อยากลองซื้อหุ้นกู้ มีทริคดีๆ สำหรับเลือกซื้อหุ้นกู้แนะนำไหมคะ?

ง่ายๆ ดูที่ "เครดิตเรทติ้ง (Credit Rating) " เลยครับถ้าเป็น AAA หรือ AA+ถือว่าเป็นหุ้นกู้เกรดดีเว่อร์ผู้ออกหุ้นกู้มีความน่าเชื่อถือและมีความสามารถในการชำระหนี้ซื้อเลยครับ (ขอให้จองทันนะ) 555หุ้นกู้ประเภทนี้จะขายหมดเร็วมากคนทั่วไปมักซื้อไม่ทันเช่น หุ้น ปตท. หรือบริษัทในเครือ

ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำตอบ ขอถามเพิ่มนิดนึงนะคะถ้าจะเลือกซื้อหุ้นกู้ที่ออกในประเทศ "ไทย" กับ "ต่างประเทศ" สามารถใช้ทริคเครดิตเรทติ้งนี้ในการตัดสินใจได้เหมือนกันไหมคะ?แล้ว Rating นี้มันจะมีการเปลี่ยนแปลงไหมคะ?แบบจะได้เกรดแย่ลงหรือสูงขึ้น อะไรแบบนี้ได้ไหมคะ?

แล้วก็ระวังให้ดี อย่าดูแต่ผลตอบแทน (%) เลขสูงๆเพราะหลายครั้งที่หุ้นกู้ของบางบริษัทเอกชนเชิญชวนการลงทุนด้วยผลตอบแทนสูงๆ เพื่อลดกลบเครดิตเรทติ้งที่ไม่สวยซึ่งนักลงทุนบางคนก็อาจจะเผลอเลอและจ่ายเงินซื้อไปหรือบางคนซื้อทั้งรู้แต่ก็ยอมเสี่ยงดูถ้าบริษัทไม่ผิดนัดชำระ เค้าก็จะได้ผลตอบแทนงามๆ

ประเทศไทยมีแค่ 2 บริษัทค่ะที่จัดอันดับเครดิต ก็คือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS)และ บริษัท ฟิทซ์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด (FITCH)ส่วนต่างประเทศมี 3 บริษัทหลักค่ะได้แก่ Standard & Poor's, Moody's และ Fitch Ratings.พวกเขาเป็นเหมือนนักชิมและคนตรวจคุณภาพอาหาร (บริษัทที่ออกหุ้นกู้) ก่อนส่งต่อให้ผู้บริโภคหรือพวกเรานั่นเองค่ะ

ทั้งหุ้นกู้ในไทยและต่างประเทศต่างก็มีการจัดอันดับค่ะ อย่างเช่น บริษัททริสเรทติ้งมีทำ "แนวโน้มอันดับเครดิต" (Rating Outlook) สำหรับทิศทางในอนาคตไว้ด้วยนะคะRating จะโอกาสเพิ่มหรือลดได้ขึ้นกับสภาพคล่องบริษัท การบริหารดำเนินงาน รวมถึงสภาพเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมค่ะ สำคัญต้องติดตามข่าวสารเรื่อยๆ นะคะ

ก่อนจะตัดสินใจซื้อหุ้นกู้ คุณต้องรู้ด้วยว่าหุ้นกู้หมายถึงตราสารทางการเงินที่บริษัทเอกชนเป็นผู้ออกตราสารเพื่อระดมทุนไปใช้ดำเนินกิจการ ต้องรู้ขนาดของตลาดของหุ้นกู้ เรามีสิทธิที่จะได้รับดอกเบี้ยจากหุ้นกู้ซึ่งมีการกำหนดวันที่จ่ายเอาไว้แน่นอน ต้องรู้ว่าความเสี่ยงมีอะไรบ้าง ต้องวิเคราะห์ธุรกิจและฐานะทางการเงินของบริษัทอย่างละเอียด เน้นที่งบกระแสเงินสด.

อันนี้เป็นทริคการคำนวนรายได้ กับการซื้อหุ้นกู้นะครับลองๆคิดแบบนี้ครับ ดอกเบี้ยพันธบัตร 5 ปีอยู่ที่ 3.34% และ Credit Spread อยู่ที่ 1.76%ปัจจุบันของหุ้นกู้ในแต่ละช่วงอายุ และระดับ Ratings ต่าง ๆ เช่น หุ้นกู้อายุ 3 – 5 ปี ดังนั้นดอกเบี้ยที่เหมาะสมก็ควรอยู่ที่ระดับใกล้เคียง 3.34 + 1.76 = 5.10% การวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของแต่ละบริษัทที่เราจะลงทุนอย่าง ละเอียดก็มีความสำคัญ

อย่างแรกก่อนที่เลือกจะเลือกหุ้นในบริษัทไหนเราต้องรู้ก่อนว่ารายได้ของธุรกิจนั้นมาจากไหนบ้าง ต้องมีรายได้ที่สม่ำเสมอ 2.เงินที่ได้ไปต่อยอดได้มากน้อยแค่ไหน (ธุรกิจมีอนาคตไหม) 3.ธุรกิจนั้นมีความแข็งแรงมั่นคงมากแค่ไหน ต้องวิเคราะห์ว่าเค้าจะมีเงินมาจ่ายคืนเราได้ไหม ลองดูเข้าไปเช็คข้อมูลคร่าวๆได้ที่ Tris Rating ครับ เค้ามีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้ฟันธงนะครับว่าข้อมูลจะละเอียด ส่วนนึงเราต้องมองตลาดให้ขาดด้วยครับ

ไปดูที่นักวิเคราะห์เขาวิเคราะห์หุ้นกันสิครับ คนกลุ่มนี้เขาวิเคราะห์กันอย่างจริงจังมาก และมีความรู้ด้วย เราสามารถไปติดตามได้ที่ บริษัทที่เขาจัดลำดับให้เราว่าหุ้นตัวไหนอยู่ลำดับไหน มีบริษัท FITCH , TRIS , Moody’s และ S&P,ซึ่งบริษัทเหล่านี้จะวิเคราะห์ความเสี่ยงและให้คะแนนออกมา เป็นตัวเอที่คอมเม้นบนๆบอกไปแหละครับ

เราเห็นว่าใครๆชอบลงทุนซื้อหุ้นกัน เราไม่เข้าใจว่าการเล่นหุ้นมันดีอย่างไร ถ้าใครสักคนมีเงินแล้วเอาเงินนั้นไปซื้อหุ้นจะได้เงินเยอะกว่าการฝากเงินในธนาคารอย่างนั้นหรือ เราเองก็ไม่เข้าใจจริงๆ ถ้าว่าการซื้อหุ้นจะได้ผลตอบแทนดีกว่าฝากธนาคาร เราจะพยายามเก็บเงินให้ได้สักก้อนหนึ่ง เพื่อจะได้ซื้อหุ้นเอาไว้เกร็งกำไร จะได้มีเงินเก็บกับเขาบ้าง

อยากรู้จังว่าในช่วงสถานการณ์ไม่ปกติแบบนี้และเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก นักลงทุนในหุ้นเค้ามีวิธีการปรับตัวหรืออยู่รอดยังไงกันอะคะ? เราไม่ใช่นักลงทุนมองภาพไม่ค่อยออก ถ้าพูดเรื่องการลงทุนในหุ้นตอนนี้ เราคงส่ายหน้าอย่างเดียวเพราะกลัวขาดทุน หากดูจากสถานการณ์หลายๆอย่างน่ะค่ะ เลยสงสัยไงว่าคนที่เค้าลงทุนกันไปแล้วเป็นยังไงบ้าง