อีก20ปีจะเกษียณ ถ้าหากทำประกันชีวิตของเมืองไทย สมาร์ท โพรเทคชั่น 80/10 เอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยมันจะดีไหม

คุณคงจะไม่ไหวแล้วจริงๆสินะ แต่ก็อย่างที่ comment ข้างบนคอมเม้นแรกบอกแล้วถ้าจ่ายเบี้ยประกันภัยมากกว่า 2 ปีแล้วก็คงจะเวนคืนได้ไม่ยากแต่ก็คงจะไม่คุ้มกับเบี้ยประกันที่เคยจ่ายไปแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้คืนเลย ตอนนี้ไม่ต้องคิดถึงเรื่องคุ้มหรือไม่คุ้มเท่าไหร่หรอก การอะไรที่เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ไหวจริงๆก็ควรจะตัดทิ้งก่อนที่จะเจอทางตัน

ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องเสียภาษีเยอะๆต่อปีทำรายการอันนี้เอาไว้ก็คุ้มที่จะเอาไปลดหย่อนภาษี แต่ก็ต้องดูด้วยว่าคุณจะสามารถจ่ายเบี้ยประกันไหวหรือเปล่าในช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี โควิด รอบ 2 จะสร้างรายจ่ายอะไรให้ตัวเองก็ต้องคิดทบทวนให้ดีมากๆเลยนะคะในช่วงนี้ขอเตือนเพื่อความหวังดี เฉพาะเบี้ยประกันชีวิตถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่หนักพอสมควร

เจ้าของกระทู้คงจะเปลี่ยนใจแล้วมั้งคะ จากตอนแรกที่สนใจจะทำประกันชีวิตก็เดาเอานะคะว่าน่าจะเปลี่ยนใจแล้วเพราะว่าช่วงนี้หลายคนต้องเซฟเงินเอาไว้ประหยัดเอาไว้ก่อนประกันชีวิตน่าจะ เป็นค่าใช้จ่ายหนึ่งที่จะต้องตัดทิ้งออกไปขนาดคนที่มีประกันชีวิตอยู่แล้วยังอยากจะยกเลิกแล้วก็เวนคืนกันเยอะแยะถ้ามีเงินตอนนี้ซื้อประกันสุขภาพดีกว่า

ก็เป็นเงื่อนไขที่ดีนะคะ เพราะว่าถ้าเราเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาเราก็หารายได้ไม่ได้อยู่แล้ว กลายเป็นคนขาดรายได้ ยังไงก็คงจ่ายเบี้ยประกันต่อไม่ไหว หรืออาจจะจ่ายได้แต่ไม่เต็มจำนวน ก็ดีนะคะก่อนทำประกันชีวิตสมบูรณ์เรื่องนั้นเรื่องนี้ขึ้นมาคิดทบทวนก่อนว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นแบบนี้ขึ้นมาเราจะทำยังไงกับการจ่ายเบี้ยประกันดี เป็นการคิดถึงปัญหาก่อนจะได้แก้ไขได้ง่ายขึ้น

ถูกยกเลิกทันทีไปเลยหรอคะ แล้วเบี้ยประกันที่เคยจ่ายไปจะทำยังไง บางครั้งตอนที่ให้รายละเอียดข้อมูลส่วนตัวก็จะสับสนกันได้บ้างเพราะการทำประกันเนี่ยมันต้องให้ข้อมูลหลายอย่างเดี๋ยวจะต้องให้ข้อมูลของเราเราก็ฟังข้อมูลจากคนขายประกันด้วยบางครั้งก็สับสนถ้ารู้ตัวว่าให้ข้อมูลผิดไปอย่างเช่นเรื่องอายุเนี่ยขอเปลี่ยนไม่ได้หรอคะทำไมต้องทำเป็นเรื่องใหญ่

ปีละ 6, 7 หมื่น ก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่หนักอยู่เหมือนกันนะคะถ้ามองดูเศรษฐกิจในตอนนี้ บอกเลยว่าปี 2020 มีทุลักทุเลมากๆ หัวซุกหัวซุนกันเลยทีเดียวเชียวหล่ะ แล้วปี 2021 ปีนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง ยังไม่มีวี่แววที่จะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเลยไม่ว่าจะเวนคืนได้หรือไม่ได้ก็เอาแต่ช่วยนะคะ ถ้าไม่ไหวจริงๆคุณก็คงจะต้องยกเลิกไปแบบขาดทุน

