การที่บัตรเครดิตจะสร้างประโยชน์หรือสร้างโทษนั้น ก็คือขึ้นอยู่กับวิธีใช้งานของเราผู้ถือบัตร ซึ่งหากเราใช้อย่างมีสติและรู้จักวางแผนการใช้งานให้ดี ก็จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากบัตรเครดิตได้ไม่ยาก แต่ตรงกันข้ามหากว่าเรานั้นใช้บัตรเครดิตตามอารมณ์ อยากได้อะไรก็รูดจ่ายเลย โดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้า แบบนี้เราก็มีโอกาสที่จะได้รับโทษจากบัตรเครดิตมากกว่า ซึ่งโทษที่ว่านั่นก็คือ การเป็นหนี้บัตรเครดิตนั่นเอง ทุกวันนี้หลายคนคงต้องพบเจอกับปรากฏการณ์ที่มีคนจำนวนมากพอเงินเดือนออกปุ๊ปก็ต้องรอต่อแถวจ่ายหนี้บัตรเครดิตทั้งหลายกันจนแน่นขนัดไปหมด หลายคนต้องเคร่งเครียด วิตกกังวล และกลุ้มใจกับปัญหาหนี้สินจำนวนมาก จนรายได้ และเงินเดือนที่ได้ต่อเดือนไม่สามารถผ่อนชำระอะไรได้อีกแล้ว จนทำให้มีหนี้เต็มไปหมด บัตรเครดิตตอนใช้มันช่างสะดวกสบาย เดี๋ยวก็รูด เดี๋ยวก็รูด แป๊ปเดียวซื้อของมาเต็มไม้เต็มมือ แต่พอถึงวันจ่ายเงินคืนนี้แสนจะปวดใจ เพราะยอดหนี้บัตเครดิตสูงทะลุเพดาน แล้วจะหาที่ไหนมาจ่าย นี้แหละที่เค้าว่าตอนใช้ไม่คิด มาคิดเมื่อสายไปเสียแล้ว สุดท้ายก็ต้องจ่ายยอดขั้นทำพอให้เอาตัวรอดในเดือนนั้นไปได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยดอกเบี้ยแสนแพงมหาโหด ยิ่งเป็นหนี้นานดอกเบี้ยก็ยิ่งบาน ดังนั้นเราจะมาดูกันดีกว่า ว่าวิธีใช้บัตรเครดิตไม่ให้เกิดหนี้นั้นมีวิธีข่วยอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย!!
Kite_rin/shutterstock.com
เลือกใช้บัตรเครดิตให้ตรงกับความต้องการ และรูปแบบการใช้งาน
เมื่อเรามีความจำเป็นที่ต้องใช้บัตรเครดิตแล้ว อยากจะแนะนำว่าให้ตรวจสอบการใช้งานของบัตรเครดิตนั้นเป็นหลักว่า ส่วนใหญ่ใช้งานรูปแบบไหน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าไฟค่าน้ำหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรทำนองนั้น เพราะในแต่ละบัตร และแต่ละธนาคารจะมีสิทธิพิเศษที่แตกต่างกันนั่นเอง ดังนั้นบางบัตรอาจให้เราสามารถผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ 0%หรือตามที่บอกไปนั้น และบางบัตรยังอาจให้เงินเราเมื่อเติมน้ำมันผ่านบัตรเครดิต ก็ให้เลือกบัตรที่ตรงกับความต้องการของเรา และค่าใช้จ่ายด้วย และนอกเหนือจากนี้ โปรโมชั่นของบัตรเครดิต ก็ยังเป็นเรื่องที่เราควรที่จะนำมาคิดอย่างรอบคอบในการตัดสินใจด้วย ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดต่างๆ เครดิตเงินคืน และการผ่อน 0% และบางบัตรยังให้สิทธิพิเศษต่างอีกด้วยเช่น จอดรถในห้าง ฟิตเนสฟรี โยคะฟรี สะสมไมล์สายการบิน ช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือ มีประกันอุบัติเหตุฟรี นี่จะได้ประหยัดและไม่เสียประโยชน์เลยด้วย ซึ่งเราก็จะเลือกบัตรที่เหมาะกับตัวเองให้มากที่สุดด้วย เช่น บัตรเครดิตดอกเบี้ยต่ำ ก็จะเหมาะสำหรับคนที่คิดว่าตัวเองไม่สามารถจ่ายเงินได้เต็มจำนวนในทุกรอบบิล หรือบัตรเครดิตแบบสะสมแต้ม ก็จะเหมาะสมสำหรับคนที่ชอบ ซื้อของเพราะสามารถใช้แต้มที่สะสมสมที่ได้จากการรูดบัตร ไปแลกของขวัญรางวัลหรือรับเงินสดคืนเข้าบัญชีหลังจากใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตนั้นนั่นเอง และต้องรู้เข้าใจการใช้บัตรเครดิตอย่างถูกต้องยกตัวอย่างเช่นกรณีการเบิกถอนเงินสด ผ่านบัตรเครดิตนั้นเราสามารถทำได้แต่ให้รู้ไว้เลยว่าธนาคารต้นสังกัดของบัตรเครดิตนั้นจะคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการกดเงินสดทันทีที่ ถ้าเรากดเงินสดออกจากเครื่องเอทีเอ็มแล้วยังมีวิธีการคิดดอกเบี้ยที่ซับซ้อนกว่าการใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าทั่วไปอีกด้วยเราควรใช้บริการเบิกเงินสด ในกรณี ฉุกเฉินเท่านั้น เพราะถ้าเรากดเงินสดล่วงหน้าบ่อยครั้งโดยที่ไม่จำเป็นเลยก็จะทำให้เรามีหนี้สินมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
วางแผนการใช้จ่าย
เราต้องทำความรู้จักกับการทำบัญชีรายรับรายจ่ายด้วยเราต้องทำความรู้จักกับการทำบัญชีควบคุมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ควบคุมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตไม่ให้เกินเงินที่มีอยู่ หรือไม่เกินกำลังซื้อของตัวเอง เราขอแนะนำว่าเมื่อไหร่ ที่สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เราจะต้องผ่อนจ่ายนั้นเกินจำนวนเงินที่กันไว้เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ขอให้ ลองถามตัวเองว่าสิ่งที่เราต้องผ่อนจ่ายนั้นมันเป็นความต้องการของตัวเองหรือว่าจำเป็นจริง? เพราะบางทีเราเองก็มีความต้องการที่จะอยากซื้อนั่นซื้อนี่และไม่ได้คิดว่าใช้เงินเกินที่กันเอาไว้และทำให้เรารูดบัตรอย่างพร่ำเพรื่อ เพื่อ สนองความต้องการของตัวเองเราควรเก็บบัตรไว้ใช้สำหรับของที่จำเป็นและต้องคำนึงอยู่เสมอว่าการใช้บัตรเครดิตเหมือนกับการใช้เงินสดเลยพยายามห้ามใช้จ่ายเงินเกินไปกว่าที่เราจะหามาได้ในแต่ละวัน ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตควรที่จะกันเงินสดหรือวางแผนการการเงินสดไว้สำหรับจ่ายหนี้บัตรเครดิต เมื่อถึงกำหนดชำระเราจะต้องสามารถวางแผนการชำระหนี้บัตรเครดิตของเราได้ตรงเวลาและหมดปัญหากับเรื่องการไม่มีเงินพอสำหรับการใช้จ่ายนี่บัตรเครดิตอีกต่อไปนั่นเอง และมีอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญด้วยคือเราควรตั้งกฎให้ตัวเองว่าต้องจ่ายเงินสดลองตั้งกฎให้ตัวเองว่าจะมีการใช้จ่ายบัตรเครดิตเท่าไหร่ในแต่ละเดือนและสำรองเงินสดไว้หรือจะดีที่สุดก็คือการใช้จ่ายต่างๆด้วยเงินสดของเราเพราะเมื่อเราใช้จ่ายหรือคุณสุดเราจะไม่ต้องกังวลกับดอกเบี้ยบัตรเครดิต เงินสดนั้น