หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังมีความคิดอยากจะออกรถมาใช้สักคัน วันนี้เราลองมาสำรวจตัวเองกันหน่อยดีไหมคะว่าจะมีสิ่งใดบ้างที่เราควรจะต้องรู้ไว้ก่อนที่คิดจะซื้อรถ เพื่อให้การออกรถคันใหม่ของคุณเป็นรถที่คุ้มค่ากับเงินทุกเม็ดที่ได้จ่ายไปและสามารถนำพาคุณและครอบครัวให้เกิดความสะดวกสบายในชีวิตมากขึ้นอย่างแท้จริง ตามมาดูกันค่ะว่าจะมีอะไรบ้างที่คุณเองต้องรู้ก่อนจะซื้อรถคันใหม่
รู้ถึงความจำเป็นก่อนการซื้อรถ
สิ่งสำคัญอันดับแรกเลยก่อนที่เราคิดอยากจะมีรถใหม่สักคันนั่นคือความจำเป็นค่ะ หลายๆคนอาจมองข้ามถึงข้อนี้ไปกันเลยนะคะ ซึ่งจริงๆเรื่องนี้แล้วนับว่าเป็นอันดับแรกที่เป็นสิ่งสำคัญที่เรานั้นควรคำนึงถึงค่ะ เพราะรถนั้นไม่ควรจะตัดสินใจซื้อเพราะแค่อยากมีอยากได้ อวดความโก้หรูดูดีในสังคม เพราะนอกจากจะเป็นการใช้เงินแบบที่คุณค่าไม่รู้ค่าแล้ว ยังสร้างเรื่องปวดหัวอีกมากมายให้กับคุณเลยทีเดียวค่ะ เพราะนอกจากคุณจะต้องรับภาระค่างวดในแต่ละเดือนแล้ว คุณเองก็ยังจะมีค่าใช้จ่ายต่างๆที่ตามมาหลังการซื้ออีกมากมาย ถึงแม้ว่าคุณซื้อมาแล้วจะใช้งานหรือจอดทิ้งเฉยๆไว้ก็ตามค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายต่างๆจะมีอะไรกันบ้างนั้น เดี๋ยวจะอธิบายให้ได้ทราบกันในหัวข้อถัดๆไปค่ะ อีกปัญหาของอีกหลายๆคนซึ่งคุณเองอาจจะได้เป็นหนึ่งในนั้นหลังจากซื้อรถมาแล้วคงหนีไม่พ้นเรื่องของที่จอดรถค่ะ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน หรือที่บ้านหากคุณหากไม่เคลียร์พื้นที่ไว้รองรับตัวคุณเองคงจะต้องไมเกรนขึ้นแน่นอนค่ะ
เห็นไหมคะว่าการตัดสินใจออกรถคันใหม่ มีอะไรที่ตามมาอย่างมากมาย ซี่งนี่เป็นข้อแรกที่คุณต้องรู้ไว้ เพราะหากคุณไม่สำรวจตัวเองให้ดี ไม่นึกถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้ก่อนการตัดสินใจซื้อ แน่นอนว่าคุณจะต้องมีแต่เรื่องเสียมากกว่าที่จะได้ใช้ประโยชน์จากมันค่ะ แต่หากความจำเป็นของคุณมากพอ ไม่ว่าจะด้วยอาชีพ ระยะทางของการเดินทาง หรือค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่แพงมาก สิ่งที่กล่าวมานั้นมันก็คงจะมองข้ามไปได้อย่างไม่ยากเย็นเพราะความจำเป็นมันสูงกว่าค่ะ คราวนี้เราลองตามมาดูข้อถัดไปที่ควรรู้ก่อนการจะซื้อรถกันค่ะ
รู้ถึงสถานะการเงินตัวเองในตอนนี้
