เอไอเอ ซีไอ ซูเปอร์แคร์ 20/99 (ไม่มีเงินปันผล) ควรสมัครผ่านตัวแทนที่เชื่อถือได้เท่านั้นหรือผ่านช่องทางอื่นๆก็เหมือนกัน?

@บุษฎารัตน์ จริงค่ะ ค่าเบี้ยประกันภัยที่ว่าแพงมันไม่ใช่ค่าเบี้ยประกันภัยชีวิตหรอก มันคือค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับสุขภาพนี่ล่ะ อย่างว่าอะนะค่ารักษาพยาบาลเดี๋ยวนี้น่ะแพงมาก ค่าห้อง ค่าแพทย์ ค่าอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย เราจึงต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยกันแพงยังไงล่ะคะ นี่ยังไม่รวมเงินชดเชยรายได้นะ ถ้าอยากได้ต้องจ่ายเพิ่มอีก

ตอนนี้เจ้าของกระทู้เข้าใจเรื่องการทำประกันมากขึ้นแล้วหรือยังคะ ตอนที่ตั้งกระทู้ดูเหมือนคุณไม่ทราบว่าประกันสุขภาพอย่างเดียวนั้นไม่มี จะทำประกันสุขภาพได้ต้องมีประกันหลักก่อนซึ่งก็คือประกันชีวิต ค่าเบี้ยประกันไม่แพงหรอก มาแพงเอาตรงประกันเสริมเรื่องสุขภาพน่ะแหละค่ะ เห็นคุณพูดถึงคุณแม่ด้วย ท่านเก่งมากจริงๆค่ะ

วิธีวางแผนการจ่ายเบี้ยประกันระยะยาวเหรอคะ... อย่างตัวที่คุณพูดถึงเนี่ยต้องจ่ายค่าเบี้ยประกัน 20 ปี เอางี้คุณคิดทีละปีก่อนดีกว่า ดูว่าคุณต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันปีละเท่าไหร่ จากนั้นหาร 12 เลยค่ะ จะได้รู้ว่าแต่ละเดือนคุณต้องกันเงินไว้เท่านี้นะเพื่อมาจ่ายค่าเบี้ยประกัน ขอแนะนำว่าเก็บเพิ่มไปอีกสัก 10% เผื่อเอาไว้ค่ะ

เข้าใจนะครับว่าเป็นห่วงเรื่องค่าเบี้ยประกันภัยกลัวว่ามันจะแพง จะจ่ายไม่ไหว แต่อย่าลืมนะครับว่าถ้าญาติคุณหรือตัวคุณเองมัวแต่กังวลในเรื่องนี้ จึงไม่ได้ตัดสินใจทำประกันสักทีค่าเบี้ยประกันมันก็จะแพงขึ้นอีก จนในที่สุดคุณอาจรู้สึกท้อจนไม่อยากทำประกันแล้วก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าเสียดายนะครับ คุณควรจะมีประกันสักฉบับ

ดีครับที่เจ้าของกระทู้คิดอยากจะทำประกันชีวิตตั้งแต่อายุยังไม่มาก เพราะช่วงเวลานี้คุณยังมีงานทำอยู่และยังมีแรงมากพอที่จะทำงานพิเศษอื่นๆได้อีก ประกันตัวที่คุณถามมาระยะเวลาในการชำระค่าเบี้ยประกันภัยก็ปกติครับ คือ 20 ปี ไม่ได้มากไปหรอก แต่ถ้ามีเงินเยอะอยากจะอัดเงินจ่ายไปเลยในระยะเวลา 10 ปีก็ได้ ของเอไอเอก็มีครับ

อยากรู้เคล็ดลับการวางแผนค่าใช้จ่ายของเจ้าของกระทู้จังเลยครับ คุณทำงานฟรีแลนซ์ที่มีรายได้แต่ละเดือนไม่เท่ากัน แต่ก็ยังสามารถวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายได้ เก่งมากครับ วางแผนค่าใช้จ่ายเก่งขนาดนี้ผมว่าคุณทำประกันเอไอเอ ซีไอ ซูเปอร์แคร์ 20/99 (ไม่มีเงินปันผล) ได้แบบไม่มีปัญหาเลยครับ เรื่องค่าเบี้ยประกันผมว่าคุณจ่ายได้แน่นอน

