ถ้าทำประกันชีวิตของเมืองไทย สมาร์ท โพรเทคชั่น 80/10 ยังจ่ายเบี้ยไม่ครบ แล้วประสบอุบัติเหตุต้องจ่ายเบี้ยต่อไหม

เจ้าของกระทู้ถามว่า "เพื่อนๆจะเลือกทำอะไร ระหว่างประกันชีวิตเมืองไทย สมาร์ท โพรเทคชั่น 80/10 หรือว่าประกันสุขภาพที่ต้องจ่ายทิ้งทุกๆปี" ประกันสุขภาพส่วนใหญ่เป็นสัญญาเพิ่มเติมนะครับ ต้องซื้อประกันชีวิตที่เป็นประกันหลักก่อนนะถึงจะซื้อสัญญาเพิ่มเติมได้ ไม่แน่ใจว่าผมหรือเจ้าของกระทู้ที่เข้าใจบางอยางคลาดเคลื่อนนะครับ

@Bunny_Bunny เราอ่านกระทู้แล้วก็คิดคล้ายๆกับคุณนะ หรือจะเป็นอย่างนี้มั้ยแบบว่าจริงๆการซื้อประกันของเจ้าของกระทู้ที่บอกว่าซื้อให้แฟน เขาหมายถึงว่าเขาซื้อประกันเองแล้วระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์เป็นแฟนของเขาหรือเปล่า ไม่อย่างนั้น หากเขาเป็นอะไรไปแฟนเขาจะได้เงินจากไหนล่ะ อาจจะเป็นลักษณะนี้ก็ได้เนอะ..หรือคนอื่นว่าไงคะ

@noon ก็จริงค่ะถ้ามีประวัติที่เคยรักษา ถึงแม้ว่าประกันที่เราทำบอกว่าไม่ต้องตรวจสุขภาพไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ แต่บริษัทประกันก็มีสิทธิ์ที่จะไปตรวจเช็คประวัติการรักษาของเราที่โรงพยาบาลนะคะ อันนี้เราเคยเจอมากับตัว เราซื้อประกันคุ้มครองสุขภาพตัวหนึ่ง เราก็ยังไม่เคยตอบคำถามสุขภาพกับตัวแทนประกันนะแต่เขาไปเช็คมาแล้วก็โทรมาแจ้งว่าจะขอยกเว้นความคุ้มครองบางเรื่อง เพราะเราเคยมีประวัติการรักษามาก่อน

@Piany @เด่น ใช่ค่ะ นั่นแหละสถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้ ก็เป็นอย่างที่คุณทั้งสองคนบอก ก็เลยบอกคุณพ่อว่าถ้าไม่ไหวจริงๆก็ควรจะยกเลิกละกันหรือว่าเวนคืน กำลังปรึกษากับทางบริษัท ประกันอยู่ค่ะ เขาก็พยายามที่จะให้เราถือกรมธรรม์ต่อ โดยการ เสนอวิธีนู่นนี่นั่นเนาะ แต่เราก็บอกพ่อว่า ทำวิธีต่างๆแล้วมันก็วนกลับมาที่เดิมคือต้องจ่ายเบี้ยนั่นแหละ ก็เลยคิดว่าต้องใจแข็ง จะได้ปลดภาระได้

ประกันชีวิตของเมืองไทย สมาร์ท โพรเทคชั่น ที่เจ้าของกระทู้ถามมาสองตัวที่ว่ามีความแตกต่างกันสิบปี แตกต่างทั้งระยะเวลาในการส่วค่าเบี้ยประกันแบะราะยะเวลาในการให้ความคุ้มครองด้วยนะครับ ไม่รุ้ว่าคุณสมัครไปหรือยังแล้วเลือกฉบับไหนล่ะ จริงๆก็ขึ้นอยู่กับหลายอย่างนะ สำหรับผมนะผมเลือกที่ส่งค่าเบี้ยประกันไหวดีกว่าครับ