เมื่อเราได้สำรวจถึงความจำเป็นก่อนการออกรถกันไปแล้ว สิ่งต่อมาที่ต้องสำรวจและสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลยนั่นคือเงินในกระเป๋าค่ะ เพราะหากคุณไม่สำรวจเงินในกระเป๋า คุณก็จะไม่สามารถทราบได้ถึงสถานะทางการเงินของตัวเองได้เลยค่ะว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการที่จะตัดสินใจคิดซื้อรถสักคัน และหากคุณใช้เพียงแค่ความรู้สึกส่วนตัว ความอยากมีอยากได้เพียงแค่นี้ในการตัดสินใจซื้อรถ แน่นอนเลยค่ะว่าสถานะการเงินของคุณหลังจากนี้ต้องล่มสลายเป็นแน่ ยิ่งถ้าการตัดสินใจซื้อนั้นคุณเลือกใช้วิธีการผ่อนค่างวดกับทางไฟแนนซ์ด้วยแล้ว สิ่งที่คุณเองจะต้องเจอแบบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ก็คือ ความเครียด ความทุกข์ตลอดระยะเวลาการผ่อนรถ หรือถ้าร้ายแรงกว่านั้นคุณอาจหมดเงินที่เสียไป รถที่ซื้อมาก็หายไป ต้องเสียเวลาไปขึ้นศาล แถมยังต้องเป็นหนี้และต้องตามจ่ายส่วนที่เหลือจนครบเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงจำเป็นที่คุณจะต้องสำรวจให้รอบคอบว่าสถานะทางการเงินมีความพร้อมไหมก่อนการตัดสินใจจะซื้อรถค่ะ
เครื่องมือที่เราอาจนำมาใช้เป็นตัวช่วยเพื่อใช้ในการยืนยันสถานะการเงินของตัวเองในที่นี้ที่อยากจะขอแนะนำนั่นคือ สมุดบัญชีรายรับรายจ่ายค่ะ ลองเปิดสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายย้อนหลังไปไม่ต่ำกว่า 6 เดือนแล้วลองสรุปดูค่ะว่า ในแต่ละเดือนนั้นคุณเองมีเงินเหลือเก็บได้ทุกเดือนไหม หากคำตอบคือใช่ นั้นคือคุณมีสภาพคล่องทางการเงินที่ผ่านในระดับหนึ่งแล้วค่ะ หากคำตอบคือไม่ใช่ก็ลองดูว่าคุณหมดเงินไปกับเรื่องอะไร ถ้าสิ่งๆนั้นคำตอบคือจ่ายหนี้สินนั้นแสดงว่าคุณมีหนี้สินที่ต้องจ่ายเกิน 30%ของรายได้ต่อเดือนอย่างแน่นอน นั่นแปลได้ว่าสถานะทางการเงินของคุณในปัจจุบันยังไม่พร้อมที่จะคิดซื้อรถใหม่ค่ะ คุณควรชะลอความคิดเรื่องการซื้อรถใหม่ออกไปก่อน รอให้สภาพทางการเงินของคุณเกิดสภาพคล่องที่มากขึ้นแล้วค่อยมาคิดกันใหม่ก็ไม่ยังสายหรอกค่ะ
รู้ถึงค่าใช้จ่ายต่างๆหลังซื้อรถ
ทราบไหมคะว่าหลายๆคนมักจะมองข้ามค่าใช้จ่ายต่างๆหลังซื้อรถกันไปเลย เพราะส่วนใหญ่จะไปเล็งกันถึงความจำเป็นและเงินในกระเป๋ากันซะมากกว่า ซึ่งความจริงการจะซื้อรถสักคันในเรื่องของค่าใช้จ่ายนั้นมันไม่ได้จบแค่การมีค่างวดต่อเดือนมาชำระค่ะ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่จะคงอยู่ตลอดไปตราบที่รถคันที่ซื้อยังอยู่กับคุณเลยล่ะค่ะ ถึงตอนนี้คงพอจะเดาออกคร่าวๆกันแล้วใช่ไหมคะว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่คุณเองมองข้ามไป
ค่าใช้จ่ายต่างๆที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น อาทิ ค่าประกันรถยนต์ พรบ. ค่าต่อทะเบียน ต่อภาษี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ เช่น ค่าอะไหล่ น้ำมันเครื่อง ยางรถที่ต้องเปลี่ยนตามกำหนด ค่าแรงช่าง ฯลฯ นี่ยังไม่ได้รวมไปถึงค่าน้ำมันที่เติมๆกันนั้นมีราคาแพงขึ้นทุกวัน ไหนจะค่าที่จอดรถหากเราไม่มีเนื้อที่ให้จอด และอีกหลายๆอย่างที่ยังกล่าวถึงได้ไม่หมดค่ะ และที่แย่กว่านั้นก็คือ ค่าใช้จ่ายต่างๆหลังจากที่ซื้อรถมานั้นคุณจะต้องควักกระเป๋าออกมาจ่ายไม่ว่าคุณจะใช้รถเยอะ ใช้รถน้อย หรือแม้แต่จะจอดรถทิ้งไว้เฉยๆก็ตามค่ะ เห็นไหมคะว่าจะออกรถนั้นต้องสำรวจและคิดให้รอบคอบก่อนจริงๆค่ะ
