เปิดร้านซักรีดอย่างไรไม่ให้เจ๊ง

อย่างแรกที่สำคัญมากของร้านซักรีดคือทำเลทำเลของคุณอยู่ในแหล่งชุมชนที่มีคนอยู่อาศัยเยอะไหมครับถ้ายิ่งใกล้สถานที่พักถือว่าดีมากเช่นหมู่บ้านคอนโดมิเนียมหอพักนักศึกษาไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ตากผ้าเพราะใช้เครื่องอบผ้าแทนส่วนการสัญจรไปมาต้องสะดวกและมีที่สำหรับจอดรถลูกค้านำผ้ามาส่งซักได้

แล้วราคาที่คุณตั้งสูงเกินไปไหมถ้าราคาสูงเกินไปอาจไม่ดึงดูดลูกค้าแต่ถ้าราคาถูกเกินไปอาจขาดทุนก็ได้ต้องอาศัยราคาที่อิงกับทำเลและกลุ่มลูกค้าหากมีบริการรับส่งผ้าอย่าลืมที่จะบวกราคาเผื่อเข้าไปด้วยนะครับและนอกจากความสะดวกสบายของลูกค้าที่ใช้บริการพวกเขามักจะคาดหวังว่าเสื้อผ้าที่ส่งร้านจะต้องสะอาดเรียบร้อยและมีกลิ่นหอมติดทนมากกว่าการซักด้วยตัวเองด้วย

เริ่มจากประสบการณ์ครับ ต้องหาข้อมูลในเว็บไซต์ก่อนนะครับว่าจะเปิดร้านซักรีดจะต้องมีอะไรบ้าง ต้องมีเงินทุน ต้องหาทำเลครับที่จะดูว่าผู้คนในชุมชนใช้บริการซักรีดเป็นเยอะไหม หลังจากนั้นก็เริ่มทำจากคนหรือ 2 คนก่อนอย่าเพิ่งทำเยอะ คือประสบการณ์จะสอนเราเองเกี่ยวกับการทำงานครับ หลังจากนั้นค่อยเป็นค่อยไปก็ลูกค้าจะบอกเราเองว่าคุณภาพของเราเป็นอย่างไร แค่นี้ก็อยู่ได้แล้วครับ

หลายคนที่ทำร้านซักรีดแล้วไม่ประสบความเร็จเราว่าส่วนหนึ่งน่าจะไม่มีความรู้เรื่องผ้าคะ เพราะคนที่เปิดร้านซักรีดต้องเข้าใจผ้าแต่ละชนิดที่ลูกค้าเอามาส่งให้ซักคะ เพราะต้องรู้จักวิเคราะห์เนื้อผ้าด้วยว่าเป็นผ้าชนิดใด เพราะผ้าแต่ละชนิดมีความต้องการความร้อนในการรีดเสื้อแตกต่างกัน ถ้าเรารู้จักผ้าแต่ละชนิดดีลูกค้าจะไว้ใจเราคะว่าเราไม่ทำผ้าเขาเสียแน่นอนคะ

ผมเป็นคนนึงที่ส่งผ้าให้ร้านซักให้โดยคิดเป็นรายเดือนครับ ก่อนหน้านี้ก็เคยส่งซักมา 2-3 ร้านแต่ที่ผมเลือกร้านปัจจุบันนี้ก็เพราะว่าเขาซักผ้าสะอาด หอม รีดผ้าเรียบร้อยด้วย เจ้าของร้านพูดคุยเป็นกันเอง ผมเคยลืมเงินไว้ในกระเป๋ากางเกงซึ่งที่จริงผมเองก็จำไม่ได้หรอกครับ แต่ที่ร้านเขาคืนมาให้ ถ้าน้องทำให้ร้านซักรีดของตัวเองมีคุณภาพแบบนี้ ลูกค้าไม่หนีแน่นอนครับ

ขยันจริงๆเลยน้อง อายุยังน้อยแต่ต้องมาช่วยที่บ้านทำงานอาชีพแล้ว ผมว่าถ้าเริ่มทำงานตั้งแต่ตอนนี้อีกไม่นานก็มีประสบการณ์มากครับ อนาคตขยายกิจการของที่บ้านได้เลย ส่วนเรื่องเรียนนะ น้องไปเรียนที่การศึกษานอกโรงเรียนก็ได้ แค่แนะนำเฉยๆนะถ้าสะดวกก็ไปสมัครดูครับ เรื่องร้านซักรีด ไม่รู้จะแนะนำอะไรมีคนมาแนะนำเยอะละ

ขยันทำงาน ออกหาลูกค้าเลยครับน้อง อย่ารอแต่ลูกค้ามาหา ไปหาลูกค้าแถวที่เป็นนักศึกษา หรือพนักงานข้าราชการครับ หรือที่โรงพยาบาลอย่างนี้ และเปิดฐานลูกค้ากว้างขึ้นโดยรับซักผ้าห่ม หรือผ้าต่างๆ ผ้าม่าน อะไรๆประมาณนี้ สมัยนี้ไม่ค่อยมีการจ้างซักแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย แต่แต่นอนว่าต้องรักษาความสะอาดนะครับ ถึงแม้ลูกค้าจะไม่เห็น แต่เจารู้สึกได้ว่าผ้าสะอาดไหม และลองหาลู่ทางเพิ่มนะครับ เอาใจช่วยครับ

