พูดกันถึงเรื่องเงินๆทองๆถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆในปัจจุบัน ทุกคนวิ่งหาเงินกันเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต เงินกลายเป็นสิ่งที่เราทุกคนขาดกันไม่ได้ ซึ่งก็จะมีทั้งคนที่หาเงินเก่ง คนที่หาเงินไม่เก่ง มีคนที่หาเงินได้เยอะ และบางคนที่หาเงินได้น้อย เรียกว่าหาเช้ากินค่ำ แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่าคนที่หาเงินได้เยอะหาเงินเก่งเป็นคนที่บริหารจัดการเงินเป็นและประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องจริงที่ว่าบางคนหาเงินก็เก่งหาได้ทีก็ได้เยอะมากๆ แต่กลับไม่มีเงินเก็บเลย หรือก็คือเป็นคนที่ใช้เงินเก่งด้วยนั้นเอง แต่กลับกันที่บางคน หาเงินได้ก็ไม่ได้มากเท่าไร แต่กลับมีเงินเก็บมากกว่าคนที่หาเงินเก่ง และถ้าถามว่าทำไมนั้นหนะหรอ เพราะคนสองคนนี้มีความแตกต่างกันในเรื่องของการบริหารจัดการเงินยังไงล่ะครับ
คนที่หาเงินไม่ได้ไม่มากแต่เขากลับมีเงินเก็บนั้นเพราะเขารู้จักวิธีการบริหารจัดการเงินได้เป็นอย่างดี ถ้าเพื่อนๆจะลองมองไปที่รอบๆตัวเพื่อนๆดูนะครับ เพื่อนๆจะเห็นว่าคนที่บริหารจัดการเงินไม่เป็นนั้นมีความสามารถพิเศษอยู่อย่างหนึ่งเลยก็คือ เขาเหล่านั้นสามารถขยับรายจ่ายของตัวเองในแต่ละเดือนให้มีเท่ากับรายรับได้หรือในบางคนอาจจะมีมากกว่าด้วยซ้ำจนทำให้เป็นหนี้ ซึ่งในบทความนี้ ผมก็จะมาแนะนำวิธีการบริหารจัดการเงินเพื่อที่เพื่อนๆจะได้กลายเป็นคนที่มีเงินเก็บเงินออมกัน ให้เพื่อนๆมาดูกันเลยครับว่าคนที่เขาบริหารจัดการเงินเป็นจนมีเงินเก็บได้นั้นเขาทำกันได้ยังไง
เริ่มด้วยการสร้างนิสัยเพื่อให้มีวินัยในการออม
ตามหัวข้อเลยครับ อันดับแรกเลยก่อนจะไปดูว่าพวกเขาเหล่านั้นที่บริหารจัดการเงินจนมีเงินออมเขาทำกันอย่างไรให้มีเงินออม ก็ต้องไปรู้ถึงนิสัยกันก่อนว่าต้องมีนิสัยอย่างไรถึงจะมีเงินออม โดยถ้าเพื่อนๆอยากที่จะมีเงินออมตามที่คนบริหารจัดการเงินเป็นเพื่อนๆก็จะต้องเริ่มจากการสร้างนิสัยเพื่อให้มีวินัยในการออมก่อน โดยนิสัยในการออมก็จะมีอยู่ 3 นิสัยด้วยกัน ได้แก่
อย่างแรก คือ คิดถึงการออมเงินก่อนการใช้เงิน โดยปกติแล้วคนเราเมื่อหาเงินมาได้ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนหรือเงินรายวันรายสัปดาห์ คนเรามักจะคิดก่อนว่าจะต้องนำเอาเงินนั้นไปใช้อะไรบ้างจะต้องเอาไปจ่ายค่าอะไรบ้างแล้วถึงค่อยมาคิดถึงเงินที่เหลือว่าจะนำเอามาออมเท่าไร ซึ่งนี้ต้องยอมรับเลยว่าเป็นนิสัยของคนทั่วไปครับ แต่กลับกันคนที่บริหารจัดการเงินเป็นจนมีเงินออมนั้นเขาจะทำการคิดถึงจำนวนของเงินที่เขาจะออมก่อน
