เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

ดีนะครับที่ บ้านน้องวางแผนเรื่องแบบนี้ให้ครับ สิ่งที่น้องต้องทำตอนนี้คือต้องทำตัวให้น่ารักสำหรับพ่อกับแม่ก่อนครับ ท่านจะได้ดีใจกับสิ่งที่จะทำให้ครับ แต่ถ้าจะเรียนพี่อยากให้เตรียมความพร้อมเรื่องของ ภาษาครับ ภาษาถือว่าเป็นเรื่องสำคัญครับ ถ้าไปเรียนต่างประเทศ แล้วสือสารภาษาไม่ได้พี่ว่าน่ากลัวมากกว่าเรื่องอื่นๆครับ

ดีแล้วที่มีความตั้งใจแบบนี้ อันนี้แหละน้องที่จะเป็นแรงกระตุ้นให้น้องเรียน เรื่องนี้เอาใจช่วยนะครับ อยากให้ประสบความสำเร็จในการเรียนด้านนี้ จบมาแล้วก็ช่วยงานที่บ้านพ่อน้องคงจะดีใจนะครับ น้องเรียนแล้วถ้าติดขัดเรื่องอะไร พยายามสอบถามอาจารย์ที่สอนบ่อยๆ ถ้าที่ไหนมีที่เรียนพิเศษก็อยากให้ลองไปเรียนเพิ่มดูนะครับ

ที่จริงถ้าอายุ 18ปี ก็สามารถได้เข้าร่วมโครงการของรัฐบาลที่เยีบวยาประชาชนแล้วนะคะ น่าเสียดายจังที่เราเข้ามาเจอคำถามของน้องช้าไป ไม่อย่างนั้นแล้วพี่ก็จะได้แนะนำได้ว่าให้ไปยื่นเรื่องทบทวนสิทธของน้อง น่าเสียดายจริงๆเงินเยียวยาที่ได้รวมๆกันแล้วน่าจะประมาณ 25,000 - 30,000 บาทได้ เอาว่าถ้าครั้งหน้ามีอีกสมัครเลยนะคะ

เรียนของ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สาขา ธุรกิจการบิน ดูไหม อันนี้น่าจะเป็นสายตรงเลย ถ้าเรียนสาขานี้จบ ทำอะไรได้บ้างเหรอ ทำงานได้เยอะเลยนะ อย่างเช่น พนักงานบริการและต้อนรับบนเครื่อง , พนักงานบริการแลต้อนรับภาคพื้น , พนักงานฝ่ายขนส่งสินค้าทางอากาศ , เจ้าหน้าที่ในองค์กรและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง , มัคคุเทศก์ , เจ้าหน้าที่สถานทูต , เจ้าหน้าที่ประสานงานระหว่างประเทศ , ตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ

ผมว่าสิ่งที่ต้องเตรียมคือต้องเตรียมเงินครับ การที่ลูกไปเรียนต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายจะมากกว่าที่บ้านเราเป็นหลายเท่าตัวครับ ลองคิดดีๆครับว่าคุณมีทุนพอไหม ถ้าหากไม่พอ ก็ต้องให้ลูกแสดงความสามารถแล้วละครับ ให้ไปสอบชิงทุนดูครับ หรือไม่อย่างนั้นก็สมัครเข้าโครงการ มหาวิทลัยแลกเปลี่ยนดูครับ อาจจะดีครับ เอาใจช่วยนะครับ

เคยเอาหลายๆวิธีที่บอกมาใช้งนแล้วครับ แต่ท้ายที่สุดค่าแอร์ก็เพิ่มอยู่ดีครับ เคยถามช่างแอร์แล้วครับว่าทำยังไงได้บ้าง ก็มาสุปว่าถ้าเราอยากประหยัดเงินก็ต้องอยู่ที่เราเลือกซื้อแอร์แล้วลั เขาบอกให้เลือกแบบ อินเวอร์เตอร์ไปเลย แล้วก็ เผื่อๆ BTU เอาไว้ด้วยก็ดี อย่างห้องนอนเล็กๆแทนที่จะเลือก 9000 BTU ก็ขยับมาเป็น 12,000 BTU เลย เขาบอกว่าคุ้มกว่าเยอะเรื่องของความเย็น