Forum
แก้ไขล่าสุด:
มนุษย์เงินเดือนสามารถลดหย่อนภาษีได้จากค่าอะไรบ้าง?
ผมอายุ 30 ปีถึงแม้จะอยู่ต่างจังหวัด แต่มีค่าใช้ง่ายหลายอย่างในแต่ละเดือน ทั้งค่าผ่อนบ้าน ประกันชีวิตองตัวเอง ค่ารักษาพยาบาลของพ่อแม่ ผมอยากรู้ว่ารายจ่ายเหล่านี้นำมาลดหย่อนภาษีได้บ้างหรือเปล่า? หรือยังมีค่าอะไรอีกที่จะนำมาลดหย่อนได้อีกครับ ?
เลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินอะไรดีนะ..
คุยกับที่ปรึษาทางการเงินโดยตรงและรับข้อเสนอที่เหมาะกับคุณ
รับคำปรึกษาฟรีUser comments
บอกเล่าความคิดเห็นและสิ่งที่คุณรู้ที่นี่
Signin to add comment
กุญชนิตา
เมื่อมีการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถลดหย่อนภาษีได้ทั้งคู่สมรส และคนโสด สำหรับคนโสด ได้ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท คู่สมรส ได้ 60,000 บาท บุตร 30,000 บาท คนที่ 2 เป็นต้นไป เพิ่ม 30,000 บาท. ค่าคลอดบุตร 60,000 บาท ค่าเลี้ยงดูพ่อแม่และผู้พิการ 60,000 บาท ค่ากู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 100,000 บาท .
วิจารณ์
การประกันชีวิตและการลงทุนสามารถนำมาลดหย่อนได้ด้วย ประกันชีวิตทั่วไปหรือเงินฝากที่มีประกันชีวิต ประกันสุขภาพตัวเอง รวมแล้วไม่เกิน 100,000 บาท ค่าประกันสุขภาพพ่อแม่ ได้ 15,000 บาท ประกันสังคม 9,000 บาท ประกันเบี้ยชีวิตบำนาญ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนออมแห่งชาติ 15%ของเงินได้ รวมแล้วทั้งหมดต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ปานเทพ
สามรถยื่นได้ดังนั้นครับ ค่าลดหย่อนส่วนตัวจำนวน / ค่าลดหย่อนคู่สมรสจำนวน / ค่าลดหย่อนบุตร และ ค่าลดหย่อนการศึกษาบุตร /ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม / ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา / เบี้ยประกันชีวิต / ค่าลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพ / เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา / เงินสมทบ กบข. และ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ / กองทุนรวมหุ้นระยะยาว / ประกันสังคม ตามที่จ่ายจริง / ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว ตามที่จ่ายจริง / เงินบริจาค ครับ
Courtney
ในปีนี้มีรายการลดหย่อนภาษีที่บังคับใช้ใหม่ด้วย ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ซื้ออุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์การศึกษา หนังสือ สินค้า OTOP และการซื้อบ้านหลังแรก ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย ถ้ามีการกู้ที่อยู่อาศัยมากกว่า 1แห่งสามารถเอามารวมกันได้ลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท ซื้อบ้านหลังแรกปี 63 ที่ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทได้ค่าลดหย่อนไม่เกิน 200,000 บาท เงินบริจาจเพื่อการศึกษา หักได้ 2 เท่า รวมกันไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
BUNDIT
บอกเลยว่าถ้าเป็นการลงทุนกับหุ้นอยากมากค่ะ เพราะว่าค่าของหุ้นมีโอกาสขึ้นหรือลงก็ได้ทำให้เราไม่สามารถที่จะคำนวณได้ แต่ถ้าเราคิดถึงการฝากเงินประจำหรือการฝากเงินกับสหกรณ์หรือกองทุน คือจะช่วยเราให้คำนวณอัตราดอกเบี้ยได้แน่นอนและจำนวนดอกเบี้ยที่จะได้รับด้วย ดังนั้นขอแนะนำว่าให้ฝากเงินกับองค์กรที่จะได้รับผลกำไรแน่นอนดีกว่าค่ะถึงแม้ว่าจะได้น้อยแต่ก็ได้ตามที่เราคิดคำนวณไว้