ไม่รู้ว่าเจ้าของกระทู้มีประกันชีวิตแล้วหรือยัง เห็นถามถึงแต่ประกันสุขภาพ ถ้าคุณมีประกันชีวิตแล้ว ก็ซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมได้เลยนี่คะ อยากได้ความคุ้มครองเรื่องอะไรก็บอกคนขายประกันไป ที่น่าสนใจนะคะ เราว่าเป็นเรื่องเงินชดเชยเมื่อนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือไม่ก็ค่าห้องพัก อันนี้แล้วแต่ความต้องการและความจำเป็นของแต่ละคนค่ะ

เข้าใจครับว่าต้องการทราบข้อมูลก่อน ก็ดีที่มาถามคนที่รู้เอาไว้ จะได้ไปเตรียมตัวในภายหลังได้ ถึงยังไงเรื่องพวกนี้ สักวันก็ต้องเกิดขึ้นแม้ว่าไม่มีใครอยากให้มันเกิดก็ตาม แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆอาจตกใจหรือลืมไปแล้วว่าต้องเตรียมเอกสารหรือต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ผู้รับผลประโยชน์ติดต่อกับตัวแทนประกันของผู้เอาประกันภัยเลยครับ

เปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิตของเราเอง ติดต่อตัวแทนแล้วเปลี่ยนได้เลยมั้ยอะคะ หรือว่าต้องทำอะไรอีก ปกติเราต้องแจ้งผู้รับผลประโยชน์คนเก่ามั้ยว่าเราเปลี่ยนผู้รับประโยชน์แล้ว จะได้ไม่มีปัญหามาทวงความเป็นผู้รับผลประโยชน์กัน มาถึงตอนนี้ เรื่องการเปลี่ยนผู้รับผลประโยชน์จากกรมธรรม์ของเจ้าของกระทู้เรียบร้อยแล้วมั้ยคะ

ถ้าประกันสุขภาพนั้นให้ความคุ้มครองเรื่องค่ากายภาพบำบัดด้วย ค่าเบี้ยประกันคงจะแพงมากเลยนะครับ เพราะการทำกายภาพบำบัดต้องใช้เวลาและทำอย่างต่อเนื่องด้วย ไม่รู้ว่าประกันสุขภาพที่เจ้าของกระทู้ถามมาให้ความคุ้มครองเรื่องค่ากายภาพบำบัดด้วยหรือเปล่านะครับ คุ้มครองก็ดี แต่ถ้าไม่ต้องใช้สิทธิ์นั้นจะดีกว่ามากนะครับ

ก็ต้องดูก่อนอะว่าที่คุณเข้าไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล จากอาการปวดเข่า ปวดหลัง หรือปวดเอว อันเนื่องมาจากสาเหตุอะไร เกิดอุบัติเหตุมั้ยหรือว่าเป็นอาการจากทางร่างกายหรือโรคที่คุณมีอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้เข้ารับการรักษาเพราะเกิดอุบัติเหตุ ต่อให้คุณมีประกันอุบัติเหตุ บริษัทประกันเขาไม่จ่ายค่าสินไหมหรือค่ารักษาให้หรอกค่ะ

เพิ่งอายุ 42 ปีเอง เจ้าของกระทู้มีปัญหาเรื่องสายตาและหูแล้วเหรอคะ เรื่องทำประกันชีวิตก็เรื่องนึงนะ ส่วนเรื่องการไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเราคิดว่าเจ้าของกระทู้ต้องรีบไปโดยด่วนค่ะ ตัวคุณเองเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกายแล้ว จริงๆก็ดีนะคะ คุณจะได้ไปพบคุณหมอเฉพาะทางได้เลย รีบไปนะคะ