถานการณ์ดังกล่าว

โดยในตอนนี้ทางรัฐบาลก็ได้มีมาตรการเยียวยา 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือนให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยทางรัฐบาลได้เปิดเว็บไชต์ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด โควิด-19 ไปลงทะเบียนขอรับเงินกันได้ที่ https://www.เราไม่ทิ้งกัน.com โดยเว็บก็ได้เปิดในวันที่ 28 มีนาคม 2563 เวลา 6 โมงเย็น และผู้ที่ลงทะเบียนก็จะถูกพิจารณาว่าข้อมูลถูกต้องไหมและอยู่ในกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบจริงๆหรือไม่ โดยมีระยะเวลาการพิจารณาอยู่ที่ 1 สัปดาห์ และถ้าอยู่ในหลักเกณฑ์ก็จะได้รับเงินเยียวประมาณวันที่ 8 เมษายนเป็นต้นไป

ภาครัฐเพิ่มเวลาเยียวยาคนขาดรายได้ 5,000 บาท ต่อเนื่อง 6 เดือน

ภาครัฐเพิ่มเวลาเยียวยาคนขาดรายได้ 5,000 บาท ต่อเนื่อง 6 เดือน

ก่อนหน้านี้ได้บอกไปแล้วว่ามาตรการเยียวยาของภาครัฐนั้นในตอนแรกตั้งใจว่าจะให้เงิน 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งจะตกเท่ากับคนละ 15,000 บาท แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่มีแต่ผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นและไม่มีท่าทีว่าโรคระบาดนี้จะหมดไปในเร็วๆนี้ทำให้ทางภาครัฐได้ขยายเวลาการเยีวยาเป็น 6 เดือน ซึ่งจำนวนเงินต่อเดือนยังคงเท่าเดิมอยู่ คือ 5,000 ต่อเดือน แต่เงินเยียวยาก็จะต้องอยู่ที่คนละ 30,000 บาท โดยในวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยถึงมาตรการที่จะช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 ว่า ทางกระทรวงการคลังได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในเรื่องของการร่างพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ

และสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคระบาด โควิด-19 ภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อการเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการดูแลและเยียวยา COVID-19 ระยะที่ 3 โดยในส่วนของแผนงานด้านสาธารณสุขและแผนงานเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบก็อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าจะมีการเพิ่มการเยียวยาโดยการขยายการจ่ายเงินออกไปจาก 3 เป็น 6 เดือน ถึงเดือนกันยายน 2563 และทั้งนี้ นายอุตตม ยังได้บอกเพิ่มเติมอีกด้วยว่า ในส่วนของจำนวนผู้คนที่จะได้รับการเยียวยานั้นได้มีการกำหนดไว้แล้วอยู่ที่ 9 ล้านคน ซึ่งในขณะนี้จำนวนผู้ที่ลงทะเบียนรายใหม่เริ่มที่จะชะลอตัวลงแล้ว จึงได้เชื่อว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบและเข้าข่ายที่จะได้รับการเยียวยา 5,000 บาทเป็นเวลา 6 เดือน น่าจะใกล้ครบแล้ว และในเรื่องที่จะมีการเพิ่มหรือขยายไปสู่กลุ่มอื่นๆต่อไปนั้นเป็นเรื่องของการประเมินสถานการณ์ข้างหน้า แต่เบื้องต้นก็ให้ยึดหลักตามนี้

