ผักสลัดปลอดสารมีความเสี่ยงในการลงทุนไหม?
ดูเหมือนว่าหลายคนหันมาปลูกผักสลัดกันมากขึ้นถ้าดิฉันจะลงทุนปลูกบ้างยังคงจะสามารถขายได้อยู่ไหมแล้วเงินลงทุนต้องเตียมไว้ประมาณเท่าไหร่ต้องเอยะมากไหม? เพราะการปลูกผักสลัดแล้วขายได้นั้นคงต้องใช้จำนวนมากปลูกจำนวนมากๆเอาไว้ก่อนใช่ไหม?
เลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินอะไรดีนะ..
คุยกับที่ปรึษาทางการเงินโดยตรงและรับข้อเสนอที่เหมาะกับคุณ
รับคำปรึกษาฟรี
Yen
ผัดสลัดปลอดสารพิษเป็นที่ต้องการอย่างมากในโรงแรมต่างๆ โดยเฉพาะการปลูกผักสลัดแบบที่เรียกกันว่า ไฮโดรโปนิกส์ค่ะ เป็นการปลูกผักแบบไม่ต้องใช้ดินแต่ใช้น้ำแทนทำให้ช่วยลดสารปนเปื้อนที่มาจากดินได้ดีค่ะ ปลอกภัยต่อผู้บริโภคมากกว่าจึงเป็นที่นิยมมากๆแถมยังประหยัดต้นทุนด้วย มาดูกันว่าต้องใช้วิธีไหนบ้างและผลผลิตเป็นอย่างไรค่ะ
สมพร
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ = โรงเรือนหรือทำงรางปลูกเพื่อให้น้ำไหลผ่านได้ซึ่งการลงทุนก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการปริมาณมากน้อยแค่ไหนอาจจะเริ่มต้นที่ 500 – 10,000 บาทก็ได้ค่ะ = เมล็ดพันธุ์ผักสลัดขายอยู่ถุงละ 15 – 20 บาท จะได้ 300 -500 เมล็ดค่ะ = ปุ๋ยลิตรละ 100 บาทค่ะ ระยะเวลาในการเก็บผลผลิต จะสามารถเก็บได้หลังจากเพาะปลูกอยูที่ประมาณ 45 วัน ซึ่งความชอบของผักสลัดคือช่วงหน้าหนาวอากาศเย็นๆจะเติบโตได้ดีมีคุณภาพมากกว่าหน้าร้อนค่ะหรือหน้าฝนที่ชื้นเกินไปจึงทำให้มีราคาสูงในบางช่วงค่ะ 80 – 120 บาทต่อกิโลกรัม
porrmate
ผักสลัดปลอดสาร ภรรยาผมชอบกินมากครับ แล้วก็เอามาทำสลัดโรลขายด้วย ไปซื้อผักสลัดที่ฟาร์มครั้งละหลายกิโลเลยครับ ที่ผมบอกแบบนี้ไม่ใช่อะไร แค่อยากบอกคุณว่าผักสลัดปลอดสารยังคงเป็นที่นิยมอยู่ ไม่ใช่แค่โรงแรมหรือร้านอาหารเท่านั้น คนทั่วไปก็ซื้อกินครับ บางคนก็เอามาทำอาหารขายด้วย อย่างภรรยาผมนี่ไงครับ ค่อยๆปลูก ศึกษาไป อย่ารีบร้อนครับ
ดวงใจ
เดี่ยวนี้คนหันมากินปลอดสารพิษมาขึ้นจริงๆคะ ราคาค่อนข้างดีด้วยนะคะ วันก่อนเราไปตลาดมาคะ คะน้าปลอดสารขายเป็นต้นคะต้นละ40บาททั้งที่คะน้าทั่วไปขายเป็นกิโล เราว่าน่าสนใจนะคะ ลงทุนก็ไม่น่ามากอะไรด้วยนะคะ เรียนรู้เรื่องดินผสมดินยังไงให้ดีเราก็ว่าน่าจะได้นะคะ เอาเลยคะเราว่าลงทุน2-3พันก่อนก็ได้นะคะทดลองเล็กๆข้างบ้านก่อนนะคะ