จ่ายครบจบทันทีแต่ถ้าทำแบบนี้เราอาจจะต้องยอมตัดใจเรื่องแต้มสะสมที่อาจจะได้จากบัตรเครดิตแต่การจ่ายเงินสดนั้นจะสร้างความสบายใจและประโยชน์ให้เรามากกว่าแน่นอน บริหารเงินสดที่มีอยู่ รู้ทันบัตรเครดิต เกี่ยวกับการจัดการบริหารเงินในกระเป๋า เพราะการที่เราใช้บัตรเครดิตจ่ายชำระค่าสินค้าค่าอาหารไปก่อนนั้น เท่ากับว่าเรายังมีเงินสดที่จะต้องเอามาจ่ายตรงนี้เก็บไว้ ดังนั้นเมื่อถึงกำหนดที่ต้องชำระเราควรจะเอาเงินส่วนนี้ไปจ่ายคืนบัตรให้หมด แนะนำว่าต้องชำระให้เต็มยอดใช้จ่ายจริงและต้องตรงตามกำหนดจ่ายด้วย ถ้าหากเราจ่ายไม่ครบก็จะโดนคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงินนั้นตั้งแต่เริ่มไปจนกว่าจะผ่อนหมด และถ้าหากชำระเงินเกินระยะเวลาที่กำหนดก็ถูกเก็บเบี้ยปรับเพิ่มไปอีก
มีบัตรเครดิตเท่าที่จำเป็นเท่านั้นไม่ใช้บัตรเครดิตหลายใบ
บางคนมีบัตรเครดิตหลายใบมากและเกินความจำเป็นจึงทำให้เกิดหนี้ในบัตรเครดิตมากมาย เพราะส่วนมากจะจำไม่ได้ใช้บัตรเครดิตใบไหนไปบ้าง บัตรไหนชำระไปแล้ว ลัวบัตรไหนที่เราชำระไปแล้ว คิดตามแล้วคงวุ่นวายใช่ไหม? นี่เป็นผลทำให้โดนเรียกเก็บดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมในแต่ละปีมากมากแน่นอน ดังนั้น เราควรมาคิดพิจารณาดูว่าควรเลือกบัตรแบบไหนที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี หรือดอกเบี้ยต่ำหรือมีการคืนเงินกลับเข้าบัญชีให้เมื่อใช้เยอะๆ จะดีที่สุด แล้วรู้หรือไม่ ? การมีบัตรเครดิตหลายใบนั้น ถือเป็นการเพิ่มโอกาสการเป็นหนี้สูงมากกว่ามีใบเพียงแค่ 1 – 2 ใบ เพราะหลายกรณีที่ผู้ใช้ไม่สามารถจ่ายเงินได้ทัน ก็จะเริ่มมองหาการกดเงินสดจากบัตรเครดิตใบอื่นเพื่อมาจ่ายยอดหนี้ของบัตรอีกใบ หรือเมื่อยอดวงเงินของบัตรเครดิตเต็มจำนวน ก็จะรูดใบใหม่ กลายเป็นการหมุนวนไปอย่างไม่สิ้นสุด มองเผินๆ เหมือนจะเป็นวิธีที่ดี แต่หลังจากถูกดอกเบี้ยทบไปเรื่อยๆ แล้ว ในที่สุด เราจะไม่สามารถหาวงเงินที่ไหนมาจ่ายได้อีก ทำให้กลายเป็นหนี้ที่ใหญ่โตเลยทีเดียว
เลือกใช้บัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี รู้ทันและวางแผนก่อนถึงรอบตัดบัตรเครดิต
บัตรเครดิตแต่ละใบแต่ละเจ้านั้นก็มีโปรโมชั่นและเงื่อนไขบัตรที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกใช้บริการบัตรเครดิตของเจ้าไหนก็ควรที่จะใส่ใจเรื่องของค่าธรรมเนียมรายปีด้วย ซึ่งค่าธรรมเนียมรายปีนี้เป็นค่าธรรมเนียมที่บัตรเครดิตจะคิดจากเราเมื่อเรามีการใช้จ่ายผ่านบัตรไม่ถึงหรือเป็นจำนวนเท่าไหร่ๆตามที่เงื่อนไขกำหนด แต่โดยส่วนใหญ่บางบัตรเครดิตก็จะบอกว่าเราสามารถแจ้งขอยกเว้นชำระค่าธรรมเนียมรายปีได้ แต่เราจะต้องคอยดูเวลาที่ตัดบัตรครบรอบปีแล้วติดต่อเอง ซึ่งถ้าเราลืมแจ้ง บางนาเผลอๆไปรู้ตัวอีกทีก็โดนตัดค่าธรรมเนียมรายปีไปเสียแล้ว ดังนั้นการที่เราเลือกใช้บัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีก็ช่วยให้เราไม่ต้องมานั่งเสียเวลากับเรื่องนี้ วงเงินของบัตรเครดิตแต่ละใบที่เรามีอาจจะไม่เท่ากัน และวันที่บัตรเครดิตตัดรอบบิลก็ไม่เหมือนกันด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรจดวันครบกำหนดรอบบิลของบัตรทุกใบ เพื่อเป็นการวางแผนการใช้งานบัตรเครดิตที่เรามีให้คุ้มค่า เพราะถ้ารอบตัดบัตรของเราเป็นช่วงต้นเดือน กลางเดือน หรือปลายเดือนที่ไม่ตรงกัน ก็จะทำให้เราสามารถมีเครดิตวงเงินที่ใช้ได้ต่อไปตามระยะห่างของบัตรแต่ละใบ และเราก็จะสามารถบริหารการใช้เงินในการชำระค่าบัตรเครดิตได้ ไม่ต้องมานั่งจ่ายทีเดียวพร้อมกันเป็นก้อนใหญ่แล้วก็กินแกลบไปทั้งเดือนยังไงล่ะ
ตั้งกฎกับตัวเองและสร้างวินัยทางการเงินของตัวเอง
มาถึงขั้นตอนสุดท้าย และสำคัญสุดๆเรื่องวินัยการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทุกครั้งนั้น เราควรที่จะพิจารณาถึงความจำเป็นให้ดีเสียก่อน เพราะทุกครั้งที่เราใช้บัตรเครดิตนั่นแปลว่าเราได้เอาเงินในอนาคตมาใช้และจะต้องเอาเงินไปจ่ายทีหลัง ซึ่งก็เหมือนกันการเป็นหนี้ล่วงหน้า แต่ถ้าเรารู้ทันบัตรว่ามีรอบการใช้งานอย่างไร เราสามารถนำเงินที่เหลือมาจ่ายยอดที่ใช้ไปอย่างไรให้ทัน ก็จะเป็นข้อดีแทน แต่ก็ยังย้ำว่าต้องมีวินัยในการใช้เงินแบะคิดให้รอบคอบก่อนเท่านั้นจึงจะเห็นประโยชน์นั่นเอง และต้องจ่ายบิลตรงเวลา หากเราต้องการขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัย เราต้องชำระเงินก่อนครบกำหนดเสมอ อย่างน้อยคือจ่ายขั้นต่ำ แต่ยิ่งดีไปกว่านั้นคือการจ่ายบิล "เต็มจำนวน" ตลอด ที่จะทำให้เราทั้งเครดิตสกอร์ดี และเป็นลูกหนี้ชั้นดีของธนาคารอีกด้วย การมีวินัยในการจ่ายชำระคืนก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การใช้บัตรเครดิตของเรานั่น ห่างไกลจากหนี้ และนอกจากนี้การจ่ายคืนครบตามจำนวนและไม่เกินกำหนดเวลาจ่ายก็จะส่งผลให้ประวัติการเงินของเราดีอีกด้วย ประวัติการเงินที่ดีส่วนนี้จะถูกบันทึกไว้ที่ เครดิตบูโร ซึ่งจะส่งผลดีแก่ตัวเราเมื่อเราต้องทำธุรกรรมการเงินกับทางธนาคาร เช่น การขอสินเชื่อ การกู้ เป็นต้น เพราะจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจในความรับผิดชอบต่อหนี้ของเรามากขึ้น อันอาจจะส่งผลให้ทางธนาคารอนุมัติธุรกรรมที่เรายื่นขอไปอย่างไม่ยากเลย
สรุป การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทุกครั้งเราควรจะนึกถึงสิทธิประโยชน์ที่เราจะได้รับเสมอ เพื่อที่จะเพิ่มมูลค่าการจ่ายเงินของเราให้มากขึ้นจากเงินจำนวนเท่าเดิม ดังนั้นเราควรหมั่นเช็คว่าบัตรเครดิตของเรานั้นมีสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นมาใหม่อยู่เสมอ เพื่อที่เราจะได้ไม่พลาดสิทธิประโยชน์ที่เราควรได้รับนั่นเอง และหวังว่าทุกคนจะตั้งใจที่จะพยายามตามขั้นตอนทั้ง 5 ขั้นตอนนี้ได้ พวกเราทำได้แน่นอน ดังนั้นเราต้อ คิดและมีวินัยเสมอ ขอให้ทุกคนลองทำตามขั้นตอนดังกล่าว ได้ประโยชน์แบะได้ผลแน่นอน!!
