ขอสอบถามค่าวิชาชีพทนายหน่อยครับ

อย่าหาประมาณราคาในนี้เลยครับ เพราะอัตราค่าจ้างว่าความนั้นจะขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของสำนักงานและทนายความด้วยครับ ซึ่งมันไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัว เพราะบางคนอาจจะบอกว่าสำนักงานนี้เก่งว่าความให้แล้วชนะคดีเยอะ แต่อีกคนก็บอกว่าไม่เก่งเพราะแพ้คดี ผมงว่าองค์ประกอบไม่ได้มีแค่ตัวทนายแต่อยู่ที่เนื้อหาคดีและพยานหลักฐานประกอบด้วยครับ

ค่าทนายความมันไม่มีอัตราที่ตายตัวเหมือนรายการอาหารหรอกครับ จะอยู่ที่รูปคดีเป็นเกณฑ์ ส่วนราคาค่าจ้างหลังจากคุยกันส่วนใหญ่ก็รับได้ทั้งสองฝ่ายครับ ไม่สูงและต่ำจนเกินไป แต่ที่มองกันว่าทนายขูดรีด น่าจะเป็นเพราะความไม่เข้าใจของลูกความซะมากกว่า ตัวทนายเองก็ไม่ชี้แจงอะไรที่ชัดเจน ลูกความไม่รู้กฏหมายไม่รู้ขั้นตอนก็ว่าขูดรีดครับ

ผมเห็นด้วยกับทั้ง 2ท่านที่ตอบไปนะ ราคาไม่สามารถกำหนดตายตัวได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับความยากง่าย และความซับซ้อนของคดี ความเชี่ยวชาญของทนายแต่ละคน รวมถึงระยะทางที่จะต้องเดินทางไปศาล และความสัมพันธ์ระหว่างลูกความกับทนายเป็นอย่างไร รู้จักคุ้นเคยกันหรือเปล่าถ้ารู้จักกันอาจจะไม่แพงอย่างที่คิดก็ได้นะ

ถ้าเป็นอย่างที่พวกคุณบอกมา หากเรามีคดีความจะรู้ค่าทนายความได้คงต้องติดต่อโดยตรงอย่างเดียวแน่ๆเลย แต่ทางที่ดีอย่ามีคดีความใดๆเลยจะดีกว่า เราเองก็ไม่มีความรู้เรื่องนี้เหมือนกัน เคยดูแต่ในข่าวเวลาชาวบ้านคือแบบคนทั่วไปมีคดีความก็มีทนายความอาสามาช่วย เราจะติดต่อทนายความแบบนั้นได้มั้ยอะคะ ค่าทนายจะน้อยกว่ามั้ย

แพงค่ะ!! อันนี้ไม่เคยเรียนนะคะแต่รู้ว่าแพงค่ะไม่มีราคาตายตัวด้วย แต่ถ้าถือว่าถ้าเรียนเป็นการลงทุนก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่านะคะเพราะเรารู้สึกว่าอาชีพที่ลงทุนแล้วทำกำไรได้แน่ๆก็คือ อาชีพทนาย อาชีพหมอ ที่ลงทุนไปยังไงก็ได้ใช้เป็นประโยชน์กับสังคมกับคนอื่นแถมยังสร้างรายได้ด้วยค่ะ แต่ถ้าเรียนอาชีพทนายมาแล้วจริงๆอย่างหนึ่งที่ต้องมีก็คือความยุติธรรมนะคะถ้าเป็นทนายแล้วมาช่วยคนไม่ดีเนี่ยแย่เลยค่ะ

บอกเลยครับว่าแพง เพราะว่าไม่มีความตายตัวของค่าจ้างนี่แหละครับขึ้นอยู่กับคดีด้วย จึงเป็นอาชีพที่คนที่เป็นทนายได้รับผลประโยชน์เต็มที่ ยิ่งถ้าไม่มีการชี้แจงผลหรือรายละเอียดให้กับเรา อาจจะทำให้เรามีความรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบหรือถูกหลอกลวงเอาได้ ผมคิดว่าคนที่เป็นทนายก็น่าจะมีค่าจ้างที่ตายตัวเหมือนกับอาชีพอื่นๆด้วยเหมือนกันนะครับ

คุณ Thong Daeng คะ ที่คุณสงสัยว่าถ้าเราเกิดมีคดีความแล้วเรียกทนายความอาสามาช่วยจะเสียเงินน้อยกว่ามั้ย? จริงๆ เราก็สงสัยเหมือนคุณนะ ไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน แต่เราคิดว่าค่าทนายความน่าจะถูกกว่าตามสำนักทนายความทั่วไป ส่วนเรื่องระยะเวลาในการดำเนินคดีไม่แน่ใจ ว่าจะต้องรอนานมั้ย แบบเค้าทำตามคิวหรือเปล่าน่ะค่ะ

ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นที่บอกว่าถ้าจ้างทนายไม่ตายตัวนะครับ แม้จะเป็นทนายคนเดียวกันแต่คดีคนละคดีลูกความคนละคนค่าจ้างก็ต่างกันไปได้ครับ แต่ถ้าคุณอยากจะให้คดีของคุณชนะ ดีกว่าที่คุณจะเลือกจ้างทนายที่มีความสามารถหรือมีชื่อเสียงแม้จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่ราคาสูงไปบ้าง ก็คงจะต้องยอมรับ ดีกว่าใช้ทนายคนไหนก็ได้ที่มีค่าใช้จ่ายราคาถูก คุณอาจจะไม่มีทางชนะคดีเลยก็ได้

การหาทนายมาว่าความไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ เจ้าของกระทู้จัดการเรื่องมรดกจบหรือยัง หวังว่าคุณจะได้ทนายความที่ดีและเรื่องราวก็จบลงด้วยดีนะครับ คนข้างบ้านเขาเคยหาทนายความมาจัดการเรื่องอะไรของเขาสักอย่างอะครับ แต่ทนายความคนนั้นไม่ค่อยเอาใจใส่คดีเลย เหมือนแบบคดีมันยืดกว่าที่ควรจะเป็น นี่ก็ไม่รู้ว่าเดินเรื่องไปถึงไหนละ

คดีแบบนี้เขามีทนายอาสา ด้วยนะ ยังไงไปติดต่อดูก่อนไหม เพราะว่าถ้าเป็นการจ้างทนายความ ค่าทนายนะ ไม่ค่อยแพงเท่าไรหลอกแต่ ถ้าคดีมันไม่ได้จบในครั้งเดียว ทางทยานก็จะเรียกเงินเพิ่มไปเรื่อยๆ คือเจอมาหลายรายแล้ว ที่ค่าจ้างทนายจะมากกว่าค่าสินทรัพย์ของเราอีกนะ ไปหาให้ทนายอาสาช่วยดีกว่า คดีไหนๆ เขารับทั้งหมดเลย

คำถามของเจ้าของกระทู้ และคำตอบที่ได้อ่านจากคอมเมนต์ข้างล่าง บอกเลยว่าเป็นความรู้ที่หาซื้อไม่ได้หรือว่าเป็นความรู้ที่ไม่มีสอนในห้องเรียนเลยค่ะ นอกจากคนมีประสบการณ์จริงเท่านั้น ถึงจะรู้ แล้วก็มาแชร์ประสบการณ์ให้คนอื่นๆได้อ่าน ขอบคุณนะคะที่ให้ได้อ่านเรื่องต่างๆ เพราะว่าเรื่องของทนาย ก็เป็นเรื่องไกลตัวสำหรับหลายคน ถ้าตัวเองไม่ได้เจอเรื่องก็ไม่คิดจะศึกษาเรื่องนี้

แบบที่เพื่อนบอกเลย ว่าค่าทนายไม่มีราคาที่ตายตัวคะ แบบนี้มันอยู่ที่การตกลงของทั้งฝ่ายเรากับทางทนายเองคะ แต่ถ้าไม่อยากจ่ายเยอะก็ไม่ที่ทนายอาสาเลยคะ อันนี้ค่าใช้จ่ายน้อยลง แต่เรื่องของคดีความก็อาจจะนานกว่าที่ควรเป็นหน่อยคะต้องคอยตาเรื่องเอง แต่ถ้าจะจ้างเลย ก็ต้องระวังให้มากๆ บางคนจ่ายค่าทนายแพงกว่าค่าเสียหายอีก

ใช่เลย ตอยไม่ได้หลอกว่าค่าทนายเขาจะคิดที่ราคาเท่าไร บางคนตกลงกับทนายแล้วว่าราคาเท่านี้ แต่พอคดีจบเราเป็นฝ่ายแพ้แต่ต้องการสู้ต่อ ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก เอาง่ายๆเลย เงินที่ต้องจ่ายน่าจะหลายแสนละครับ แต่ถ้าไม่อยากจ่ายมากก็คุยกับทนายอาสาก่อนก็ได้ว่าเขารับทำคดีแบบนี้บ้างไหม หรืออีกอย่างก็ยอมแบ่งสินทรัพย์ไปเลยก็ได้