คนที่มีสิทธิ์เข้าข่ายจะได้รับเงินเยียวยาจากภาครัฐ

คนที่มีสิทธิ์เข้าข่ายจะได้รับเงินเยียวยาจากภาครัฐ

ผมเชื่อว่าในตอนนี้ก็มีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลายๆคนกำลังลุ้นกันอยู่ว่า ตัวเองนั้นที่ได้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาไปจะได้รับเงินเยียวยาไหม ตัวเองจะอยู่ในกลุ่มเป้าหมายเข้าข่ายได้รับเงินเยียวยาหรือไม่ เพราะผมเชื่อว่ามีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลายต่อหลายคนที่เจอกับปัญหามากมายกว่าจะลงทะเบียนสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเว็บล่มในวันแรก และไหนจะข้อมูลที่ทางภาครัฐขอก็มีมากมายสักเหลือเกินอาจจะมีการกรอกผิดกรอกถูกกันไม่มากก็น้อย ซึ่งหลังจากที่ลงทะเบียนสำเร็จแล้ว นั้นก็ยังไม่ได้แปลว่า เพื่อนๆจะได้รับเงินเยียวยาแน่นอน 100% เพราะเพื่อนๆยังต้องรอการพิจารณาอีกว่าเพื่อนๆนั้นจะผ่านเกณฑ์หรือไม่ซึ่งในส่วนตรงนี้ ผู้ที่คุมอำนาจนั้นก็จะเป็นระบบ AI  และในตอนนี้ก็ได้มีผู้ที่ลงทะเบียนกับเว็บไชต์ https://www.เราไม่ทิ้งกัน.com ไปถึง 24.2 ล้านคนไปแล้ว ถึงแม้จะมีผู้ที่ทำการยกเลิกการลงทะเบียนไป 3 แสนคนก็ตาม

และล่าสุดได้มีการเปิดเผยข้อมูลของ ลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค) ในวันที่ 6 เมษายน 2563 บอกว่า ณ ขณะนี้ได้มีผู้ที่ผ่านเข้าเกณฑ์ และเตรียมที่จะได้รับเงินเยียวยาแน่นอนประมาณ 1.68 ล้านคน ซึ่งก็จะได้มีการเริ่มทยอยโอนเงินเข้าบัญชีวันที่ 8-10 เมษายน โดยได้แบ่งเป็นวันที่ 8 เม.ย.จำนวน 2.8 แสนคน, วันที่ 9 เม.ย.จำนวน 7.53 แสนคน และวันที่ 10  เม.ย.จำนวน 6.44 แสนคน และสำหรับอาชีพที่ผ่านเกณฑ์แน่นอน ตอนนี้ที่ได้ยืนยันออกมาแล้ว คือ กลุ่มลูกค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ และมัคคุเทศก์ ซึ่งมีอยู่จำนวนกว่า 1 ล้านคน ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มแรกๆที่ได้รับเงินเยียวยา สรุปให้เข้าใจง่ายๆก็ คือ คนที่ประกอบอาชีพอิสระ ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม และ ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คนเหล่านี้มีสิทธิ์ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาด้วยกันทั้งสินแต่จะผ่านเกณฑ์จนได้รับเงินนั้นก็ต้องพิจารณาจากข้อมูลอีกที

ใครที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล

ใครที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล

หลังจากที่เพื่อนๆรู้กันไปแล้วว่าใครจะได้รับหรือใครมีสิทธิ์เข้าข่ายที่จะได้รับเงินเยียวยา ต่อไปผมก็จะมาบอกถึงผู้ที่ไม่ได้รับเงินเยียว จะเป็นใครบ้างจะเป็นคนกลุ่มอาชีพอะไรบ้าง และเพราะอะไร ซึ่งทางภาครัฐก็ได้บอกออกมา 10 กลุ่มด้วยกันไปดูกันเลยครับ

กลุ่มที่ 1 เป็นกลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เหตุผลที่คนกลุ่มนี้ไม่ได้รับเงินเยียวยานั้นก็เพราะว่ากลุ่มคนกลุ่มนี้นั้นมีอายุที่น้อยเกินไปยังไม่อยู่ในวัยทำงาน จึงไม่ได้ถูกนับว่าเป็นแรงงานครับ แและกลุ่มที่ 2 คือ นักเรียนนักศึกษา เหตุผลก็จะคล้ายกับกลุ่มแรก ถึงแม้นักศึกษาบางคนจะอยู่ในวัยเกิน 18 ปี แล้วเป็นวัยทำงานแล้ว แต่ก็มีหน้าที่หลักๆ คือ เรียนอยู่ดี จึงไม่ได้ถูกนับว่าเป็นแรงงานจึงไม่ได้รับเงินเยียวยานะครับ