ณัฐิมา
ยิ่งมีเยอะยิ่งใช้เยอะครับ อันนี้เป็นเรื่องจริงทีเดียวว่าทำไมไม่ควรมีบัตรเครดิตหลายๆใบ ผมเป็นคนนึงที่ชอบใช้เเบบไม่คิด บัตรนี้วงเงินหมดก็เปลี่ยนไปใช้อีกบัตร แล้วพอต้องจ่ายค่าบัตรนะครับปวดหัวมาก ต้องกดใบบัตรนี้มาโปะใบนู้นเป็นวัฏจักรแบบนี้ จนทุกวันนี้ก็ยังเป็นหนี้ไม่จบไม่สิ้น ถ้าเลือกได้ตั้งแต่แรกจะเลือกที่จะมีวินัยในการใช้มากกว่านี้
ธนชัย
เหมาะมากครับบทความนี้ ถ้าใครอยากสมัครบัตรเครดิตต้องอ่านก่อนเลยแล้วคิดด้วยว่าจะทำตามได้มั้ย ส่วนใครที่สมัครบัตรเครดิตแล้วได้บัตรฯมาใช้แล้ว หากไม่อยากเป็นหนี้บัตรเครดิตต้องรีบทำตามเลยครับ ส่วนผม ไม่มีบัตรเครดิตครับ แค่เห็นคนรอบตัวใช้แล้วเป็นหนี้กันบานทั่วหน้า ผมก็ไม่อยากมีแล้วครับ ใช้เงินสดก็ได้ ผมสบายใจกว่ามากครับ
พัชราภา
การใช้บัตรเครดิตก็ไม่ได้อยู่ที่ใครหรอกค่ะ อยู่ที่ตัวของเราเองทั้งนั้น หากเราใช้รูดบัตรแบบไม่คิดพอมาดูอีกทีคือค่าใช้จ่ายเยอะเต็มไปหมดเลย สิ่งที่สำคัญเลยคือเรื่องของการวางแผนการเงิน ต้องขอบคุณบทความนี้มากเลยค่ะ ที่ออกมาเขียนถึงวิธีการใช้บัตรเครดิตไม่ให้เกิดหนี้ เพราะสามารถทำได้หลากหลายมาก ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
รัก
วิธีหนึ่งที่เราจะสามารถใช้บัตรเครดิตทำให้เราไม่เกิดนี่ได้ก็คือ การที่เราตั้งเป้าหมายสำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพื่อช่วยให้เรา สามารถที่จะไม่ใช้เงินเกินวงเงินที่เราตั้งเอาไว้ บทความนี้ได้อธิบายถึงอีกวิธีอื่นๆด้วยที่จะช่วยให้เราสามารถใช้จ่ายบัตรเครดิต อย่างที่อยู่ในงบประมาณและไม่เป็นหนี้สิน เพื่อจะช่วยให้เราได้รับผลประโยชน์จากการใช้บัตรเครดิตอย่างที่เราคิดไว้ด้วยครับ
"คึดฮอด"
ข้อดีมีเยอะ ข้อเสียก็ไม่น้อยค่ะการใช้บัตรเครดิตเนี่ย แต่ข้อเสียส่วนใหญ่มาจากตัวผู้ใช้เองนะ อย่างที่บทความนี้บอกแหละ หากไม่มีการวางแผนการใช้จ่าย ไม่มีวินัยในการใช้เงิน ยังไงก็หนีไม่พ้นการเป็นหนี้บัตรเครดิตอย่างแน่นอน เราเคยเจอเหมือนคุณธนชัยที่มาคอมเม้นท์ก่อนหน้านี้ คือ คนรู้จักเป็นหนี้บัตรเครดิตเยอะมาก เห็นแล้วเหนื่อย(ใจ)แทนค่ะ
ขันธ์
ใครอยากเอาวิธีการที่ผมใช้เอาไปได้เลยนะครับ คล้ายกับบทความนี้บอกเลยครับ แต่ อาจจะต้องมีวินัยกับตัวเองนะครับ ผมทำบัตรเครดิต ผมตั้งเป้าไว้เลยครับ ว่า ถ้าซื้อของที่ราคาต่ำกว่า 5,000 บาท ผมจะใช้เงินสดเท่านั้นครับ แต่ถ้า อะไรที่แพงกว่านั้นผมจะ ใช้บัตตรเครดิตครับ แล้วก็เวลา เติมน้ำมัน ผมก็เลือกจ่ายกับบัตรครับ เพราะว่ามันได้ส่วนลดครับ
พลาดร
