คำว่าหุ้นร้าวหมายความอย่างไร

หุ้นที่ “ร้าว” นั้น จำนวนมากก็คือหุ้นที่มีราคา “แพงผิดปกติ” ค่า PE อาจจะเป็น 4-50 เท่าหรือบางตัวสูงเป็น 100 เท่า โดยที่สามารถแบ่งได้อีกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่ร้อนแรงหรือเคยร้อนแรง มีราคาขึ้นไปมากอาจจะเป็นหลาย ๆ เท่าในเวลาไม่นาน มีปริมาณการซื้อขายคึกคัก มีนักเล่นหุ้นและนักวิเคราะห์ติดตามจำนวนมาก ราคาหุ้นขึ้นลงผันผวนแทบจะตลอดเวลา และบ่อยครั้งมีคนทำหรือดูแลหุ้นที่เป็นขาใหญ่หรือสปอนเซอร์หลัก ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งนั้น เป็นหุ้นขนาดเล็กหรือกลางเล็กที่เงียบเหงา บ่อยครั้งก็เป็นหุ้นที่เข้ามาจดทะเบียนซื้อขายหุ้นไม่นาน ผลประกอบการตั้งแต่เข้าตลาดก็ไม่น่าประทับใจ

หุ้นร้าวมันเป็นหุ้นที่มีราคา ค่อนข้างนิ่งเพราะไม่มีคนเล่น ปริมาณการซื้อขายหุ้นก็น้อย อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นก็ยังคงอยู่ในระดับที่แพงวัดจากค่า PE ที่ยังอยู่สูงเป็น 40-50 เท่า หุ้นร้าวทั้งสองกลุ่มนี้ ส่วนหนึ่งที่ราคาสูงมากได้นั้นก็เพราะว่ามักจะถูก “Corner” หรือเป็นหุ้นที่มีหุ้น Free Float น้อย อานิสงค์จากการที่เจ้าของยังถือหุ้นอยู่อาจจะเกิน 50% และมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่กวาดซื้อหุ้นไว้มากจนทำให้เหลือหุ้นหมุนเวียนในมือรายย่อยน้อย ซึ่งทำให้การ “ควบคุมราคา” หรือการ “ประคองราคา” สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ก็คือเป็นหุ้นที่มีโอกาสสูญเสียทั้งยอดขายและกำไรได้อย่างรุนแรง เหมือนกับว่าร้าวกำลังใกล้จะแตกนั่นเอง ถ้าแตกก็คือเสียหายหรือขาดทุนย่อยยับ แต่ถ้าอาการร้าวก็คือมีโอกาสสูงที่จะขาดทุนนั่นเองครับ ซึ่งหุ้นตัวนี้มีผลประกอบการที่ดูดีและโตเร็วใช้ได้ซึ่งทำให้ตลาดให้มูลค่าที่สูงกว่าค่า PE เฉลี่ยของตลาดที่ประมาณ 17 เท่า สำหรับคนที่เล่นหุ้นตัวนี้อยู่ก็ต้องระวังด้วยนะครับเพราะว่าดูเหมือนว่าหุ้นที่ดูดีเกินไปโดยเหตุผลทางด้านเศรษฐศาสตร์ไม่รองรับก็อันตรายเหมือนกันครับ

ในช่วงโควิด-19นี่ ผมว่าหุ้นจำนวนมากในตลาดที่เรียกว่าเป็น หุ้นร้าว มันเหมือนกับแก้วน้ำหรือโครงสร้างคอนกรีตของอาคารที่ร้าว ตราบที่มันยังไม่ แตก”ทุกอย่างก็เป็นปกติ แต่เมื่อไรที่มีอะไรมากระทบ มันก็อาจจะแตกหรือทรุดลงทันที ซึ่งโควิด-19ทำให้ตลาดหุ้นทุกตัวตอนนี้อยู่ในความเสี่ยงมากๆเลยครับหลายคนเล่นหุ้นตอนนี้ไม่กล้าเลยครับ

ขอแนะนำให้คุณไปแนะนำน้องของคุณอีกทีหนึ่งว่า เข้าไปหาข้อมูลใน Google ได้เลยครับ แค่พิมพ์คำว่าหุ้นร้าวคืออะไร ก็จะได้เห็นบทความต่างๆทางการเงินจากเว็บไซต์ต่างๆเยอะแยะมากมายเลยครับที่จะตอบคำถามนี้แล้วอธิบายยาว สามารถเอาไปทำเป็นรายงานหรือการบ้านได้ครับ อย่างเช่นเว็บไซต์ 1 ที่ผมอยากแนะนำก็คือ Money Duck ครับ เว็บไซต์ที่คุณเข้ามาตั้งกระทู้นี่แหละครับมีบทความเกี่ยวกับเรื่องหุ้นเยอะแยะเลย