ผกามาศ
ฉันเห็นเพื่อนบ้านปลูกผักสลัดไฮโดรโปนิกส์ค่ะฉันเห็นตั้งแต่เริ่มทำก็เห็นว่าได้มีการลงทุนไม่เยอะเท่าไหร่และสามารถปลูกได้ตลอดยิ่งเดี๋ยวนี้ผู้คนหันมาสนใจผักปลอดสารพิษกันเยอะมากขึ้นฉันเห็นพวกเขาขายได้เป็นกอบเป็นกำยิ่งช่วงนี้ผู้คนไม่ได้ออกไปไหนพวกเขาเอาผักไปขายตามหมู่บ้านฉันเห็นไปขายไม่นานก็กลับมาบ้านฉันคิดว่าน่าจะลองปลูกดูจะไว้กินเองไม่ต้องไปซื้อ
มิลิน
ก็น่าจะเป็นอีกธุรกิจนึงที่น่าสนใจค่ะ เพราะว่าเดี๋ยวนี้เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรง ส่วนควรต้องลงทุนเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับคุณเลยค่ะว่ามีตลาดไหนที่คุณอยากจะส่งขาย เช่น ถ้าขายปลีก คุณก็ไม่จำเป็นต้องปลูกเยอะมากและคุณสามารถตั้งราคาได้เลยกำไรเยอะ แต่ถ้าคุณอยากจะปลูกเพื่อขายส่งหรือส่งตามร้านอาหารอันนี้อาจจะต้องลงทุนเยอะหน่อยค่ะ แต่เราคิดว่าแรกๆถ้าอยากลองตลาดก็เริ่มจากขายปลีกไปก่อนก็ดีนะคะ
ชาวสวน
ถ้าสนใจจริงๆแล้วมีทุนอยู่คิดแล้วลงมือทำเลยค่ะ ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน โดยเฉพาะถ้านั่นคือสิ่งที่คุณชอบ ถ้าคุณชอบปลูกต้นไม้ ปลูกผักอยู่แล้วคุณจะสนุกกับงานนี้เลยค่ะ นอกจากผักสลัดแล้วยังมีผักอีกหลายชนิดเลยนะคะที่น่าปลูกขายเพราะปลูกง่ายในบ้านเรา อย่างเช่นกล้วย มะละกอ พืชผักสวนครัวทั้งหลายอย่างพริก กะเพราะ โหระพา ค่ะ บ้านชั้นก็ปลูกจนขึ้นเต็มต้องเก็บไปขายเลยค่ะ
น้ำฝน
ผักสลัดก็ดูเหมือนว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะได้รับผลตอบแทนหรือผลกำไรในการลงทุนอย่างดีเหมือนกันนะคะ ถ้าจะถามว่ามีความเสี่ยงไหมทุกอาชีพย่อมมีความเสี่ยงเหมือนกันแหละค่ะและทุกการลงทุนก็มีความเสี่ยง เหมือนกันกับผักสลัดความเสี่ยงอย่างนึงก็คือการทำให้ผลผลิตมีความต่อเนื่องหรือให้ตอบทันต่อความต้องการของตลาดที่สั่งซื้อค่ะ ถ้าทำตามเงื่อนไขนี้ไม่ได้ก็จะขาดความน่าเชื่อถือ
Rtid
อันนี้ผมให้เป็นไอเดียเพิ่มเติมนะครับ จขกทจะทำหรือไม่ก็ได้ ผมอยากจะแนะนำให้ปลูกผักที่แปลกๆครับที่ท้องตลาดไม่มีขาย จะทำให้เราได้กำไรดีกว่าการขายผักเหมือนกันกับเจ้าอื่นๆ ปลูกผักอะไรที่แปลกๆ ?? เช่น พวกผักต่างประเทศที่คนนิยมก็ได้ครับ เช่น ผักคะน้าเคล อะไรทำนองนี้ครับ หรือผักสวนครัวที่ออกผลผลิตให้เราได้ตลอดทั้งปี....