น้ามีเพื่อนที่รับซักรีดอยู่ เพื่อนของน้าได้ทำงานนี้มา10กว่าปีแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีลูกค้าขาประจำเยอะอยู่ น้าก็ใช้บริการของเธอเป็นประจำ วิธีการซักผ้าของเธอก็คือ ถ้าผ้าไหนที่สกปรกเธอจะซักกับมือก่อนแล้วค่อยเอาไปซักกับเครื่อง วิธีนี้ทำให้ผ้าที่เธอซักจะสะอาด ทำให้ร้านของเธอมีลูกค้ามาใช้บริการเป็นประจำ สำหรับราคาก็เหมือนกับร้านซักรีดร้านอื่นๆ

ดีนะ น้องเป็นคนใฝ่รู้ คิดถึงเรื่องทำงานช่วยครอบครัว พี่ชื่นชมค่ะ แต่ก็อยากให้น้องคิดถึงเรื่องเรียนด้วยนะ เรียนกศน.ให้จบม. 6 แล้วไปลงเรียนมหาวิทยาลัยเปิดก็ได้ค่ะ พี่มีเพื่อนคนนึง หลังจากเรียนจบม.6 เขาช่วยแม่ขายขนมและลงทะเบียนเรียนมหาวิทยาลัยเปิดไปด้วย อ่านหนังสือแล้วก็ไปสอบ แค่ 3 ปีครึ่งเท่านั้น เรียนจบปริญญาตรีแล้ว น้องก็ทำได้ค่ะ

ถ้าเปิดร้านที่บ้านไม่ต้องไปเช่าที่ ก็ยากครับที่จะเจ๊ง เขาว่าร้านซักรีดถ้าลงทุนไปแล้ว ยังไงยังไงก็ไม่ขาดทุนครับ เขาว่าเป็นการลงทุนหนึ่งที่ไม่ต้องลงทุนอะไรบ่อยๆ ลงทุนใหญ่ครั้งเดียวไปเลย ลงทุนไปแล้วก็แค่รอให้ลูกค้ามาใช้บริการ และที่สำคัญต้องสร้างความประทับใจให้ลูกค้าตั้งแต่ครั้งแรกที่มาใช้บริการแล้วเขาก็จะใช้บริการร้านของเราเป็นประจำแถมบอกต่ออีกด้วย ถ้าทำแบบนี้ได้อย่างสม่ำเสมอคงคุณภาพ ยังไงก็ไม่มีทางเจ๊งครับ

@Kusum อันนี้เห็นด้วยนะคะ ดิฉันเองก็เป็นแม่บ้าน อยู่บ้านเลี้ยงลูกไม่ได้ทำงานอาชีพ หน้าที่ดูแลเรื่องเสื้อผ้าเนี่ยก็เป็นคนรับผิดชอบเต็มๆ ที่บ้านมีลูกตั้ง 3 คน บางครั้งเรื่องของเสื้อผ้าก็ไม่ทันจริงๆค่ะ มีร้านประจำที่ส่งซักรีดอยู่ ที่เขาเป็นร้านประจำเพราะความอัธยาศัยดี ราคาโอเค ก็ดูแลเสื้อผ้าของเราอย่างดีค่ะ น้องจขกท ขอชมว่าขยันมากนะคะ ที่สำคัญคือการบริการค่ะแล้วก็ราคา ใส่ใจเรื่องนี้รับรองไม่มีเจ๊ง

เปิดร้านแบบนี้ต้องลงทุนเครืองหน่อย เครื่องที่ราคาแพงน่าจะเป็นเครื่องอบผ้าแหละ ตัวนนี้มันสำคัญมากเวลาที่เราจะเปิดร้านแบบนี้เพราะถ้าเราได้อบผ้า เสื้อของลูกค้าก็จะนิ่มมากขึ้น ส่วนที่ถามว่าเปิดยังไงให้อยู่รอด รองๆไปติดต่อตรมโรงแรมดูไหม ถ้าเราได้รับผ้าจากโรงแระมานะ รับรองเลยว่าเปิดร้านพวกนี้ได้ยาวๆเลยละ

เห็นด้วยกับ @วิลัยภรณ์ เลยครับ ที่บอกว่าให้ไปติดต่อขอรับผ้าจากโรงแรมมาซัก เพราถ้าเราสามารถรับผ้าของโรงแรมมาซักได้นั้นแสดงว่าเราจะมีลูกค้าประจำเลย ซึ่งตอนนี้แค่เราเปิดร้านรับชุดทำงานหรือเสื้อผ้าปกติ คิดว่ารายได้ไม่น่าจะพอใช้อย่างแน่นอน เพราะตอนนี้หลายๆคนก็ประหยัดมากขึ้นแล้ว ซักผ้าเองกันจะทุกคนแล้ว ละตอนนี้