เปิดร้านขายของชำเล็กๆแต่โดนภาษีจ่ายไม่ไหว

เมื่อก่อนเขาให้ค่าใช้จ่ายเหมาได้ 80% ตอนนี้เปลี่ยนเป็น 60% มันก็เสียมากขึ้นครับ เพราะสรรพากรต้องการให้ไปจดบริษัท เราก็เปลี่ยนเป็นทำบัญชี เก็บหลักฐานค่าใช้จ่ายไว้ทั้งหมด แล้วหักค่าใช้จ่ายตามจริง แต่ตรงนี้ต้องศึกษาการทำบัญขีด้วยครับ หากไม่เป็นเลยก็ต้องจ้างคนมาทำครับ เห็นใจคุณมากครับ แต่มันก็ต้องเป็นไปแบบนั้นครับ

มันไม่มีทางแก้หรอกครับ หากไม่ไหวก็ต้องปิดกิจการไปครับ หากจะเปิดต่อก็ต้องทำบัญชีครับ อย่างน้อยก็มีหลักฐานไปชี้แจงสรรพากรได้ ส่วนบัญชีใช้ให้จดยอดขายแต่ละวันเอาก็ได้ และเก็บบิลซื้อของเอาไว้ด้วยครับ ปีนี้สรรพากรมีตัวอย่างแบบฟอร์มบัญชีมาให้ ลองไปขอดูตัวอย่าง แล้วลองมาจดดู ค่อยๆหัดทำไปเดี๋ยวก็ชิน

กรมสรรพากรกำหนดให้หักค่าใช้จ่ายได้ 60%น่าจะเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนกฎหมายเรื่องต้นทุนที่สามารถเอามาหักค่าใช้จ่ายได้รึป่าวคะเลยทำให้ต้องจ่ายมากขึ้นและคงเป็นเพราะเขาอยากให้เราไปจดทะเบียนการค้า คุณก็ไปจดบริษัทไปทำให้มันเรียบร้อยแล้วเริ่มทำบัญชี เก็บหลักฐานทุกอย่างตั้งแต่บิลซื้อของ ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกี่ยวกับร้าน แล้วหักค่าใช้จ่ายตามจริง ถ้ามีค่าใช้จ่ายอื่นๆมาลดหย่อนด้วยก็จะช่วยได้ แต่ถ้าคิดว่าไม่ไหวก็ปิดร้านก็เป็นทางออกอย่างหนึ่งนะคะ

ร้านขายของชำเล็กๆต้องเสียภาษีมากขนาดจะเปิดร้านต่อไม่ไหวเลยเหรอคะ? ดิฉันไม่ค่อยรู้เรื่องของภาษีจากร้านค้าประเภทนี้ค่ะ ทำงานบริษัทจะเสียภาษีอีกแบบนึง แล้วการที่จดทะเบียนการค้าจะมีผลดีและผลเสียอย่างไรเหรอคะ ถ้าการจดทะเบียนนั้นพอจะทำได้คุณจะเปิดร้านต่อได้ใช่มั้ย ยังไงก็คิด พิจารณาดีๆนะคะ ขอให้ได้ทำในสิ่งที่เหมาะสมที่สุดค่ะ

น่าเห็นใจเหมือนกันนะครับ เพราะว่าขายของเล็กๆน้อยๆ แต่กลับต้องมาเสียภาษีให้กับสรรพากรเยอะขนาดนี้ ผมคิดว่าทางสรรพกรน่าจะมีช่องทางที่จะให้ความช่วยเหลือบ้างนะครับ ในฐานะที่เราเป็นคนไทย เราน่าจะมีการหาช่องทางที่จะช่วยเหลือกัน ยิ่งในเรื่องนี้น่าจะออกกฎหมายให้เห็นชัดเจนเลยว่าจะต้องเสียภาษีมากน้อยขนาดไหนและมีตัวเลือกที่ให้ความช่วยเหลือด้วยครับ