ตัวใหญ่
หลังจากที่เจ้าของกระทู้ถามเรื่องผักสลัดปลอดสารไปแล้ว ได้ปลูกขายมั้ยครับ ถ้าปลูกขายแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ขายดีมั้ย ส่วนตัวผมคิดว่าการปลูกผักขายเนี่ยขายได้แน่ๆ ยิ่งเป็นผักสลัดปลอดสาร ผมว่าขายได้แน่นอน มีคนชอบกินเยอะนะ แล้วเขาต้องกินต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเจ้าของกระทู้ปลูกได้ต่อไปเรื่อยๆคุณก็จะมีรายได้ต่อไปเรื่อยๆเหมือนกันครับ
เบ็ญญาภรณ์
ถ้าต้องการทราบว่าต้องลงทุนที่เท่าไร อยากทราบได้ไหมคะว่า ในตลาดถ้าคุณจะขายต้องการรายได้ประมาณที่เท่าไรคะ ทั่วๆไปผลักสลัดที่ขาย เขาขายที่ ต้นละ 20-30 บาท ต้องใช้เวลาปลูกประมาณ 40-50 วันถึงสามารถเก็บเกี่ยวได้ เอาไปคำนวนเล่นไหมคะ จะได้ทราบว่าน่าลงทุนไหมสำหรับอาชีพแบบนี้ เพราะมันค่อนข้างต้องมีเนื่อที่มากพอควรเลยคะ
Nanana
@ผกามาศ แต่เราว่าลงทุนเยอะอยู่นะคะ อันนี้ก็เห็นมาจากเพื่อนของเราเองที่เขาพยายามจะปลูกขาย ก็ลงทุนเยอะมากแล้วก็ใช้เวลา ต้องดูแลอย่างดีเหมือนเลี้ยงลูกเลยค่ะ ที่สำคัญคือต้องป้องกันวัชพืชแล้วก็ศัตรูพืชต่างๆ อากาศ ปุ๋ยแล้วก็น้ำต้องดูแลอย่างดีมากๆ สำหรับเราแล้วเราว่ามันยากมากอ่ะ แล้วถ้าปลูกไม่เยอะพอตอนขายก็คือยังไม่ได้กำไรอะไรเลย
มัสลิน
ต้องเข้าใจความหมายของคำว่าปลอดสารพิษก่อนนะคะ ผักแบบนี้ ทมีระบบการปลูกที่ใช้สารเคมีในการป้องกันและปราบศัตรูพืช รวมทั้งปุ๋ยเคมีเพื่อการเจริญเติบโตของพืช แต่ให้เว้นช่วงการใช้สารเคมีก่อนการเก็บเกี่ยว ซึ่งผลผลิตที่ได้ยังมีสารเคมีตกค้าง แต่ไม่เกินในปริมาณที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ดังนั้น ความเสี่ยงน้อยกว่าแบบ ไร้สารพิษ คะ
ธิตินันท์
@สมพร พี่ เรื่องค่าวัสดุ โดยเฉพาะเรื่องของเมล็ดพันธ์ คิดว่าน่าจะแพงกว่านั้นนะครับ ที่บอกว่า 15-20 บาท เป็นของที่เขาใส่ซองขายใช่ไหม ไม่ทราบว่าพี่เคยเอาปลูกบ้างไหมครับ ผมเคยเลย ไห้ผลไม่ดีเลยพี่ ผมเลยเปลี่ยนไปซื้อ เมล็ดแบบเคลือบมาครับ ราคาก็จะดกที่เมล็ดละ1-2บาท อันนี้ ผลผลิตออกมาสวยมากครับ แถมรอดทุกเม็ดด้วย