รู้ถึงค่าเสื่อมราคาของรถ
เพื่อนๆคงจะทราบกันดีใช่ไหมคะว่ารถยนต์นับเป็นสินทรัพย์ที่ซื้อแล้วมีแต่ขาดทุน ไม่เหมือนกับเราควักเงินเพื่อซื้อทองคำที่ราคามีแต่ขึ้น หรือซื้อบ้าน ที่ดินมาเป็นของเราสักแห่ง ที่มูลค่าของมันนั้นมีแต่จะขยับราคาขึ้นไปตามระยะเวลา ยิ่งนานยิ่งได้ราคาดี ซึ่งสวนทางกับการที่เราซื้อรถอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ เพราะมันขาดทุนตั้งแต่คุณขับออกมาจากโชว์รูมแล้วล่ะค่ะ และยิ่งครอบครองไว้นานราคาก็ยิ่งตกลงตามระยะเวลาที่ผ่านไป สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เราเรียกกันว่า “ค่าเสื่อมราคาของรถ” ค่ะ เป็นสิ่งที่แทบทุกคนนั้นไม่เคยเก็บมาคิดพิจารณาก่อนจะตัดสินใจซื้อรถกันเลย เดี๋ยวเราตามมาดูกันต่อค่ะว่าทำไมค่าเสื่อมราคาของรถนี้จึงควรเอามาเป็นข้อที่ควรจะต้องรู้ไว้ก่อนตัดสินใจซื้อรถ
ขอยกตัวอย่างให้เพื่อนๆได้เห็นภาพกันชัดเจนมากขึ้นนะคะ สมมุติว่าเราตัดสินใจซื้อรถยนต์มาคันหนึ่งในราคา 850,000 บาท และตั้งใจจะว่าใช้คันนี้ไปอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งราคาขายในอนาคตนั้นอยู่ที่ 200,000 บาท (เป็นตัวเลขที่เราสามารถคำนวณหาข้อมูลได้จากการซื้อขายรถมือสองค่ะ) ค่าเสื่อมราคาก็จะเท่ากับ (850,000 – 200,000)/10 = 65,000 ต่อปี จึงเท่ากับว่ารถที่เราซื้อมานี้มีค่าเสื่อมราคาต่อเดือน 5,4xx บาท หรือพูดกันง่ายๆก็คือหลังจากที่ซื้อรถมูลค่าของมันหายไป 5,4xx ต่อเดือนนั่นเอง โดยที่ไม่สนว่ารถคุณจะนำมาใช้หรือไม่ใช้ก็ตาม ในส่วนนี้หากคุณรับได้และคำนวณมาดีแล้วว่าการออกรถครั้งนี้ของคุณนั้นยังคงคุ้มค่าอยู่ก็สามารถที่จะปล่อยผ่านไปได้ค่ะ คราวนี้เรามาถึงหัวข้อสุดท้ายกันแล้วว่ายังมีอะไรอีกที่เราควรจะต้องรู้ไว้ก่อนที่จะออกรถ
รู้ถึงวิธีและทางเลือกในการซื้อรถ
เมื่อเราได้พิจารณาผ่านด่านกันมาถึง 4 หัวข้อที่ต้องรู้ก่อนการออกรถแล้ว หากคำตอบที่ผ่านมาของคุณนั้นคือผ่านหมด หัวข้อนี้ก็จะเป็นด่านสุดท้ายที่คุณจำเป็นต้องรู้ไว้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อรถครั้งนี้ค่ะ นั่นคือ “ทางเลือกในการซื้อรถ” แน่นอนว่าหากคุณเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ทำงานประจำเหมือนคนทั่วๆไป และสร้างทุกสิ่งจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง การซื้อรถในครั้งนี้นั้นคงหนีไม่พ้นการผ่อนกับไฟแนนซ์ใช่ไหมคะ แล้วทางเลือกในการซื้อคืออะไรล่ะ?