เมื่อพวกเขาได้รับเงินมาสักหนึ่งก้อน ไม่ว่าจะเป็นเงินรายเดือน รายวัน หรือรายสัปดาห์ เข้าจะเอาเงินนั้นแบ่งไปออมก่อนตามจำนวนที่ได้ตั้งเป้าเอาไว้ในแต่ละเดือน แต่ละวัน หรือแต่ละสัปดาห์ แล้วเมื่อแบ่งเงินออมไว้แล้วเงินที่เหลือจากนั้นเขาถึงจะนำมาคิดต่อว่าจะต้องใช้จ่ายกับอะไรบ้างนั้นเอง นี้คือนิสัยอย่างแรกของคนบริหารจัดการเงินเป็นจนมีเงินออม มาดูต่อกันที่นิสัยอย่างที่สอง คือ ไม่หักโหมจนเกินไปค่อยๆทำไปทีละนิดทีละหน่อย พอพูดถึงการออมเงินถ้าคนเหล่านั้นเพิ่งจะเริ่มออมเงินเขาจะไปคิดถึงจำนวนเงินออมที่มากเกินกำลังของพวกเขา ซึ่งหลังจากที่ได้ตัดสินใจออมเงินพวกเขาก็จะรู้สึกอึดอัดไปกับการออมเงินและไม่สามารถทำได้อย่างยั่งยืนและล้มเลิกไปในที่สุด แต่ถ้าเพื่อนๆมีนิสัยอย่างที่สอง เพื่อนๆก็จะสามารถออมเงินได้อย่างยั่งยืนและประสบความสำเร็จไปกับการออมเงิน โดยนิสัยอย่างที่สองจะทำให้เพื่อนๆเริ่มออมเงินจากจำนวนที่ไม่ได้มากจนเกินไป
ยกตัวอย่างเช่น เริ่มจาก 10% ของเงินที่หามาได้ พอเริ่มชินก็ปรับเพิ่มเป็น 15% และเพิ่มขึ้นเรื่อยจนเพื่อนๆคิดว่าพอใจแล้วกับจำนวนเงินออมขนาดนี้ แต่ถ้าเป็นสำหรับเพื่อนๆที่ยังคิดว่า 10% จากเงินที่หามาได้มันยังคงดูเยอะ ยากที่จะทำได้เพราะด้วยภาระหนี้สินอย่าเพิ่งถอดใจนะครับ ให้เริ่มที่ 500 บาทต่อเดือนก็ได้นะครับ แล้วพอเริ่มชินแล้วค่อยปรับขึ้นไปเรื่อยๆก็ได้เช่นกันนะครับ แล้วเพื่อนๆจะประสบความสำเร็จกับการออมเงิน และนิสัยสุดท้ายนิสัยอย่างที่สาม นิสัยนี้บอกได้เลยว่าเป็นปัจจัยสำคัญมากๆในการออมเงิน คือ ความสม่ำเสมอ
ช่แล้วครับ เมื่อเพื่อนๆเริ่มการออมเงินเพื่อนๆจะต้องทำการออมเงินอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรทำแล้วหยุด แล้วทำ แล้วหยุด แล้วทำ ถ้าตัดสินใจทำแล้วควรที่จะทำไปแบบยาวๆ และผมก็คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไรกับการออมเงินถ้าเริ่มฝึกให้มีนิสัยอย่างที่บอกได้ เพราะที่บอกไปแล้วว่านิสัยอย่างที่หนึ่งและสอง ถ้าเพื่อนๆทำตามได้เพื่อนๆจะทำการออมได้อย่าสม่ำเสมอแล้วล่ะครับ
วิธีการออม ที่ได้ผล