กลุ่มที่ 3 เป็น คนที่ว่างงานอยู่ก่อนแล้ว คือคนที่ไม่ได้ทำงานอยู่ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 เพราะฉะนั้นคนกลุ่มนี้จึงไม่ถือว่าเป็นกลุ่มแรงงานที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  กลุ่มที่ 4 ผู้ที่มีประกันสังคมกลุ่มคนกลุ่มนี้จะได้รับเงินจากประกันสังคมกรณีที่ว่างงานอยู่แล้วจึงไม่ได้รับเงินเยียวยา  กลุ่มที่ 5 คือ เกษตรกร จะไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้รับการเยียวยาอะไรคนกลุ่มนี้จะได้รับการเยียวยาจากภาครัฐในระยะที่ 3   กลุ่มที่ 6 เป็น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เหตุผลที่ไม่ได้รับเงินเยียวยานั้นก็เพราะว่าการขนส่งในปัจจุบันนั้นยังมีการดำเนินอยู่ถึงแม้ว่ายอดขายจะตกก็ตามก็ถือว่าเป็นไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจ

กลุ่มที่ 7 เป็น คนงานก่อสร้าง เหตุผลที่ไม่ได้รับเงินเยียวยานั้นก็เพราะว่าไม่ได้มีคำสั่งจากรัฐบาลว่าให้มีการหยุดการก่อสร้างการก่อสร้างยังมีปกติครับ  ต่อมาคือกลุ่มที่ 8 เป็นโปรแกรมเมอร์ ครับ กลุ่มคนกลุ่มนี้ที่ไม่ได้รับเงินเยียวยานั้นก็เพราะว่ากลุ่มคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงเพราะงานโปรแกรมเมอร์เป็นงานที่สามารถทำงานที่ไหนก็ได้เป็นปกติอยู่แล้ว  กลุ่มที่ 9 ข้าราชการ เหตุเพราะยังไม่มีคำสั่งให้ปิดสถานที่ราชการทำให้ข้าราชการยังมีงานทำอยู่ และได้รับเงินเดือนเป็นปกติ  กลุ่มที่ 10 ผู้ที่ได้รับบำนาญ คนกลุ่มนี้ที่ไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทนั้นก็เพราะว่าไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คนกลุ่มนี้ยังคงได้รับการดูแลจากทางรัฐบาลอยู่เป็นปกติ ครับ

ยังมีทางออกให้มีกำลังใจสำหรับคนขาดรายได้ตอนนี้

ยังมีทางออกให้มีกำลังใจสำหรับคนขาดรายได้ตอนนี้

ก็ถือว่าสำหรับผู้ที่ขาดรายได้และผ่านเกณฑ์ของทางรัฐบาลก็ยังไม่ใช่ทางตันสักทีเดียว ยังพอทางออกนิดหน่อยถึงจะไม่มากสักเท่าไรก็ตาม ถือเป็นข่าวดีสำหรับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกๆคนนะครับ และทางรัฐบาลก็ได้แบ่งกลุ่มคนที่มาลงทะเบียนเอาไว้แล้วเป็น 3 กลุ่มเป็นสี คือ เขียว=ผู้ที่ผ่านเกณฑ์ แดง=ผู้ที่ไม่ผ่าน เทา=ผู้ที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งใน ขณะนี้ยอดผู้ที่ลงทะเบียนก็เริ่มที่ลดลงแล้ว และเมื่อไรที่ลดลงเหลือหลักหมื่นคนต่อวัน ทางรัฐบาลก็จะทำการปิดรับการลงทะเบียนแต่ก็จะมีการแจ้งล่วงหน้าก่อนล่วงหน้า 7 วัน พร้อมออกมาเปิดเผยว่าจำนวนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ได้รับผลกระทบนั้นมีมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ เพราะจากที่คาดการณ์เอาไว้ คือ 3 ล้านคน ในขณะนี้เป้าหมายใหม่อยู่ที่ 9 ล้านคน แต่อย่างไรก็ดี จากการประเมินแล้ว ก็คาดว่าผู้ที่ผ่านการคัดกรองตามเกณฑ์ที่กำหนดจะมีประมาณ 10 ล้านคนเท่านั้น ไม่เกินนี้ ทั้งนั้นทั้งนั้นผมก็ขอให้เพื่อนๆที่เดือดร้อนได้รับการช่วยเหลือเป็น 1 ใน 10 ล้านนั้นนะครับ