คุณสมบัติผู้บริหารที่ดี ควรมีลักษณะอย่างไร

ในหลักวิชาการบริหารกล่าวกันว่า สิ่งที่ยากที่สุดของนักบริหารคือ การตัดสินใจ แม้จะมีข้อมูลครบถ้วนในมือแต่ก็ไม่กล้าตัดสินใจ เพราะขาดความมั่นใจ กลัวที่จะต้องรับผิดชอบกับผลที่เกิดจากการตัดสินใจนั้น องค์กรใดที่มีผู้บริหารแบบนี้องค์กรนั้นคงเจริญเติบโตได้ยาก มองไม่เห็นอนาคตด้านความเจริญก้าวหน้า และต้องมี ความสามารถต้องมองเห็นเหตุการณ์ในอนาคตออกและคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ ด้วยสายตาที่กว้างไกล จากประสบการณ์ที่สะสมมานานปี ด้วยการศึกษาและพัฒนาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มองเห็นภาพรวมทั้งระบบ ข้อมูลที่ถูกต้องสมบูรณ์

กลยุทธ์เป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของงาน ส่วนเทคนิคจะช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรอื่น ๆ มิให้สิ้นเปลือง เทคนิคที่ดีไม่ควรมีความสลับซับซ้อนมากเกินไป สามารถเข้าใจและง่ายต่อการปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จได้ และต้องมี ความรอบรู้และมีข้อมูลที่ทันสมัย เพราะการมีข้อมูลที่ดีช่วยให้การตัดสินใจถูกต้อง แม่นยำขึ้น จึงต้องรู้ลึก รู้รอบ รู้กว้าง รู้ไกล กระตือรือร้นอยู่เสมอ เป็นนักอ่าน ขยันใฝ่หาความรู้ ช่างสังเกต รู้จักฟัง

คำว่า "ผู้บริหาร" มันก็มีความหมายตามชื่ออยู่แล้วว่า ต้องเป็นคนที่สามารถบริหารกิจการได้ ดังนั้นการจะเป็นผู้บริหารที่ดีต้องมีความรู้ความสามารถในหลาย ๆ ด้าน ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ ไม่ใช่นั่งสั่งการลูกน้องแต่ตัวเองทำไม่เป็น แล้วอย่างที่สำคัญที่สุดต้องเป็นคนที่ไม่หูเบา ไม่อคติ ฟังความข้างเดียว คือพูดง่ายๆเลยนะว่าต้องมีเมตตาและยุติธรรม ลูกน้องถึงจะรัก...

ต้องซื้อใจลูกน้องให้ได้ครับ ต้องดูให้ออกว่าลูกน้องประเภทไหนที่ควรเก็บไว้ใช้งานลูกน้องประเภทไหนที่ไม่ควรเก็บไว้ใช้งาน คือถ้าอเลือกลูกน้องเป็นแล้วก็จะสามารถซื้อลูกน้องดีใจได้ โดยการสร้างบรรยากาศเป็นกันเองพยายามพูดคุยและความสนทนากัน แล้วพยายามแสดงความเห็นอกเห็นใจกับลูกน้อง คือถ้าทำให้ลูกน้องรักได้เขาก็ยอมถวายงานให้เต็มที่เเหละครับ

เราขอตอบในฐานะของลูกน้องละกันนะคะ ในฐานะคนทำงานในองค์กรหนึ่่งเราอยากให้ผู้บริหารเป็นคนที่มีความเข้าใจในขอบเขตงานของลูกน้องที่ต้องทำ ต้องรู้ว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง ต้องเจออะไรบ้าง พูดคุย สอบถามความคิดเห็นบ้าง เพื่อคนในองค์กรเดียวกันจะได้ทำงานร่วมกันอย่างเข้าใจและสามัคคีกัน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความสำเร็จขององค์กรใดองค์กรหนึ่งมันคือความร่วมมือกันของทุกคนค่ะ

เราไม่ใช่ผู้บริหารนะคะ แต่ว่าเราพูดในฐานะลูกน้องคนนึงไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารหัวหน้างานหรือว่าเจ้านายเราอยากจะได้แบบที่เข้าใจคนที่อยู่ใต้อำนาจค่ะเพราะการเป็นลูกจ้างกันเป็นลูกน้อง มักจะโดนดูถูกจากคนอื่นอยู่แล้ว ถ้าเจ้านายที่ทำงานหรือผู้บริหารยิ่งไม่เห็นหัว เราก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานค่ะ กลับกันถ้าหัวหน้างานเข้าใจผู้บริหารดีเราก็อยากจะตั้งใจทำงานนะคะ

ต้องมีการประชุมและวางแผนงานกันบ่อยๆครับ เพราะการพูดคุยและการประชุมงานถึงแม้ว่าจะใช้เวลาบ้าง แต่จะทำให้รู้ว่าเราให้ความสนใจกับพนักงาน และอยากจะทราบเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือว่าปัญหาที่เขาเจอ ซึ่งจะช่วยให้เราทำงานเป็นทีมและทำให้รู้สึกว่า คนที่เป็นหัวหน้างานก็ให้ความสำคัญกับพนักงานด้วยกันด้วย อันนี้เป็นพื้นฐานเลยนะครับ

เข้ามาตั้งกระทู้ถามความคิดเห็นคนอื่นๆอย่างนี้ แสดงว่าคุณอยากเป็นผู้บริหารที่ดี คุณใส่ใจงานและผู้ร่วมงานของคุณด้วย คำแนะนำของหลายๆคนที่บอกมาน่าสนใจมากครับ เอาไปปรับใช้ได้จริง การทำธุรกิจก็อย่างนี้ล่ะครับ มีปัญหาทั้งจากภายนอกและภายในบ้าง ถ้าคุณอดทนและพยายามต่อๆไป คุณจะมีทางออกสำหรับทุกปัญหา ขอให้สำเร็จครับ

ก่อนอื่นคือต้องบอกว่าไม่ต้องแปลกใจถ้าคุณเจอปัญหา เพราะว่าที่ไหนๆก็มีปัญหากันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นลูกน้องหรือนายจ้างต่างก็ต้องเรียนรู้ในหน้าที่ของตัวเองกันทั้งนั้น ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่ตอนแรกหรอค่ะ ดูอย่างกว่าคนๆหนึ่งจะได้เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน เขาต้องเรียนและสอบ ทำวิจัยตั้งหลายอย่าง ต้องมีความรู้ความเข้าใจด้วย ถึงจะทำหน้าที่ผู้นำได้อย่างดี อยากแนะนำให้ลองเข้าอบรมหลักสูตรผู้บริหารดูค่ะ เขามีการจัดอบรมหลายที่เลยจากผู้มีประสบการณ์ ลองค่อยๆเรียนรู้นะค่ะ

ผมเองก็เป็นผู้บริหารธุรกิจ แม้ไม่ใช่ธุรกิจใหญ่อะไรแต่ก็มีลูกน้องอยู่ เกือบ 10 คนเหมือนกัน ธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งบ้าน ทุกวันนี้ ที่การทำงานของเราราบรื่นผ่านไปได้ด้วยดีไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรหรือลูกค้าแบบไหนเพราะว่าเราเปิดใจคุยกันให้ลูกน้องและพนักงาน ทุกๆแผนก ได้ออกความคิดเห็นและรับฟังซึ่งกันและกันครับ ลองใช้วิธีนี้ดูนะครับขอนะ