ถ้าคุณสนใจการลงทุนรูปแบบหุ้น แต่ถนัดกับกองทุนรวมมากกว่า หรือชอบการซื้อขายกันแบบ Real time เหมือนหุ้น แต่ก็อยากได้เครื่องมือการเงินที่กระจายความเสี่ยงได้แบบมีต้นทุนน้อยกว่า และอยากสร้าง พอร์ตการลงทุนแบบอ้างอิงราคาหรือผลตอบแทนได้ด้วย ก็แสดงว่า คุณเหมาะกับการลงทุนใน ETF แล้วล่ะค่ะ! วันนี้ เราจะพาคุณขยับเข้าไปใกล้ขึ้นอีก เพื่อจะได้คำตอบว่า ETFแตกต่างจากหุ้นและกองทุนรวมอย่างไร.. ดีอย่างไร.. และเราควรมีกลยุทธ์ในการลงทุนอย่างไรบ้าง มาวิเคราะห์ไปพร้อมกันสิค่ะ..
ETF คืออะไรดีอย่างไร
ETF หรือ Exchange Trade Fund จะพูดง่ายๆ ก็คือ กองทุนรวมดัชนีนี่ล่ะ และจัดเป็นกองทุนเปิดที่มีการจดทะเบียนแล้วในตลาดหลักทรัพย์ เราสามารถซื้อขายได้อย่างสะดวกเหมือนๆกับหุ้น แต่จะมีค่าใช้จ่านในการซื้อขายที่ต่ำกว่า ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า และมีการบริจัดการโดย บลจ.
แต่ถ้าเราอยากจะแยกให้ชัดไปเลยว่า ETF จะแตกต่างจากหุ้นและ กองทุนรวม อย่างไร ก็คือ เรื่องของราคาซื้อขาย ETF จะเหมือนๆกับหุ้นที่เราสามารถซื้อขายได้แบบ Real time แต่กองทุนรวมจะซื้อขายได้เฉพาะวันทำการ และมีต้นทุนที่สูงกว่า ETF ด้วย. ความแตกต่างต่อมา คือ เรื่องของผลตอบแทน หุ้นจะมีความเสี่ยงสูงที่เราอาจได้ได้ผลตอบแทนที่สูงตามมา แต่ ETF และกองทุนรวมจะเหมือนๆ กันคือเป็นสินทรัพย์ที่มีเสี่ยงต่ำ และผลตอบแทน ก็มีตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึงสูงที่ขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ด้วย
สำหรับการกระจายการลงทุน เมื่อเราลงทุนในหุ้น 1 ตัว จะไม่มีการกระจายการในสินทรัพย์นั้น แต่ ETF และกองทุนรวม เมื่อเรามีสินทรัพย์ 1 ประเภท ก็ยังการกระจายการลงทุนได้อยู่ เช่น ดัชนี SET50 ที่จะมีการลงทุนในหุ้น 50 ตัว เป็นต้น และ ETF ยังจัดเป็นการลงทุนแบบเชิงรับ หรือ passive fund เมื่อเราอยากได้ผลตอบแทนเคลื่อนไหวไปตามดัชนี แต่กองทุนรวมจะมีผลตอบแทนมากกว่าดัชนีอ้างอิง
ส่วนข้อดีจริงๆ ของ ETF กลับอยู่ที่ผู้ดูแลสภาพคล่อง เพราะด้วยจุดประสงค์ของ ETF ที่สามารถซื้อขายหรือเปลี่ยนมือกันได้อย่างสะดวก จึงมีผู้ช่วยดูแลสภาพคล่องกับเราเพื่อให้ราคาซื้อขายสอดคล้องกับการขึ้นลงของดัชนีอ้างอิงอยู่เสมอด้วย แต่ หุ้น และกองทุนรวม จะไม่มีผู้ดูแลสภาพคล่องแบบนี้ให้ ดังนั้น ETF จึงแตกต่างแม้จะมองว่าคล้ายกับหุ้นและกองทุนรวมค่ะ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ETF ต่างจากหุ้นและกองทุนยังไง ที่นี่
ประเภทและผลตอบแทนของกองทุน ETF
เมื่อราคาสินทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบในดัชนีอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่า ETF ก็จะมีราคาเปลี่ยนแปลงไปด้วย เราจึงต้องแยกประเภทของดัชนีอ้างอิง และสินทรัพย์ที่จะลงทุนใน ETF โดยทางตลาดหลักทรัพย์ก็ได้จำแนกออกมา เป็น 4 ประเภทหลักๆ ดังนี้:
ผลตอบแทนอ้างอิงจากดัชนีราคาหุ้นในประเทศ หรือ Equity ETF ที่จะแยกเป็นส่วนประกอบของดัชนีต่างๆ เช่น SET50, SET100, SETHigh Dividend, SET Energy&Utilities, SETBanking, SET Food&Beverge, SET Commerce และ SET ICT