เรื่องภาษีนี้ถ้าจะเปิดร้านค้าหรือทำธุรกิจจำเป็นต้องรู้ไว้จริงๆค่ะ อย่างน้อยก็ต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายสำหรับร้านค้าเป็น เมื่อหลายปีก่อนมีร้านค้าที่เป็นเหมือนห้างเล็กๆที่เปิดเองของตัวจังหวัดน่ะค่ะ ไม่ได้จ่ายภาษี ทำบัญชีอะไรพวกนี้ มีคนไปแจ้งกับกรมสรรพากร สรุปได้เสียภาษีย้อนหลังรวมแล้วเกือบ 10 ล้านเลยนะคะ ก็เลยทางที่ดีเราว่าไปทำบัญชีแล้วก็เสียภาษีให้เรียบร้อยดีกว่านะคะ

น่าเห็นใจนะค่ะ สำหรับคนที่ทำงานเลี้ยงครอบครัว การเปิดร้านขายของชำเราเห็นว่าได้กำไรเล็กๆน้อยๆไม่ได้กำไรเยอะเหมือนงานอาชีพอื่น แต่ต้องมาเสียภาษีเยอะขนาดนี้ เราว่าทางที่ดีคุณควรทำบัญชีรายรับรายใช้จะดีกว่านะคะ แล้วยื่นการเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อสรรพากรมาตรวจคุณจะได้ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก

เก็บภาษีจากร้านขายของชำเล็กๆ แล้วร้านขายของชำเล็กๆที่ว่านี่มันเป็นประมาณไหนกันน่ะครับ แถวบ้านผมก็มีเยอะนะ เช่น เปิดร้านในส่วนบริเวณหน้าบ้านของเค้าเองเหมือนหารายได้เสริมนิดหน่อยพอแก้เหงาน่ะครับ บางคนสร้างเพิงขึ้นมา ถ้ามีเงินหน่อยจะสร้างเป็นห้องเล็กๆเอาไว้ขายของประมาณนี้อะครับ แบบนี้เขาจะโดนเก็บภาษีเหมือนเจ้าของกระทู้มั้ยครับ

เมื่อก่อนจะจ่ายปีละ5000บาท แต่หลังๆมา2ปีนี้ อยู่ๆเก็บที่12500 คือเก็บเพิ่มหลายเท่ามาก แรกๆก็แปลกใจ แต่ก็คืดว่าน่าจะเรียกเก็บตามกฎหมาย แต่พอร้านข้างบ้านบอกเขาเสียแค่5000บาท งงเลยคับงานนี่55555

@นววรรณ สงสารเจ้าของร้านนะครับไม่มีทางแก้เลยจริงๆหรอ? แต่ก็ต้องทำใจนะครับ คุณคิดว่าที่คุยยากที่สุดก็คือกรมสรรพากรก็เป็นที่หนึ่งที่คุยยากเหมือนกันนะ ผมเคยใจยื่นภาษี เขาเรียกว่าอะไรนะ? ภาษีเงินคืนสิ้นปีหรือเปล่า แล้วมันติดๆขัดๆยังไงไม่รู้รู้สึกดีนั้นได้ช้าก็เลยติดต่อไป ไม่ค่อยให้ข้อมูลอะไรเท่าไหร่เลยครับ คุยยากจริงๆ

น่าจะเป็นแบบที่เขาบอกแหละอยากให้เราไปจดทะเบียนร้านค้าให้ถูกต้อง เพราะถ้าจดทะเบียนมันเข้าระบบง่ายกว่า แต่ส่วนเรื่องที่จ่าย คิดๆดูแล้วเราว่าก็ตกที่เดือนละ 1กว่าๆเอง แต่ถ้าอยากได้เรื่องลดหย่อนภาษี ก็รองๆซื้อประกันสุขภาพดูไหม เห็นเขาบอกว่าสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย แต่เราไม่แน่ใจนะว่ามันจะลดได้สักเท่าไร

