The Decoy Effect เป็นอาการแบบไหน?
The Decoy Effect เคยได้ยินมาบ้างอาการแบบนี้มันเป็นอาการแบบไหนเกี่ยวข้องกับเราทุกคนไหมหรือเฉพาะบางคนเท่านั้น หรือมันจะเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเรื่องการเงินของเราด้วยใครทราบช่วยอธิบายหน่อนะครับสงสัยมากๆจริงๆ?
เลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินอะไรดีนะ..
คุยกับที่ปรึษาทางการเงินโดยตรงและรับข้อเสนอที่เหมาะกับคุณ
รับคำปรึกษาฟรี
ภาสุระ
เรื่องเงินนั้นเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเป็นเรื่องสำคัญ บางคนตัดสินใจผิดพลาดก็ก่อเกิดปัญหามากมาย บางคนตัดสินใจถูกต้องก็ได้รับผลที่ดีไป แล้วคุณหล่ะคะการตัดสินใจทางการเงินของคุณนั้นดีแล้วหรือยัง? ถ้าคำตอบของคุณคือการตัดสินใจทางการเงินนั้นยังไม่ค่อยดีพอก็พอจะเข้าใจได้ค่ะเพราะทุกวันนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างออกมากมายทำให้เราเลือกไม่ค่อยจะถูกว่าจะซื้ออะไรดี? จะเลือกบริการอะไรดี? มันเยอะไปหมดและดูเหมือนทุกอย่างก็มีข้อเสนอที่น่าสนใจทั้งนั้น
Mee
สิ่งแวดล้อมทางการเงินทุกวันนี้จึงทำให้หลายคนเกิดอาการป่วยทางการเงินอย่างหนึ่งคือ The Decoy Effect หรืออาการไข้วเขวทางการเงิน ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ง่ายมากอาจจะมีอาการแสดงออกมาสองสถานการณ์ด้วยกันคือ เมื่อเกิดความไม่แน่ใจว่าจะซื้ออะไรหรือเลือกบริการอะไร? / หรือเกิดความไม่แน่ใจในของที่ซื้อมาหรือบริการที่เลือกมาแล้ว นี่คือสองสถานการณ์ที่อาการไขว้เขวทางการเงินจะส่งผลให้การเงินของคุณเกิดความไม่มั่นคงขึ้นมาค่ะ
Da
The Decoy Effect เรียกง่ายว่า อาการเขวครับ ซึ่งอาการนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน มันเกิดมาจากการที่ผู้ขายสินค้าหรือบริการ ตั้งราคาเอาไว้ให้เราเลือก 3 ราคา จุดประสงค์อยากให้เราเลือกราคาที่สามที่เป็นราคาแพงที่สุด แต่ในอีกแง่หนึ่งเราในฐานะผู้บริโภคมองว่ามันคุ้มค่ากว่าราคาที่สองจึงยอมจ่ายอีกนิด นั่นคือเราตกหลุมเขาแล้วครับ
เสรี
The Decoy Effectเป็นอาการที่เขวในการลงทุนแบบหนึ่งครับ ส่วนใหญ่ Decoy Effect จึงเป็นอาการที่เราอยู่ในภาวะมี 3 ทางเลือก โดยทางเลือกหนึ่งถูกจัดฉากให้เป็นตัวช่วยส่งเสริมคุณค่าให้กับทางเลือกเป้าหมายพูดง่ายๆ คือเป็นทางเลือกตัวล่อเพื่อให้ทางเลือกเป้าหมายดูมีความน่าสนใจมากขึ้น มักเจอบ่อยๆกับคนที่ชอบลงทุนในกองทุนต่างๆครับ เขามักมีตัวล่อให้นักลงทุนเขวได้ครับ
ใยบัว
มันเป็นกลลวงในการตั้งราคาขายค่ะ ซึ่งเราเองก็มักจะใช้กับร้านของเราเหมือนกัน แล้วได้ผลดีมากด้วย ตั้งราคาไว้สามแบบ เช่น 1. เสื้อ = 50 บาท 2. กางเกง= 95 บาท 3. เสื้อ+ กางเกง = 100 คนก็มักจะเลือกซื้อในแบบที่สาม เพราะว่ารู้สึกว่ามันคุ้มค่ากว่า (ซึ่งราคาแบบที่ 2 นั้น มีไว้เพื่อเป็นตัวล่อให้คนหันไปเลือกแผนราคาแบบที่ 3 มากขึ้น) แบบนี้ค่ะเรียกว่า The Decoy Effect
บัวบก
ตามที่น้องๆคอมเม้นต์มานั่นแหละค่ะคือ อาการของ The Decoy Effect แต่เพื่อเราจะลดการตกเป็นเหยื่อทางการตลาดของพ่อค้าแม่ขายและควบคุมรายจ่ายไม่ให้มากเกินความจำเป็น เราเองควรตั้งสติให้มั่นเสียก่อนด้วยการแน่วแน่กับสิ่งที่ต้องการซื้อ โดยให้ความชัดเจนกับตัวเองว่าจะซื้ออะไรและปริมาณเท่าไหร่ตามความต้องการที่แน่นอน
@น้ำปั่น
ที่จริง เราอยากจะบอกว่าอาการของ The Decoy Effect มันเกิดจากกลยุทธทางการตลาดจากร้านค้าที่เราไปซื้อของ แต่คุณใยบัวบอกว่ามันเป็นกลลวง555 ตรงและชัดเจนดีค่ะ มันก็เป็นอย่างที่คุณอธิบายมาจริงๆนั่นแหละ คนขายตั้งราคาขายไว้ชัดเจนและอยากให้ลูกค้าซื้อในราคานั้น จึงทำราคาที่เป็นกลลวงมาให้งง ในที่มุดก็ตัดสินใจซื้อในราคาที่คนขายคิดไว้แล้ว..คิดได้ไงอะ
โคล่า
ทุกวันนี้นี่มันอะไรนักหนาก็ไม่รู้นะ โรคระบาดก็มีโรคเครียดก็มา ผมว่าโรคที่ว่านี้มันก็มาจากอาการเครียดนั่นแหละครับ การมีเงินก็เครียดไม่มีเงินก็เครียด เครียดว่าจะใช้จ่ายอย่างไร? ใช้จ่ายอะไรบ้าง? เงินจะเหลือมั้ย? ความกังวลเหล่านี้ทำให้เครียด และไข้เขวได้ ผมว่าเราทุกคนมีโอกาสเป็นโรคนี้นะครับถ้าคิดมากเกินไปเรื่องเงินๆทองๆ
ปิ่น
The Decoy Effect หรืออาการค่อยไปทางการเงินแก้ไขยากมากเลยค่ะ จอสมัยนี้มีโฆษณาชวนเชื่อที่ทำให้เราอยากได้อยากมี แทนที่เราจะใช้เงินในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ กลับไปเชื่อฟังคำโฆษณาและเสียเงินไปกับสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว กลายเป็นว่าหมดเงินเพิ่มมากขึ้นกับสิ่งที่มีอยู่แล้วเพื่อที่จะพัฒนาให้ทันสมัยหรือก้าวล้ำตามเพื่อน