สำหรับตัวผมเองการวางแผนสำหรับการใช้บัตรเครดิตเป็นอะไรที่เบสิคพื้นฐานมากเลยครับ ถ้าเราคิดแต่ว่าเรามีวงเงินเพิ่มมากกว่าเงินเดือนอีก 1 เท่า และเอาไปใช้จ่ายอย่างสะดวกสบายมืออย่างราชาในเดือนนั้น แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือเงินติดลบหรือเป็นนี่นั่นเอง ผมตั้งใจที่จะใช้บัตรเครดิตให้อยู่ในวงเงินเดือนที่ผมใช้อยู่หรือไม่เกินนั้นดีกว่าครับ
ข้าวทิพย์
คนเรานี่แปลกนะคะ ไม่รู้ว่าจะมีบัตรหลายใบไปทำไมนะคะ เราเองมีแค่ใบเดียวก็ว่าโอเคแล้วนะคะ เวลาจ่ายเงินยังแบบลมจะจับเลยคะ นี่ ไม่รู้ว่าคนที่ทำหลายๆใบ เวลาสิ้นเดือนมา จะเป็นอย่างไรบ้างนะ คงหมุนกันน่าดูเลยใช่ไหมคะ เราว่า ใช้เท่าทีเราสามารถหามาจ่ายคืนเขาได้ จะดีกว่านะคะ อย่าใช้อะไรให้มากเกินตัวเลยนะคะ เดียวจะติดเป็นนิสัยคะ
สมชาย
บางคนคิดว่าสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตทำให้เราได้รับความประหยัดในการใช้จ่ายเงินของเรา ทำให้เรื่องมีบัตรเครดิตเพิ่มเพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่ม แต่คุณรู้ไหมครับว่าการที่เรามีบัตรเครดิตหลายใบก็ไม่ได้ช่วยให้เราประหยัดเงินได้จริงๆหรอก เพราะเราไม่ได้คิดเกี่ยวกับค่าต่างๆยิบย่อยที่ตามมาจากบัตรเครดิตในแต่ละใบซึ่งมารวมกันแล้ว กลายเป็นเสียแต่ค่าธรรมเนียม
ภารุจา
มีบัตรเครดิตแล้ว เราต้องมีกฏในการใช้คะ แล้วก็ต้องทำให้ได้ด้วยนะคะ เพราะถ้าเราใช้บัตรตามใจเราอย่างเดียว บอกได้คำเดียวเลยคะว่า จน การมีกฏเรื่องการใช้บัตรเครดิต อาจมีอะไรบ้าง อย่างของเรา เราตั้งไว้ 3เรื่องคะ คือ1. ใช่ต่อเดือนต้องไม่เกิน 5พันบาท 2.ไม่กดเงินสด และ3. เวลาที่จ่ายค่าบัตร ต้องจ่ายเป็นจำนวนเงินครบถ้วนไม่จ่ายขั้นต่ำ แค่นี้สำหรับเราก็ต้องบังคับตัวเองยากจริงๆคะ
FiFi
@สมชาย ถ้าบอกว่าบัตรเครดิต ทำให้ใช้จ่ายสะดวกมากขึ้นอันนี้ใช่ แต่ถ้าบอกว่าบัตรเครดิตทำให้ประหยัดเงินมากขึ้นอันนี้ผิด อย่างที่คุณว่ามานั่นแหละ แต่บางครั้งการใช้บัตรเครดิตก็ทำให้บางคนใช้จ่ายเท่าเดิมเหมือนใช้เงินสด ถ้ามีวินัยในการใช้จ่าย แต่หลายคนกลับแพ้ใจมากขึ้นเมื่อมีบัตรเครดิต และมีปัญหาในช่วงการผ่อนชำระ คนส่วนใหญ่ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่ตัวเองจ่ายผ่านบัตร
อินทโชติ
เรื่องมีบัตรเครดิตหลายใบ เป็นเรื่องที่น่าดลัวที่สุดเลยครับ ผมมีเพื่อนหลายคนครับมีบัตร อย่าน้อยๆ 3ใบได้ครับ แล้วก็จะใช้วิธีการหมุนบัตร ใช้หนี้บัตรเอาครับ ผลสุดท้ายหมุนไม่ทัน เป็นหนี้ตามก้นกันเยอะมากเลยครับ ใช้ใบเดียวนะดีแล้วครับแล้วก็ใช้อย่างพอประมาณครับ เอาเงินอนาคตของเรามาใช้ก่อนก็ต้องใช้ด้วยสติเลยครับ