ทางเลือกที่เราจะพูดถึงนี้คือการเลือกไฟแนนซ์ที่เราจะไปสร้างหนี้กับเขาค่ะ สิ่งที่เราควรต้องดูคือเรื่องของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งแต่ละที่ไม่เหมือนกัน แต่แค่ใกล้เคียงกัน คุณควรเช็คให้ดีก่อนคิดจะออกรถ ดูโปรโมชั่นของแต่ละไฟแนนซ์ว่ามีดีอย่างไร หลังจากนั้นเอามานั่งคำนวณต่อที่บ้านก่อนค่ะ ว่าของที่ไหนคุ้มกับเราสุดๆและเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด โดยทั่วไปอัตราของไฟแนนซ์ในปัจจุบันนั้นจะอยู่ที่ 5% หากคุณคิดจะออกรถราคา 850,000 บาท วางเงินดาวน์ไปสัก 250,000 บาทยอดกู้จะเท่ากับ 600,000 บาท ระยะเวลาผ่อน 5 ปี กับอัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ก็จะเท่ากับ 600,000 × 5% = 30,000 ต่อปีคูณด้วย 5 ปี จะเท่ากับว่าคุณเสียดอกเบี้ยในการออกรถคันนี้เท่ากับ 150,000 บาท ยอดกู้ทั้งหมดจึงเท่ากับ 600,000 + 150,000 = 750,000 คิดออกมาเป็นรายปีคือต้องจ่ายปีละ 150,000 บาท หรือ 12,500 บาทต่อเดือน ซึ่งสิ่งนี้คุณต้องมาใช้คำนวณเปรียบเทียบกับไฟแนนซ์ที่อื่นๆเพื่อหาทางเลือก และหาดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดนั่นเองค่ะ
หากทุกที่ตัวเลขคิดออกมาแล้วล้วนใกล้เคียงกันหมด คุณอาจต้องคิดตัวเลือกใหม่ เช่นหากคุณพอมีเงินเก็บอยู่บ้างก็ใช้วิธีการอัดเงินดาวน์ให้สูง เพื่อให้ยอดกู้นั้นน้อยลง และเลือกผ่อนในระยะเวลาที่สั้นลงก็นับว่าเป็นตัวเป็นเลือกที่ดีอีกทางที่ช่วยลดภาระเรื่องดอกเบี้ยที่น่าสนใจ แต่หากคุณไม่ได้มีเงินก้อนสำรองไว้มากมาย แต่คิดคำนวณออกมาดีแล้ว และมีความจำเป็นที่ต้องการจะต้องมีรถจริงๆนั้น ทางเลือกของการดาวน์ต่ำ แล้วผ่อนนานๆ อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ เพราะถึงแม้ว่าจะเสียดอกเบี้ยให้ไฟแนนซ์ไปอย่างมากมาย แต่มันก็ช่วยให้คุณมีสภาพคล่องทางการเงินดีขึ้น และยังช่วยให้คุณได้ใช้ประโยชน์จากรถอย่างคุ้มค่าในการตัดสินใจซื้อรถครั้งนี้ค่ะ
คิดมาดีแล้วถึงเวลาก็ลุยได้เลย
เป็นไงกันบ้างคะกับ 5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนคิดจะออกรถ บางคนนั้นอาจได้รู้และได้คิดกันแค่เพียงบางข้อ หรือบางคนอาจคิดกันมาแล้วในหลายข้อแต่อาจยังมีข้อที่ยังตกหล่นอยู่ ไม่ว่าจะน้อยหรือมากข้อก็ตามนับว่าเป็นการดีค่ะที่คุณได้มีการคิดมาก่อนที่จะตัดสินใจในการซื้อรถ ซึ่งก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าตัวคุณเองตัดสินใจซื้อด้วยเหตุผลไม่ใช่ด้วยอารมณ์นั่นเอง