เราว่าเจอแบบนี้เข้าไป คุณน่าจะไปติดต่อที่สรรพากร น่าจะดีกว่าคะ ลักษณะแบบนี้เราว่าไม่น่าจะใช่แล้วคะ ภาษีอะไรมาขึ้นทุกปีแบบนี้ ปกติภาษีร้านค้าแบบนี้เขามีราคาเดียวเหมือนกันทุกเจ้าคะ เราว่าคุณน่าจะโดนเข้าแล้วละคะ เดียวนี้พวกหากินกับความไม่รู้ของชาวบ้านมันดีเยอะนะคะ ยังไงระวังตัวให้มากๆนะคะ สมัยนี้คนขี้โกงมันเยอะคะ

คนที่เปิดร้านขายของชำเล็กๆต้องจ่ายภาษีเยอะเหมือนกันนะคะ จะเปิดร้านค้าต้องดูเรื่องการยื่นภาษีกันไว้ด้วย เจ้าของกระทู้บอกว่าเขาต้องจ่ายภาษีค่อนข้างเยอะ ซึ่งจริงๆมันเป็นอัตราปกติใช่มั้ยคะ ถ้าเจ้าของกระทู้ต้องจ่ายภาษีเยอะ นั่นหมายความว่า คุณขายของดี ใช่มั้ยคะ ร้านขายของชำเล็กๆแต่มีรายได้ดี ถือว่าไม่ธรรมดานะคะ

เจ้าของกระทู้ยังเปิดร้านขายของชำอยู่หรือเปล่าคะ มีการปรับเรื่องการคำนวณภาษีของร้านค้า ทำให้ต้องจ่ายภาษีกันมากขึ้นเลยรู้สึกหนักหน่อย ถ้าคุณเจอทางออกที่ดีอะไรก็มาบอกกันบ้างนะคะ ดูเหมือนจะมีหลายคนที่เจอปัญหาเดียวกับคุณ หากมีคำแนะนำอะไรดีๆมาแชร์กันบ้างคงจะดีมากเลยอะค่ะ ทุกวันนี้ อย่างที่เห็นว่าขายของยากมากขึ้นด้วย

แบบนี้ไม่น่าจะเรียกเก็บภาษีแล้วมั้ง ไปหาข้อมูลมาดีๆว่ามันเรียกว่าค่าอะไรกันแน่อะครับ ยังไงไปที่สรรพากรใกล้บ้านเลยดีกว่า ไปสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เลยว่าต้องทำอย่างไรกันแน่ เพราะว่าจากที่ผมดูแล้วมันขึ้นมาหลายเท่าตัวเลยนะครับแบบนี้คนค้าขายก็ขาดทุนกันพอดีครับ นี้ถ้าขายของไปสัก 10 ปี ไม่มาเรียกเก็บค่าภาษีเป็นแสนๆเลยเหรอครับ

ตอนนี้ก็ยังคิดภาษีแบบเหมาจ่าย 60% อยู่มั้ยคะสำหรับร้านค้าขายของชำ ร้านค้าเล็กๆตามหมู่บ้านต่างจังหวัดก็คิดภาษีอัตรานี้เหมือนกันมั้ยคะ เข้าใจว่าเป็นไปตามกฎของกรมสรรพากร แต่บางร้านที่เราเคยเห็นเขาก็แบบร้านเล็กๆจริงๆ ไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลาชำระภาษีแล้วจะเหลือรายได้สักกี่บาท และยังมีเงินทุนซื้อขอมาขายอีกหรือเปล่านะคะ

ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมมั้ยครับเรื่องการจ่ายภาษีของคนที่เปิดร้านค้าแบบที่เจ้าของกระทู้บอกมา ก่อนหน้านี้เสียภาษีประมาณนึง พอต้องมาเสียภาษีมากขึ้นกว่าเดิมแบบไม่ทันตั้งตัว ทำเอาลำบากกันเลย ตอนนี้ เขาคิดภาษีสำหรับร้านเล็กๆอยู่ที่เท่าไหร่เหรอครับ ร้านเล็กกับร้านใหญ่่ เป็นภาษีตัวเดียวกัน คิดอัตราเดียวกันเลยมั้ยอะครับ