ผลตอบแทนอ้างอิงจากดัชนีราคาหุ้นในต่างประเทศ / กลุ่มหุ้นต่างประเทศ หรือ Foreign ETF ที่จะเลือกลงทุนในประเทศจีน, ฮ่องกง, ญุี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา หรือ กลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา และ กลุ่มประเทศแถบยุโรป ในกองทุนต่างๆ
ผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาทองคำ หรือ Gold ETF ที่ลงทุนใน BCHAY, GLD, GOLD99, KG965 และ TGOLDETF
ผลตอบแทนอ้างอิงจากราคาตราสารหนี้ หรือ Bond ETF อย่าง ABFTH ที่ออกโดยรัฐบาลไทย มีภาครัฐหรือ สมาชิก EMEAP และ องค์กรระหว่างประเทศเป็นผู้ค้ำประกันให้
ส่วนในเรื่อง ผลตอบแทน ของ ETF นั้นจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ กำไรส่วนต่างของราคา หรือ Capital Gain และ เงินปันผล หรือ Dividend ที่เราจะได้มาจากราคาขายที่สูงกว่าตอนซื้อมา หรือเงินปันผลที่ผู้จัดการกองทุนจัดสรรมาให้หลังหักค่าใช้จ่ายของกองทุนแล้วนั่นเอง
กลยุทธ์ซื้อ ETF สำหรับมือใหม่
กลลุทธ์หลักของ ETF ก็คือ การลงทุนในเชิงอนุรักษ์ หรือ Passive Strategy ที่เราสามารถกระจายการลงทุนให้เป็นลักษณะเดียวกันกับสัดส่วนและน้ำหนักของหลักทรัพย์ได้แบบรายตัว ทำให้เกิดค่า Tracking Error น้อยที่สุดด้วย เราจึงไม่ต้องกังวลในตัวเลขของ ค่าบริหารจัดการ , การนำผลตอบแทนของกองทุนไปลงทุนต่อแบบยังไม่ได้จ่ายเงินปันผล หรือการปรับเปลี่ยนสัดส่วนในการเปลี่ยนแปลงหลักทรัพย์ที่นำมาใช้ในการคำนวณดัชนีอ้างอิงด้วย. เราจึงไม่ต้องเหนื่อยไปวิเคราะห์หุ้นในแบบรายตัวอีกแล้ว แค่ปล่อยให้ผู้ดูแลสภาพคล่องทำงานของเขาไป แล้วรอเปรียบเทียบราคากับมูลค่าทรัพย์สินได้ในระหว่างเวลาซื้อขายได้เลย ง่ายมากเลยใช้มั๊ยสำหรับมือใหม่ทุกคน!
ลงทุนความเสี่ยงต่ำด้วยการลงทุนเชิงรับอย่าง ETF ได้
เราคงจะเห็นคร่าวๆ ไปด้วยกันแล้วว่า ETF ก็จัดเป็นเครื่องมือด้านกองทุน ที่จะช่วยเราจัดสรรเงินเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเภทต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเหมาะกับนักลงทุนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นฝั่งนักลงทุนมือใหม่ ที่อาจจะใช้ ETF เป็นจุดเริ่มต้นในการลงทุน เพราะกระจายความเสี่ยงได้ดี ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก และมีมืออาชีพคอยดูแลสภาพคล่องให้ หรือจะเป็นนักลงทุนกลุ่มที่ต้องการผลตอบแทนในระยะยาว ก็ยังสามารถใช้ ETF เพื่อการรอรับเงินปันผลในอนาคตได้อีกเช่นกันค่ะ
จึงสรุปได้ว่า ด้วยทางเลือกในการลงทุนที่มีมากขึ้นในทุกวันนี้ เราก็สามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนแก่ตนเองได้ โดยการเลือกผลิตภัณฑ์การเงินที่รวมไว้ทั้งรูปแบบของหุ้นและกองหุ้นรวม อย่าง ETF ตั้งแต่วันนี้. แต่ถึงอย่างไร การศึกษาความเสี่ยงต่างๆ โดยอ่านหนังสือชี้ชวน และทำความเข้าใจในรายละเอียดของการลงทุนควบคู่ไปด้วยก็นับว่าฉลาดกว่าไม่ว่าเราจะลงทุนในยุคไหนๆ อยากได้ไอเดียในการซื้อ ETF สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง
Jinna