ติดตามกันมาถึงตรงนี้ บางท่านอาจมีคำตอบในใจกันแล้วใช่ไหมคะว่าจะซื้อ แต่ในขณะที่บางท่านอาจจะติดกับบางสิ่ง บางข้อ หรืออาจถึงต้องม้วนเสื่อเก็บกลับไปคิดทบทวนแล้วค่อยเริ่มคิดใหม่อีกทีในอนาคต ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดี เพราะการจะทำอะไรก็ควรคิดวางแผนให้ดีมาก่อนค่ะ เพื่อที่เราจะไม่ต้องมาจมทุกข์กันทีหลัง การจะมีรถสักคันก็เช่นกันค่ะ หากวางแผนมาดี คิดรอบคอบแล้ว ก็ถึงคราวไปจองรถกันได้อย่างสบายใจ ไม่มีอะไรต้องคิด หรือมีเรื่องหนักใจเกิดขึ้นในภายหลังกันอีกแล้ว
พัชราภา
เห็นด้วยกับเรื่องของความจำเป็นในการซื้อรถมากเลยค่ะ เพราะป้าเราเป็นคนที่ซื้อรถเก่งมาก โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงความจำเป็นในการซื้อรถมาเลย ทุกวันนี้ก็ยังผ่อนรถมาหลายปีแล้ว หนี้สินก็มาไม่พักเลยค่ะ เราคิดว่าข้อนี้น่าจะเป็นข้อที่สำคัญที่สุดแล้ว หากเราไม่ได้คำนึงถึงความจำเป็นจริงๆ สิ่งที่ตามมาคือจะทำให้เราลำบากกับการผ่อนรถมากเลยค่ะ
นมสด
บทความนี้ดีมากเลยค่ะ เรามีตัวอย่างหนึ่งมาเล่าให้ฟังด้วยค่ะ เป็นเรื่องของพ่อเลี้ยงเราเอง พอดีเขาได้งานใหม่แล้วเงินเดือนดีเลยคิดจะออกรถสักคัน แล้วพอผ่านไปอาทิตย์เดียวเขาก็ไปออกรถเลยค่ะ ตอนแรกๆก็ดีอยู่นะคะแต่ผ่านไปเดือนเดียวก็เกิดการระบาดของ covid-19 ที่นี้ละค่ะเรื่องใหญ่เลย เพราะงานลดเงินลดอีกทั้งยังผ่อนรถไม่หมดด้วยทำให้ต้องทำงานกันหนักเลยค่ะ
เอี๊ยม
บทความนี้เหมือนมาเตือนสติคนที่คิดจะออกรถเลยนะคะ คงเถียงไม่ได้ว่ารถยนต์เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกของเราในทุกวันนี้จริงๆ ยิ่งถ้ามีเป็นของตัวเองสักคันมันจะดีมว๊ากเลยค่ะ แต่ก่อนจะไปถอยรถออกมาต้องคิดถึงเรื่องต่างๆที่บทความนี้บอกด้วย มันไม่ได้มีแค่ค่ารถนะมีอีกสารพัดค่ากันเลยทีเดียว ถ้าคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าไหวก็ไปถอยออกมาค่ะ
บุญแพง
ถ้าจะซื้อรถยนต์ หรือรถมอร์เตอร์ไซค์ ต้องทำใจจริงๆครับ เกี่ยวกับ ค่าเสื่อมสภาพ ที่เราต้องเสียไปฟรีๆ ค่าเสือมสภาพเดียวนี้ไปไวกว่าที่คิดนะครับ ซื้อรถ ป้ายแดงออกมาใหม่ๆ ราคาตกแล้วครับ อย่างผมมีเพื่อนคนหนึ่งนะครับ ซื้อรถป้ายแดง ล้านกว่าบาท แต่ใช้ไปได้แค่ สามปีเองครับ กับต้องเสียค่าเสื่อมสภาพ 4แสนบาท คือขายไปแล้วขาดทุนอย่างเดียวเลยครับ