หลังจากที่เพื่อนๆเริ่มทำตามหัวข้อก่อนหน้านี้ไปแล้วเพื่อนๆก็จะมองเรื่องของการออมเงินเป็นเรื่องง่ายแล้วล่ะครับ เพราะเพื่อนๆมีนิสัยของคนที่มีเงินออมแล้วไงล่ะครับ ซึ่งต่อมาผมก็จะมาพูดถึงวิธีการกันล่ะครับ ซึ่งจริงๆแล้ววิธีการการออมเงินที่ได้ผลนั้นก็มีหลายวิธีการ โดยมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนของเงินออม ระยะเวลาของการออม เป้าหมายในการออม ช่องทางการออม และ รายรับของเพื่อนๆเอง เป็นต้น และถ้าจะให้ผมบอกเพื่อนๆอย่างละเอียดถึงวิธีการต่างๆโดยที่ให้เจาะลึกข้อมูลด้วยแล้วนั้น บทความนี้ก็คงจะยาวเอามากๆ แต่ในเมื่อเพื่อนๆเข้ามาอ่านบทความนี้แล้วเพื่อนๆเองก็คงต้องการอยากจะรู้เรื่องของวิธีการออมเงิน เพราะฉะนั้นผมก็จะบอกวิธีการง่ายๆที่เพื่อนๆจะสามารถนำไปทำตามได้นะครับ โดยจากหัวข้อที่แล้วผมได้บอกไปว่านิสัยการออมอย่างที่สอง
คือ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปกับการออมเงินใช่ไหมครับ ซึ่งผมได้บอกว่า ถ้าเพื่อนๆเก็บเงินอย่างต่ำ 10% ไม่ไหว อย่างน้อยขอให้เก็บเงินให้ได้เดือนละ 500 บาทก็ยังดี ซึ่งตรงนี้ถ้าเพื่อนๆเก็บ เดือนละ 500 บาท เป็นประจำกับกองทุนรวม เพื่อนๆก็จะสามารถมีเงินก้อนและสร้างความมั่นคงได้ด้วยนะครับในอนาคต แถมยังไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย ถ้าเพื่อนๆมีการลงทุนในกองทุนรวม โดยผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนรวมจะอยู่ที่ประมาณ 5% ต่อปี เพื่อนๆลองคิดดูนะครับ ว่าออมทุกเดือนเป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อนๆจะมีเงิน 34,003 บาท 10 ปี มีเงิน 77,642 บาท 15 ปี มีเงิน 133,645 บาท คิดดูนะครับนั้นแค่เดือนละ 500 อย่างสม่ำเสมอนะครับในกองทุนรวมจะทำให้เพื่อนๆมีเงินแสนได้ และอีกวิธีปิดท้ายละกันนะครับ
เป็นวิธีการแบ่งสัดส่วนเงินซึ่งสำหรับเพื่อนๆที่ยังตัดสินใจแบ่งสัดส่วนเงินไม่ได้ทีสามารถเอาไปทำตามได้นะครับ โดยให้แบ่งเงินเดือน ออกเป็น 3 ส่วน ด้วยกัน ได้แก่ เงินออม ค่าใช้จ่ายส่วนตัว และรายจ่ายประจำ โดยแต่ละส่วนก็จะถูกแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์จาก 100% ของรายรับต่อเดือน โดยให้สัดส่วนของรายจ่ายประจำมากที่สุดใน 3 ส่วน ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายส่วนตัว และตบท้ายด้วยเงินออม ซี่งเพื่อนๆจะแบ่งเปอร์เซ็นต์อย่างไรก็ได้ตามความเหมาะสม อาจะเป็น รายจ่ายประจำ 50% ใช้จ่ายส่วนตัว 30% เงินออม 20% หรือบางคนมีหนี้เยอะ อาจจะ แบ่งเป็น 70% 20% 10% ก็ได้ แต่ที่สำคัญคือทุกเดือนต้องแบ่งให้ครบทั้ง 3 ส่วน จะบอกว่าเดือนนี้รายจ่ายเยอะไม่มีพอในส่วนของเงินออมไม่ได้เด็ดขาดนะครับ เงินออมเป็นส่วนสำคัญห้ามละเลย
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สูตรเก็บเงินฉบับมนุษย์เงินเดือน ที่นี่
ควมมั่นคงในชีวิต เริ่มสร้างได้ด้วยการรู้จักบริหารจัดการเงินให้เป็น