พอได้รู้จัก ETF แล้วนี่ร้องว้าวเลย คือเพิ่งรู้เลยว่ามีอะไรที่ดีกว่ากองทุนรวมอยู่ด้วย ต้องขอบคุณบทความนี้มากๆที่เอามาแชร์กัน ข้อดีของ ETF เมื่อเทียบกับกองทุนนี่เห็นได้ชัดเลยนะว่าดีกว่ายังไง ทั้งเรื่องของความเสี่ยงที่ ETF มีน้อยกว่า ต้นทุนที่ต่ำกว่า และอีกหลายๆอย่างเลย ไม่ผิดหวังที่คลิ๊กเข้ามาอ่านเลยค่ะ5555
โจอี้
ส่วนตัวผมไม่รู้จัก ETF กองทุน หรือหุ้นเลยครับ แต่พอมาอ่านบทความนี้เข้าใจได้ทันทีเลยว่ามันคืออะไร มันแตกต่างกันอย่างไร แต่อ่านดูแล้วเจ้า ETF ก็น่าลงทุนอยู่เหมือนกันครับ เพราะกระจายความเสี่ยงได้ดี ไม่ต้องลงทุนมาก หรืออยากจะลงทุนเพื่อต้องการรับผลตอบแทนในระยะยาวก็ทำได้ แถมมือใหม่ที่อยากจะลงทุนก็ทำได้ไม่ยากนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการลงทุนอื่นๆครับ
ไหมพรม
เพิ่งเคยเห็นชื่อนะคะกองทุนนี้ กองทุน ETF ทีแรกดูผ่านตาเร็วๆนึกว่า กองทุน ELLE 555 ตกใจเลย หากสามารถลงทุนด้วยเงินจำนวนไม่มากได้ก็ดีนะคะ ช่วงนี้อย่าว่าแต่เอาเงินมาลงทุนเลย เงินเก็บที่มีอยู่ก็เอาออกมาใช้จ่ายซื้ออาหารกินกันละ ว่าแต่มีคนดูแลทุนทีเราลงไปด้วยมันก็น่าสนใจดีนะ แต่ขอศึกษาเพิ่มเติมอีกสักหน่อย ไม่อยากเจ็บตัวเยอะค่ะ
กรณ์
เรื่องกองทุน อ่านยังไง ก็ยังงง เพื่อนที่เม้นกัน เก่งนะครับ อ่านแล้วเข้าใจเลย ว่าเป็นยังไง แต่ที่เราพอเข้าใจ อันนี้ตามที่เราเข้าใจนะ คือกองทุนนี้ จะมีคนมาดูแลจัดการแทนเราใช่ไหมครับ ถ้าเป็นแบบนี้ก็น่าสนนะครับ เพราะว่า เราไม่ต้องไปแบกความเสียงว่า จะทำอะไรพลาดตรงไหน แถม ถ้าเรายังขาย ก็ยังสามารถขายผ่านมือกันได้เลย
มิ๊กกี้
กองทุนรวม ETF เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการลงทุนสำหรับพนักงานเงินเดือน เพื่อที่จะสามารถช่วยให้ได้รับผลกำไร ในขณะที่ทำงานเก็บเงินไปด้วย บทความนี้ทำให้ฉันเห็นว่าวิธีที่จะช่วยให้เราสามารถได้รับผลกำไรจากกองทุนรวม ETF สามารถทำได้แม้ว่าเราจะเป็นมือใหม่ค่ะ มีตัวเลือกมากขึ้นในการลงทุนจากกองทุนรวมด้วย จะลองลงทุนดูนะคะ
เบรค
อันนี้คือ อยาก สอบถามเรื่องการลงทุนแบบนี้นะครับ คือว่า มีเพื่อนคนไหน คือเคยลงทุนกับการรวมทุนแบบนี้บ้างไหมครับ เราเริ่มชักจะสนใจขึ้นมาแล้วครับ แต่ อยากถามเพื่อความแน่ใจครับ ว่าการลงทุน แบบนี้มันน่าสนใจแบบที่บทความนี้บอกจริงๆไหมครับ ใครพอมีประสบการณ์เรื่องการลงทุนกับกองทุนรวมแบบนี้บ้างไหมครับ ยังไงผมขอประสบการณ์ด้วยนะครับ
บอย
กองทุนรวมดัชนีหรือETF หรือ Exchange Trade Fund เป็นการลงทุนหุ้นอีกแบบนึงที่จะช่วยให้เราสามารถลงทุนได้น้อยกว่าและได้รับผลตอบแทน สำหรับผมเองผมคิดว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่าหุ้นนะครับ เพราะว่าถึงแม้จะได้รับผลตอบแทนน้อยแต่การลงทุนของเราก็น้อยไปด้วยทำให้เรามีเงินเหลือี่ ที่จะไปทำอย่างอื่นและเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนครับ
ขวัญนลิน
เราไม่เคยลงทุนแบบนี้นะ แต่พอได้ยินมาบ้าง เหมือนกับที่บทความนี้บอกเลย ว่าเราไม่ต้องมาคอยลุ้น เรื่องการลงทุนของเราเหมือนเมื่อก่อน แถมเรายังมีเวลาไปทำอะไรอย่างอื่นเพิ่มได้อีกด้วย เราจำได้ว่าการลงทุนมื่อก่อนคนที่ลงทุนต้องอยู่แต่หน้าคอมฯทั้งวัน แต่เดียวนี้เปลี่ยนไปแล้ว เขามีตัวกลางในการลงทุนแทนเราแล้วละ หลายคนเลยชอบการลงทุนแบบนี้มากกว่า