ฟงเตียน
สมัยนี้ถ้าไม่มีรถก็ลำบากนะครับไปไหนมาไม่ค่อยสะดวก ต้องอาศัยรถเมล์ วินมอเตอร์ไซค์ ไม่ก็รถแท็กซี่ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งก็หลายตังค์อยู่เทียบกันแล้วคงต้องซื้อรถสักคันแหละครับ ส่วนเรื่องค่าซ่อมแซมรถเป็นเรื่องปกติที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว ในเมื่อของมีการใช้งานสักวันมันก็ต้องพังครับเคยใช้อะไรมั้ยครับที่มันไม่เคยเสียไม่เคยพังเลยไม่มีครับ คนเราทำงานทุกวันเรายังป่วยได้เลยครับแล้วไปนับประสาอะไรกับรถ
ปลิม
ต้องรู้และคิดคำนวณถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายหลังจากที่ออกรถแล้วด้วยนะคะ ต้องคิดครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายเหล่านี้เพราะว่าการใช้ชีวิตของเราเรามีเงินที่จำกัด แต่ค่าใช้จ่ายที่ต้องเพิ่มขึ้นจากการที่เรามีรถจะทำให้ชีวิตของเรายากขึ้นไหม กำลังในการจ่ายเงินของเราจะยังมีเหลือไหมถ้าเรามีรถ การที่เราคิดให้คนเกี่ยวกับเรื่องนี้จะทำให้การเงินของเราไม่กระทบกับกิจกรรมอื่นๆด้วยค่ะ
ผกายแก้ว
เวลาจะซื้อรถยนต์ บางทีก็แค่อยากเอามาโชว์ว่าเรามีเท่านั้นเอง เรื่องนี้น่ากลัวนะ ไม่ได้ซื้อเงินสด ต้องผ่อนไปอีกกี่ปีถึงจะหมด ต้องคิดให้ดีจริงๆด้วยเวลาออกรถมา นอกจากค่างวดแล้ว ยังมีค่าอื่นๆอีก เช่นค่าน้ำมัน ค่าต่อภาษี เงินจะพอใช้ไหมในแต่ละเดือน แล้วพอจะจ่ายค่างวดไหม ถ้าเบื่อก็อยากขาย เวลาขายก็ต้องมิค่าเสื่อมราคาตามมา เป็นยังไงละ ขาย ขาดทุน
Toffy
@ปลิม มีรถ 1 คัน แล้วยิ่งเป็นรถที่เราไปซื้อมาด้วยกันก่อนสิเชื่อรถยนต์ เรื่องเงินก็ไม่ได้จัดการง่ายๆนะครับ นอกจากต้องผ่อนสินเชื่อรถยนต์แล้ว การใช้รถก็มีค่าใช้จ่ายมากมาย ถ้าเป็นรถยนต์ใหม่ป้ายแดงค่าซ่อมอาจจะไม่ต้องพูดถึงก่อน แต่ก็ยังมีค่าดูแลบำรุงรักษานะ ใช้รถค่าน้ำมันก็เป็นอันดับแรกที่ต้องคิดถึง แล้วก็ยังมีค่าภาษีพรบ.ทุกปี อาจจะดูเล็กน้อยแต่ต้องคิดให้หมดนะ
ถิรกฤต
