เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับเราได้เสมออย่างที่เราเคยได้ยินข่าวมาโดยตลอดเกี่ยวกับคนที่ถูกเมาแล้วขับหรือเหตุการณ์หม้อแปลงระเบิดแล้วไฟไหม้ทำให้ข้าวคลองเสียหายโรงงานบ้านเรือนต้องปิดซ่อมแซมเป็นระยะเวลาอีกหลายเดือน ซึ่งคำถามก็คือ ใครเป็นคนรับผิดชอบรายจ่ายที่เกิดขึ้นมากมายนี้ คำตอบก็คงหนีไม่พ้นตัวเราเองหรือเจ้าของร้านเจ้าของกิจการที่ได้รับผลกระทบ

ในเมื่อเหตุการณ์ต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาโดยที่เราไม่ได้เป็นสาเหตุและเราไม่ได้เตรียมตัว คนที่จะช่วยเราได้ก็คงมีแต่ตัวเราเองเท่านั้นเราจึงจำเป็นจะต้อง มีการวางแผนเพื่อรับมือกับความเสี่ยงหรือ มีการวางแผนเพื่อรับมือกับความเสี่ยงหรืออุบัติเหตุ การวางแผนจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งที่หลากหลายคนละเลยแต่เป็นเรื่องที่สำคัญมากกับความมั่นคงในชีวิต โดยอธิบายง่ายๆก็คือ เป็นการวางแผนจัดการกับความเสี่ยงของภัยหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นทางกลับตัวบุคคลและธุรกิจ ซึ่งมีเป้าหมายในการลดความเสียหายจากอุบัติเหตุหรือความเสี่ยงที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด

วิธีจัดการความเสี่ยง (Risk Management) จากอุบัติเหตุ แบ่งเป็นได้ทั้งหมด 4 วิธี คือ

วิธีจัดการความเสี่ยง (Risk Management) จากอุบัติเหตุ แบ่งเป็นได้ทั้งหมด 4 วิธี คือ

วิธีการจัดการความเสี่ยง มีอยู่ 4 วิธี ด้วยกันคือ

##การยอมรับความเสี่ยง คือการเลือกที่จะรับความเสี่ยงนั้นไว้เอง เหมาะกับ ความเสี่ยงที่เกิดได้ยาก มีความสูญเสียค่อนข้างน้อย เช่น การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน การเกิดอุบัติเหตุระหว่างท่องเที่ยว ##การควบคุมความเสี่ยง คือการเลือกที่จะควบคุม ลดสาเหตุ ที่จะเกิดความเสี่ยงนั้น เหมาะกับ ความเสี่ยงที่เกิดได้ง่าย มีความสูญเสียค่อนข้างน้อย เช่น การตรวจเช็กสภาพเครื่องจักรเป็นประจำ การตรวจสอบรถก่อนออกเดินทาง ##การเลี่ยงความเสี่ยง คือการเลือกที่จะหลีกเลี่ยง หรือ ไม่กระทำการที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงนั้น เหมาะกับ ความเสี่ยงที่เกิดได้ง่าย มีความสูญเสียค่อนข้างมาก เช่น การห้ามจุดไฟหรือสูบบุหรี่ในบริเวณจุดติดไฟง่าย ##การกระจายความเสี่ยง จากอุบัติเหตุ คือการเลือกที่จะโอนถ่ายความเสี่ยงไปยังบริษัทที่รับโอนความเสี่ยง เช่น บริษัทประกัน เหมาะกับ ความเสี่ยงที่เกิดได้ยาก มีความสูญเสียค่อนข้างมาก เช่น การทำประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุหรือประกันอัคคีภัย

ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นการจัดการความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ในขณะเดียวกันก็ยังมีเรื่องของความมั่นคงทางสุขภาพ ที่นับวันยิ่งจะเสื่อมโทรม จะมีตัวช่วยอะไรบ้างที่ช่วยให้เราจัดการความเสี่ยงตรงนี้ได้ ไปดูกัน ##การทำประกัน การสร้างหลักประกันให้แก่ตัวเราเองและครอบครัวที่เรารัก อย่างไรก็ตามเราไม่ได้ซื้อประกันชีวิตเพราะคนเราต้องเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่การซื้อประกันชีวิตก็เพื่อเป็นตัวช่วยให้เรามีหลักประกันว่าในวันที่เกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุไม่คาดฝัน จะมีคนช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของเราได้ สร้างความมั่นคงของครอบครัว โดยเฉพาะในยามที่คนเราเสียชีวิตไปก่อนเวลาอันควร และหากยังมีชีวิตอยู่ เมื่อพ้นระยะเวลาที่สามารถทำงานได้ ก็ยังได้รับความคุ้มครองด้วยเช่นกัน ดังนั้นการประกันชีวิตจึงเป็นวิธีที่สามารถทำให้เรามีเงินสำรองในยามฉุกเฉินได้

ประกันน่าสนใจ ดังนี้ ช่วยสร้างหลักประกันและความมั่นคงให้กับตัวเราและครอบครัวของเรา ช่วยสร้างเงินออมเพื่อเป้าหมายต่าง ๆ เช่น ออมเงินระยะยาว เพื่อการเรียนของลูก ช่วยให้มีเงินออมเพื่อไว้ใช้หลังวัยเกษียณอายุ ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเพื่ออุบัติเหตุ และดูแลสุขภาพ

อุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การวางแผนเพื่อความมั่นคงในชีวิตจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่งั้นเราอาจจะเป็นคนที่ชีวิตล้มแล้วลุกไม่ขึ้นอีกต่อไป ทั้งนี้ เราอยากให้ทุกคนเตรียมตัวในด้านของจิตใจไว้ด้วยว่าอุบัติเหตุ เกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อถึงเวลาที่ชีวิตไม่เป็นดั่งใจเราจะได้สามารถไปต่อได้ โดยที่ไม่ย้ำคิดย้ำทำหรือเครียดจนเกินไป ถ้าหากอยากได้ที่ปรึกษาที่จะช่วยวางแผนให้ชีวิตเป็นไปได้ดั่งใจมากขึ้น แนะนำให้พูดคุยกับ ผู้เชี่ยวชาญจาก MomeyDuck ได้ฟรี ที่ลิงก์ด้านล่าง