น้องชายโดนฟ้องเรื่องหนี้

รองคุยกับน้องชายดูครับว่าทรัพย์สินมีอะไรบ้างตรวจสอบทรัพย์สินที่มีแล้วขายทอดตลาดครับ ถ้ามีของอะไรเป็นชื่อพี่ถึงแม้น้องจะถ่ายโอนเป็นชื่อของคนอื่นไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สองหรือที่สามก็สามารถตรวจสอบได้ครับยกเว้นอย่างเดียวไม่ทรัพย์สินอะไรเลย ปกติรอบสองศาลจะให้ไกล่เกลี่ยกันเองครับไม่ต้องเครียดครับ

ขอแจ้งในกรณีนี้นะครับ ทรัพย์สินของน้องจะถูกยึดแน่นอนนั้นหมายถึงถ้าเขาขายทอดตลาดได้เท่าไรธนาคารก็จะได้ส่วนนั้นไปครับแต่หากน้องคุณเป็นหนีมากกว่าราคาที่เขาประเมินไว้น้องต้องชดใช้ไม่สามารถหนีได้ครับน้องต้องหาเงินมาชดใช้หนี้ น้องจะอ้างไม่ได้ครับว่าไม่สามารถหามาชดใช้ได้ ศาลไม่รับฟังครับ

ถ้าเป็นเรา เราก็คงตกใจนะน้องโดนหมายศาลเครียดมาซะขนาดนี้แต่ก็ต้องตั้งสติก่อนค่ะ ดูทรัพย์สินที่มีก่อนก็ดี ถ้ามันจำเป็นก็ต้องตัดใจขายไปก่อน ดูว่ามีอะไรบ้างขายแล้วจะได้ประมาณเท่าไหร่จะได้รู้ว่าพอมั้ย ถ้าไม่พอจะได้คิดต่อว่าจะทำอย่างไร ค่อยๆคิดไปทีละอย่างค่ะ เรื่องหมายศาลนั่นถ้าเราจ่ายหนี้คืนเขาได้หมดก็ไม่เป็นไรแล้วค่ะ

สำหรับผมก็คิดเหมือนกับ comment ด้านบนที่ตอบๆกันไปนะครับ แต่อยากจะเสริมว่าตอนที่คุณขึ้นศาลก็อยากให้คุณเจรจาไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ เช่นอาจจะขอเจ้าหนี้ลดหนี้บางส่วนลง หรือผ่อนผันการชำระเท่าที่เราสามารถจ่ายได้ แต่ยังงัยก็แนะนำให้ไปศาลนะครับ อย่าเบี้ยวนัดเพราะถ้าเราไม่ไปศาลจะพิจารณาคดีด้วยการฟังความเจ้าหนี้เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่มีโอกาสให้เราได้ไกล่เกลี่ยอะไรเลย จะเสียโอกาสเราครับ

ก็ไปศาลเลยค่ะ ไม่ต้องไปกลัว...ไปเคลียร์ขอเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ว่าเราสามารถจะจ่ายเค้าได้เดือนละเท่าไหร่ และขอลดดอกเบี้ยหรือไม่ชำระดอกเบี้ยได้ไหม ตรงนี้สามารถคุยกันได้ในศาลเลยค่ะ มันจะเป็นประโยชน์กับตัวน้องชายคุณเองค่ะ แต่ถ้าไม่ไปนี่สิคุณจะพลาดโอกาสในการเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ แนะนำให้คุณลองไปคุยเรื่องนี้กับน้องชายคุณดูนะคะ

ตอนนี้คุณก็ได้คุยกับน้องชายคุณแล้ว คุณคงทราบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ขั้นตอนต่อไปคือคุณกับน้องต้องไปที่ศาล ที่นั้นทำให้คุณได้คุยกับเจ้าหนี้ ซึ้งจะทำให้คุณรู้ว่าเจ้าหนี้ต้องการอย่างไรในการจ่ายหนี้คืน และนั่นเป็นโอกที่คุณจะได้พูดไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ในการประนอมหนี้ได้ ผมคิดว่าคุณสามารถได้รับการตกลงประนอมหนี้จากเจ้าหนี้แน่นอน

จริงๆ ก็หนี้ที่ค้างชำระก็มีหลายรูปแบบ ถ้าไปที่ศาลเเล้วขอประณีประณอมหนี้ก็ได้อยู่เพราะหนี้ 5 เเสนเอง หรือว่าถ้าน้องชายของคุณไม่ผิด หรืออาจผิดเเล้วถ้าคุณพอมีเงินอยู่ก็ไปพร้อมทนายได้นะ เพราะตอนนั้นเพื่อเราโดนฟ้องเรื่องบัตรเครดิตประมาณ 2 เเสนกว่าบาทมันยอมจ้างทนายเพื่อไม่ต้องใช้หนี้ เเต่ก็เเพงอยู่อ่ะ เเต่ก็ไม่ต้องใช้หนี้บัตรเครดิตมันเลยโอเค 55555

เจรจากันได้ทั้งนั้นแหละนะ ไม่ต้องตกอกตกใจกันไป เพราะว่าเดี๋ยวคนเราเป็นหนี้ค้างชำระมากกว่านี้เยอะแยะ 5 แสนก็ว่ายังน้อยไปเลยนะ สามารถไกลเกลี่ยได้ในชั้นศาลค่ะ บางครั้งหนี้อาจจะลดน้อยลงกว่าเดิมด้วยซ้ำเมื่อพิจารณาแล้ว่าเราถูเอารัดเอาเปรียบจากดอกเบี้ย หรือค่าใช้จ่ายที่เกินมาแบบไม่เป็นความจริงต่างๆค่ะ ไปคุยกันเลยตามหมายศาลนัดมานั่นแหละ

โดนหมายศาลก็ช็อคสิค่ะ... จะให้ไม่ตกใจเป็นไปไม่ได้หรอก จริงๆไม่เข้าใจว่าทำไมน้องชายของจขกทถึง ไม่ทำการพูดคุยไกล่เกลี่ยกับธนาคารก่อน เพราะปกติเจ้าหน้าที่จะมีการทวงหนี้เป็นระยะระยะ ในช่วงนั้นก่อนที่จะได้รับหมายศาลเราสามารถที่จะคุยกับธนาคารได้นะ แต่ก็ทำยังไงได้ล่ะได้หมายศาลแล้วหนิ …. ก็ไปไกล่เกลี่ยกันที่ศาลแล้วกัน