ถ้าผมจะซื้อรถยนต์นะครับ สิ่งแรกที่ผมดูเลยก็คือเงินที่มีอยู่ทั้งหมดในตอนนี้ครับ ว่าเพียงพอแล้วไม่ทำให้เราเป็นหนี้ หรือว่าลำบากไหม แล้วก็สรุปได้เลยครับ ว่า อยู่แบบนี้ก็สบายดีครับ แล้วช่วง โควิด-19แบบนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้รถพวกนี้ด้วยครับ เพราะว่าส่วนใหญ่งานที่ผมทำ จะทำอยู่ที่บ้านมากกว่าครับ แค่รถมอร์เตอร์ไซต์เอาไว้ซื้อข้าวกิน ก็พอแล้วช่วงนี้
%Kin%7
เริ่มข้อแรกมาก็ถูกต้องนะคร้าบบบ เรื่องรถยนต์น่ะใครๆก็อยากมี อย่างที่รู้ว่ารถยนต์คันนึงก็ไม่ใช่ถูกๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์มือหนึ่งหรือมือสองก็ต้องจ่ายกันนานนะครับ ดังนั้น ตรวจสอบตัวเองให้ดีก่อนดีกว่าว่าเราจำเป็นต้องมีรถยนต์จริงๆมั้ย หากว่าจำเป็น จะซื้อรถยนต์แบบไหนดีที่เราสามารถจ่ายได้โดยที่ไม่เดือดร้อนมากนัก
Apinan)))
ตามที่บทความนี้บอกจริงๆสำหรับสิ่งที่ต้องรู้ก่อนคิดจะออกรถยนต์สักคัน ต้องคิดอย่างจริงจังก่อนว่าตัวเราเองจำเป็นต้องใช้รถหรือไม่ ซื้อเพราะอยากได้ ซื้อเพราะว่ามันลดราคาพิเศษ อย่างนั้นคงไม่เหมาะแน่ๆ แล้วยังต้องคิดถึงค่าใช้จ่ายหลังจากที่ซื้อรถมาแล้วด้วย ทั้งค่าน้ำมันรถ ค่าบำรุงรักษา ค่าโน่นค่านี่อีกมากมายเลยครับ
#%การันต์
การรู้ถึงสถานะการเงินตัวเองในตอนนี้ หมายถึงตอนที่คิดอยากจะซื้อรถเนี่ยอะครับ ผมว่าสำคัญมากเช่นกันครับ ซื้อรถยนต์คันนึงมันใช้เงินเยอะ หากสถานะทางการเงินของตัวเราเองไม่ค่อยดี อาจทำให้เป็นหนี้ได้ ซึ่งการเป็นหนี้ในช่วงนี้ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นะครับ แค่ทำงานหาเงินให้พอใช้แต่ละเดือนก็ยากแล้ว ถ้าใครไม่มีปัญหาเรื่องนี้ก็น่าซื้อครับ
มาร์ช...เอง
ก่อนจะซื้อรถหลายคนก็นึกถึงหลายๆเรื่อง แต่บางทีอาจลืมเรื่อง ค่าเสื่อมราคาของรถ เรื่องนี้ก็สำคัญครับ เป็นอีกเรื่องที่จะช่วยเตรียมตัวหรือช่วยประเมินบางอย่างให้กับคนที่อยากซื้อรถได้เป็นอย่างดี ใครที่สามารถซื้อรถยนต์มาเป็นของตัวเองได้ ผมก็ดีใจด้วย ใครที่ประเมินตัวเองแล้วคิดว่ายังไม่พร้อมก็รอก่อน เพื่อความปลอดภัยของคุณเองครับ
:-JusTin-:
ใช่ครับ ใครที่คิดจะซื้อรถยนต์ไว้ใช้ นอกจากค่ารถที่คุณต้องจ่ายแล้ว คุณต้องรู้ถึงค่าใช้จ่ายต่างๆหลังซื้อรถด้วย ซึ่งมีหลายรายการมากตามที่บทความนี้บอกเลย เช่น ค่าประกันรถยนต์ พรบ. ค่าต่อทะเบียน ต่อภาษี ค่าบำรุงรักษาตามระยะก็จะเป็นพวกค่าอะไหล่ น้ำมันเครื่อง ยางรถที่ต้องเปลี่ยนตามกำหนดรวมถึงค่าแรงช่างด้วย..เยอะนะครับ