มีลูกวัยกำลังจะเข้าเรียนแล้ว ควรวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายให้รัดกุมแบบไหนดีค่ะ
เนื่ื่องจากสภาพเศษฐกิจที่เอาแน่เอานอนไม่ได้แบบทุกวันนี้ ถึงรัฐบาลจะมีค่าลดหย่อนเกี่ยวกับการมีบุตรมาหลายๆทาง แต่ก็ไม่ช่วยเบารายจ่ายเราซะทีเดียว อยากครอบครัวดิฉันจะใช้อะไรก็ต้องคิดแล้วคิดอีกค่ะ เลยอยากรู้ว่า ถ้าลูกอยู่ในวัยกำลังจะเข้าเรียน ควรวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายให้รัดกุมแบบไหนดีค่ะ
เลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินอะไรดีนะ..
คุยกับที่ปรึษาทางการเงินโดยตรงและรับข้อเสนอที่เหมาะกับคุณ
รับคำปรึกษาฟรี
Thitisan
ช่วงก่อนเข้าเรียนเราก็มีค่าใช้จ่ายในการดูแลเจ้าตัวเล็กสูงอยู่เหมือนกันค่ะ พราะเด็กที่อายุน้อยมักจะป่วยง่าย ยิ่งถ้าไม่สบายต้องไปหาหมอด้วยแล้ว ค่ารักษาก็ไม่ใช่เล่นๆ เดี๋ยวนี้ก็มีประกันสุขภาพสำหรับเด็กเล็กแล้ว แต่ค่าเบี้ยอาจจะแพงหน่อย ประมาณ 60,000 บาทต่อปี และวัคซีนสำหรับเด็กเล็กประมาณ 5,500 – 17,000 บาทค่ะ
ปีติ
เพื่อลูกน้อยของเราจะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูที่มากขึ้นตามไปด้วย ทั้งค่านมผงแบบดีๆเลย ราคาตกกระป๋องละ 700 บาท ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ชิ้นละตั้งแต่ 6 บาท ถึง 26 บาท หนึ่งวันใช้กี่ชิ้นก็ลองคำนวณเอา ถ้าบ้านไหนต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็ก ก็ต้องบวกราคาส่วนนี้ไปด้วย
Tatum
ปกติโรงเรียนรัฐบาลค่าเทอมไม่แพงนอครับก่อนที่จะให้ลูกเรียนเรามีหลักการคิดแบบนี้ โรงเรียนเอกชนค่าเทอมปีละ30000 มันไม่ดีเด่นอะไรไปกว่าโรงเรียนรัฐหรอกค่ะนักเรียนคุณภาพไม่ต่างกันเลย โรงเรียนรัฐดังๆลูกคนรวยแย่งกันเข้าเป็นหนี้จากการศึกษาลูกแล้วให้ลูกมาชดใช้ตอนทำงานเหรอ เลือกที่เหมาะกับตัวเราและครอบครัวดีกว่าครับ
Ratchanichon
ต้องวางแผนการใช้จ่ายครับ คือปกติก็คนที่เป็นแม่ก็ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายในบ้านเรือนอยู่แล้ว พยายามคิดถึงสิ่งที่ต้องจ่ายล่วงหน้าสำหรับลูกในค่าเล่าเรียนครับ ค่าเทอมค่าเสื้อผ้าค่าอุปกรณ์การเรียน ก็ค่อยๆก็เพียงเท่านี้ล่ะครับ จัดสรรปันส่วนเงินที่ต้องใช้สำหรับเรื่องราวนี้ แล้วถ้าเป็นไปได้ก็พยายามให้มีเงินเก็บทุกเดือนครับเอาไว้สำหรับเผื่อในกรณีฉุกเฉิน กินข้าวนี้ก็ถือว่าโอเคแล้วครับ
สมคิด
ผมว่าให้ลูกเข้าโรงเรียนของรัฐก่อนน่าจะดีกว่าครับ เรื่องค่าเทอมนี่ไม่มีครับมีแต่ค่ากินกะค่าเดินทางแล้วก็ค่าชุดนักเรียนครับ ส่วนจบม.3ไปแล้วค่อยดูครับว่ามีโรงเรียนไหนที่น่าสนใจให้ลูกไปเรียนได้ ช่วงนี้เราก็เก็บเงินเตรียมตัวไปก่อนครับ เงินได้ใช้มากแน่ครับตอนที่ลูกเรียนจบม.3แล้ว เพราะมีโรงเรียนทั้งเอกชนทั้งรัฐหรือแม้แต่อาชีวะให้ลูกเราได้เลือกเรียนเยอะมากครับ
Ramphoei
การส่งลูกเข้าโรงเรียนก็ต้องวางแผนครับ ก็อยู่ที่ฐานะและอยุ่ที่ว่าลูกของคุณจะเข้าเรียนโรงเรียนรัฐฯ หรือเอกชน ถ้าเอกชนก็มีค่าใช้จ่ายสูงต้องวางแผนให้ดี ถ้าโรงเรียนรัฐฯ ก็วางแผนง่ายหน่อยมีตัวช่วยเยอะครับ แต่ไม่ว่าจะแบบไหนการคำนวณค่าใช้จ่ายของลูกๆล่วงหน้าจะทำให้คุณเตรียมเงินไว้พร้อมดีกว่าการไม่วางแผนล่วงหน้านะครับ
ณรงค์ศักดิ์
คุณต้องคำนวณรายรับ รายจ่ายของครอบครัวคุณก่อนว่าจะส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนของรัฐบาลหรือโรงเรียนเอกชน เพราะค่าใช้จ่ายมันต่างกัน ถ้าคุณตัดสินใจแล้วว่าจะให้ลูกเข้าเรียนที่ไหนก็ประเมินค่าใช้จ่ายในแต่ละเทอมมาเลยค่ะ ค่าเทอม ค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์ต่างๆ ค่าขนมลูก(ที่ต้องให้เงินไปโรงเรียนทุกวันๆ) ทั้งหมดประมาณเท่าไหร่ แล้วแบ่งเงินเก็บเอาไว้เลยค่ะ
ญานี
จริงอยู่นะคะที่ทุกวันนี้ เมื่อเราจะทำอะไร เราต้องมีการวางแผนให้รอบคอบที่สุด แต่เราว่าทุกสิ่งคุณอย่ากังวลมากเกินไปทำแต่พอดี จริงๆอยู่เมื่อนึกถึงสำหรับอนาคตของลูก เราเข้าใจนะในฐานะที่คนเป็นแม่ก็เป็นห่วงลูกเราอยากให้สิ่งที่ดีและก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด เราว่าดูแลเอาใจใส่ให้ความรักกับเขาอย่างเพียงพอนั่นคือสิ่งที่สำคัญกับลูกมากนะคะ