อยากมีความมั่งคงในชีวิต ต้องรู้จักการบริหารจัดการเงิน ซึ่งไม่ใช่การบริหารจัดการเงินแบบทั่วๆไป แต่ต้องรู้จักรู้ลึกต้องเข้าใจมันจริงๆ ซึ่งการบริหารจัดการเงินก็จะประกอบเป็นด้วย 3 เรื่องหลักๆ คือ เรื่องของการ ออมเงิน วิธีการออมเงิน และ วิธีการใช้เงิน ซึ่งถ้าทั้ง 3 องค์ประกอบมารวมตัวกัน และเพื่อนๆสามารถบริหารทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ได้ดี ก็จะเท่ากับเพื่อนๆเป็นคนที่บริหารจัดการเงินเป็นแล้วล่ะครับ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บริหารเงินอย่างฉลาดตามแบบฉบับของผู้หญิง ที่นี่
ซึ่งในบทความนี้ผมก็ได้บอกถึงวิธีง่ายๆที่เพื่อนๆจะสามารถทำตามได้และนำไปใช้ได้จริงๆเกี่ยวกับทั้ง 3 องค์ประกอบไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนิสัยการออม วิธีการออม และสุดท้ายคือ วิธีการใช้เงิน ซึ่งก็เป็นวิธีง่ายๆอีกเหมือนกันคือให้แบ่งเงินออกเป็นสัดส่วน และให้แต่ละส่วนใช้กี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจจะบอกละเอียดไม่ได้ว่าต้องแบ่งเป็นกี่เปอร์เซ็นต์เพราะแต่ละคนสภาพการณ์ไม่เหมือนกัน แต่ก็ถือว่าผมได้นำความรู้ของทั้งสามองค์ประกอบในการบริหารจัดการเงินที่ทำตามได้ง่ายๆและเห็นผลจริงมาฝากเพื่อนๆครบแล้ว ที่เหลือก็แค่ให้เพื่อนๆลงมือทำตาม และเพื่อนๆจะกลายเป็นคนที่บริหารจัดการเงินเป็นและกลายเป็นคนที่มีเงินออมได้อย่างแน่นอนครับ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญจาก MoneyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง
จุฑา
นิสัยการออมนี่ถือเป็นสิ่งที่สำคัญเลยนะ เราฝึกลูกตั้งแต่เล็กๆเลยว่าให้ออมเงินทุกวันนะลูก จนตอนนี้ลูกโตมาอายุ 11 ขวบแล้วยังติดใจการออมอยู่เลย ฝึกเค้าตั้งแต่ยังเล็กๆนี่มันได้ผลจริงๆ หากเราจะเริ่มออมได้ต้องสร้างนิสัยการออมก่อนอันนี้เห็นด้วยอย่างมากเลย ไม่เพียงแค่ลูกเท่านั้น แม่ก็ต้องออมด้วย คนเป็นแม่จะเก็บเงินแพ้ลูกแล้ว555
ข้าวสวย
บทความนี้เป็นประโยชน์มากเลยค่ะทำให้ได้รู้จักการสร้างนิสัยเพื่อให้มีวินัยในการออมเงิน ได้รู้จักวิธีการบริหารเงินเป็นจนมีเงินเก็บ เราคิดว่าการออมเงินแบบนี้มีประโยชน์หลายอย่างมากเพราะทำให้เราได้รู้จักใช้จ่ายเงินอย่างประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย ทำให้ได้คิดก่อนว่าอะไรควรซื้ออะไรไม่ควรซื้อ ซึ่งการทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆจะทำให้เรามีเงินไว้เหลือใช้ในยามลำบากค่ะ
รวีวรรณ