@ออย ไม่ใช่ค่ะ ที่ถามถึงความคุ้มครองทรัพย์สินคือหมายถึงว่าทรัพย์สินอย่างอื่นที่ไม่ใช่รถยนต์ สมมุติว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วสิ่งของอย่างอื่นที่อยู่ในรถของเราเสียหาย เช่น Notebook โทรศัพท์มือถือ หรือของสำคัญอื่นๆ ถ้าของพวกนี้ชำรุดเสียหาย ประกันชั้น 2 จะคุ้มครองด้วยไหม? ที่อยากรู้ก็คือเรื่องนี้ค่ะ แต่ความคุ้มครองค่าซ่อมรถเนี่ยรู้อยู่แล้ว

น่าสงสารบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำหรืออยู่ติดพื้นที่ที่เสี่ยงน้ำท่วมเหมือนกันนะครับ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าบ้านตัวเองเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมแล้วเมื่อน้ำท่วมทีไรก็เกิดความเสียหายหนักทุกทีแต่ไม่สามารถจะทำประกันเรื่องนี้ได้เลย ก็คล้ายๆกับคนที่ป่วยเป็นโรคร้ายแล้วแต่ไม่สามารถซื้อประกันโรคร้ายนั้นได้ โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเลย

@คณึง เห็นข่าวเหมือนกันค่ะไม่ใช่แค่ที่นครศรีธรรมราชนะคะ ปีที่แล้วจังหวัดอื่นๆก็โดนภัยธรรมชาติน้ำท่วมไปตามๆกัน ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน แต่เราคิดว่าชาวบ้านคงไม่มีปัญญาจะทำประกันภัยบ้านกันหรอก น่าสงสารจริงๆนะคะน้ำท่วมบ้านเสียหายหมดเลยจริงๆ พอกับไฟไหม้เลย ถึงแม้ตัวบ้านอาจจะยังอยู่แต่ของทั้งหมดในบ้านเสียหายน่าเห็นใจจริงๆ

แบบนี้ก็ดีเลยสิครับ คุ้มครองอุบัติเหตุเมื่อเราเจออุบัติตอนที่เราเอนทางออกนอกประเทศด้วย แต่อยากสอบถามเพิ่มได้ไหมครับ ว่ากรณีที่เราเสียชีวิตที่ต่างประเทศ แล้วเรามีการคุ้มครองของตัวนี้ด้วย ไม่ทราบว่าตอนที่ญาติเราต้องการเงินที่เขาคุ้มครองเราต้องมีเอกสารอะไรจากต่างประเทศมายื่นบ้างครับ แล้วกรณีแบบนี้ใช้เวลานานไหมครับ

@คณึง จริงอย่างที่คุณว่านะคะ บางครั้งเราเห็นในกรมธรรม์ว่าคุ้มครองเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไป ภายใต้ความคุ้มครองนั้นก็มีเงื่อนไขต่างๆ เพื่อความแน่ใจเราน่าจะถาม พนักงานขายประกัน ตรงๆเลยว่าถ้ากรณีน้ำท่วมถ้าคุ้มครองจะคุ้มครองในกรณีไหนบ้าง เราจะได้ไม่ต้องคิดเองเออเองแล้วเข้าใจผิดทีหลัง

ถึงแม้เกิดแผ่นดินไหวแต่บ้านไม่ได้รับความเสียหายอะไรก็ไม่รู้จะเคลมประกันไปทำไมนะคะ@หนุ่ม เรื่องแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วว่าประกันไม่น่าจะจ่ายอะไรให้ได้เพราะบ้านไม่ได้เสียหาย แต่ที่จขกท. ถาม หมายถึงกรณีที่บ้านเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวมากกว่า สรุปแล้วประกันภัยบ้านคุ้มครองกรณีแผ่นดินไหวไหมคะ? มีข้อยกเว้นอะไรบ้าง?