ประกันทั้งสามตัวคุ้มครองเราจนเราอายุ99ปีเลยนะ แต่ก็ต้องดูก่อนนะครับว่าประกันแผนไหนที่คุณสามารถจ่ายเบี้ยประกันไหว ยิ่งเป็นเบี้ยประกันที่ระยะเวลาสั้นๆค่าเบี้ยประกันก็จะแพงสักหน่อย แต่ก็เหมือนการลงทุนครับ ถ้าประกันชีวิตตัวนี้เป็นประกันแบบมีเงินปันผลด้วย หรือว่ามีดอกเบี้ยด้วย ระยะสั้นๆกผ้จะเหมาะมากกว่าครับ

เพิ่งอายุ 42 ปีเอง เจ้าของกระทู้มีปัญหาเรื่องสายตาและหูแล้วเหรอคะ เรื่องทำประกันชีวิตก็เรื่องนึงนะ ส่วนเรื่องการไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเราคิดว่าเจ้าของกระทู้ต้องรีบไปโดยด่วนค่ะ ตัวคุณเองเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายแล้ว จริงๆก็ดีนะคะ คุณจะได้ไปพบคุณหมอเฉพาะทางได้เลย รีบไปนะคะ

ที่ว่าการทำประกันสำหรับคนพิการจะแบ่งออกเป็นสามกลุ่มอย่างที่มีคอมเมนต์นึงมาบอก หมายความว่ายังไงเหรอครับ เมื่อแบ่งกลุ่มแล้วจะรู้ว่าสามารถทำประกันอะไรได้บ้าง..อย่างนั้นหรือเปล่า เพราะว่าประกันมีหลายประเภท ซึ่งกำหนดเรื่องเงื่อนไขไว้แล้วว่าบุคคลที่มีโรคประจำตัวหรือมีปัญหาทางด้านร่างกายบางอย่างอาจไม่สามารถทำประกันฉบับนั้นได้

จากคำถามของเจ้าของกระทู้ที่ถามมาว่า "พระภิกษุสงฆ์สามารถที่จะสมัครใช้บริการ สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพวงเงินแน่นอน เมืองไทยประกันชีวิต ได้ไหม?" ถ้าพระภิกษุสงฆ์สามารถทำประกันชีวิตได้ การทำสัญญาเพิ่มเติมก็ไม่น่าจะมีปัญหานะครับ พระภิกษุก็เจ็บป่วยได้เหมือนกัน ว่าแต่ปกติ มีหน่วยงานที่ช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้พระภิกษุสงฆ์ั้มั้ยครับ

ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายหรือการฆาตกรรม หากทางบริษัทประกันภัยตรวจสอบเจอก็ไม่จ่ายเงินให้ผู้รับผลประโยชน์หรอกครับ เพราะว่าสองสาเหตุนี้ที่นำไปสู่การเสียชีวิตไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขของการได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยอยู่แล้ว ไม่ต้องถึงกับเสียชีวิตหรอก แค่เกิดเหตุตามที่ได้รับความคุ้มครองจริงยังต้องตรวจสอบก่อนเลยครับ

การซื้อประกันให้แฟนเป็นเรื่องที่ดีครับ แต่ต้องซื้อประกันชีวิตก่อนหรือเปล่า คุณลองไปดูรายละเอียดเรื่องความคุ้มครองให้ดีก่อนนะ ว่าคุ้มครองเรื่องอะไรบ้าง ถ้าอยากให้แฟนได้รับการรักษาที่ดี ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันต่อปีแพงหน่อย อาจต้องมีเงินสำรองไว้จ่ายค่ารักษาพยาบาลหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เป็นส่วนเกินจากที่ประกันจ่ายให้ด้วยนะครับ

เรื่องการลงชื่อผูรับผลประโยชน์จากเงินกรมธรรม์ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะครับ เมื่อก่อนผมคิดว่า ใส่ชื่อคนที่บ้านน่ะแหละ คนในครอบครัวน่ะ ใครก็ได้ แต่ถ้าผู้รับผลประโยชน์เป็นลูกของผู้ถือกรมธรรม์เอง ต้องคิดเยอะกว่านั้นมากจริงๆ ยิ่งลูกอายุยังน้อย ยิ่งต้องคิดว่าจะทำยังไงให้ลูกได้ใช้เงินจากประกันชีวิตของเรา ไม่ใช่คนอื่นเอาไปใช้