มันอยู่ที่นิสัยส่วนตัวของแต่ละคนนะคะ อยากมีเงินออมก็ต้องฝึกตัวเองให้เป็นคนใช้จ่ายอย่างมีระเบียบวินัย มีการวางแผนที่ดีและต้องทำตามที่วางแผนได้ด้วย หากห้ามใจตัวเองไม่ได้ ซื้อทุกอย่างที่อยากได้ก็จบค่ะ ไม่มีใครห้ามหรือช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ เหมือนคนที่อยากลดน้ำหนักแต่ก็กินแต่ของที่เพิ่มน้ำหนักเพราะห้ามใจตัวเองไม่ได้แล้วมันจะลดมั้ยอะ
กฐิน
ใช่เลย คนเราเป็นแบบที่บอกจริงๆคะ คืออาจจะทุกคนเลยก็ว่าได้ คิดว่า " ได้เงินมาแล้วก็ ต้องนำเอาเงินนั้นไปใช้อะไรบ้างจะต้องเอาไปจ่ายค่าอะไรบ้างแล้วเหลือเท่าไรค่อยเก็บ" เป็นแบบนี้จริงๆคะ เรายังคิดแบบนี้เลย แต่ อ่านแล้วต้องเปลี่ยนความคิดแล้วละ เรื่องการออมเงิน ก่อนเลย 10% ตั้งแต่ที่ได้เงินมาเข้าท่าดีนะ หักไปเลย
กูเกิล
การที่เราจะออมเงินได้ หรือไม่ได้ มันอยู่ที่นิสัยการ ใช้เงินของเราจริงๆเลยคะ เราเคยทดลอง ดูนะคะ เราใช้เงินเงินไปกับสิ่งที่เราอยากได้ อยู่ช่วงเวลาหนึ่งคะ เรา ทดสอบดูคะว่าภายในสองเดือน ถ้าเราทำแบบนี้เราจะมีเงินเก็บไหม ผลออกมาคือ เอาเงินเก่าออกมาใช้ด้วยคะ เราเลยหันมาเปลี่ยนการใช้เงินดูบ้าง จัดเป็นส่วนๆตามที่บอก เชื่อไหมคะ สองเดือนเราไม่เงินเก็บแล้วคะ เอาใจช่วยคนที่อยากออมเงินนะคะ
พาสต้า
การเปิดบัญชีเงินฝากประจำสามารถช่วยให้มีเงินเก็บในทุกๆเดือนด้วยนะคะ นอกจากนั้นยังช่วยให้มีวินัยในการออมเงินด้วยเพราะเราจะถูกบังคับให้นำเงินมาฝากกับทางธนาคารทุกๆเดือน และยังได้ดอกเบี้ยจากการฝากอีก แต่มีข้อแม้ว่าถ้าถอนเงินออกก่อนระยะเวลาที่กำหนดจะไม่ได้รับดอกเบี้ยอัตราพิเศษค่ะ เป็นไงคะ เข้าท่าดีใช่มั้ยคะ
บุญ
น่าสนใจนะครับสำหรับวิธีคิดของคนที่เอาเงินเป็นเพราะเขามีวิธีที่จะสามารถใช้งานได้จริงโดยที่เราคิดไม่ถึงเมื่อก่อน แน่นอนว่าสภาพการณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันถ้าเราเอาวิธีส่งเข้ามาใช้กับเราอาจจะไม่ได้ผลก็ได้ ดังนั้นเราสามารถฟังประสบการณ์ของเขาแล้วเอามาปรับใช้กับชีวิตของเราตามสภาพการเป็นจริง ก็จะช่วยให้เรามีเงินเก็บออมได้เหมือนกันครับ
มนัสนันท์
หลายคนอาจมองว่าการออมเงินเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ยิ่งช่วงนี้ด้วยคงยากเป็นอีกเท่าตัว แต่ทราบไหมคะ ที่จริงเราสามารถทำได้คะ ยิ่งช่วงนี้เราคิดว่าดีที่สุดที่จะวางแผนเรื่องการออม เนื่องจากตอนนี้เราทุกคนก็ต้องใช่จ่ายน้อยลงอยู่แล้ว เลยเป็นโอกาสที่ดีที่จะมองว่า อะไรคือสิ่งจำเป็นในการใช้จ่ายของเราจริง การตรวจสอบแบบนี้จะช่วยเรามองออกว่าจะออมเงินยังไง จากสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้แล้ว