อยากเอาบ้าน ไปค้ำประกันเงินกู้ หรือ ขอสินเชื่อน่ะครับ มีรายละเอียดยังไงบ้าง

จะมีการพิจารณาทำเลที่ตั้งประกอบด้วยค่ะ เช่น ย่านใจกลางเมือง หรือ ทำเลต่างจังหวัด ก็จะมีการตีมูลค่าสินทรัพย์ และวงเงินกู้ที่แตกต่างกันไป เช่น กรณีที่เป็นสินทรัพย์ประเภทบ้านพักอาศัย พวก บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ห้องชุดพักอาศัย เราจะได้วงเงินอนุมัติสูงสุดกว่า 80% ของราคาที่ประเมินโดยสถาบันการเงิน หรือบางแห่งให้วงเงินมากกว่า 500,000 บาทขึ้นไปก็มี

ถ้าเป็นประเภทอาคารพาณิชย์ เราจะได้วงเงินอนุมัติสูงสุดกว่า 70% ของราคาที่ประเมิน ส่วน กรณีเป็นสินทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่า เราจะได้วงเงินอนุมัติสูงสุดกว่า 50-70% ของราคาที่ประเมินโดยสถาบันการเงิน หรือธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อ โดยวงเงินขั้นต่ำที่เราจะได้รับขึ้นอยู่กับแต่ละแห่งนั่นแหละค่ะ

วิธีการนี้ได้เงินง่ายกว่าขายบ้านอีก (ขายบ้านยังต้องรอขายอีกนาน) หากเรามีบ้านก็แค่ทำเรื่องกับธนาคาร รอผลการพิจารณาก็สามารถได้รับเงินก้อน ส่วนเรื่องดอกเบีย บางที่เขาคิดแบบนี้ฉลี่ย 3 ปีแรกจะอยู่ที่ 6.00% และเฉลี่ย 5 ปีที่ 7.01% กรณีเราทำประกันเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ หากไม่ทำจะอยู่ที่ เฉลี่ย 3 ปีแรกที่ 6.50% และเฉลี่ย 5 ปีที่ 7.40% หากทำประกันก็ดีนะ ได้ความคุ้มครองในความเสี่ยงแถมอัตราดอกเบี้ยก็ลดลงด้วย

การขอสินเชื่อบ้านของแต่ละธนาคารก็คิดดอกเบี้ยไม่เท่ากันนะครับ เป็นเรื่องของธนาคารด้วย ลูกค้าที่ไปขอกู้สินเชื่อเดียวกันยังได้ดอกเบี้ยไม่เท่ากันเลย ธนาคารเขาดูหลายอย่าง ส่วนต่างของรายรับกับรายจ่าย ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าแต่ละคน ดอกเบี้ยจึงไม่เท่ากัน คุณก็ดูเรื่องดอกเบี้ยดีๆะนะครับ คำนวณให้ดีให้ชำระไหวเดี๋ยวจะติดขัดครับ

หากคุณจำเป็นต้องเอาบ้านไปค้ำประกันเพื่อกู้เงินมาเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ ก็ขอให้ดูเรื่องวงเงินสินเชื่อที่จะได้กับเรื่องดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพื่่อคุณจะได้คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นในแต่ละเดือน จะได้รู้ว่ามีเงินมาชำระหนี้เพียงพอมั้ย ไม่อยากให้บ้านของคุณหลุดไป เห็นใจและให้กำลังใจคนขยันทำมาหากินค่ะ

วิธีนี้ก็น่าสนใจนะคะ ว่าจะช่วยให้เรามีเงินก้อนหนึ่งสำหรับเอามาหมุนมาใช้ในธุรกิจของเราได้ แต่ก็ยังมีอีกวิธีนึงนะคะโดยการที่เราสามารถขอสินเชื่อส่วนบุคคลจากทางสถาบันการเงิน ก็สามารถมีเงินเอามาหมุนเวียนโดยที่เราไม่ต้องใช้ทรัพย์สินในการไปค้ำประกันด้วยค่ะ เพราะถ้าเรามีกิจการเป็นของตัวเองและมีเงินเดือนประจำที่เข้ามาหมุนเวียนก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรในการขอสินเชื่อ

ผมดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องขอสินเชื่อนะครับ แต่ว่าช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ แล้วก็อยู่ในช่วงขาลง เศรษฐกิจยังไม่ค่อยฟื้นตัวดี ถ้าจะขอสินเชื่อโดยการเอาบ้าน เอารถ ไปค้ำประกันเนี่ยต้องคิดดีๆนะครับ ยังไงก็ดูสินเชื่อตัวที่สามารถผ่อนแบบทบต้นทบดอกได้ด้วยนะครับจะได้ช่วยให้เราผ่อนหมดเร็วขึ้น ไม่หนักเราที่เป็นคนผ่อนด้วย ลองดูข้อมูลของหลายๆที่ไว้นะครับ

การค้าขาย การทำธุรกิจ รายได้มันไม่แน่ไม่นอนจริงๆ เห็นใจเจ้าของกระทู้ค่ะ เมื่อเจอสภาพไม่คล่องอย่างนี้ทางออกมันมีอยู่ไม่กี่ทางแต่ก็ดีที่คุณคิดจะไปขอสินเชื่อบ้าน ถ้าไปกู้เงินนอกระบบมาละก็คงลำบากมากกว่าเดิม หวังว่าคุณจะขอสินเชื่อผ่านนะคะ เรื่องดอกเบี้ยเราว่าคุณพิจารณาเลือกที่ดีที่สุดแล้วล่ะ ที่เหลือคือพยายามหาเงินมาผ่อนชำระคืนให้ได้ค่ะ

ยังไงก็ขอเตือนก่อนนะครับว่าถ้าจะเอาบ้านไปค้ำประกันอะไรคุณต้องมั่นใจก่อนว่าคุณจะสามารถทำให้บ้านหลังนั้นปลอดภัยได้ไม่โดนธนาคารยึดไปนะครับไม่งั้นเสียดายแย่เลยกว่าจะกู้เงินซื้อบ้านหรือเป็นเจ้าของบ้านหลังนั้นมาได้จุดโดนธนาคารยึดไปเพราะเอาไปค้ำเงินกู้ มันไม่คุ้มเลยนะครับ วางแผนให้ดีก่อนคิดให้ดีๆก่อนนะครับ ด้วยความปรารถนาดี