เทียนไข
55555 อยากจะขำกลิ้งจังเลยค่ะ วิธีใช้บัตรเครดิตไม่ให้เป็นหนี้ ไม่อยากเป็นหนี้ก็ไม่ต้องใช้สิคะ ใช้บัตรเครดิตไม่ว่าจะใช้วิธีไหนจะต้องชำระคืนก็เป็นมีดทุกวิธี เพียงแต่ว่า ควรจะหาวิธีใช้บัตรเครดิตไม่ให้เป็นหนี้ค้างดีกว่า บทความนี้ก็คงจะอยากจะพูดประมาณนี้แหละก็แซวไปอย่างนั้นนะคะเพียงแต่ว่าหัวข้อบทความพูดสั้นๆทำให้น่าแซว
น้องนี..ฐาปนีย์
ใช่ค่ะ หนึ่งในวิธีที่จะทำให้ผู้ถือบัตรเครดิตไม่เป็นหนี้ เริ่มจากการเลือกใช้บัตรเครดิตให้ตรงกับความต้องการ และรูปแบบการใช้งานของตัวเอง ไม่อย่างนั้นมันเป็นการเสียเปล่ามากเลย โดยเฉพาะถ้าบัตรเครดิตนั้นมีค่าธรรมเนียมรายปีด้วย ใช้ก็ไม่ค่อยได้ใช้ยังต้องมาเสียค่าธรรมเนียมอีก บางบัตรน่ะค่าธรรมเนียมรายปีแพงด้วยนะ
นานา เดีย
ดีค่ะที่มีวิธีใช้บัตรเครดิตไม่ให้เกิดหนี้มาให้อ่านกัน คงเคยได้ยินกันบ่อยๆเรื่องคนเป็นหนี้บัตรเครดิต ไม่รู้ว่ามีการใช้งานบัตรเครดิตยังไงถึงได้เป็นหนี้ ใครที่ยังไม่มีบัตรเครดิตแล้วอยากจะมีไว้ใช้บ้าง ต้องลองมาอ่านบทความนี้ก่อนนะคะ จะได้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตัวเมื่อใช้งานบัตรเครดิตจริงๆ ยังไงก็ระวังการใช้ดีๆค่ะ
โอโอ้
เห็นด้วยนะครับ ที่บทความนี้บอกว่า การใช้บัตรเครดิตอย่างมีสติและมีการวางแผนจะทำให้การใช้บัตรเครดิตของเราเกิดประโยชน์ ถ้าใช้แบบยั้งเอะอะรูดบัตรๆ อย่างนี้นะครับโอกาสชำระเงินคืนไม่ทันจะสูงมาก และในที่สุดก็เป็นหนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการเป็นหนี้มันน่าเครียดมากแค่ไหน ก่อนสมัครบัตรเครดิตมาใช้ต้องคิดให้ดีๆก่อนนะครับ
!บิสกิต!
"การมีบัตรเครดิตหลายใบนั้น ถือเป็นการเพิ่มโอกาสการเป็นหนี้สูงมากกว่ามีใบเพียงแค่ 1 – 2 ใบ" เห็นด้วยกับข้อความนี้ค่ะ ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งใช้เยอะจริงๆแหละค่ะ ใบนี้รูดเต็มแล้วก็หยิบอีกใบมารูด แล้วก็ใบต่อๆไป ถ้าจ่ายเงินคืนไม่ทันก็เป็นหนี้แน่นอน เคยอาจเจอบางคอมเมนต์บอกว่าเป็นหนี้บัตรเครดิตหลายใบ ไม่รู้สมัครมายังไงตั้งเยอะแยะ
KulanaTkk
ดูท่าจะจริงที่บทความนี้บอกว่า เงินเดือนออกปุ๊ปก็ต้องจ่ายหนี้บัตรเครดิต บางคนถึงขั้นเงินเดือนที่ได้ต่อเดือนไม่สามารถผ่อนชำระอะไรได้อีกแล้ว จนทำให้มีหนี้เต็มไปหมด หากมาถึงจุดนี้กันจริงนี่แย่เลยนะคะ เพราะในชีวิตประจำวันยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องใช้จ่าย เอาเงินมาจ่ายบัตรเครดิตอย่างเดียวไม่ได้ มันกระเทือนไปหมดเลยอะ